วีดิทัศน์เซมินารีมัทนอก
การถ่ายทอดการอบรม S&Iประจำปี 2020
ริชาร์ด มานะฮาน: มัทนอกเป็นหนึ่งในเทศบาลในจังหวัดซอร์โซกอน เป็นจุดเริ่มจากลูซอนไปเขตวีซายาส หากมัทนอกเป็นประตูของนักเดินทางนับล้านจากลูซอนไปวีซายาสและกลับกัน เซมินารีก็เป็นเหมือนประตูของนักเรียนเซมินารีไปสู่โอกาสที่ดีขึ้นในชีวิตเช่นกัน
อเล็กซ์ คาสติดาเดส: ผมอเล็กซ์ คาสติดาเดส ครูเซมินารีและประธานสาขาคนใหม่ของสาขามัทนอก ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่าในปี 2012 โปรแกรมเซมินารีเริ่มโดยมีคนลงทะเบียนเรียน 22 คนและก็เพิ่มขึ้นเรื่อยมาจนถึงปีนี้ การลงทะเบียนของเราเพิ่มขึ้นทุกปี รวมถึงผู้ที่จบการศึกษาของเราด้วย
ริชาร์ด มานะฮาน: และการลงทะเบียนเรียนจึงเริ่มจาก 55 คนจนถึงทุกวันนี้ มีนักเรียน 110 คนตอนนี้ สรุป การลงทะเบียนเรียนของพวกเขาคือ 100% พวกเขาสามารถลงทะเบียนผู้มีศักยภาพเป็นนักเรียนเซมินารีทุกคน พวกเขาทำแบบนั้นตั้งแต่ปี 2015, 2016, 2017, 2018, 2019 ทั้งหมดเกือบ 100% เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าเซมินารีจะเปลี่ยนชีวิตจริงๆ
เอดิลเบอร์โต กาเบโล: ผมเอดิลเบอร์โต กาเบโลจากสาขามัทนอก ผมได้รับเรียกเป็นประธานสาขาเมื่อหกปีก่อน ผมตรวจทานระบบข้อมูลสมาชิกภาพของศาสนจักรของเรา บันทึกสมาชิกภาพของเรา ผมเห็นรายชื่อเยาวชนที่มีศักยภาพเป็นนักเรียนเซมินารี มีปัญหามากมายเพราะไม่มีใครใส่ใจเซมินารี ผมสัมภาษณ์อดีตผู้สอนศาสนา คนแรกคือบราเดอร์อเล็กซ์ ผมได้คำมั่นสัญญาจากเขา
ริชาร์ด มานะฮาน: พวกเขาเป็นพี่น้องชายและหญิงที่มีคนแนะนำให้สอนเซมินารี พวกเขาคือบราเดอร์อเล็กซ์ คาสติดาเดสและซิสเตอร์มาร์กี้ เริ่มจากตรงนั้นครับ เนื่องจากผมเห็นว่าพวกเขารักและสนับสนุนโปรแกรม
อเล็กซ์ คาสติดาเดส: เมื่อก่อนเยาวชนไม่สามารถเข้าเรียนเซมินารีหรือแม้แต่สถาบันได้ หลักๆ คือเพราะว่าครอบครัวของพวกเขาไม่ได้เป็นสมาชิกของศาสนจักร ประการที่สองคือเพราะพวกเขาอยู่ไกลจากอาคารประชุม
มาร์กี้ อาดิออง: ในฐานะครูคนใหม่ ดิฉันไม่รู้ธรรมชาติของการเรียกของดิฉันเป็นครูเซมินารี เป็นเรื่องยากมากที่จะเริ่มโปรแกรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องการกระตุ้นเยาวชน พวกเขาไม่สนใจอะไรเลยในตอนนั้น
เอดิลเบอร์โต กาเบโล: ผมจำเป็นต้องมีอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ นั่นรวมถึงการทูลขอการทรงนำจากพระผู้เป็นเจ้าเพื่อสามารถเปิดใจของเยาวชน รวมทั้งบิดามารดาเพื่อพวกเขาจะให้คำมั่นสัญญาของพวกเขา ความเต็มใจของพวกเขา และการสนับสนุนของพวกเขาแก่เยาวชน
อเล็กซ์ คาสติดาเดส: ในฐานะครูเซมินารีในตอนนั้น ผมเข้าร่วมการประชุมสภากับประธานสาขาและผู้นำศาสนจักรทั้งหมดและที่นั่นเราได้คุยเกี่ยวกับสิ่งที่เราควรทำก่อน ผู้สอนศาสนาคนหนึ่งแนะนำให้ทั้งสาขาอดอาหารเพื่อช่วยคนที่หลงทางไป
ริชาร์ด มานะฮาน: เราเห็นพ้องต้องกันทันที เรามีจุดประสงค์เดียวกันซึ่งคือเอื้อมออกไปหาพวกเขาเนื่องจากนั่นเป็นความสำคัญอันดับแรกของศาสนจักรที่เราจะเชื้อเชิญผู้มีศักยภาพเป็นนักเรียนเซมินารีทุกคนอย่างจริงใจมากเท่าที่จะทำได้ เราจึงทำเช่นนั้น เราออกไปและเยี่ยมเยือนพวกเขาทุกคนจริงๆ เราออกไปหาคนหลายต่อหลายครั้งแล้วเราให้นักเรียนเซมินารีที่แข็งขันของเราช่วยเราในการหาคนด้วย
สเตฟานี แพนโทเน: หลังเลิกชั้นเรียนเรารอกันที่ประตูของโรงเรียนเราและนั่นเป็นที่ๆ เราเจอเพื่อไปชั้นเรียนเซมินารีด้วยกัน
อเล็กซ์ คาสติดาเดส: ผมสอนชั้นเรียนตอนเข้าในสาขานี้ครับ ผมตื่นตี 3 เพื่อเตรียมไปอาคารประชุมสำหรับชั้นเรียนเซมินารีตอนตี 5 ผมควรไปถึงอาคารประชุมก่อนนักเรียนเพื่อผมจะเตรียมสื่อการเรียนการสอนที่จะใช้ในเซมินารี หลังจากเซมินารี ผมตรงไปทำงานครับ ผมเดินทางสองชั่วโมงจากอาคารประชุมไปที่ทำงานผม ตอนแรก มันยากมากสำหรับผม แล้วในตอนบ่าย ผมควรกลับไปถึงอาคารประชุมที่มัทนอกตอน 5 โมงเย็นเพื่อสอนเซมินารีอีกครั้ง เมื่อผมไปถึงมัทนอกตอนบ่าย 3 และหากผมยังมีเวลา ผมต้องไปเยี่ยมนักเรียนเซมินารีของผมและพ่อแม่ของพวกเขา พูดง่ายคือๆ ผมเดินทางไปเยี่ยมนักเรียนเซมินารีของผมที่บ้านเกือบทุกวัน
มาร์กี้ อาดิออง: เขาได้รับเรียกเป็นครูสอนเซมินารีประจำวัน แล้วดิฉันเป็นครูภาคการศึกษาที่บ้านค่ะ เป็นเรื่องยากที่จะมุ่งความสนใจไปที่เยาวชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ไกล—ไม่ใช่ไกลหลายเมตรแต่หลายกิโลเมตรจากอาคารประชุม เราต้องไปเยี่ยมเขาที่บ้านของพวกเขาเพื่อพวกเขาจะมีส่วนร่วมในโปรแกรมเซมินารีได้ ตอนนี้ดิฉันมีนักเรียนศึกษาที่บ้าน 23 คนค่ะ และดิฉันไปเยี่ยมเขาทีละคนที่บ้านในแต่ละสัปดาห์
ริชาร์ด มานะฮาน: เราไม่สามารถประเมินศักยภาพของบุคคลต่ำเกินไปได้ เรามองพวกเขาเป็นบุตรและธิดาที่มีค่ามากของพระผู้เป็นเจ้าจริงๆ ผมเชื่อจริงๆ ว่าโปรแกรมนี้จะเปลี่ยนชีวิตพวกเขาได้จริง นั่นคือเหตุผลที่ผมรักโปรแกรมนี้มาก ตอนนี้ เรามีผู้สอนศาสนา 12 คนที่จะไปรับใช้ปีนี้และมีจะมากขึ้น
มาร์กี้ อาดิออง: ผู้นำทำหลายสิ่งเช่นจัดกิจกรรมสำหรับเยาวชนเพื่อพวกเขาจะสนิทสนมกัน และเพื่อส่งเสริมโปรแกรมเซมินารีให้พวกเขาในคราเดียวกันด้วย
เอริกา วิลลารีล: ดิฉันได้รับพรเป็นอย่างมากจากเซมินารีเนื่องจากเซมินารีได้เสริมสร้างศรัทธาของดิฉันและช่วยดิฉันเข้มแข็งและพึ่งพาพลังของพระเจ้า
อาร์โนลด์ คาริโซ: ผมเตรียมตัวไปรับใช้งานเผยแผ่ผ่านการเข้าเรียนเซมินารีครับ
มาร์กี้ อาดิออง: ดิฉันมีความสุขจริงๆ! ที่ได้เห็นเยาวชนบางคนต้องการการดูแล—ดิฉันเป็นแม่ด้วยและดิฉันต้องการให้พวกเขารู้สึกว่ามีคนรักพวกเขา เมื่อใดก็ตามที่นักเรียนคนหนึ่งมาเรียนไม่ได้ ดิฉันรู้สึกไม่มีความสุขเนื่องจากดิฉันรู้ว่าคงมีปัญหา และดิฉันต้องการเอื้อมออกไปหาพวกเขาและหาว่าเพราะอะไร แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ไกล ดิฉันทำเต็มที่ในการไปเยี่ยมพวกเขาเพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าพวกเขาสำคัญและพวกเขาพิเศษ
ริชาร์ด มานะฮาน: อย่างที่ผมบอก ผมไม่ประหลาดใจเลยหากวันหนึ่งเยาวชนหลายคนเหล่านี้จะกลายเป็นผู้นำของศาสนจักรในเขตนี้และอาจในท้องถิ่นนี้
ผู้เข้าร่วม:
-
ริชาร์ด มานะฮานผู้ประสานงานเซมินารีและสถาบัน
-
อเล็กซ์ คาสติดาเดสครูเซมินารี
-
เอดิลเบอร์โต กาเบโลอดีตประธานสาขา
-
มาร์กี้ อาดิอองครูเซมินารีภาคการศึกษาที่บ้าน
-
สเตฟานี แพนโทเนนักเรียนเซมินารี
-
เอริกา วิลลารีลนักเรียนเซมินารี
-
อาร์โนลด์ คาริโซนักเรียนเซมินารี