โดดเด่น ในไอร์แลนด์

โดย เดวิด ดิกสัน

นิตยสารศาสนจักร

อีวาน เค. เป็นเยาวชนชายเพียงคนเดียวในศาสนจักรที่โรงเรียนของเขา แต่เขาไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวเลย

ภาพถ่ายโดย แอชลีย์ แอนน์ เค.

เคยได้ยินสำนวนว่า “The grass is always greener on the other side of the fence” (หญ้าจากอีกด้านหนึ่งของรั้วมักจะดูเขียวกว่าเสมอ) หรือไม่? อีวาน เค. วัยสิบห้าปีจากไอร์แลนด์อาจจะไม่พูดสำนวนนั้นเร็วๆ นี้แน่ “หญ้าของเราเขียวมาก!” เขาพูด

มีเหตุผลดีๆ ที่บางครั้งเราเรียกไอร์แลนด์ว่า “เกาะมรกต”

“ที่นี่สวยงาม” อีวานกล่าว เขายังใช้ความงามนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการขี่จักรยานชมเมืองอยู่บ่อยๆ “ผมชอบปั่นจักรยานไปตามถนนที่เงียบสงบหลายสายรอบๆ เรา”

หญ้าสีเขียวมรกตและความสวยงามตามธรรมชาติอื่นๆ อยู่รายรอบตัวเขา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ขาดคือสมาชิกคนอื่นๆ ของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายที่รุ่นราวคราวเดียวกับเขา อีวานและน้องสาวของเขาเป็นสมาชิกเพียงกลุ่มเดียวของศาสนจักรในโรงเรียน

ไม่เข้าพวก

ในไอร์แลนด์ โรงเรียนหลายแห่งเป็นโรงเรียนสังกัดศาสนา อีวานและน้องสาวของเขาเข้าโรงเรียนคาทอลิกในท้องที่พร้อมกับเยาวชนคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในละแวกบ้านของพวกเขาในไอร์แลนด์

เมื่อพูดถึงการเลือกใช้ชีวิต มีบางส่วนที่อีวานมีความแตกต่างอย่างชัดเจน “บางครั้งเป็นเรื่องยาก เพราะใครๆ ก็สบถกันหมด” เขากล่าว การสบถเป็นเรื่องปกติที่นั่น อีวานอธิบาย แต่มีส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไอริชที่อีวานกล่าวว่าอาจเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น

“เยาวชนชายชอบออกไปพบปะสังสรรค์และออกไปดื่มกัน” เขาอธิบาย “ผมมักเป็นคนที่ไม่เข้าพวกเสมอ”

เขาพูดถึงเพื่อนในโรงเรียนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา การดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่อายุยังน้อยเป็นเรื่องปกติในที่ซึ่งอีวานอาศัยอยู่ การออกไปสังสรรค์นอกบ้านแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากจนอีวานบอกว่าบางครั้งเขาก็คิดจะไปร่วมด้วยเพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้สึกแปลกแยก แต่ทุกครั้ง เขาก็เลือกที่จะอยู่บ้านแทน

“ผมคิดว่า ‘จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมออกไปกับพวกเขา?’” เขากล่าว “ผมรู้ว่าถ้าผมเลือกที่จะไม่ไป ผมจะได้รับพรจากสิ่งนั้น พรของการรักษาพระบัญญัติยิ่งใหญ่กว่าความเจ็บปวดจากการเป็นคนไม่เข้าพวก”

“พรของการรักษาพระบัญญัติยิ่งใหญ่กว่าความเจ็บปวดจากการเป็นคนไม่เข้าพวก”

อีวานพึ่งพาพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการช่วยให้เขาก้าวผ่านทางเลือกในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ เขายังมีแหล่งความเข้มแข็งอื่นๆ ที่จะนำมาใช้อีกด้วย

เขาสามารถส่งข้อความไปหาเพื่อนชาวไอริชของเขาในศาสนจักรได้ง่าย

เพื่อนทางออนไลน์และความเข้มแข็งประจำวัน

พวกเขาพบปะทางออนไลน์กันบ่อยมากในที่ซึ่งอีวานอาศัยอยู่ เนื่องจากเยาวชนในศาสนจักรแต่ละคนอยู่ไกลกัน อีกอย่างหนึ่ง พวกเขาพบกันในเซมินารีออนไลน์

“เซมินารีประจำสัปดาห์ดีมาก” อีวานกล่าว “ไม่เพียงเราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระคริสต์และพระกิตติคุณขณะที่เรากำลังเข้าเซมินารีเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นครูเปิดการโทร Zoom ไว้สำหรับเราด้วย”

ในการโทรแบบเปิดนั้น พวกเขาจะได้เล่นกัน เล่าเรื่องตลก เล่นเกม รวมถึง ผูกมิตร กับคนอื่นๆ ที่มีค่านิยมเหมือนกัน สำหรับอีวาน มิตรภาพที่ใกล้ชิดที่สุดของเขาก่อตัวขึ้นผ่านคนรู้จักในศาสนจักรเหล่านี้

หนึ่งในสายสัมพันธ์นั้นคือร็อบเพื่อนที่ดีของเขา “เราพบอะไรตลกๆ ที่คล้ายกันหลายอย่าง” อีวานกล่าว “เวลาร็อบเจอเรื่องตลกบนโซเชียลมีเดียที่เขารู้ว่าผมชอบ เขาจะส่งมาให้ผมดู จากนั้นเราจะส่งข้อความคุยกันนิดหน่อย อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เวลาผมจะเจอเรื่องตลก ผมก็จะส่งให้เขาดูเหมือนกัน”

ดูเป็นเรื่องธรรมดามากเลยใช่ไหมครับ? แต่การโต้ตอบเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ช่วยผมตลอดทั้งสัปดาห์ “การทำแบบนี้เป็นเรื่องที่ดีเพราะเราสามารถแบ่งปันเสียงหัวเราะซึ่งกันและกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีการสบถหรือมีสิ่งอื่นใดมาเกี่ยวข้อง” พวกเขายังสามารถส่งข้อความหากันได้เวลาที่ต้องการความเข้มแข็งในพระกิตติคุณเพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วย

การรวมตัวของชาวไอริช

แม้ว่าเยาวชนวิสุทธิชนยุคสุดท้ายในไอร์แลนด์จะกระจายตัวอยู่ห่างกันออกไป แต่พวกเขายังคงพยายามรวมตัวกันตลอดทั้งปี ซึ่งบางครั้งก็เป็นการรวมเยาวชนจากทั้งประเทศ

การรวมตัวกันนี้มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับทุกอย่าง โดยมีตั้งแต่โครงการบำเพ็ญประโยชน์ไปจนถึงการเช่าชุดซูโมเป่าลมเพื่อมาเล่นมวยปล้ำ “สนุกมากๆ เลย!” อีวานกล่าว

บางครั้งในช่วงท้ายของกิจกรรมจะมีดิสโก้ (การเต้นรำ) ด้วย ดิสโก้ที่นี่แตกต่างจากดิสโก้ของโรงเรียนและชุมชนในละแวกบ้านผมอย่างมาก อย่างเช่น ที่ดิสโก้ของชุมชน หากเด็กหนุ่มขอให้เด็กสาวเต้นรำด้วยก็แทบจะเหมือนกับการขอเธอออกเดทหรือแม้แต่ขอเป็นแฟนเลย นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่นั่น

แต่ดิสโก้ของศาสนจักรต่างออกไป อีวานกล่าวว่า ที่ดิสโก้ของศาสนจักร “เราสามารถขอให้คนอื่นมาเต้นรำด้วยกันได้ โดยที่พวกเขาไม่คิดว่าเรากำลังขอให้พวกเขามีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับเรา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีกว่าเยอะเลย”

การพบปะสังสรรค์กับเยาวชนคนอื่นๆ ของศาสนจักรในไอร์แลนด์ส่งผลยาวนานตลอดทั้งปี พวกเขาสานต่อมิตรภาพด้วยการเล่นเกมออนไลน์ ส่งข้อความ คุยโทรศัพท์ และคอยช่วยเหลือกันจนกว่าจะได้มารวมตัวกันอีกครั้ง

อีวานชอบใช้เวลากับครอบครัว เช่น การขี่จักรยานด้วยกันและการร้องเพลงสวดที่บ้าน

การเติบโตและแสงสว่างของพระกิตติคุณ

อีวานมีคำแนะนำเล็กน้อยสำหรับเยาวชนคนอื่นๆ ที่อยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับเขา “ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณเป็นเยาวชนของศาสนจักรเพียงคนเดียวในโรงเรียน จงอย่าเปลี่ยนแปลงมาตรฐานของคุณเพื่อพยายามปรับตัวให้เข้ากับคนอื่น หากคุณสบถ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่เพียงเพื่อจะเข้ากับคนอื่นได้ คุณจะพลาดโอกาสมากมาย พรนั้นดียิ่งกว่าความพึงพอใจในการพยายามทำให้ตัวเองเข้ากับคนอื่น!”

และในกรณีที่ท่านกลัวว่าอีวานจะเหงาที่โรงเรียนเพราะเขาเลือกใช้ชีวิตที่ต่างไปจากเดิม จงคิดใหม่ เขากล่าวว่าคนอื่นรับรู้ได้ถึงความเชื่อของเขาและเคารพเขาแม้ว่าเขาจะมาจากศาสนาอื่น “ผมยอมรับความเชื่อของพวกเขาและพวกเขาก็ยอมรับตัวผม” เขาอธิบาย “ผมเป็นเพื่อนที่ดีกับทุกคนในโรงเรียน”

ท้ายที่สุดแล้ว อีวานอาจไม่ได้อยู่ท่ามกลางเยาวชนของศาสนจักรทุกวัน แต่เขาก็ให้แสงแห่งพระกิตติคุณส่องสว่างเหมือนอย่างเคย นอกจากนี้ ใครจะรู้ว่าเขาได้เพาะเมล็ดพันธุ์แห่งพระกิตติคุณมากมายเพียงใดโดยการเป็นแบบอย่างที่ดีเช่นนี้ ท้ายที่สุดแล้ว เมล็ดพันธุ์ต่างๆ มักจะเติบโตได้ดีในไอร์แลนด์!

ประจักษ์พยานของอีวาน

“ผมรู้ว่าศาสนจักรเป็นความจริง ผมรู้ว่าโจเซฟ สมิธแปลพระคัมภีร์มอรมอน และฮีลามันก็เป็นหนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดของการแปลพระคัมภีร์! เพราะผมมีศรัทธา ผมจึงรู้ว่าผมสามารถกลับไปอยู่กับพระบิดาบนสวรรค์ได้อีกครั้ง ผมรู้ว่าพระเยซูคริสต์จะทรงดำเนินบนแผ่นดินโลกอีกครั้ง และผมรู้ว่าถ้าเราทำตามที่นีไฟบอก คือถ้าเราไปและทำ เราจะได้รับพร”