งานของพระวิหารและประวัติครอบครัว—หนึ่งงานเดียวกัน

โดย เอ็ลเดอร์เบ็นฮามิน เด โอโยส

แห่งสาวกเจ็ดสิบ

จุดเน้นหลักในแผนของพระบิดาบนสวรรค์คือการทำให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันในชีวิตนี้และชั่วนิรันดร

ข้าพเจ้าสำนึกคุณอย่างมากต่อการสร้างพระวิหารอย่างต่อเนื่องใน “สมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลา” นี้ (หลักคำสอนและพันธสัญญา 128:18) ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการฟื้นฟู วิสุทธิชนที่ซื่อสัตย์ได้เสียสละมากมายเพื่อรับศาสนพิธีและพันธสัญญาพระวิหาร โดยทำตามตัวอย่างที่ดีของพวกเขา ในปี 1975 หลังจากเสียสละมากมายทางเศรษฐกิจเพื่อเดินทางจากเม็กซิโกซิตี้ ข้าพเจ้ากับเอวีเลียภรรยาและพ่อแม่ที่รักของเราจึงไปผนึกเป็นสามีภรรยาชั่วนิรันดร์ในพระวิหารเมซา แอริโซนา วันนั้น ขณะเป็นหนึ่งเดียวกันโดยสิทธิอำนาจของฐานะปุโรหิตในพระนิเวศน์ของพระเจ้า เราประสบกับแวบหนึ่งของสวรรค์จริงๆ

งานและจุดประสงค์ของพระวิหาร

ประสบการณ์นั้นทำให้ข้าพเจ้าซาบซึ้งมากขึ้นที่หลังจากสามปีของการทำงานหนักและการเสียสละมากมาย ในที่สุดวิสุทธิชนในเคิร์ทแลนด์ โอไฮโอก็สร้างพระวิหารที่สวยงามของพวกเขาเสร็จสมบูรณ์ในฤดูใบไม้ผลิปี 1836—พระวิหารแห่งแรกในสมัยการประทานนี้ ในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน คนกว่าหนึ่งพันคนมารวมตัวกันในพระวิหารตรงทางเข้าเพื่อร่วมพิธีอุทิศ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธลุกขึ้นถวายคำสวดอ้อนวอนอุทิศ ซึ่งท่านได้รับโดยการเปิดเผย (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 109) ในคำสวดอ้อนวอน ท่านพูดถึงพรพิเศษมากมายที่มอบให้ผู้เข้าพระวิหารของพระเจ้าอย่างมีค่าควร จากนั้นคณะนักร้องประสานเสียงร้องเพลงสวด “พระวิญญาณพระเจ้า” และที่ประชุมยืนโห่ร้องโฮซันนา “ด้วย [พลังแรงกล้า] จนเกือบจะทำให้หลังคาปลิวออกจากอาคาร” (คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], 331)

หนึ่งสัปดาห์ต่อมาศาสดาพยากรณ์พูดถึงการปรากฏของพระเจ้าในพระวิหารผู้ทรงตรัสว่า:

“เพราะดูเถิด, เรายอมรับนิเวศน์แห่งนี้, และนามของเราจะอยู่ที่นี่; และเราจะแสดงตนให้ประจักษ์แก่ผู้คนของเราในความเมตตาในนิเวศน์แห่งนี้ …

“และกิตติศัพท์ของนิเวศน์แห่งนี้จะแพร่สะพัดไปยังต่างแดน; และนี่เป็นการเริ่มต้นพรซึ่งจะเทลงบนศีรษะผู้คนของเรา” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 110:7, 10)

หลังจากนิมิตนี้และนิมิตอื่น เอลียาห์ศาสดาพยากรณ์ผู้ทรงรับไปสู่สวรรค์โดยมิได้ลิ้มรสความตาย มาปรากฏต่อศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและออลิเวอร์ คาวเดอรี และกล่าวว่า:

“ดูเถิด, เวลามาถึงโดยสมบูรณ์แล้ว, ซึ่งพูดไว้โดยปากของมาลาคี—โดยเป็นพยานว่าจะทรงส่งท่าน [เอลียาห์] [ศาสดาพยากรณ์] มา, ก่อนวันสำคัญยิ่งและน่าพรั่นพรึงของพระเจ้าจะมาถึง—

“เพื่อหันใจบรรพบุรุษมาหาลูกหลาน, และลูกหลานมาหาบรรพบุรุษ, เกลือกทั้งแผ่นดินโลกจะถูกลงทัณฑ์ด้วยคำสาปแช่ง—

“ฉะนั้น, จึงมอบหมายกุญแจทั้งหลายของสมัยการประทานนี้ไว้ในมือท่าน; และโดยการนี้ท่านจะรู้ว่าวันอันน่าพรั่นพรึงและสำคัญยิ่งของพระเจ้าอยู่ใกล้, แม้ที่ประตู” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 110:14–16)

พระวิหารและประวัติครอบครัว

หลังจากพระเจ้าทรงฟื้นฟูกุญแจการผนึกให้กับโจเซฟ สมิธ งานแห่งความรอดทั้งสองด้านของม่านจึงเริ่มขึ้นในสมัยการประทานนี้ (ดู 1 โครินธ์ 15:22, 29; หลักคำสอนและพันธสัญญา 128:8–18)

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์สอนว่า “โลกไม่เหลียวแลเหตุการณ์อันสำคัญยิ่งนี้ แต่จะมีอิทธิพลต่อจุดหมายของทุกจิตวิญญาณที่เคยมีชีวิตหรือจะมีชีวิต สิ่งต่างๆ เริ่มเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ ศาสนจักรกลายเป็นศาสนจักรที่เน้นสร้างพระวิหาร

“ในหลายภูมิภาคของโลกผู้คน องค์กร และสังคมเริ่มสนใจการสืบลำดับเชื้อสายในลักษณะที่คิดกันว่าเกิดขึ้นเอง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่การปรากฏของเอลียาห์ในพระวิหารเคิร์ทแลนด์” (The Holy Temple [1980], 141)

“ตั้งแต่วันนั้น วันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1836 ใจของลูกหลานเริ่มหันไปหาบรรพบุรุษของพวกเขา หลังจากนั้นศาสนพิธีจึงไม่เลื่อนลอย แต่คงทนถาวร อำนาจการผนึกอยู่กับเรา ไม่มีการมอบอำนาจใดมีคุณค่าเกินอำนาจนี้ อำนาจนี้ให้หลักฐานยืนยันความจริงและความถาวรนิรันดร์ของศาสนพิธีทั้งหมดที่ประกอบด้วยสิทธิอำนาจที่ถูกต้องทั้งสำหรับคนเป็นและคนตาย” (Preparing to Enter the Holy Temple [2002], 28)

พี่น้องที่รัก การก่อสร้างและการใช้พระวิหารอย่างเหมาะสมเป็นเครื่องหมายของศาสนจักรที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์ในทุกสมัยการประทาน หลังจากอุทิศพระวิหารซอลท์เลคในปี 1893 ประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์กระตุ้นให้สมาชิกของศาสนจักรค้นหาบันทึกบรรพชนของตนและจดบันทึกลำดับการสืบเชื้อสายของพวกเขาย้อนกลับไปให้ไกลที่สุดเพื่อนำชื่อเข้าไปในพระวิหารและประกอบศาสนพิธีแห่งความรอดและความสูงส่ง (ดู Teachings of Presidents of the Church: Wilford Woodruff [2004], 174)

ประวัติครอบครัวและงานพระวิหาร—หนึ่งงาน

หนึ่งปีต่อมา (1894) ประธานวูดรัฟฟ์คนเดิมควบคุมดูแลการก่อตั้ง Genealogical Society of Utah (สมาคมสืบลำดับเชื้อสายของยูทาห์) หนึ่งร้อยปีต่อมา ในปี 1994 เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน เวลานั้นเป็นสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสอง กล่าวว่า “เหตุการณ์ในปีประวัติศาสตร์นั้นสถาปนาการค้นคว้าประวัติครอบครัวและการรับใช้ในพระวิหารให้เป็น หนึ่งงาน ในศาสนจักร” (“The Spirit of Elijah,” Ensign, Nov. 1994, 85)

งานประวัติครอบครัว

พี่น้องที่รัก พระเจ้าทรงกระตุ้นให้เราเหล่าสมาชิกศาสนจักรของพระองค์เก็บรักษาประวัติครอบครัวของเราเอง เรียนรู้จากบรรพชน และเตรียมการที่จำเป็นให้พวกเขาได้รับศาสนพิธีของพระกิตติคุณในพระวิหารเพื่อช่วยให้พวกเขาก้าวหน้าตามเส้นทางพันธสัญญา ซึ่งจะทำให้พวกท่านมีครอบครัวนิรันดร์ นั่นเป็นจุดเน้นหลักในแผนของพระบิดาบนสวรรค์ คือการทำให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันในชีวิตนี้และชั่วนิรันดร

ถึงท่านที่รู้สึกว่าตนไม่สามารถทำงานนี้ได้ ท่านควรทราบว่าท่านไม่เดียวดาย เราทุกคนสามารถหันมาใช้เครื่องมือที่ศาสนจักรเตรียมไว้และที่อยู่ในศูนย์ FamilySearch ซึ่งเราเคยรู้จักในชื่อศูนย์ประวัติครอบครัว ศูนย์ FamilySearch เหล่านี้ออกแบบไว้ให้เกือบทุกคนหาข้อมูลบรรพชนของตนเจอด้วยความช่วยเหลือเล็กน้อยและจัดระเบียบข้อมูลให้ถูกต้องเพื่อที่พวกเขาจะนำข้อมูลนั้นไปพระนิเวศน์ของพระเจ้าได้ โปรดติดต่อผู้ให้คำแนะนำด้านพระวิหารและประวัติครอบครัวในวอร์ดหรือสาขาของท่านผู้จะนำทางท่านในทุกขั้นตอน

เมื่อเราทำตามแนวทางของศาสดาพยากรณ์และเรียนรู้วิธีทำประวัติครอบครัวของเราและประกอบศาสนพิธีพระวิหารให้บรรพชนของเรา เราจะประสบปีติใหญ่หลวงจนถึงจุดที่เราจะไม่อยากหยุดทำ พระวิญญาณจะท่วมท้นใจเรา ปลุกความสามารถของเราให้ทำได้ และนำทางเราขณะค้นหาชื่อบรรพชนของเรา แต่ขอให้เราจำไว้ว่าประวัติครอบครัวเป็นมากกว่าแค่การหาชื่อ วันที่ และสถานที่ คือการทำให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันและรู้สึกถึงปีติที่มาจากการขยายศาสนพิธีแห่งพระกิตติคุณไปถึงบรรพชน

ข้าพเจ้ารักคำสอนที่ได้รับการดลใจของศาสดาพยากรณ์ที่รักของเรา ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันผู้กล่าวว่า “พระวิหารเป็นศูนย์กลางของการเสริมสร้างศรัทธาและความทรหดทางวิญญาณของเราเพราะพระผู้ช่วยให้รอดและหลักคำสอนของพระองค์เป็นหัวใจของพระวิหาร ทุกอย่างที่สอนในพระวิหารผ่านการสอนและผ่านพระวิญญาณจะเพิ่มความเข้าใจเราเรื่องพระเยซูคริสต์ ศาสนพิธีที่จำเป็นผูกมัดเรากับพระองค์ผ่านพันธสัญญาฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเมื่อเรารักษาพันธสัญญา พระองค์ย่อมประสาทพรเราด้วยเดชานุภาพ ของพระองค์ ที่เยียวยาและเสริมความเข้มแข็ง” (“พระวิหารและรากฐานทางวิญญาณของท่าน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2021, 93–94)

แน่นอนว่างานของพระวิหารและประวัติครอบครัวเป็นหนึ่งงานเดียวกันในศาสนจักร

ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงความจริงเหล่านี้ ข้าพเจ้ารู้ว่านี่คือศาสนจักรของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของเรา ผู้ที่เราเคารพและระลึกถึงในเทศกาลอีสเตอร์นี้ ข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์ทรงรักเรา และเมื่อเรารักษาพันธสัญญาของเราและเชื่อมั่นในพระองค์ พระองค์ย่อมประสาทพรเราด้วยเดชานุภาพของพระองค์ที่เยียวยาและเสริมสร้างความเข้มแข็ง ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน