บทเรียนการศึกษาที่บ้าน
แอลมา 11–16 (หน่วย 16)
คำนำ
ขณะที่แอลมาและอมิวเล็คเริ่มสอนผู้คนในแอมันไนฮาห์ พวกเขาพบกับการต่อต้าน หลังจากพวกเขาอธิบายความจริงนิรันดร์หลายประการแล้ว คนจำนวนมาก “เริ่มกลับใจ, และค้นคว้าพระคัมภีร์” (แอลมา 14:1) เรื่องราวใน แอลมา 11–16 แสดงให้เห็นการเสียสละที่ผู้คนเต็มใจทำเพื่อประจักษ์พยานของพวกเขาในความจริง บทเหล่านี้ให้หลักฐานเช่นกันว่าเมื่อคนชั่ว “ขับคนชอบธรรม” พระเจ้าจะทรงลงทัณฑ์พวกเขา “โดยความอดอยาก, และโดยโรคระบาด, และดาบ” (แอลมา 10:23) แอลมาและอมิวเล็คเตือนผู้คนในแอมันไนฮาห์ว่าถ้าพวกเขาไม่กลับใจ การพิพากษาของพระผู้เป็นเจ้าจะเกิดกับพวกเขา โดยปฏิเสธการเรียกให้กลับใจ ผู้คนในแอมันไนฮาห์จึงถูกกองทัพชาวเลมันทำลายในเวลาต่อมา
บทนี้จะเน้น แอลมา 14–15 นอกจากนี้ท่านอาจต้องการสอนหรือทบทวนความจริงจากบทอื่นที่มอบหมายในสัปดาห์นี้
ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน
แอลมา 14–15
พระผู้เป็นเจ้าประทานพรคนที่ไว้วางใจพระองค์ในความทุกข์ของพวกเขา
ท่านอาจจะเริ่มบทเรียนวันนี้โดยพูดถึงเหตุการณ์ปัจจุบันซึ่งผู้บริสุทธิ์ทนทุกข์เพราะการเลือกของผู้อื่น หรือท่านอาจจะขอให้นักเรียนยกตัวอย่างคนชอบธรรมจากพระคัมภีร์ผู้ถูกข่มเหงเพราะประจักษ์พยานของพวกเขาในพระกิตติคุณ หลังจากสนทนาสองสามตัวอย่างแล้ว ให้เชิญนักเรียนสองสามคนผลัดกันอ่านออกเสียงจาก แอลมา 14:7–11 และ แอลมา 60:13
ถามว่า: ข้อเหล่านี้ให้เหตุผลอะไรบ้างว่าทำไมบางครั้งพระเจ้าทรงยอมให้คนชอบธรรมทนทุกข์ด้วยน้ำมือคนชั่วร้าย (ความจริงประการหนึ่งที่นักเรียนเรียนรู้ขณะศึกษาส่วนนี้ของ แอลมา 14 คือ พระเจ้าทรงยอมให้คนชอบธรรมทนทุกข์ด้วยน้ำมือคนชั่วร้ายเพื่อให้การพิพากษาของพระองค์เที่ยงธรรม)
อธิบายว่าความยุติธรรมและความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้าขยายเลยความตายออกไปเพื่อรับผิดชอบคนที่ทำบาปและเผื่อแผ่พระเมตตาไปยังคนชอบธรรม จากนั้นให้แบ่งปันคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานเจมส์ อี. เฟาสท์แห่งฝ่ายประธานสูงสุด
“การทนทุกข์ทั้งหมดนั้นจะไม่เป็นธรรมเลยหากทุกอย่างสิ้นสุดที่ความตาย แต่ไม่ใช่เช่นนั้น ชีวิตไม่เหมือนละครฉากเดียว ชีวิตมีถึงสามฉาก เรามีฉากอดีตเมื่อเราดำรงอยู่ก่อนเกิด และขณะนี้เรามีฉากปัจจุบันซึ่งคือความเป็นมรรตัย และเราจะมีฉากอนาคตเมื่อเรากลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า … เราถูกส่งมาสู่ความเป็นมรรตัยเพื่อรับการทดสอบและการทดลอง [ดู อับราฮัม 3:25] …
“เปาโลกล่าวว่า ความทุกข์ในอดีตและปัจจุบันของเราไม่อาจ ‘เปรียบกับศักดิ์ศรีซึ่งจะเผยให้แก่เรา [โรม 8:18] ในนิรันดร “เพราะหลังจากความยากลำบากมากมายจึงบังเกิดพร. ดังนั้นจึงมีวันที่เราจะสวมมงกุฎเจ้าด้วยรัศมีภาพยิ่ง’ [คพ. 58:4] ดังนั้นความยากลำบากจึงมีประโยชน์ในแง่ที่ช่วยให้เราได้เข้าในอาณาจักรซีเลสเชียล …
“สิ่งที่เกิดกับเราไม่สำคัญเท่าวิธีที่เรารับมือกับสิ่งที่เกิดกับเรา” (ดู “จุดยืนของข้าพเจ้าอยู่ที่ใด” เลียโฮนา, พ.ย. 2004, หน้า 24–25)
อธิบายว่าความทุกข์ทรมานและความยากลำบากสามารถช่วยให้เราบรรลุความสูงส่งโดยทำให้ศรัทธาของเรามั่นคง การจรรโลงศรัทธาในช่วงการทดลองและความยุ่งยากแสดงให้เห็นความไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้าและแผนของพระองค์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ศรัทธาของเราแข็งแกร่งและสามารถอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ถามคำถามต่อไปนี้
-
การมีประจักษ์พยานในแผนแห่งความรอด รวมถึงชีวิตก่อนเกิดและชีวิตหลังความตาย สามารถบรรเทาทุกข์ที่เราประสบในความเป็นมรรตัยได้อย่างไร
-
โดยพิจารณาสิ่งที่ท่านศึกษาสัปดาห์นี้ใน แอลมา 14–15 คนชอบธรรมได้รับพรด้านใดบ้างในความทุกข์ของพวกเขา
-
ในช่วงเวลาของความทุกข์ เราสามารถแสดงให้เห็นได้อย่างไรว่าเราวางใจพระผู้เป็นเจ้า
ให้นักเรียนเปรียบเทียบคำถามที่แอลมาถามใน แอลมา 14:26 กับคำถามที่โจเซฟ สมิธถามใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 121:3 จากนั้นให้ถามว่า ตามที่กล่าวไว้ใน แอลมา 14:26 แอลมาและอมิวเล็คสามารถเอาชนะความทุกข์ของพวกเขาได้อย่างไร
อธิบายว่าเมื่อศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรมในมิสซูรี เขาถามคำถามที่บันทึกไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 121:3 ไม่เหมือนแอลมากับอมิวเล็ค เขาไม่ได้รับการปลดปล่อยจากคุกทันที เราสามารถเรียนรู้อะไรบ้างจากการที่พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบคำสวดอ้อนวอนของเขา (ดู คพ. 121:7–9; 122:4–9) เราเน้นความจริงต่อไปนี้ในการศึกษาส่วนตัวของนักเรียนสัปดาห์นี้: หากเราเรียกหาพระเจ้าด้วยศรัทธา พระองค์จะทรงเพิ่มพละกำลังให้เราในความทุกข์ของเราและทรงปลดปล่อยเราในวิธีของพระองค์และในเวลาของพระองค์เอง
ถามคำถามต่อไปนี้
-
พระเจ้าทรงช่วยท่านอย่างไรเมื่อท่านประสบการทดลอง
-
อะไรช่วยให้ท่านยอมตามพระประสงค์ของพระองค์และยอมรับจังหวะเวลาของพระองค์
ช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าทั้งซีเอสรอมและอมิวเล็ควางใจพระผู้เป็นเจ้าในความทุกข์ของพวกเขาและได้รับรางวัลตามพระประสงค์ของพระองค์และในเวลาของพระองค์เอง
แนะนำนักเรียนครึ่งห้องให้อ่าน แอลมา 15:5–12 และระบุข้อมูลเกี่ยวกับซีเอสรอมที่แสดงให้เห็นว่าเขาวางใจพระเจ้ามากขึ้น แนะนำให้อีกครึ่งห้องศึกษา แอลมา 15:16, 18 และระบุข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่อมิวเล็คเสียสละเพื่อรับใช้พระเจ้า
กระตุ้นนักเรียนให้วางใจในพระเจ้าและยอมรับพระประสงค์และจังหวะเวลาของพระองค์เมื่อความลำบากและความทุกข์เกิดกับพวกเขา รับรองกับพวกเขาว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงขยายเดชานุภาพและอิทธิพลของพระองค์ในวิธีที่น่าอัศจรรย์และเป็นส่วนตัว
การทบทวนผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์
บทเรียนนี้ถือเป็นจุดกึ่งกลางในหลักสูตรเซมินารีวิชาพระคัมภีร์มอรมอน เพื่อเสริมความพยายามของนักเรียนในการเรียนรู้และเข้าใจข้อผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ ท่านอาจจะแจกแบบสอบถามเพื่อประเมินว่าพวกเขารู้จักข้อผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ 13 ข้อที่ศึกษามาจนถึงเดี๋ยวนี้ดีเพียงใด อาจทำแบบทดสอบง่ายๆ ด้วยการสอบปากเปล่าหรือเขียน โดยแจกคำไขจากที่คั่นหนังสือและให้นักเรียนจดข้ออ้างอิง หรือท่านอาจจะทบทวนบางข้อที่นักเรียนท่องไว้แล้ว ความยาวของบทนี้อาจมีเวลาให้ทำแบบสอบถามของสัปดาห์นี้ หรือท่านอาจจะประกาศว่าครั้งหน้าจะมีแบบทดสอบเพื่อพวกเขาจะได้เตรียมตัว
หน่วยต่อไป (แอลมา 17–24)
พวกบุตรของโมไซยาห์ไปสั่งสอนคนชั่วและคนดุร้าย ตอนแรกพวกเขาประสบความทุกข์มากมาย แต่เมื่อพวกเขาสั่งสอนพระกิตติคุณให้ชาวเลมัน ปาฏิหาริย์จึงเกิดขึ้น จงสังเกตว่าความจงรักภักดีที่แอมันมีต่อพระผู้เป็นเจ้าและกษัตริย์ทำให้เกิดความชอบธรรมมากอย่างไร