28 เมษายน–4 พฤษภาคม: “กฎของเราในการปกครองศาสนจักรของเรา”

หลักคำสอนและพันธสัญญา 41–44

ศาสนจักรเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 1830 และปี 1831 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีจำนวนของสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเคิร์ทแลนด์ โอไฮโอ การเติบโตนี้ทําให้วิสุทธิชนตื่นเต้นและมีกําลังใจ แต่ทําให้เกิดความท้าทายบางอย่างเช่นกัน ท่านจะรวมกลุ่มผู้เชื่อที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร? โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านจะทําอะไรเมื่อพวกเขามีหลักคําสอนและหลักปฏิบัติจากความเชื่อเดิมของพวกเขาติดตัวมาด้วย? ตัวอย่างเช่น เมื่อโจเซฟ สมิธมาถึงเคิร์ทแลนด์ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1831 ท่านพบสมาชิกใหม่ใช้ทรัพย์สินร่วมกันเพื่อพยายามเลียนแบบชาวคริสต์สมัยพันธสัญญาใหม่ (ดู กิจการของอัครทูต 4:32–37 พระเจ้าทรงแก้ไขและชี้แจงเรื่องสําคัญบางเรื่องเกี่ยวกับหัวข้อนี้และหัวข้ออื่นๆ พระองค์ทรงทําเช่นนี้ส่วนใหญ่ผ่านการเปิดเผยที่บันทึกไว้ใน หลักคําสอนและพันธสัญญา 42 ว่าพระองค์ทรงเรียก “กฎของเราในการปกครองศาสนจักรของเรา” (ข้อ 59) ในการเปิดเผยนี้ เราเรียนรู้ความจริงที่เป็นรากฐานในการสถาปนาศาสนจักรของพระเจ้าในยุคสุดท้าย และเราเรียนรู้ว่าเรามีอีกมากให้เรียนรู้ “หากเจ้าจะถาม” พระองค์ทรงสัญญา “เจ้าจะได้รับการเปิดเผยมาเติมการเปิดเผย, ความรู้มาเติมความรู้” (หลักคําสอนและพันธสัญญา 42:61)

ดู วิสุทธิชน, 1:114–119 ด้วย

แนวคิดสำหรับการเรียนรู้ที่บ้านและที่โบสถ์

หลักคำสอนและพันธสัญญา 41

“คนที่รับกฎของเราและปฏิบัติตาม, คนคนนั้นคือสานุศิษย์ของเรา”

ราวต้นปี 1831 วิสุทธิชนเริ่มไปรวมกันในโอไฮโอ พวกเขากระตือรือร้นที่จะรับกฎที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาจะเปิดเผยที่นั่น (ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 38:32) แต่พระองค์ทรงสอนก่อนว่าเหล่าสาวกของพระองค์ควรเตรียมรับกฎของพระองค์อย่างไร ท่านพบหลักธรรมอะไรใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 41:1–6 ที่จะช่วยให้วิสุทธิชนได้รับกฎของพระผู้เป็นเจ้า? หลักธรรมเหล่านี้จะช่วยให้ท่านได้รับคำแนะนำสั่งสอนจากพระองค์อย่างไร?

หลักคำสอนและพันธสัญญา 42

พระเจ้าประทานพระบัญญัติแก่ฉันเพราะพระองค์ทรงรักฉัน

วิสุทธิชนถือว่าการเปิดเผยที่พบใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:1–72 เป็นหนึ่งในการเปิดเผยสำคัญที่สุดที่ท่านศาสดาพยากรณ์ได้รับ นั่นเป็นการเปิดเผยครั้งแรกครั้งหนึ่งที่ต้องตีพิมพ์ วิสุทธิชนเรียกการเปิดเผยเช่นนั้นว่า “กฎ” เป็นเวลาหลายปี แม้ภาคนี้ไม่มีพระบัญญัติหรือกฎทั้งหมดของพระเจ้ารวมอยู่ด้วย แต่ก็คุ้มค่ากับการไตร่ตรองว่าเหตุใดหลักธรรมเหล่านี้จึงสําคัญต่อศาสนจักรที่เพิ่งได้รับการฟื้นฟู เหตุใดหลักธรรมเหล่านี้จึงสำคัญสำหรับเราในปัจจุบัน?

เพราะ ภาค 42 ค่อนข้างยาว ท่านอาจศึกษาเป็นส่วนเล็กๆ ดังต่อไปนี้ ระบุหลักธรรมที่สอนในแต่ละข้อ และพิจารณาว่ากฎเหล่านี้เป็นเครื่องหมายของความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อผู้คนของพระองค์อย่างไร

• ข้อ 4–9, 11–17, 56–58

• ข้อ 18–29

• ข้อ 30–31

• ข้อ 40–42

• ข้อ 43–52

เหตุใดพระผู้เป็นเจ้าประทานกฎและพระบัญญัติแก่เรา? ท่านได้รับพรในด้านใดบ้างจากการรู้และทำตามพระบัญญัติ?

หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:30–42

“จงนึกถึงคนจน”

ส่วนหนึ่งของกฎที่เปิดเผยใน ภาค 42 พระเจ้าทรงสอนวิสุทธิชนให้รู้ว่าพวกเขาจะนำ “ทุกสิ่งมารวมเป็นของกลาง” เช่นเดียวกับผู้ติดตามพระคริสต์ในสมัยโบราณ (กิจการของอัครทูต 2:44; 4 นีไฟ 1:3) โดย “ไม่มีคนจนในบรรดาพวกเขา” (โมเสส 7:18) ได้อย่างไร ท่านเรียนรู้อะไรจาก หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:30–42 เกี่ยวกับวิธีที่วิสุทธิชนดำเนินชีวิตตามกฎแห่งการอุทิศถวาย? (การอุทิศถวายหมายถึงการกันบางสิ่งไว้เพื่อจุดประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์)

ถึงแม้ทุกวันนี้เราไม่มี “ทุกสิ่งมารวมเป็นของกลาง” แต่ในพระวิหารวิสุทธิชนยุคสุดท้ายทำพันธสัญญาว่าจะดำเนินชีวิตตามกฎแห่งการอุทิศถวาย ท่านจะอุทิศถวายสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ท่านเพื่อเป็นพรแก่คนขัดสนได้อย่างไร? บางทีการร้องเพลง เช่น “เพราะฉันได้รับมากมาย” (เพลงสวด บทเพลงที่ 105) อาจให้แนวคิดท่านได้

ดู แชรอน ยูแบงค์, “หวังว่าพระองค์จะทรงใช้เรา,” เลียโฮนา, พ.ย. 2021, 53–56 ด้วย

พระคริสต์กับเศรษฐีหนุ่ม โดย ไฮน์ริค ฮอฟแมนน์

หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:61, 65–68; 43:1–16

พระผู้เป็นเจ้าประทานการเปิดเผยเพื่อนําทางศาสนจักรของพระองค์—และนําทางฉัน

สมมติว่าท่านกำลังสนทนากับสมาชิกใหม่ของศาสนจักรผู้ตื่นเต้นที่ได้รู้ว่าการเปิดเผยนำทางศาสนจักร ท่านจะใช้ หลักคำสอนและพันธสัญญา 43:1–16 เพื่อช่วยเขาเรียนรู้เกี่ยวกับแบบแผนการนำทางศาสนจักรของพระเจ้าผ่านศาสดาพยากรณ์ของพระองค์อย่างไร? ท่านจะใช้ หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:61, 65–68 สอนเรื่องการได้รับการเปิดเผยส่วนตัวว่าอย่างไร?

“สิ่งที่ส่งเสริมความสงบสุข” และเรื่องน่ายินดีอะไรบ้างที่ท่านได้รับจากพระเจ้าผ่านพระวิญญาณของพระองค์?

เพื่อเรียนรู้ว่าผู้นําศาสนจักรได้ยินสุรเสียงของพระเจ้าอย่างไร ท่านอาจดูวีดิทัศน์หนึ่งเรื่องในชุด “ฟังพระองค์” ในคลังค้นคว้าพระกิตติคุณ ท่านอาจสร้างวีดิทัศน์ของท่านเอง โดยอธิบายว่าพระเจ้าทรงสื่อสารกับท่านอย่างไร

ดู รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “การเปิดเผยสําหรับศาสนจักร การเปิดเผยสําหรับชีวิตเรา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 93–96 ด้วย

สอนบทเรียนที่ใช้อุปกรณ์จริง บทเรียนที่ใช้อุปกรณ์จริงหรือโสตทัศนอุปกรณ์สามารถช่วยให้คนที่ท่านสอนเข้าใจความจริงพระกิตติคุณได้ดีขึ้นและจดจําไว้นานขึ้น ตัวอย่างเช่น ท่านอาจใช้ภาพปริศนาประกอบทีละชิ้นเพื่อสอนเรื่องการได้รับ “การเปิดเผยมาเติมการเปิดเผย, ความรู้มาเติมความรู้” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:61)

แนวคิดสำหรับการสอนเด็ก

หลักคำสอนและพันธสัญญา 41:5

สานุศิษย์คือคนที่รับกฎของพระผู้เป็นเจ้าและเชื่อฟัง

• เพื่อช่วยให้เด็กรู้ว่าการเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์หมายความว่าอย่างไร ท่านอาจเขียน หลักคําสอนและพันธสัญญา 41:5 ลงในแผ่นกระดาษโดยเว้นช่องว่างไว้ตรงคําว่า สานุศิษย์ จากนั้นพวกเขาจะหาคําที่หายไปใน ข้อ 5 ตามที่กล่าวไว้ในข้อนี้ การเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์หมายความว่าอย่างไร? เรากําลังพยายามเป็นสานุศิษย์ที่ดีขึ้นของพระคริสต์อย่างไร?

หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:2

ฉันมีความสุขเมื่อเชื่อฟังพระเจ้า

• เด็กอาจชอบเล่นเกมที่ต้องให้พวกเขาตั้งใจฟังและทําตามคําแนะนํา ท่านอาจใช้เกมนี้สนทนาเกี่ยวกับความหมายของการ “สดับตรับฟังและเชื่อฟัง” พระเจ้า (หลักคําสอนและพันธสัญญา 42:2) พระองค์ประทานคำแนะนำอะไรแก่เราบ้าง? เราได้รับพรอย่างไรจากการเชื่อฟังกฎและพระบัญญัติของพระองค์?

• ท่านอาจทำ หน้ากิจกรรม ของสัปดาห์นี้กับเด็กให้ครบถ้วน ท่านอาจร้องเพลงเกี่ยวกับการเชื่อฟังกฎของพระผู้เป็นเจ้า เช่น “ฉันจะดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ” (หนังสือเพลงสำหรับเด็ก หน้า 72) ท่านอาจแบ่งปันกันว่าการเชื่อฟังกฎของพระผู้เป็นเจ้านําความสุขมาให้ท่านอย่างไร

  

หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:38

ฉันกำลังรับใช้พระเยซูคริสต์เมื่อฉันรับใช้ผู้อื่น

• หลังจากอ่าน หลักคําสอนและพันธสัญญา 42:38 ด้วยกันแล้ว ให้ช่วยเด็กคิดวิธีที่พวกเขาสามารถรับใช้พระเยซูโดยรับใช้ผู้อื่น พวกเขาสามารถหาแนวคิดบางประการจากวีดิทัศน์เรื่อง “Pass It On” (ChurchofJesusChrist.org) พวกเขาอาจดูภาพพระผู้ช่วยให้รอดทรงช่วยเหลือผู้อื่น รักษาคนป่วย หรือมีเมตตาต่อเด็กๆ ด้วย (ดู หนังสือภาพพระกิตติคุณ ภาพที่ 42, 47)

  Pass It On

  Children around the world have taken President Thomas S. Monson's counsel to find a way to serve others.

  

• ท่านอาจให้เด็กดูใบบริจาคส่วนสิบและเงินบริจาคอื่นๆ และสนทนาเกี่ยวกับวิธีใช้เพื่อให้สิ่งที่เรามีเพื่อเป็นพรแก่ผู้อื่น (ดู “ส่วนสิบและการบริจาคออนไลน์”)

หลักคำสอนและพันธสัญญา 43:1–7

ศาสดาพยากรณ์คนเดียวเท่านั้นที่สามารถรับการเปิดเผยสำหรับทั้งศาสนจักร

• ให้เด็กจินตนาการว่ามีคนยืนขึ้นในการประชุมแสดงประจักษ์พยานและบอกวอร์ดว่าเขาได้รับการเปิดเผยสำหรับทั้งศาสนจักร (ตัวอย่างเช่น การเปิดเผยว่าเราไม่ควรกินแครอทอีกต่อไปหรือเราควรล้างมือด้วยนมแทนน้ำ) เขาบอกว่าเราควรฟังสิ่งที่เขาพูดแทนที่จะฟังศาสดาพยากรณ์ อะไรผิดในเรื่องนี้? ท่านอาจศึกษา หลักคำสอนและพันธสัญญา 43:1–7 ด้วยกันเพื่อหาให้พบว่าพระเจ้าประทานพระบัญญัติแก่ศาสนจักรของพระองค์อย่างไร

• ท่านอาจให้ดูภาพศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่ และขอให้เด็กแบ่งปันสิ่งที่ศาสดาพยากรณ์สอนเมื่อเร็วๆ นี้ หากพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ ท่านจะแบ่งปันคลิปวีดิทัศน์หรือข้อความตอนหนึ่งจากข่าวสารการประชุมใหญ่สามัญครั้งล่าสุด เหตุใดการมีศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้จึงเป็นพร?

ดูแนวคิดเพิ่มเติมจากนิตยสาร เพื่อนเด็ก ฉบับเดือนนี้

โจเซฟ สมิธกำลังสั่งสอน โดย แซม ลอว์เลอร์