11.

เยาวชนหญิง

11.1

จุดประสงค์และโครงสร้างองค์การ

องค์การเยาวชนหญิงช่วยให้บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าเตรียมกลับไปที่ประทับของพระองค์ ขณะเยาวชนหญิงพยายามรักษาพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้า พวกเธอจะ “มีอาวุธคือความชอบธรรมและเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าในรัศมีภาพอันยิ่งใหญ่” (1 นีไฟ 14:14)

11.1.1

จุดประสงค์

องค์การเยาวชนหญิงช่วยให้เยาวชนหญิงทำและรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งทำให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสของพวกเธอในพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์ลึกซึ้งขึ้น

จุดประสงค์ของชั้นเรียนเยาวชนหญิงคือช่วยให้เยาวชนหญิงทำงานร่วมกันเพื่อให้งานแห่งความรอดและความสูงส่งบรรลุผลสำเร็จ ในชั้นเรียน เยาวชนหญิงรับใช้ผู้อื่น ทำหน้าที่รับผิดชอบตามพันธสัญญาให้ลุล่วง สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน เรียนรู้และดำเนินชีวิตตามหลักคำสอน

11.1.2

สาระสำคัญของเยาวชนหญิง

สาระสำคัญของเยาวชนหญิงจะช่วยให้เยาวชนหญิงแต่ละคนเข้าใจอัตลักษณ์อันสูงส่งของพวกเธอและเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเยซูคริสต์ เยาวชนหญิงและผู้นำของพวกเธอท่องสาระสำคัญเมื่อเริ่มการประชุมวันอาทิตย์และที่การชุมนุมอื่นๆ ของเยาวชนหญิง สาระสำคัญมีดังนี้:

“ฉันเป็นธิดาที่รักของพระบิดามารดาบนสวรรค์ ฉันมีธรรมชาติแห่งสวรรค์และมีจุดหมายนิรันดร์

“ในฐานะสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์ ฉันพากเพียรเป็นเหมือนพระองค์ ฉันแสวงหาและทำตามการเปิดเผยส่วนตัว และปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่นในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

“ฉันจะยืนเป็นพยานเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา และในทุกสิ่ง และในทุกแห่ง

“ขณะฉันพากเพียรเพื่อคู่ควรรับความสูงส่ง ฉันเชิดชูของประทานแห่งการกลับใจ และพยายามปรับปรุงตนเองทุกวัน ด้วยศรัทธา ฉันจะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้บ้านและครอบครัว ทำและรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนรับศาสนพิธีและพรของพระวิหารศักดิ์สิทธิ์”

11.1.3

ชั้นเรียน

เยาวชนหญิงเริ่มเป็นสมาชิกชั้นเรียนเยาวชนหญิงในเดือนมกราคมของปีที่พวกเธออายุครบ 12 ปี

ชั้นเรียนเยาวชนหญิงจัดตามกลุ่มอายุ กลุ่มอายุคือเยาวชนหญิงทั้งหมดที่จะครบอายุเดียวกันในระหว่างปีปฏิทิน ชั้นเรียนหนึ่งอาจมีมากกว่าหนึ่งกลุ่มอายุ เยาวชนหญิงก้าวหน้าไปชั้นเรียนใหม่ในเดือนมกราคมของปีที่พวกเธอครบอายุของเยาวชนหญิงในชั้นเรียนใหม่

ฝ่ายอธิการและผู้นำเยาวชนหญิงที่เป็นผู้ใหญ่ตัดสินใจร่วมกับการสวดอ้อนวอนว่าจะจัดชั้นเรียนตามอายุอย่างไร พวกเขาพิจารณาโอกาสการเป็นผู้นำสำหรับเยาวชนหญิง แต่ละชั้นควรมีประธานโดยไม่คำนึงถึงขนาด และหากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ควรมีที่ปรึกษาหนึ่งคนหรือสองคนและเลขานุการ ในหน่วยที่มีเยาวชนหญิงมากพอ ชั้นเรียนควรใหญ่พอให้ฝ่ายประธานชั้นเรียนมีสมาชิกชั้นเรียนให้รับใช้

เรียกชั้นเรียนเป็นชื่อเดียวกันว่า “เยาวชนหญิง” หากวอร์ดมีมากกว่าหนึ่งชั้น จะใช้กลุ่มอายุจำแนกชั้นเรียน

11.2

การมีส่วนร่วมในงานแห่งความรอดและความสูงส่ง

พระผู้เป็นเจ้าทรงเชื้อเชิญให้ทุกคนมาหาพระคริสต์และช่วยเหลืองานของพระองค์โดย:

• การดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

• การดูแลคนขัดสน

• การเชื้อเชิญให้ทุกคนรับพระกิตติคุณ

• การทำให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันชั่วนิรันดร์

ฝ่ายประธานชั้นเรียนปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับวิธีทำงานนี้ให้สำเร็จโดยมีผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่คอยสนับสนุน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานแห่งความรอดและความสูงส่งใน บทที่ 1

11.2.1

การดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

11.2.1.1

บทบาทของบิดามารดาและผู้นำ

บิดามารดารับผิดชอบต่อการสอนพระกิตติคุณให้กับบุตรธิดาและช่วยพวกเขาดำเนินชีวิตตามนั้น (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 68:25–28) ฝ่ายอธิการ ผู้นำเยาวชนหญิง และฝ่ายประธานชั้นเรียนสนับสนุนบิดามารดาในหน้าที่รับผิดชอบดังต่อไปนี้:

• ส่งเสริมการสื่อสารระหว่างเยาวชนหญิงกับบิดามารดา

• พึงแน่ใจว่ากิจกรรมเยาวชนสนับสนุนและเป็นพรแก่ครอบครัว

• ช่วยบิดามารดาเตรียมธิดาให้พร้อมรับเอ็นดาวเม้นท์พระวิหาร รับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลา (หากเยาวชนหญิงประสงค์) แต่งงานในพระวิหาร และเป็นมารดา

ผู้นำควรเห็นใจเยาวชนที่ขาดการสนับสนุนจากครอบครัวให้ดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ

บิดามารดาและผู้นำพยายามเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชน พวกเขาคอยชี้แนะขณะเยาวชนพยายามเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้น โปรแกรมเด็กและเยาวชนจะช่วยในความพยายามเหล่านี้ (ดู ChildrenandYouth.ChurchofJesusChrist.org).

11.2.1.2

การเรียนรู้พระกิตติคุณ

ผู้นำเยาวชนหญิงและฝ่ายประธานชั้นเรียนกระตุ้นให้เยาวชนหญิงและครอบครัวเรียนรู้พระกิตติคุณที่บ้าน ผู้นำศึกษาพระกิตติคุณและแบ่งปันสิ่งที่เรียนรู้ให้กับเยาวชนหญิง พวกเขาเชื้อเชิญให้สมาชิกชั้นเรียนแบ่งปันที่โบสถ์ว่าพวกเธอเรียนรู้อะไรที่บ้านบ้าง

ชั้นเรียนเยาวชนหญิงประชุมกันวันอาทิตย์เพื่อเพิ่มพลังศรัทธา สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวและบ้าน และวางแผนทำงานแห่งความรอดและความสูงส่งให้สำเร็จ ฝ่ายประธานชั้นเรียนวางแผนการประชุมวันอาทิตย์โดยมีผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่คอยสนับสนุน

การประชุมชั้นเรียนจัดในวันอาทิตย์ที่สองและสี่ของเดือน ใช้เวลา 50 นาที สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานชั้นเรียนดำเนินการประชุม เธอนำชั้นเรียนให้ท่องสาระสำคัญและหารือกันเกี่ยวกับงานมอบหมายและเรื่องสำคัญอื่นๆ

จากนั้นสมาชิกชั้นเรียนหรือผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งจะนำการสอนพระกิตติคุณ ฝ่ายประธานชั้นเรียนปรึกษากับผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่ว่าใครควรสอน โครงร่างการประชุมมีอยู่ใน จงตามเรามา—สำหรับโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนและชั้นเรียนเยาวชนหญิง (ดู ComeFollowMe.ChurchofJesusChrist.org).

หากวอร์ดมีชั้นเรียนเยาวชนหญิงมากกว่าหนึ่งชั้น พวกเธอประชุมแยกกัน แต่พวกเธออาจประชุมรวมกันเมื่อมีความต้องการพิเศษ เยาวชนหญิงและเยาวชนชายอาจเรียนบทเรียนวันอาทิตย์รวมกันเป็นครั้งคราวตามการประสานงานของฝ่ายอธิการและฝ่ายประธานเยาวชนหญิง

พึงกระตุ้นให้เยาวชนหญิงเข้าร่วมเซมินารี (ดู 15.1)

11.2.1.3

การรับใช้และกิจกรรมต่างๆ

ฝ่ายประธานชั้นเรียนวางแผนการรับใช้และกิจกรรมต่างๆ โดยมีผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่คอยสนับสนุน สิ่งเหล่านี้ควรช่วยให้งานแห่งความรอดและความสูงส่งบรรลุผลสำเร็จ การรับใช้และกิจกรรมควรสร้างประจักษ์พยาน เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัว ส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวกันในชั้นเรียน และให้โอกาสเป็นพรแก่ผู้อื่น สิ่งเหล่านี้ควรทำให้การเติบโตส่วนตัวทั้งสี่ด้านสมดุลกัน: ทางวิญญาณ สังคม ร่างกาย และสติปัญญา

กิจกรรมเยาวชนส่วนใหญ่จัดในเวลาอื่นที่ไม่ใช่วันอาทิตย์หรือเย็นวันจันทร์ ปกติจะจัดสัปดาห์ละครั้ง ในบางพื้นที่ ระยะทาง ความปลอดภัย หรือปัจจัยอื่นทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมทุกสัปดาห์ได้ ในพื้นที่เหล่านี้อาจจัดกิจกรรมน้อยลง แต่ปกติควรจัดอย่างน้อยเดือนละครั้ง สามารถวางแผนกิจกรรมบน ตัวอย่างตารางแผนการรับใช้และกิจกรรม ที่ ChurchofJesusChrist.org.

การรับใช้และกิจกรรมบางอย่างควรรวมทั้งเยาวชนชายและเยาวชนหญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเยาวชนที่โตกว่า

เยาวชนจะได้ประโยชน์จากการสมาคมกันเป็นกลุ่มใหญ่ เยาวชนในสองวอร์ดขึ้นไปอาจทำการรับใช้และกิจกรรมรวมกันเป็นครั้งคราว สเตคหรือท้องถิ่นอาจวางแผนการรับใช้และกิจกรรมสำหรับเยาวชนเป็นครั้งคราว (ดู 20.3.2)

ผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่ช่วยให้แน่ใจว่ากิจกรรมปลอดภัย (ดู safety.ChurchofJesusChrist.org; ดู 20.7 ในคู่มือนี้ด้วย) ควรมีผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่เชื่อถือได้อย่างน้อยสองคนอยู่ที่กิจกรรมทุกกิจกรรม (ดู 11.6.1)

ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน YoungWomen.ChurchofJesusChrist.org. ดู JustServe.org หากมี แหล่งช่วยเหล่านี้ให้แนวคิดสำหรับการรับใช้และกิจกรรม

กิจกรรมประจำปี นอกจากกิจกรรมเยาวชนที่จัดเป็นประจำแล้ว แต่ละปีเยาวชนหญิงอาจเข้าร่วม:

• การประชุมสำหรับเยาวชนและบิดามารดาใกล้ต้นปี จะจัดให้เยาวชนชายและเยาวชนหญิงแยกกันหรือรวมกันก็ได้ จะจัดในระดับวอร์ดหรือระดับสเตคก็ได้ กิจกรรมนี้วางแผนและนำโดยผู้ช่วยของอธิการในโควรัมปุโรหิต และฝ่ายประธานของชั้นเรียนเยาวชนหญิงที่อายุมากที่สุด เยาวชนหญิงที่อายุครบ 12 ปีระหว่างปีจะรับตราสัญลักษณ์ของการเข้าร่วมโปรแกรมในระหว่างการประชุมนี้ (ดู 11.6.3) ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน ChildrenandYouth.ChurchofJesusChrist.org.

• ค่ายเยาวชนหญิง (ดู คู่มือค่ายเยาวชนหญิง) เยาวชนหญิงอาจเข้าร่วมค่ายค้างคืน เหตุการณ์สำคัญ และกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติมตลอดปีหากอยู่ในวิสัยที่ทำได้

• การประชุมเยาวชนวอร์ดหรือสเตคหรือการประชุมเพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน (FSY) ดูข้อมูลเกี่ยวกับการประชุม FSY ใน FSY.ChurchofJesusChrist.org. ดูข้อมูลเกี่ยวกับการเรียกและหน้าที่รับผิดชอบ FSY วอร์ดและสเตคใน FSYLeader.ChurchofJesusChrist.org (สำหรับสหรัฐและแคนาดา) หรือ FSY Planning Guide (สำหรับภาคอื่นทั้งหมด)

• กิจกรรมอย่างน้อยหนึ่งครั้งที่เน้นมาตรฐานใน เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน เหตุการณ์นี้อาจรวมทั้งเยาวชนชายและเยาวชนหญิง อาจเชิญบิดามารดาด้วย

ข้อกำหนดด้านอายุ เมื่อบิดามารดาเห็นชอบ เยาวชนหญิงจะเริ่มเข้าค่ายเยาวชนหญิงค้างคืนในเดือนมกราคมของปีที่พวกเธออายุครบ 12 ปี พวกเธอจะเริ่มร่วมงานเต้นรำ การประชุมเยาวชน และการประชุม FSY ในเดือนมกราคมของปีที่พวกเธออายุครบ 14 ปี

การจ่ายเงินสำหรับกิจกรรมต่างๆ กิจกรรมต่างๆ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์จ่ายด้วยงบประมาณวอร์ด ค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ควรมากเกินไป

มีข้อยกเว้นคือหากงบประมาณวอร์ดมีเงินไม่พอจ่ายค่ากิจกรรมหลายวัน เช่น ค่ายต่างๆ ผู้นำอาจขอให้ผู้เข้าร่วมช่วยจ่าย แต่ไม่ควรห้ามเยาวชนหญิงเข้าร่วมหากเธอช่วยจ่ายไม่ได้ หากยังต้องการเงินเพิ่ม อธิการอาจอนุญาตให้จัดกิจกรรมระดมทุนปีละครั้ง (ดู 20.6.5)

ฝ่ายอธิการพึงแน่ใจว่างบประมาณและกิจกรรมสำหรับเยาวชนชายและเยาวชนหญิงมีมากพอและเท่าเทียมกัน งบประมาณสำหรับเยาวชนหญิงขึ้นอยู่กับจำนวนเยาวชนหญิงในวอร์ด งบประมาณสำหรับโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนขึ้นอยู่กับจำนวนเยาวชนชายในวอร์ด

ดู FSY.ChurchofJesusChrist.org สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนให้การประชุม FSY

11.2.1.4

การพัฒนาตนเอง

ในการพยายามเป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น เราเชื้อเชิญให้เยาวชนตั้งเป้าหมายเติบโตทางวิญญาณ สังคม ร่างกาย และสติปัญญา (ดู ลูกา 2:52) เยาวชนแสวงหาการดลใจให้พบสิ่งที่พวกเขาต้องทำต่อเนื่อง ด้วยความช่วยเหลือจากบิดามารดา พวกเขาวางแผน ลงมือทำตามแผน และใคร่ครวญสิ่งที่เรียนรู้ ผู้นำให้การสนับสนุนเมื่อจำเป็น อย่างไรก็ดี พวกเขาไม่ควรติดตามเป้าหมายหรือความก้าวหน้าของเยาวชนหญิง บิดามารดาและผู้นำอาจเสนอเป้าหมาย แต่พวกเขาปล่อยให้เยาวชนแสวงหาการดลใจของตนว่าจะทำเป้าหมายอะไรให้ลุล่วง

ส่งเสริมให้เยาวชนทำเป้าหมายในการเติบโตสี่ด้านให้ได้อย่างน้อยด้านละสองเป้าหมายในแต่ละปี พวกเขาสามารถใช้ การพัฒนาตนเอง: หนังสือแนะแนวสำหรับเยาวชน หรือแอปพลิเคชันการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณตั้งและบันทึกเป้าหมาย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน ChildrenandYouth.ChurchofJesusChrist.org.

11.2.2

การดูแลคนขัดสน

เยาวชนหญิงควรมีโอกาสรับใช้ผู้อื่นในครอบครัวและกับครอบครัวของพวกเธอเป็นประจำระหว่างกิจกรรมเยาวชน และในเวลาส่วนตัว แนวคิดสำหรับการรับใช้มีอยู่ที่ ChildrenandYouth.ChurchofJesusChrist.org. หากมี JustServe.org เสนอโอกาสต่างๆ ให้รับใช้ชุมชน

11.2.2.1

การปฏิบัติศาสนกิจ

การปฏิบัติศาสนกิจคือการดูแลผู้อื่นเฉกเช่นพระผู้ช่วยให้รอดจะทรงดูแล เยาวชนหญิงอาจเริ่มได้รับงานมอบหมายให้ปฏิบัติศาสนกิจในเดือนมกราคมของปีที่พวกเธออายุครบ 14 ปี ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน 5.4.21

11.2.3

การเชื้อเชิญให้ทุกคนรับพระกิตติคุณ

เยาวชนหญิงเชื้อเชิญให้ทุกคนรับพระกิตติคุณเมื่อพวกเธอ “ยืนเป็นพยานเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าทุกเวลาและในทุกสิ่ง, และในทุกแห่ง” (โมไซยาห์ 18:9) บางวิธีที่พวกเธอสามารถเชื้อเชิญมีดังนี้:

• เป็นแบบอย่างที่ดีในฐานะสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์

• แบ่งปันประจักษ์พยานให้กับเพื่อนๆ และสมาชิกครอบครัว

• ปฏิบัติศาสนกิจต่อสมาชิกแข็งขันน้อยของชั้นเรียน

• ชวนเพื่อนๆ มาโบสถ์หรือเข้าร่วมกิจกรรมเยาวชน

• ชวนเพื่อนๆ เข้าร่วมโปรแกรมเด็กและเยาวชน ผู้นำทำงานอย่างใกล้ชิดกับบิดามารดาของเยาวชนเหล่านี้เพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าใจโปรแกรมและพิจารณาว่าพวกเขากับบุตรธิดาจะมีส่วนร่วมอย่างไร

• ชวนเพื่อนๆ มาเรียนกับผู้สอนศาสนา

บิดามารดาและผู้นำสามารถช่วยเยาวชนหญิงเตรียมแบ่งปันพระกิตติคุณตลอดชีวิต บางวิธีที่พวกเขาจะทำได้มีดังนี้:

• กระตุ้นให้เยาวชนหญิงมีประจักษ์พยานส่วนตัวเกี่ยวกับแผนแห่งความสุขของพระบิดาบนสวรรค์ การชดใช้ของพระเยซูคริสต์ และการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระองค์

• ให้โอกาสรับใช้ในศาสนจักร

• ให้โอกาสสอนพระกิตติคุณในการประชุมชั้นเรียนและสภาวะแวดล้อมอื่น

หากเยาวชนหญิงปรารถนาจะรับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลา บิดามารดาและผู้นำช่วยพวกเธอเตรียม รวมถึงการสอนพวกเธอเกี่ยวกับพรและความคาดหวังของงานเผยแผ่ศาสนาเต็มเวลา

ส่วนหนึ่งของการเตรียมนี้คือฝ่ายอธิการหรือฝ่ายประธานสเตคอาจจัดชั้นเรียนเตรียมเป็นผู้สอนศาสนา แหล่งช่วยหลักสำหรับชั้นเรียนนี้คือพระคัมภีร์ มาตรฐานผู้สอนศาสนาสำหรับสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์ และ สั่งสอนกิตติคุณของเรา ไม่จัดชั้นเรียนนี้ในช่วงการประชุมวันอาทิตย์ตามปกติ

Missionary.ChurchofJesusChrist.org ให้แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมที่สามารถช่วยเยาวชนหญิงผู้ปรารถนาจะเตรียมรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน บทที่ 23 และ 24

11.2.4

การทำให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันชั่วนิรันดร์

เยาวชนหญิงสามารถช่วยให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันชั่วนิรันดร์ได้หลายวิธี บางวิธีมีดังนี้:

• ให้เกียรติบิดามารดาของพวกเธอและเป็นแบบอย่างของการดำเนินชีวิตเหมือนพระคริสต์ในบ้านของตน

• เตรียมมีครอบครัวนิรันดร์ของตนเอง

• มีใบรับรองพระวิหารที่เป็นปัจจุบัน

• เตรียมรับศาสนพิธีพระวิหาร รวมถึงการแต่งงานนิรันดร์

• เรียนรู้เกี่ยวกับครอบครัวเครือญาติและบรรพชนของพวกเขา (ดู ครอบครัวของฉัน: เรื่องราวที่นำเรามาอยู่ด้วยกัน)

• ระบุชื่อบรรพชนที่ต้องการศาสนพิธีพระวิหาร (ดู FamilySearch.org).

• มีส่วนร่วมในบัพติศมาและการยืนยันแทนผู้วายชนม์บ่อยเท่าที่สภาวการณ์เอื้ออำนวย

• มีส่วนร่วมในการทำดัชนี (ดู FamilySearch.org/indexing).

• รับใช้เป็นผู้ให้คำแนะนำด้านพระวิหารและประวัติครอบครัวเมื่อฝ่ายอธิการเรียก (ดู 25.2.4)

11.3

การเป็นผู้นำเยาวชนหญิงวอร์ด

11.3.1

ฝ่ายอธิการ

หน้าที่รับผิดชอบอันดับแรกของอธิการคือดูแลเยาวชนหญิงและเยาวชนชายในวอร์ด อธิการและที่ปรึกษารู้จักชื่อเยาวชนหญิงและเข้าใจสภาวการณ์ที่บ้านของพวกเธอ ฝ่ายอธิการพบปะพูดคุยกับเยาวชนหญิงแต่ละคนอย่างน้อยปีละสองครั้ง (ดู 31.3.1)

อธิการมีหน้าที่รับผิดชอบต่อองค์การเยาวชนหญิงวอร์ด เขาประชุมเป็นประจำกับประธานเยาวชนหญิง เขารายงานเรื่องเยาวชนหญิงในการประชุมฝ่ายอธิการ

อธิการและที่ปรึกษาเข้าร่วมการประชุม การรับใช้ และกิจกรรมของเยาวชนหญิงเป็นประจำ หากมีชั้นเรียนเยาวชนหญิงหลายชั้น อธิการอาจมอบหมายให้ตัวเขาและที่ปรึกษาทำงานกับชั้นเรียนที่กำหนด

11.3.2

ฝ่ายประธานเยาวชนหญิงที่เป็นผู้ใหญ่

อธิการเรียกและวางมือมอบหน้าที่ให้สตรีผู้ใหญ่คนหนึ่งรับใช้เป็นประธานเยาวชนหญิง ถ้าหน่วยใหญ่พอ เธอเสนอชื่อให้เรียกผู้ใหญ่สตรีหนึ่งคนหรือสองคนเป็นที่ปรึกษาของเธอ (ดู บทที่ 30) ฝ่ายอธิการพิจารณาการเสนอของเธอและให้การเรียก

ในหน่วยเล็ก ประธานเยาวชนหญิงอาจเป็นผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่คนเดียวที่ได้รับการเรียกในองค์การเยาวชนหญิง ในกรณีนี้เธอทำงานกับบิดามารดาเพื่อจัดการเรียนการสอนและกิจกรรมสำหรับเยาวชนหญิง เธอพึงแน่ใจด้วยว่ามีผู้ใหญ่ที่เชื่อถือได้อย่างน้อยสองคนอยู่ที่การประชุมและกิจกรรมทุกครั้ง เมื่ออยู่ในวิสัยที่ทำได้ ควรเรียกที่ปรึกษาและเลขานุการ

หากสาขาไม่มีประธานเยาวชนหญิง ประธานสมาคมสงเคราะห์จะจัดการเรียนการสอนสำหรับเยาวชนหญิงจนกว่าจะมีการเรียกประธานเยาวชนหญิง

ประธานเยาวชนหญิงมีหน้าที่รับผิดชอบต่อไปนี้ โดยมีที่ปรึกษาคอยช่วยเหลือ

• รับใช้ในสภาวอร์ด เธอรับใช้ในฐานะ (1) สมาชิกสภาวอร์ดผู้ช่วยตอบรับความต้องการในวอร์ดและหาวิธีแก้ไข และ (2) ตัวแทนของเยาวชนหญิง (ดู 29.2.5)

• รับใช้เป็นสมาชิกในสภาเยาวชนวอร์ด (ดู 29.2.6)

• ปฏิบัติศาสนกิจต่อเยาวชนหญิงแต่ละคน

• ส่งรายชื่อพี่น้องสตรีที่เสนอให้ฝ่ายอธิการเรียกให้รับใช้ในองค์การเยาวชนหญิง

• สอนหน้าที่รับผิดชอบให้กับผู้นำเยาวชนหญิงคนอื่นๆ และฝ่ายประธานชั้นเรียน

• ปรึกษากับเยาวชนหญิงเกี่ยวกับความท้าทายที่ไม่จำเป็นต้องให้อธิการอยู่หารือด้วยหรือไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำทารุณกรรม (ดู 32.3, 31.3.1, และ 38.6.2)

• คอยชี้แนะฝ่ายประธานชั้นเรียนในหน้าที่รับผิดชอบการเป็นผู้นำของพวกเธอ สมาชิกในฝ่ายประธานเยาวชนหญิงช่วยเหลือและสอดส่องดูแลชั้นเรียนแต่ละชั้นตามที่กำหนด

• สนับสนุนเยาวชนหญิงที่รับใช้เป็นคู่ปฏิบัติศาสนกิจกับพี่น้องสตรีที่เป็นผู้ใหญ่ (ดู 21.2.2)

• จัดการประชุมฝ่ายประธานเยาวชนหญิงและพบกับอธิการเป็นประจำ

• สอดส่องดูแลบันทึก รายงาน งบประมาณ และการเงินขององค์การเยาวชนหญิง

11.3.3

เลขานุการ

หากหน่วยใหญ่พอ ประธานเยาวชนหญิงเสนอชื่อพี่น้องสตรีที่เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งต่ออธิการให้รับใช้เป็นเลขานุการเยาวชนหญิง เธอจะมีหน้าที่รับผิดชอบดังนี้:

• ช่วยฝ่ายประธานเยาวชนหญิงเตรียมวาระการประชุมฝ่ายประธาน เธอเข้าร่วมการประชุมเหล่านี้ จดบันทึก และติดตามงานมอบหมาย

• สอนเลขานุการชั้นเรียนและช่วยพวกเธอจดบันทึกจำนวนคนเข้าชั้นเรียน

• ใช้ LCR ทำงานกับเลขานุการสมาคมสงเคราะห์เพื่อจดบันทึกจำนวนคนเข้าชั้นเรียนสำหรับสตรีผู้ใหญ่ที่รับใช้ในเยาวชนหญิง

• ช่วยฝ่ายประธานเยาวชนหญิง เตรียมงบประมาณและทำบัญชีค่าใช้จ่ายต่างๆ

11.3.4

ฝ่ายประธานชั้นเรียนและเลขานุการ

11.3.4.1

การเรียก การสนับสนุน และการวางมือมอบหน้าที่

ชั้นเรียนเยาวชนหญิงแต่ละชั้นควรมีฝ่ายประธานชั้นเรียน ฝ่ายประธานเยาวชนหญิงจะเสนอชื่อเยาวชนหญิงให้รับใช้เป็นประธานชั้นเรียน สมาชิกในฝ่ายอธิการหารือกันร่วมกับการสวดอ้อนวอนเพื่อตัดสินใจว่าจะเรียกใคร

สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการเรียกเยาวชนหญิงคนหนึ่งให้รับใช้เป็นประธานชั้นเรียน เมื่อมีเยาวชนหญิงมากพอให้รับใช้ เธอพิจารณาสมาชิกชั้นเรียนร่วมกับการสวดอ้อนวอนเพื่อเสนอชื่อเป็นที่ปรึกษาและเลขานุการ ฝ่ายอธิการพิจารณาการเสนอของเธอและให้การเรียก

สมาชิกฝ่ายอธิการขออนุญาตบิดามารดาของเยาวชนหญิงก่อนขอให้เยาวชนหญิงรับใช้ในการเรียกอย่างใดอย่างหนึ่งเหล่านี้

หลังจากให้การเรียกเหล่านี้ สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการเสนอชื่อเยาวชนหญิงคนนั้นต่อชั้นเรียนเพื่อการสนับสนุน อธิการหรือที่ปรึกษาที่ได้รับมอบหมายวางมือมอบหน้าที่ให้เยาวชนหญิง

สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการประกาศการเรียกเหล่านี้ในการประชุมศีลระลึก เขาไม่เสนอชื่อเพื่อรับการสนับสนุน

ไม่นานหลังจากวางมือมอบหน้าที่ฝ่ายประธานชั้นเรียน สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการควรปฐมนิเทศพวกเธอให้เข้าใจหน้าที่รับผิดชอบของตน ดู “ปฐมนิเทศฝ่ายประธานโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนและฝ่ายประธานชั้นเรียนเยาวชนหญิง” ที่ YoungWomen.ChurchofJesusChrist.org; ดู บทที่ 4 ในคู่มือนี้ด้วย

11.3.4.2

หน้าที่รับผิดชอบ

ประธานชั้นเรียนรับใช้ในสภาเยาวชนวอร์ด (ดู 11.3.4.4) ฝ่ายประธานชั้นเรียนมีหน้าที่รับผิดชอบดังต่อไปนี้ด้วย:

• นำชั้นเรียนให้พยายามมีส่วนร่วมในงานแห่งความรอดและความสูงส่ง (ดู บทที่ 1)

• ทำความรู้จักและรับใช้เยาวชนหญิงแต่ละคน รวมทั้งคนที่ไม่เข้าร่วมการประชุมชั้นเรียน รับรู้ความต้องการและสภาวการณ์ของพวกเธอ

• มีส่วนร่วมกับวอร์ดในการพยายามแบ่งปันพระกิตติคุณ ตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สมาชิกใหม่และสมาชิกที่กลับมา สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานชั้นเรียนเยาวชนหญิงที่อายุมากที่สุดเข้าร่วมการประชุมประสานงาน (ดู 23.5.7

• มีส่วนร่วมกับวอร์ดในการพยายามทำงานพระวิหารและประวัติครอบครัว สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานชั้นเรียนเยาวชนหญิงที่อายุมากที่สุดเข้าร่วมการประชุมประสานงาน (ดู 25.2.7)

• วางแผนและดำเนินการประชุมชั้นเรียนวันอาทิตย์ (ดู 11.2.1.2)

• วางแผนและดำเนินการรับใช้และกิจกรรมของชั้นเรียนให้บรรลุผลสำเร็จ (ดู 11.2.1.3)

• จัดการประชุมฝ่ายประธานชั้นเรียนเป็นประจำ (ดู 11.3.4.3)

เมื่อเรียกเลขานุการชั้นเรียน พวกเธอเตรียมวาระการประชุม จดบันทึก และติดตามจำนวนผู้เข้าร่วม

สมาชิกในฝ่ายประธานเยาวชนหญิงสอนฝ่ายประธานชั้นเรียนเป็นประจำเกี่ยวกับหน้าที่รับผิดชอบของพวกเธอ (ดู 11.3.2) ผู้ให้คำปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญของชั้นเรียนควรช่วยอย่างแข็งขัน (ดู 11.3.5 และ 11.3.6)

11.3.4.3

การประชุมฝ่ายประธานชั้นเรียน

ฝ่ายประธานชั้นเรียนเยาวชนหญิงประชุมกันเป็นประจำ ประธานชั้นเรียนดำเนินการประชุมเหล่านี้ ผู้นำเยาวชนหญิงที่เป็นผู้ใหญ่และได้รับมอบหมายให้สนับสนุนฝ่ายประธานชั้นเรียนจะเข้าร่วมด้วย ระหว่างการประชุมเหล่านี้ ผู้นำปรึกษากันและแสวงหาการเปิดเผยเกี่ยวกับพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชั้นเรียนของพวกเธอ วาระการประชุมอาจรวมถึงการสนทนาในเรื่องต่อไปนี้:

• การทำงานแห่งความรอดและความสูงส่งให้สำเร็จ

• การรับใช้สมาชิกชั้นเรียนด้วยความเอาใจใส่เป็นพิเศษต่อการสนับสนุนสมาชิกใหม่และการยื่นมือช่วยสมาชิกแข็งขันน้อย

• การออกไปหาผู้นับถือศาสนาอื่นและมีความเชื่อต่างจากเรา

• การวางแผนการประชุมชั้นเรียน การรับใช้ และกิจกรรมต่างๆ

• การสอนความเป็นผู้นำจากผู้นำเยาวชนหญิงที่เป็นผู้ใหญ่หรือสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานชั้นเรียน

ตัวอย่างวาระการประชุมฝ่ายประธาน มีอยู่บน ChurchofJesusChrist.org.

11.3.4.4

สภาเยาวชนวอร์ด

จุดประสงค์ของสภาเยาวชนวอร์ดคือช่วยเยาวชนนำผู้อื่นมาหาพระเยซูคริสต์และช่วยทำงานแห่งความรอดและความสูงส่งให้สำเร็จ

อธิการเป็นประธานควบคุมสภาเยาวชนวอร์ด สมาชิกของสภานี้ได้แก่:

• ฝ่ายอธิการ

• ผู้ช่วยหนึ่งคนของอธิการในโควรัมปุโรหิต ประธานโควรัมผู้สอน และประธานโควรัมมัคนายก

• ประธานชั้นเรียนเยาวชนหญิง (หรือฝ่ายประธานชั้นเรียนทุกคนหากวอร์ดมีชั้นเรียนเยาวชนหญิงชั้นเดียว)

• ประธานเยาวชนหญิง

สภาเยาวชนวอร์ดพูดถึงวิธีช่วยให้ผู้อื่นสร้างประจักษ์พยาน รับศาสนพิธีแห่งความรอด รักษาพันธสัญญา และเป็นผู้ติดตามที่อุทิศตนของพระเยซูคริสต์ (ดู โมโรไน 6:4–5) พวกเขาปรึกษากันเกี่ยวกับความต้องการของเยาวชนหญิงและเยาวชนชายในวอร์ด พูดถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จะสนองความต้องการเหล่านี้ แต่ควรวางแผนกิจกรรมอย่างละเอียดในการประชุมโควรัมหรือการประชุมฝ่ายประธานชั้นเรียน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาเยาวชนวอร์ดใน 29.2.6

11.3.5

ผู้ให้คำปรึกษา

ฝ่ายประธานเยาวชนหญิงอาจเสนอชื่อให้ฝ่ายอธิการเรียกผู้ให้คำปรึกษาเยาวชนหญิง ผู้ให้คำปรึกษาแต่ละคนทำงานกับเยาวชนหญิงตามกลุ่มอายุที่กำหนด

ผู้ให้คำปรึกษามีหน้าที่รับผิดชอบต่อไปนี้:

• ช่วยเหลือฝ่ายประธานเยาวชนหญิงในหน้าที่รับผิดชอบของพวกเธอ

• สนับสนุนและแนะแนวฝ่ายประธานชั้นเรียนขณะพวกเธอเรียนรู้และทำหน้าที่รับผิดชอบให้บรรลุผลสำเร็จ

• สอนบทเรียนวันอาทิตย์เมื่อต้องสอน ช่วยเยาวชนหญิงที่ได้รับเชิญให้สอนบทเรียนเตรียมและสอนอย่างมีประสิทธิภาพ

• เข้าร่วมกิจกรรมชั้นเรียน

• เข้าร่วมการประชุมฝ่ายประธานเยาวชนหญิงวอร์ดเมื่อได้รับเชิญ

ควรมีสตรีที่เป็นผู้ใหญ่เชื่อถือได้อย่างน้อยสองคนอยู่ที่การประชุมชั้นเรียนและกิจกรรมแต่ละครั้ง ผู้ให้คำปรึกษาต้องรับการอบรมให้ครบที่ ProtectingChildren.ChurchofJesusChrist.org (ดู 11.6.1)

11.3.6

ผู้เชี่ยวชาญ

หากจำเป็นฝ่ายประธานเยาวชนหญิงอาจเสนอชื่อให้ฝ่ายอธิการเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยงานเฉพาะกิจด้วย เช่น ค่าย การประชุมเยาวชน หรือกีฬา

ผู้เชี่ยวชาญทุกคนรับใช้ภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานเยาวชนหญิงวอร์ด

ผู้เชี่ยวชาญต้องรับการอบรมให้ครบที่ ProtectingChildren.ChurchofJesusChrist.org (ดู 11.6.1)

11.4

การช่วยเยาวชนหญิงเตรียมเข้าร่วมสมาคมสงเคราะห์

เยาวชนหญิงจะเข้าร่วมสมาคมสงเคราะห์เมื่อเธออายุ 18 ปี เมื่ออายุ 19 ปี เยาวชนหญิงแต่ละคนควรมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในสมาคมสงเคราะห์ ในบางกรณี เยาวชนหญิงจะมาสมาคมสงเคราะห์ก่อนวันเกิดปีที่ 18 ของเธอ เยาวชนหญิงแต่ละคนปรึกษากับบิดามารดาและอธิการเพื่อตัดสินใจว่าอะไรจะช่วยให้เธอเพิ่มพลังศรัทธาอย่างต่อเนื่องในพระเยซูคริสต์ได้ดีที่สุด

บิดามารดา ผู้นำเยาวชนหญิง และผู้นำสมาคมสงเคราะห์ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้เยาวชนหญิงแต่ละคนก้าวหน้าด้วยดีในสมาคมสงเคราะห์ ผู้นำเหล่านี้ให้โอกาสเยาวชนหญิงและพี่น้องสตรีสมาคมสงเคราะห์ได้เชื่อมความสัมพันธ์และพัฒนาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง

11.5

ผู้นำเยาวชนหญิงสเตค

สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานสเตคเรียกสตรีผู้ใหญ่คนหนึ่งให้รับใช้เป็นประธานเยาวชนหญิงสเตค หากสเตคใหญ่พอ เธอเสนอชื่อสตรีผู้ใหญ่หนึ่งคนหรือสองคนให้รับใช้เป็นที่ปรึกษาและอีกคนรับใช้เป็นเลขานุการ สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานสเตคหรือสมาชิกสภาสูงที่เขามอบหมายจะเรียกและมอบหน้าที่ให้สตรีเหล่านี้ ดูข้อมูลเกี่ยวกับหน้าที่รับผิดชอบของฝ่ายประธานเยาวชนหญิงสเตคและเลขานุการใน 6.7.1, 6.7.1.2 และ 6.7.3

ที่ปรึกษาคนหนึ่งในฝ่ายประธานสเตคมีหน้าที่รับผิดชอบต่อองค์การเยาวชนหญิงในสเตค เขามีหน้าที่รับผิดชอบต่องานของฝ่ายประธานเยาวชนหญิงสเตคด้วย เขาสอนอธิการในหน้าที่รับผิดชอบที่มีต่อเยาวชนหญิงเช่นกัน

ฝ่ายประธานสเตคมอบหมายสมาชิกสภาสูงคนหนึ่งให้ทำงานกับฝ่ายประธานเยาวชนหญิงสเตค (ดู 6.5) สมาชิกสภาสูงคนนี้และฝ่ายประธานเยาวชนหญิงกับเลขานุการรับใช้ในคณะกรรมการผู้นำเยาวชนสเตค (ดู 29.3.10)

11.6

แนวทางและนโยบายเพิ่มเติม

11.6.1

การพิทักษ์เยาวชน

เมื่อผู้ใหญ่ปฏิสัมพันธ์กับเยาวชนในสภาวะแวดล้อมของศาสนจักร ควรมีผู้ใหญ่ที่เชื่อถือได้อย่างน้อยสองคนอยู่ด้วย อาจจำเป็นต้องรวมชั้นเรียนจึงจะทำเช่นนี้ได้

ผู้ใหญ่ทุกคนที่ทำงานกับเยาวชนต้องรับการอบรมเรื่องการคุ้มครองเด็กและเยาวชนให้ครบภายในหนึ่งเดือนหลังจากได้รับการสนับสนุน (ProtectingChildren.ChurchofJesusChrist.org). พวกเขารับการอบรมซ้ำทุกสามปีหลังจากนั้น

ดูข้อมูลเกี่ยวกับวิธีประยุกต์ใช้แนวทางเหล่านี้กับคู่ปฏิบัติศาสนกิจใน 21.2.2

11.6.2

เยาวชนหญิงพิการ

ฝ่ายประธานชั้นเรียนให้การดูแลเยาวชนหญิงพิการเป็นพิเศษ ดูข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยาวชนหญิงเหล่านี้ใน disability.ChurchofJesusChrist.org; ดู 38.8.27 ในคู่มือนี้ด้วย

11.6.3

ตราสัญลักษณ์โปรแกรมเด็กและเยาวชน

เยาวชนหญิงรับตราสัญลักษณ์ต่างๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมเด็กและเยาวชน เยาวชนหญิงทุกคนควรได้รับตราสัญลักษณ์ของการเข้าร่วมจากฝ่ายประธานชั้นเรียนของเธอเมื่อเธอกลายเป็นสมาชิกของเยาวชนหญิง เธอได้รับหนังสือ การพัฒนาตนเอง: หนังสือแนะแนวสำหรับเยาวชน ด้วย เธอจะได้รับเมื่อฝ่ายประธานชั้นเรียนและผู้นำเยาวชนหญิงที่เป็นผู้ใหญ่พบกับเธอเพื่อต้อนรับเธอเข้าสู่เยาวชนหญิง หรือจะรับที่การประชุมประจำปีสำหรับเยาวชนและบิดามารดาก็ได้ (ดู 11.2.1.3)

ในเดือนมกราคมของปีที่เยาวชนหญิงอายุครบ 18 ปี เธอรับตราสัญลักษณ์เพิ่มเติมของการเข้าร่วมโปรแกรม

เยาวชนหญิงจะได้รับตราสัญลักษณ์ของความสำเร็จโดยพยายามเป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตราสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ ChildrenandYouth.ChurchofJesusChrist.org.