“31. การสัมภาษณ์และการพบปะอื่นๆ กับสมาชิก” คู่มือทั่วไป: การรับใช้ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย (2020)
“31. การสัมภาษณ์และการพบปะอื่นๆ กับสมาชิก” คู่มือทั่วไป
31.
การสัมภาษณ์และการพบปะอื่นๆ กับสมาชิก
31.0
บทนำ
บ่อยครั้งพระเยซูคริสต์ทรงปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่นทีละคน (ดูตัวอย่างใน ยอห์น 4:5–26; 3 นีไฟ 17:21) พระองค์ทรงรักลูกแต่ละคนของพระผู้เป็นเจ้า และทรงช่วยเหลือพวกเขาเป็นรายบุคคล
ในฐานะผู้นำศาสนจักรและผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ ท่านมีโอกาสช่วยลูกๆ ของพระองค์เป็นรายบุคคลเช่นกันในความก้าวหน้าทางวิญญาณของพวกเขา วิธีสำคัญวิธีหนึ่งที่ท่านช่วยได้คือผ่านการสัมภาษณ์และการพบปะตัวต่อตัว การรับใช้ที่มีความหมายมากที่สุดของท่านบางครั้งจะเกิดขึ้นแบบตัวต่อตัว ในสภาวะแวดล้อมเหล่านี้ ท่านสามารถให้ความรักเหมือนพระคริสต์ โดยยก “มือที่อ่อนแรง” และเสริมกำลัง “เข่าที่อ่อนล้า” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 81:5)
ในบทนี้ คำว่า การสัมภาษณ์ หมายถึงการพบปะระหว่างผู้นำกับบุคคลเพื่อตัดสินว่าบุคคลควรมีส่วนร่วมในศาสนพิธีหรือได้รับการเรียกหรือไม่ (ดู 31.2) โดยทั่วไปสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการหรือฝ่ายประธานสเตคดำเนินการสัมภาษณ์เหล่านี้ คำว่า การสัมภาษณ์ หมายถึงการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนพิธีที่ดำเนินการโดยสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์หรือฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ด้วย (ดู 21.3)
นอกจากการสัมภาษณ์เหล่านี้ยังมีอีกหลายเหตุผลที่ผู้นำศาสนจักรจะพบปะสมาชิกเป็นรายบุคคล (ดู 31.3) ตัวอย่างเช่น ฝ่ายอธิการทำนัดพบปะเยาวชนแต่ละคนในวอร์ดเป็นประจำ (ดู 31.3.1) ถึงแม้ท่านไม่ได้รับใช้ในฝ่ายอธิการ แต่อธิการอาจขอให้ท่านพบปะสมาชิกคนหนึ่งที่ขัดสนเพื่อให้การประคับประคองและการปฏิบัติศาสนกิจอย่างต่อเนื่อง หรือสมาชิกคนหนึ่งอาจมาหาท่านเมื่อเขากำลังประสบความท้าทายส่วนตัวหรือในครอบครัว
บทนี้จะช่วยผู้นำทุกคนที่มีโอกาสพบปะสมาชิกเป็นรายบุคคล ผู้นำเหล่านี้จะได้แก่ผู้นำของสมาคมสงเคราะห์ โควรัมเอ็ลเดอร์ และเยาวชนหญิง บราเดอร์และซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ หรือคนอื่นๆ ที่อธิการมอบหมาย
31.1
หลักธรรมที่เป็นแนวทาง
31.1.1
เตรียมพร้อมทางวิญญาณ
หากท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการพบปะสมาชิก พระเจ้าจะทรงอวยพรท่านด้วยการดลใจที่ต้องการขณะท่านแสวงหาการดลใจนั้น เตรียมตัวท่านให้พร้อมทางวิญญาณผ่านการสวดอ้อนวอน การศึกษาพระคัมภีร์ และการดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม ฟังสุรเสียงกระซิบของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์จะทรงนำทางท่านด้วยความประทับใจ ความคิด และความรู้สึก จะทรงช่วยให้ท่านจำคำสอนที่เคยศึกษาในพระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้ายได้เพื่อจะสามารถช่วยบุคคลที่ท่านพบปะ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:85; 100:5–8)
คลังค้นคว้าพระกิตติคุณมีงานสะสม แหล่งช่วยให้คำปรึกษา เก็บไว้ในนั้น ขณะท่านเตรียมพบปะสมาชิก จงทบทวนข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อที่นำมาใช้กับสมาชิกคนนั้นได้
พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงนำทางสมาชิกที่ท่านกำลังพบปะเช่นกัน ท่านอาจจะเชื้อเชิญให้สมาชิกเตรียมพร้อมทางวิญญาณก่อนมาพบท่านด้วย
อาจจะสวดอ้อนวอนกับสมาชิกเมื่อเริ่มพูดคุยกัน ซึ่งจะเชื้อเชิญวิญญาณของความอ่อนน้อมถ่อมตนและศรัทธาขณะท่านพร้อมใจกันทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 6:32; 29:6)
ระหว่างการสัมภาษณ์หรือการพบปะ อาจมีปัญหาหรือคำถามที่ท่านรู้สึกไม่พร้อมจะตอบ ท่านอาจจะเสนอแนะให้ท่านกับสมาชิกต่างคนต่างทูลขอการนำทางจากพระเจ้า—ตัวอย่างเช่น ผ่านการศึกษา การสวดอ้อนวอน และการอดอาหาร ท่านอาจจะอ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้องใน แหล่งช่วยให้คำปรึกษา หรือ ความช่วยเหลือในชีวิต ในคลังค้นคว้าพระกิตติคุณด้วย จากนั้นท่านจะพบกันอีกครั้งเพื่อสนทนาเพิ่มเติม
หากสมาชิกทำบาปร้ายแรง ท่านจะส่งต่อเขาหรือเธอให้อธิการ
31.1.2
ช่วยให้สมาชิกรู้สึกถึงความรักของพระผู้เป็นเจ้า
ในฐานะผู้นำศาสนจักรท่านเป็นตัวแทนของพระผู้ช่วยให้รอด ส่วนสำคัญของพระพันธกิจของพระองค์คือถ่ายทอดความรักของพระผู้เป็นเจ้าให้กับลูกๆ ของพระองค์ (ดู ยอห์น 3:16–17) เมื่อสมาชิกมาขอสัมภาษณ์หรือขอให้ช่วยเรื่องความท้าทายส่วนตัว บ่อยครั้งสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคือรู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงรักพวกเขา ความรักนี้จะเพิ่มพลังและดลใจให้พวกเขามาหาพระคริสต์ กลับใจจากบาป และเลือกทำสิ่งที่ดี
พระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้ายอัญเชิญพระวิญญาณและสอนหลักคำสอนที่บริสุทธิ์ จงใช้บ่อยๆ ด้วยความละเอียดอ่อนและความรักเมื่อท่านพบปะสมาชิก ใช้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและให้กำลังใจ ไม่ใช่กล่าวโทษ บีบบังคับ หรือก่อให้เกิดความกลัว (ดู ลูกา 9:56)
กำหนดเวลาพบปะให้มากพอ สมาชิกไม่ควรรู้สึกว่าท่านยุ่งมาก ให้ความสนใจสมาชิกอย่างเต็มที่
31.1.3
ช่วยสมาชิกดึงเดชานุภาพของพระผู้ช่วยให้รอดมาใช้
พระเยซูคริสต์ทรงรับเอาบาปของเราไว้กับพระองค์ “เพื่อพระองค์จะทรงลบการล่วงละเมิด [ของเรา] ตามพระพลานุภาพแห่งการปลดปล่อยของพระองค์” (แอลมา 7:13) พระองค์ทรงรับเอาความทุกข์ ความเจ็บปวด และความทุพพลภาพของเราไว้กับพระองค์เช่นกัน “เพื่อพระองค์จะทรงรู้ตามเนื้อหนังว่าจะทรงช่วยผู้คนของพระองค์ … ได้อย่างไร” (ดู แอลมา 7:11–12)
จงกระตุ้นให้สมาชิกหันมาหาพระองค์ ช่วยพวกเขาดึงเดชานุภาพของพระองค์มาเพิ่มพลัง ปลอบโยน และไถ่ เดชานุภาพนี้มาโดยการใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ ทำตามแบบอย่างของพระองค์ รับศาสนพิธีฐานะปุโรหิต รักษาพันธสัญญา และทำตามการกระตุ้นเตือนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
31.1.4
ช่วยให้สมาชิกรู้สึกสบายใจและปลอดภัย
สมาชิกบางคนเคยมีประสบการณ์ที่ทำให้พวกเขารู้สึกกังวลใจหรือหนักใจเมื่อพบปะผู้นำศาสนจักร จงหาวิธีช่วยให้พวกเขารู้สึกสงบ ปลอดภัย และสบายใจ สอบถามสมาชิกว่าท่านจะช่วยอะไรได้บ้าง
ให้สมาชิกมีทางเลือกเสมอว่าจะให้คนอื่นอยู่ด้วยระหว่างการสัมภาษณ์หรือการพบปะ เมื่อพบปะสมาชิกเพศตรงข้าม เด็ก หรือเยาวชน ต้องแน่ใจว่าบิดาหรือมารดาหรือผู้ใหญ่อีกคนอยู่ด้วย เขาหรือเธออาจเข้าพบปะด้วยหรือรอนอกห้อง ขึ้นอยู่กับความพอใจของสมาชิกที่ท่านกำลังพบปะ
หากการพบปะที่อาคารประชุมทำให้สมาชิกไม่สบายใจ จงตัดสินใจด้วยกันเรื่องการพบปะกันที่อื่น หาสถานที่ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ได้และท่านสามารถรักษาความลับได้ อีกทั้งพิจารณาความปลอดภัยของท่านเองและความปลอดภัยของสมาชิกด้วย ดูข้อมูลเกี่ยวกับการพบปะสมาชิกทางออนไลน์ใน 31.4
อีกส่วนที่สำคัญของการช่วยให้สมาชิกรู้สึกปลอดภัยคือการรักษาความลับ ยืนยันกับสมาชิกอีกครั้งว่าการสนทนาของท่านจะเป็นความลับ
อย่าบอกข้อมูลที่เป็นความลับกับใคร—รวมถึงคู่สมรสหรือผู้นำศาสนจักรท่านอื่น—เว้นแต่สมาชิกอนุญาต เก็บเรื่องเหล่านั้นไว้เป็นความลับต่อไปแม้ท่านจะพ้นจากหน้าที่แล้ว การทำลายความเชื่อมั่นจะส่งผลเสียต่อศรัทธา ความไว้วางใจ และประจักษ์พยานของสมาชิก สมาชิกมีแนวโน้มจะขอความช่วยเหลือจากผู้นำศาสนจักรมากขึ้นหากรู้ว่าผู้นำจะเก็บสิ่งที่พวกเขาบอกไว้เป็นความลับ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาความลับ รวมทั้งข้อมูลทางกฎหมาย ใน 32.4.4
31.1.5
ถามคำถามที่ได้รับการดลใจและตั้งใจฟัง
เมื่อพบปะสมาชิก ให้ถามคำถามที่ช่วยให้ท่านเข้าใจสถานการณ์ของสมาชิก เปิดโอกาสให้สมาชิกแสดงความคิดและความรู้สึกของตนอย่างเสรี
ขณะสมาชิกพูด จงตั้งใจฟังและสนใจฟัง พยายามเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อนตอบ หากจำเป็นให้ถามคำถามตามเพื่อแน่ใจว่าท่านเข้าใจ แต่อย่าสืบสาวราวเรื่องโดยไม่จำเป็น
การฟังช่วยสร้างความไว้วางใจ จะช่วยให้ผู้อื่นรู้สึกว่ามีคนเข้าใจ เห็นค่า และรักพวกเขา คนเรามักต้องการให้คนที่พวกเขาไว้วางใจฟังขณะพวกเขาพยายามแก้ปัญหา การฟังจะช่วยให้ท่านเปิดใจรับการกระตุ้นเตือนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เช่นกัน
31.1.6
ส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง
เพราะท่านรักสมาชิก ท่านอาจต้องการเสนอวิธีแก้ปัญหาให้พวกเขาทันที แต่ท่านจะเป็นพรแก่พวกเขามากกว่าหากช่วยพวกเขาหาวิธีแก้ปัญหาของตนและตัดสินใจด้วยตนเอง (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 9:8)
ช่วยพวกเขาวิเคราะห์ปัญหาหรือข้อสงสัยของตนภายในบริบทของพระกิตติคุณและแผนแห่งความรอด สอนให้พวกเขารู้วิธีแสวงหาการนำทางจากพระเจ้าผ่านพระคัมภีร์ ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่ และการเปิดเผยส่วนตัว ในวิธีนี้ท่านจะช่วยสมาชิกเตรียมเผชิญความท้าทายอื่นๆ ในอนาคต สมาชิกจะสามารถช่วยเหลือผู้อื่น รวมทั้งครอบครัวของตนได้ดีขึ้นด้วย
31.1.7
สนับสนุนความพยายามกลับใจ
บางครั้งสมาชิกอาจขอให้ช่วยเรื่องการกลับใจจากบาป มีมากมายที่ท่านทำได้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดศรัทธาในพระเยซูคริสต์และกระตุ้นให้สมาชิกแสวงหาการให้อภัย
เฉพาะอธิการหรือประธานสเตคเท่านั้นสามารถช่วยบุคคลแก้ไขบาปร้ายแรงได้ บาปบางอย่างเหล่านี้ระบุไว้ใน 32.6 หากสมาชิกทำบาปใดก็ตามในบาปเหล่านี้ เขาควรพบกับอธิการหรือประธานสเตคทันที
อธิการและประธานสเตคแต่ละคนเป็น “ผู้พิพากษาในอิสราเอล” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:72) โดยสิทธิอำนาจนี้พวกเขาช่วยให้สมาชิกกลับใจจากบาปและมาหาพระคริสต์ผู้ทรงอภัยบาป (ดู 32.1 และ 32.3)
ในหน้าที่รับผิดชอบเหล่านี้ ผู้นำเหล่านี้เป็นตัวแทนของพระเจ้า พวกเขาพยายามใช้ “คำพิพากษาซึ่ง [พระองค์] จะให้แก่ [พวกเขา]” (3 นีไฟ 27:27) พวกเขาสอนว่าการกลับใจได้แก่การใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ มีวิญญาณที่สำนึกผิด ละทิ้งบาป แสวงหาการให้อภัย ชดเชยความผิด และรักษาพระบัญญัติด้วยความมุ่งมั่นอีกครั้ง
เพื่อช่วยให้อธิการและประธานสเตคทำหน้าที่ตามบทบาทของตน พวกเขาจึงได้รับพรด้วยของประทานฝ่ายวิญญาณแห่งการเล็งเห็น ของประทานดังกล่าวช่วยให้พวกเขาเล็งเห็นความจริง เข้าใจจิตใจของสมาชิก และทราบความต้องการของสมาชิก (ดู 1 พงศ์กษัตริย์ 3:6–12; หลักคำสอนและพันธสัญญา 46:27–28)
แม้จะสารภาพกับ “ผู้พิพากษาในอิสราเอล” แต่เมื่อสมาชิกอนุญาต ผู้นำคนอื่นๆ สามารถให้การสนับสนุนขณะสมาชิกพยายามกลับใจ การสนับสนุนนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อการกลับใจจะใช้เวลามาก ดูแนวทางในส่วนสุดท้ายของ 32.8.1
31.1.8
ตอบสนองการทารุณกรรมอย่างเหมาะสม
ศาสนจักรไม่ยอมรับการทารุณกรรมทุกรูปแบบ จริงจังกับรายงานเรื่องการทารุณกรรม หากสมาชิกทราบว่ามีคนถูกทารุณกรรม ให้รายงานเรื่องการทารุณกรรมต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองและปรึกษากับอธิการ แนวทางการรายงานและการตอบสนองการทารุณกรรมอยู่ใน 38.6.2
ดูข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่อธิการและประธานสเตคควรทำเมื่อทราบเรื่องการทารุณกรรมใน 38.6.2.1
ดูข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ถูกทารุณกรรมใน “การทารุณกรรม (ความช่วยเหลือสำหรับเหยื่อ)” ใน แหล่งช่วยให้คำปรึกษา ท่านสามารถให้สมาชิกอ่าน แหล่งช่วยที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการทารุณกรรม ใน ความช่วยเหลือในชีวิต
ดูข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ถูกข่มขืนหรือถูกคุกคามทางเพศอื่นๆ ใน 38.6.18.2
31.2
การสัมภาษณ์
31.2.1
จุดประสงค์ของการสัมภาษณ์
โดยทั่วไปผู้นำศาสนจักรสัมภาษณ์สมาชิกเพื่อตัดสินว่าพวกเขา:
-
พร้อมรับหรือพร้อมมีส่วนร่วมในศาสนพิธีหรือไม่
-
ควรได้รับการเรียกสู่ตำแหน่งในศาสนจักรหรือไม่
การสัมภาษณ์ลักษณะนี้ส่วนใหญ่ดำเนินการโดยสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการหรือฝ่ายประธานสเตค พวกเขาจะไม่มอบหมายให้ผู้นำวอร์ดคนอื่นๆ ทำแทน อย่างไรก็ดี ประธานสเตคอาจมอบหมายให้สมาชิกสภาสูงดำเนินการสัมภาษณ์บางอย่างตามที่ระบุไว้ในแผนภูมิการเรียก (ดู 30.8)
31.2.2
การสัมภาษณ์แบบต่างๆ
อธิการได้รับการเรียกให้เป็น “ผู้พิพากษาใหญ่” ในวอร์ดของตน (หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:74; ดู 7.1.3 ด้วย) ประธานสเตครับใช้เป็นผู้พิพากษาใหญ่เช่นกัน (ดู 6.2.3) ผู้นำเหล่านี้ถือกุญแจฐานะปุโรหิตเพื่อมอบอำนาจให้ประกอบศาสนพิธี ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงมีการสัมภาษณ์บางอย่างที่พวกเขาเท่านั้นจะทำได้ พวกเขาสามารถมอบหมายให้ที่ปรึกษาดำเนินการสัมภาษณ์อื่นๆ ตารางต่อไปนี้ระบุว่าใครสามารถดำเนินการสัมภาษณ์แต่ละอย่าง
ใครดำเนินการสัมภาษณ์ |
จุดประสงค์ของการสัมภาษณ์ |
---|---|
ใครดำเนินการสัมภาษณ์ อธิการเท่านั้น | จุดประสงค์ของการสัมภาษณ์
|
ใครดำเนินการสัมภาษณ์ อธิการหรือที่ปรึกษาที่เขามอบหมาย | จุดประสงค์ของการสัมภาษณ์
|
ใครดำเนินการสัมภาษณ์ ประธานสเตคเท่านั้น | จุดประสงค์ของการสัมภาษณ์
|
ใครดำเนินการสัมภาษณ์ ประธานสเตคหรือที่ปรึกษาที่เขามอบหมาย | จุดประสงค์ของการสัมภาษณ์
|
ผู้สอนศาสนาเต็มเวลาสัมภาษณ์ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสเพื่อบัพติศมาและการยืนยัน (ดู 31.2.3.2)
สมาชิกในฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์และฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์ดำเนินการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ (ดู 21.3)
31.2.3
การสัมภาษณ์บัพติศมาและการยืนยัน
31.2.3.1
เด็กที่เป็นสมาชิกในบันทึก
อธิการถือกุญแจฐานะปุโรหิตสำหรับบัพติศมาสมาชิกในบันทึกที่อายุ 8 ขวบในวอร์ด เพราะเหตุนี้เขาหรือที่ปรึกษาที่เขามอบหมายจึงสัมภาษณ์บุคคลต่อไปนี้เพื่อบัพติศมา:
-
เด็กอายุ 8 ขวบที่เป็นสมาชิกในบันทึก
-
เด็กอายุ 8 ขวบที่ไม่เป็นสมาชิกในบันทึกแต่มีบิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครองคนใดคนหนึ่งเป็นสมาชิก
-
สมาชิกในบันทึกที่อายุ 9 ขวบขึ้นไปผู้บัพติศมาล่าช้าเนื่องด้วยความบกพร่องทางสติปัญญา
ในการสัมภาษณ์ สมาชิกฝ่ายอธิการต้องแน่ใจว่าเด็กเข้าใจจุดประสงค์ของบัพติศมา (ดู 2 นีไฟ 31:5–20) ต้องแน่ใจด้วยว่าเด็กเข้าใจพันธสัญญาบัพติศมาและรับปากว่าจะดำเนินชีวิตตามพันธสัญญานั้น (ดู โมไซยาห์ 18:8–10) เขาไม่จำเป็นต้องใช้รายการคำถามที่ระบุ นี่ไม่ใช่การสัมภาษณ์เพื่อตัดสินความมีค่าควรเนื่องจาก “เด็กเล็กๆ ไม่ต้องมีการกลับใจ” (โมโรไน 8:11)
ต้องได้รับอนุญาตจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองก่อนผู้เยาว์จึงจะรับบัพติศมาได้ (ดู 38.2.8.2)
31.2.3.2
ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใส
ประธานคณะเผยแผ่ถือกุญแจฐานะปุโรหิตสำหรับการบัพติศมาผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใส เพราะเหตุนี้ผู้สอนศาสนาเต็มเวลาจึงสัมภาษณ์:
-
บุคคลอายุ 9 ขวบขึ้นไปผู้ไม่เคยรับบัพติศมาและการยืนยัน ดูข้อยกเว้นสำหรับคนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาใน 31.2.3.1
-
เด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไปที่บิดามารดาไม่ได้เป็นสมาชิกของศาสนจักร
-
เด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไปที่มีบิดาหรือมารดาจะรับบัพติศมาและการยืนยันด้วย
หัวหน้าดิสตริกท์หรือหัวหน้าโซนผู้สอนศาสนาดำเนินการสัมภาษณ์ ดูข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ต้องได้รับมอบอำนาจพิเศษใน 38.2.8.7
แต่ละคนที่หวังเป็นผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสควรพบปะอธิการก่อนรับบัพติศมาเช่นกัน แต่อธิการไม่สัมภาษณ์เขาหรือเธอเพื่อบัพติศมา และไม่ตัดสินความมีค่าควรด้วย จุดประสงค์ของการพบปะครั้งนี้คือสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลดังกล่าว
ในการสัมภาษณ์ ผู้สอนศาสนาทำตามการนำทางของพระวิญญาณเพื่อตัดสินว่าบุคคลมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่อธิบายไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37 หรือไม่ (ดู โมไซยาห์ 18:8–10; โมโรไน 6:1–4 ด้วย) ผู้สอนศาสนาใช้คำถามต่อไปนี้: เขาปรับคำถามตามอายุ วุฒิภาวะ และสภาวการณ์ของบุคคล
-
คุณเชื่อไหมว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระบิดานิรันดร์ของเรา? คุณเชื่อไหมว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า เป็นพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของโลก?
-
คุณเชื่อไหมว่าศาสนจักรและพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ได้รับการฟื้นฟูผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ? คุณเชื่อไหมว่า [ประธานศาสนจักรคนปัจจุบัน] เป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า? นี่มีความหมายต่อคุณอย่างไร?
-
การกลับใจมีความหมายต่อคุณอย่างไร? คุณรู้สึกไหมว่าคุณได้กลับใจจากบาปในอดีตแล้ว?
-
คุณได้รับการสอนมาแล้วว่าการเป็นสมาชิกในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายหมายรวมถึงการดำเนินชีวิตตามมาตรฐานพระกิตติคุณ คุณเข้าใจมาตรฐานต่อไปนี้อย่างไร? คุณยินดีทำตามมาตรฐานเหล่านี้หรือไม่?
-
กฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศซึ่งห้ามความสัมพันธ์ทางเพศทุกอย่างนอกพันธะของการแต่งงานตามกฎหมายระหว่างชายหญิง
-
กฎส่วนสิบ
-
พระคำแห่งปัญญา
-
การรักษาวันสะบาโตให้ศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงการรับส่วนศีลระลึกทุกสัปดาห์และการรับใช้ผู้อื่น
-
-
คุณเคยทำผิดอาญาร้ายแรงหรือไม่? หากเคย ขณะนี้คุณอยู่ระหว่างถูกภาคทัณฑ์หรือถูกคุมประพฤติหรือไม่?
-
คุณเคยมีส่วนในการทำแท้งหรือไม่? (ดู 38.6.1)
-
เมื่อคุณรับบัพติศมา คุณทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าว่าคุณเต็มใจรับพระนามของพระคริสต์ รับใช้ผู้อื่น ยืนเป็นพยานของพระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ตลอดชีวิตคุณ คุณพร้อมทำพันธสัญญานี้และจะพยายามซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาหรือไม่?
ดูคำแนะนำใน 38.2.8.7 หากบุคคลตอบคำถามข้อ 5 หรือ 6 ว่าเคย ดู 38.2.8.8 ด้วย
หากบุคคลพร้อมรับบัพติศมา ผู้สัมภาษณ์กรอกบันทึกบัพติศมาและการยืนยัน (ดู 18.8.3)
31.2.4
การสัมภาษณ์เพื่อแต่งตั้งสู่ตำแหน่งในฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน
อธิการถือกุญแจฐานะปุโรหิตสำหรับการประสาทฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน เขาถือกุญแจสำหรับการแต่งตั้งสู่ตำแหน่งมัคนายก ผู้สอน และปุโรหิตด้วย อธิการหรือที่ปรึกษาที่เขามอบหมายสัมภาษณ์ผู้จะรับการแต่งตั้งเป็นมัคนายกหรือผู้สอนเพื่อตัดสินว่าพวกเขาพร้อมทางวิญญาณหรือไม่ อธิการสัมภาษณ์ผู้จะรับการแต่งตั้งเป็นปุโรหิต
ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน 18.10.2
31.2.5
การสัมภาษณ์ใบรับรองพระวิหาร
พระวิหารเป็นพระนิเวศน์ของพระเจ้า การเข้าพระวิหารและการมีส่วนร่วมในศาสนพิธีที่นั่นเป็นสิทธิพิเศษอันศักดิ์สิทธิ์ สิทธิพิเศษดังกล่าวสงวนไว้สำหรับผู้พร้อมทางวิญญาณและพยายามดำเนินชีวิตตามมาตรฐานของพระเจ้าตามการตัดสินของผู้นำฐานะปุโรหิตที่ได้รับมอบอำนาจ
เพื่อทำการตัดสินนี้ ผู้นำฐานะปุโรหิตสัมภาษณ์สมาชิกโดยใช้คำถามใน LCR (ดูแนวทางใน 26.3 ด้วย) ผู้นำไม่ควรเพิ่มหรือตัดข้อกำหนดใดๆ ออก แต่พวกเขาอาจปรับคำถามให้เหมาะกับอายุและสภาวการณ์ของสมาชิก
31.2.6
การสัมภาษณ์เพื่อแต่งตั้งสู่ตำแหน่งในฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดค
ประธานสเตคถือกุญแจฐานะปุโรหิตสำหรับการประสาทฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดค เขาถือกุญแจฐานะปุโรหิตสำหรับการแต่งตั้งสู่ตำแหน่งเอ็ลเดอร์และมหาปุโรหิตด้วย
ด้วยการอนุมัติของฝ่ายประธานสเตค อธิการสัมภาษณ์สมาชิกโดยใช้คำถามที่ให้ไว้ด้านล่าง ก่อนสัมภาษณ์ อธิการตรวจสอบว่าบันทึกสมาชิกภาพของบุคคลไม่มีคำอธิบายประกอบ การจำกัดศาสนพิธี หรือการจำกัดสมาชิกภาพศาสนจักร
หลังจากสัมภาษณ์แล้วหากอธิการรู้สึกว่าสมาชิกพร้อมรับการแต่งตั้ง เขากรอกข้อมูลและส่ง บันทึกการแต่งตั้งฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดค จากนั้นสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานสเตคสัมภาษณ์สมาชิกโดยใช้คำถามด้านล่างด้วย
ชายผู้ได้รับฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดคเข้าสู่คำปฏิญาณและพันธสัญญาของฐานะปุโรหิต ดังอธิบายไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:33–44 ระหว่างการสัมภาษณ์ อธิการและสมาชิกฝ่ายประธานสเตคต้องแน่ใจว่าสมาชิกเข้าใจคำปฏิญาณและพันธสัญญาดังกล่าวและรับปากว่าจะดำเนินชีวิตตามนั้น ต่อจากนั้นผู้นำถามคำถามต่อไปนี้:
-
ท่านมีศรัทธาและประจักษ์พยานในพระผู้เป็นเจ้า พระบิดานิรันดร์; พระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์; และพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือไม่?
-
ท่านมีประจักษ์พยานถึงการชดใช้ของพระเยซูคริสต์และบทบาทของพระองค์ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของท่านหรือไม่?
-
ท่านมีประจักษ์พยานถึงการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์หรือไม่?
-
ท่านสนับสนุนประธานศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายในฐานะศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผย และในฐานะที่เป็นเพียงบุคคลเดียวบนแผ่นดินโลกที่ได้รับมอบอำนาจให้ใช้กุญแจทั้งหมดของฐานะปุโรหิตหรือไม่?
ท่านสนับสนุนสมาชิกในฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองในฐานะศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผยหรือไม่?
ท่านสนับสนุนเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ และเจ้าหน้าที่ในระดับท้องที่ของศาสนจักรหรือไม่?
-
พระเจ้าตรัสว่าสิ่งทั้งปวงต้อง “กระทำในความสะอาด” ต่อพระองค์ (หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:41)
ท่านพากเพียรที่จะให้ความคิดและพฤติกรรมของท่านมีความสะอาดทางศีลธรรมหรือไม่?
ท่านเชื่อฟังกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศหรือไม่?
-
ท่านทำตามคำสอนของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ในพฤติกรรมที่เป็นส่วนตัวและพฤติกรรมในที่สาธารณะกับสมาชิกครอบครัวและผู้อื่นหรือไม่?
-
ท่านสนับสนุนหรือส่งเสริมคำสอน การปฏิบัติ หรือหลักคำสอนที่ตรงข้ามกับที่เป็นของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายหรือไม่?
-
ท่านพากเพียรในการรักษาวันสะบาโตให้ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งที่บ้านและที่โบสถ์ เข้าร่วมการประชุมของท่าน เตรียมตัวและรับส่วนศีลระลึกอย่างมีค่าควร และดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับกฎและพระบัญญัติของพระกิตติคุณหรือไม่?
-
ท่านพากเพียรที่จะซื่อสัตย์ในทุกสิ่งที่ท่านทำหรือไม่?
-
ท่านเป็นผู้จ่ายส่วนสิบเต็มหรือไม่?
-
ท่านเข้าใจและเชื่อฟังพระคำแห่งปัญญาหรือไม่?
-
ท่านมีภาระผูกพันทางการเงินหรือภาระผูกพันอื่นๆ กับอดีตคู่สมรสหรือลูกๆ หรือไม่?
หากมี ท่านปฏิบัติตามภาระผูกพันเหล่านั้นโดยสมบูรณ์จนถึงปัจจุบันหรือไม่?
-
มีบาปร้ายแรงในชีวิตท่านที่ควรได้รับการแก้ไขกับเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจฐานะปุโรหิตในขั้นตอนการกลับใจของท่านหรือไม่?
-
ท่านพิจารณาว่าตัวท่านมีค่าควรรับการแต่งตั้งสู่ตำแหน่งในฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดคหรือไม่?
31.3
โอกาสอื่นที่ผู้นำจะพบปะสมาชิก
ผู้นำมีโอกาสมากมายให้พบปะสมาชิกเป็นรายบุคคล ตัวอย่างเช่น:
-
สมาชิกอาจขอพบผู้นำศาสนจักรเมื่อต้องการการชี้นำทางวิญญาณหรือมีปัญหาหนักเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว ในบางกรณี ผู้นำอาจรู้สึกได้รับการกระตุ้นเตือนให้จัดการพบปะสมาชิก ศาสนจักรไม่สนับสนุนให้สมาชิกติดต่อเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว (ดู 38.8.25)
เพื่อจะได้ใช้เวลากับเยาวชนมากขึ้น อธิการจึงอาจมอบหมายการพบปะบางอย่างเหล่านี้ให้ผู้นำคนอื่นในวอร์ด สมาชิกของฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์ โควรัมเอ็ลเดอร์ และเยาวชนหญิงช่วยเหลือได้มากทีเดียว อย่างไรก็ดี อธิการจะไม่มอบหมายเรื่องที่ต้องใช้บทบาทการเป็นผู้พิพากษาใหญ่ของเขา เช่น การกลับใจจากบาปร้ายแรง
-
อธิการหรือคนที่เขามอบหมายจะพบปะสมาชิกที่มีความขัดสนทางโลก (ดู 31.3.4 และ 22.6)
-
ประธานโควรัมเอ็ลเดอร์พบปะสมาชิกโควรัมแต่ละคนเป็นรายบุคคลปีละครั้ง พวกเขาสนทนาเรื่องความเป็นอยู่ของสมาชิกและครอบครัว ตลอดจนหน้าที่ฐานะปุโรหิตของสมาชิกด้วย (ดู 8.3.3.2)
-
ประธานสมาคมสงเคราะห์พบปะสมาชิกสมาคมสงเคราะห์แต่ละคนปีละครั้ง และสนทนาเรื่องความเป็นอยู่ของพี่น้องสตรีและครอบครัวของเธอ (ดู 9.3.2.2)
-
สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการพบปะเด็กอายุ 11 ขวบแต่ละคนเมื่อย้ายจากปฐมวัยไปโควรัมมัคนายกหรือชั้นเรียนเยาวชนหญิง ระหว่างการพบปะนี้สมาชิกฝ่ายอธิการสัมภาษณ์เยาวชนชายให้รับฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนด้วย (ดู 18.10.2)
-
สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการพบปะสมาชิกที่จะเข้ารับราชการทหาร (ดู 38.9.2)
-
สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการพบปะเยาวชนแต่ละคนปีละสองครั้ง (ดู 31.3.1)
-
สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการพบปะหนุ่มสาวโสดแต่ละคนอย่างน้อยปีละครั้ง (ดู 31.3.2)
-
สมาชิกในฝ่ายประธานสเตค ฝ่ายอธิการ และผู้นำคนอื่นๆ พบปะผู้นำที่รับใช้ภายใต้การกำกับดูแลของตนเป็นประจำ (ดู 31.3.3)
เมื่อผู้นำพบปะสมาชิก พวกเขาทำตามหลักธรรมใน 31.1
ดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะที่อาจเกิดขึ้นเมื่อพบปะสมาชิกใน แหล่งช่วยการให้คำปรึกษา ในคลังค้นคว้าพระกิตติคุณ ผู้นำสามารถให้สมาชิกอ่านข้อมูลใน ความช่วยเหลือในชีวิต ได้เช่นกัน
31.3.1
การพบปะเยาวชน
หน้าที่รับผิดชอบอันดับแรกสุดของอธิการคือช่วยเหลืออนุชนรุ่นหลังในวอร์ดให้ก้าวหน้าทางวิญญาณ วิธีสำคัญวิธีหนึ่งที่เขาช่วยเหลือคือการพบปะเยาวชนเป็นรายบุคคล (หรือมีผู้ใหญ่อีกคนอยู่ด้วย; ดู 31.1.4) อธิการหรือที่ปรึกษาคนหนึ่งของเขาพบปะเยาวชนแต่ละคนปีละสองครั้ง การพบปะเหล่านี้อย่างน้อยปีละครั้งควรเป็นการพบปะอธิการ เริ่มต้นปีที่เยาวชนอายุครบ 16 ปี การพบปะทั้งสองครั้งระหว่างปีควรเป็นการพบปะอธิการหากอยู่ในวิสัยที่ทำได้
นอกจากการพบปะเหล่านี้แล้ว เยาวชนควรปรึกษาอธิการได้ตลอดเมื่อต้องการคำแนะนำหรือการสนับสนุน อธิการพยายามสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและวางใจได้กับเยาวชนเพื่อพวกเขาจะรู้สึกสบายใจกับการปรึกษาอธิการ
ประธานเยาวชนหญิงมีหน้าที่ปฏิบัติศาสนกิจต่อเยาวชนหญิงเป็นรายบุคคลเช่นกัน เธอทำเช่นนี้โดยพบปะเยาวชนหญิงตัวต่อตัว (หรือมีผู้ใหญ่อีกคนอยู่ด้วย; ดู 31.1.4)
เมื่อผู้นำพบปะเยาวชน พวกเขาทำตามหลักธรรมใน 31.1 หลักธรรมหลายข้อเหล่านี้สำคัญอย่างยิ่งเมื่อพบปะเยาวชน
31.3.1.1
การสื่อสารกับบิดามารดา
ในการพยายามเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เยาวชน ผู้นำทำงานอย่างใกล้ชิดกับบิดามารดา พวกเขาหาทางสนับสนุนบิดามารดาในหน้าที่รับผิดชอบที่ต้องสอนบุตรธิดาเรื่องพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
ผู้นำแบ่งปันข้อมูลต่อไปนี้กับเยาวชนและบิดามารดาก่อนการพบปะครั้งแรก:
-
บิดามารดามีหน้าที่รับผิดชอบเบื้องต้นในการอบรมสั่งสอนบุตรธิดา
-
อธิการหรือที่ปรึกษาคนหนึ่งของเขาพบปะเยาวชนแต่ละคนอย่างน้อยปีละสองครั้ง ประธานเยาวชนหญิงจะพบปะเยาวชนหญิงแต่ละคนเป็นระยะเช่นกัน ในการพบปะเหล่านี้ ผู้นำจะตอบคำถาม ให้การสนับสนุน ให้งานมอบหมาย และสนทนาหัวข้อที่ระบุไว้ใน 31.3.1.2
-
เพื่อช่วยให้เยาวชนเตรียมพร้อมทางวิญญาณ จำเป็นต้องมีการสัมภาษณ์เรื่องศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น ใบรับรองพระวิหาร การแต่งตั้งฐานะปุโรหิต และการเรียกเป็นผู้สอนศาสนา ผู้นำทำงานกับบิดามารดาเพื่อช่วยเยาวชนเตรียมรับการสัมภาษณ์เหล่านี้
-
บิดามารดากระตุ้นให้บุตรธิดาปรึกษากับอธิการหรือผู้นำศาสนจักรท่านอื่นเมื่อต้องการให้ช่วยชี้นำทางวิญญาณหรือช่วยเรื่องการกลับใจ
-
เมื่อเยาวชนพบปะผู้นำศาสนจักร บิดาหรือมารดาหรือผู้ใหญ่อีกคนต้องอยู่ด้วย เยาวชนอาจเชิญผู้ใหญ่เข้าพบปะด้วยหรือรออยู่นอกห้องก็ได้
31.3.1.2
หัวข้อที่จะสนทนา
จุดประสงค์หลักของการพบปะเยาวชนคือสร้างศรัทธาในพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ และช่วยให้เยาวชนติดตามพระองค์ การพบปะเหล่านี้ควรเป็นประสบการณ์ที่ยกระดับทางวิญญาณ ผู้นำพยายามช่วยให้เยาวชนแต่ละคนรู้สึกเป็นที่รัก มีกำลังใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้เป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น
เยาวชนและผู้นำจะสนทนา:
-
ประสบการณ์ทางวิญญาณที่กำลังสร้างประจักษ์พยานของเยาวชนเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์ พระเยซูคริสต์ และพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู
-
วิธีที่เยาวชนจะรักษาพันธสัญญาบัพติศมาของตน
-
การเตรียมเยาวชนให้พร้อมทำและรักษาพันธสัญญาพระวิหาร
-
เป้าหมายส่วนตัวของเยาวชนในการเป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้นในชีวิตทุกด้าน (ดู “โปรแกรมเด็กและเยาวชน”)
-
ความสำคัญของการสวดอ้อนวอนและการศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัวและกับครอบครัว
-
วิธีกระชับความสัมพันธ์กับบิดามารดาและสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ
-
หลักธรรมและมาตรฐานในจุลสาร เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน
-
ด้านต่างๆ ที่เยาวชนสามารถมีส่วนในงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระผู้เป็นเจ้า (ดู 1.2)
-
ประสบการณ์ของเยาวชนชายในการทำหน้าที่ฐานะปุโรหิตและการเตรียมตัวให้พร้อมรับการแต่งตั้งสู่ตำแหน่งฐานะปุโรหิตที่สูงขึ้น
-
พรของการมีส่วนร่วมในเซมินารี
-
การเตรียมตัวรับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลา (ดู 24.0 และ 24.3) พระเจ้าทรงขอให้เยาวชนชายที่สามารถและมีค่าควรทุกคนเตรียมตัวรับใช้งานเผยแผ่ สำหรับเยาวชนชายวิสุทธิชนยุคสุดท้าย การรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเป็นความรับผิดชอบฐานะปุโรหิต (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 36:1, 4–7) พระเจ้าทรงยินดีให้เยาวชนหญิงที่สามารถและมีค่าควรรับใช้งานเผยแผ่ด้วยหากพวกเธอปรารถนา สำหรับเยาวชนหญิง งานเผยแผ่เป็นโอกาสอันทรงพลังยิ่งแต่ท่านเลือกได้ การเตรียมทำงานเผยแผ่จะเป็นพรแก่เยาวชนหญิงไม่ว่าจะตัดสินใจรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาหรือไม่ก็ตาม
ผู้นำควรเห็นใจคนที่ไม่สามารถรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลา (ดู 24.4.4)
ดูข้อมูลเกี่ยวกับงานเผยแผ่ด้านบำเพ็ญประโยชน์ใน 24.2.2
เมื่อสนทนาเรื่องการเชื่อฟังพระบัญญัติ ผู้นำอาจใช้คำถามสัมภาษณ์ใบรับรองพระวิหารและจุลสาร เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน พวกเขาต้องมั่นใจว่าการสนทนาเรื่องความสะอาดทางศีลธรรมไม่ก่อให้เกิดความอยากรู้อยากลอง
31.3.2
การพบปะหนุ่มสาวโสด
อธิการให้ความสำคัญอย่างมากกับความก้าวหน้าทางวิญญาณของหนุ่มสาวโสดในวอร์ด เขาหรือที่ปรึกษาที่เขามอบหมายพบปะหนุ่มสาวโสดแต่ละคนอย่างน้อยปีละครั้ง
สมาชิกฝ่ายอธิการและหนุ่มสาวโสดอาจสนทนาเรื่องที่เกี่ยวข้องใน 31.3.1.2 และเรื่องที่มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อคนหนุ่มสาวด้วย เช่น การพัฒนาการพึ่งพาตนเอง
31.3.3
การพบปะสมาชิกเพื่อสนทนาเรื่องการเรียกและหน้าที่รับผิดชอบของพวกเขา
ฝ่ายประธานสเตค ฝ่ายอธิการ และผู้นำท่านอื่นพบปะสมาชิกแต่ละคนที่รายงานการเรียกต่อพวกเขา ตัวอย่างเช่น:
-
ประธานสเตคพบปะอธิการแต่ละคนในสเตคเป็นประจำ (ดู 6.2.1.2)
-
สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานสเตคพบปะประธานโควรัมเอ็ลเดอร์แต่ละคนในสเตคเป็นประจำ (ดู 8.3.1)
-
อธิการพบปะประธานสมาคมสงเคราะห์เดือนละครั้ง (ดู 9.3.1) เขาพบปะประธานโควรัมเอ็ลเดอร์และประธานเยาวชนหญิงเป็นประจำด้วย (ดู 8.3.1 และ 11.3.1)
-
สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการพบปะประธานปฐมวัยและประธานโรงเรียนวันอาทิตย์เป็นประจำ (ดู 12.3.1 และ 13.2.1)
-
สมาชิกในฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์และฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์พบปะบราเดอร์และซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ (ดู 21.3)
ในการพบปะเหล่านี้ผู้นำสร้างแรงบันดาลใจและสอนสมาชิกให้รู้หน้าที่รับผิดชอบของเขาหรือเธอ ผู้นำแสดงความขอบคุณต่อการรับใช้ของสมาชิกและให้กำลังใจ สมาชิกรายงานความก้าวหน้าและความเป็นอยู่ของคนที่เขาหรือเธอรับใช้ พวกเขาสนทนากันเรื่องเป้าหมาย ความท้าทาย และโอกาสต่างๆ ตลอดจนทบทวนงบประมาณและค่าใช้จ่ายเมื่อเหมาะสมด้วย
31.3.4
การพบปะสมาชิกเพื่อสนทนาเรื่องความต้องการทางโลกและการพึ่งพาตนเอง
การดูแลคนขัดสนเป็นส่วนหนึ่งของงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระผู้เป็นเจ้า (ดู 1.2) เมื่อผู้นำพบปะสมาชิกที่มีความขัดสนทางโลก พวกเขาช่วยดูแลความต้องการระยะสั้นและสร้างการพึ่งพาตนเองระยะยาว (ดู 22.3)
อธิการอาจมอบหมายให้คนอื่นๆ ในวอร์ด เช่น ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์และฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ พบปะสมาชิกที่มีความขัดสนทางโลก แต่เฉพาะอธิการเท่านั้นสามารถอนุมัติการใช้เงินบริจาคอดอาหาร (ดู 22.6.1)
หลักธรรมและนโยบายเพิ่มเติมสำหรับช่วยคนขัดสนทางโลกอธิบายไว้ใน บทที่ 22
31.3.5
การพบปะสมาชิกเรื่องการแต่งงานและการหย่าร้าง
ผู้นำศาสนจักรจะไม่แนะนำสมาชิกให้แต่งงานกับใคร ทั้งไม่แนะนำให้หย่าหรือไม่หย่ากับคู่สมรสด้วย แม้การหย่าร้างเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในบางสถานการณ์ แต่การตัดสินใจดังกล่าวต้องอยู่กับบุคคลนั้น
บ่อยครั้งตามการทรงนำของพระวิญญาณ ผู้นำพบปะคู่สามีภรรยาและคนที่จะแยกทางหรือหย่าร้าง ผู้นำจะหาทางช่วยให้คู่สามีภรรยามีชีวิตแต่งงานมั่นคงขึ้นด้วย ผู้นำสอนเรื่องพลังและการเยียวยาที่มาจากการรักษาพันธสัญญาที่ทำไว้กับพระเจ้าและการดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระองค์ การสอนเหล่านี้รวมถึงศรัทธา การกลับใจ การให้อภัย ความรัก และการสวดอ้อนวอน
สมาชิกที่แยกทางกับคู่สมรสหรือกำลังหย่าร้างจะไม่ออกเดทจนกว่าการหย่าร้างสิ้นสุด
31.3.6
การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและการบำบัด
ผู้นำศาสนจักรไม่ได้รับการเรียกให้เป็นที่ปรึกษามืออาชีพหรือให้การบำบัด ความช่วยเหลือที่พวกเขาให้เป็นความช่วยเหลือทางวิญญาณ โดยเน้นที่เดชานุภาพการทำให้เข้มแข็ง การปลอบประโลม และการไถ่ของพระเยซูคริสต์ นอกจากความช่วยเหลือที่สำคัญและได้รับการดลใจนี้ สมาชิกบางคนอาจได้ประโยชน์จากการปรึกษามืออาชีพด้วยหากมี การปรึกษาหรือการบำบัดดังกล่าวจะช่วยให้สมาชิกเข้าใจและตอบสนองความท้าทายของชีวิตได้ถูกวิธี
การพบปะผู้ให้คำปรึกษามืออาชีพเพื่อทราบข้อมูลเชิงลึกและมีทักษะมาส่งเสริมความผาสุกทางอารมณ์ไม่ใช่สัญญาณของความอ่อนแอ แต่เป็นสัญญาณของความอ่อนน้อมถ่อมตนและความเข้มแข็ง
สมาชิกควรเลือกผู้ให้คำปรึกษามืออาชีพที่มีชื่อเสียงและมีใบอนุญาตอย่างรอบคอบ ผู้ให้คำปรึกษาควรเคารพสิทธิ์เสรี คุณค่า และความเชื่อของคนที่ขอความช่วยเหลือ ตามจรรยาบรรณแล้วการให้คำปรึกษาระดับมืออาชีพควรผสมผสานคุณค่าเหล่านี้
ศาสนจักรคัดค้านการบำบัดแบบใดก็ตามที่ทำให้บุคคลได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม รวมถึงการบำบัดเพื่อเปลี่ยนรสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศ (ดู “เสน่หาเพศเดียวกัน” และ “คนข้ามเพศ” ใน ความช่วยเหลือในชีวิต)
ในสหรัฐและแคนาดา อธิการและประธานสเตคจะติดต่อหน่วยงานสนับสนุน (Family Services) เพื่อทราบแหล่งช่วยที่จะให้คำปรึกษาสอดคล้องกับหลักธรรมพระกิตติคุณ ข้อมูลติดต่ออยู่ด้านล่าง:
1-801-240-1711
1-800-453-3860 ต่อ 2-1711
FamilyServices.ChurchofJesusChrist.org
ในภาคอื่น ผู้นำจะติดต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานสนับสนุนครอบครัวหรือผู้จัดการด้านสวัสดิการและการพึ่งพาตนเองในสำนักงานภาค
หากสมาชิกไม่สามารถจ่ายค่าปรึกษามืออาชีพด้วยตนเองหรือผ่านประกัน อธิการอาจใช้เงินบริจาคอดอาหารช่วยเหลือ (ดู 22.4)
31.4
การพบปะสมาชิกทางออนไลน์
โดยปกติผู้นำพบปะสมาชิกด้วยตนเองเพื่อสัมภาษณ์ ให้ความช่วยเหลือทางวิญญาณ และปฏิบัติศาสนกิจ แต่ข้อยกเว้นคือพวกเขาสามารถพบปะทางออนไลน์ได้เมื่อไม่สามารถพบด้วยตนเอง ตัวอย่างเช่น สมาชิกจะพบปะผู้นำทางออนไลน์เมื่อสมาชิก:
-
อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือมีความสามารถจำกัดในการเดินทาง
-
มีปัญหาสุขภาพทางกาย ใจ หรืออารมณ์
-
ดูแลผู้ป่วยที่ถูกจำกัดอยู่ในบ้านและไม่สามารถปล่อยให้อยู่ตามลำพังได้
การสัมภาษณ์ระหว่างประธานคณะเผยแผ่กับผู้สอนศาสนาเต็มเวลาอาจจัดทางออนไลน์เช่นกันหากได้รับอนุมัติ
ไม่ควรบันทึกเสียงการสัมภาษณ์และการพบปะอื่นๆ ระหว่างผู้นำกับสมาชิก
สมาชิกอาจเชิญบางคนให้อยู่ด้วยระหว่างการสัมภาษณ์หรือการพบปะทางออนไลน์เช่นเดียวกับการสัมภาษณ์และการพบปะด้วยตนเอง
เมื่อจัดสัมภาษณ์ใบรับรองพระวิหารทางออนไลน์ จะส่งใบรับรองพระวิหารใบใหม่ให้สมาชิกหลังจากผู้นำฐานะปุโรหิตเซ็นชื่อแล้ว อย่างไรก็ดี พนักงานสเตคจะไม่เปิดใช้งานใบรับรองจนกว่าเขาตรวจสอบแล้วว่าสมาชิกได้ใบรับรองแล้ว