คำสอนของประธานศาสนจักร
บทที่ 26: เอลียาห์และการฟื้นฟูกุญแจการผนึก


บทที่ 26

เอลียาห์และการฟื้นฟูกุญแจการผนึก

“พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาช่วยชีวิตคนรุ่นนี้อย่างไร พระองค์จะทรงส่งศาสดาเอลียาห้มา”

จากชีวิตฃองโจเซฟ สมิธ

ในฤดูใบไม้ผลิป็คริสต์ศักราช 1836 หลังจากทำงานและเสียสละมาสามป็ ท้าย ที่สุดสิทธิชนชาวเคิร์ทแลนด์ทีไต์เทีนพระวิหารที่สวยงามของพวกเขาเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นพระวิหารแห่งแรกในสมัยการประทานนี้ วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม มีคนมากกว่า 900 คนมารวมกันในห้องนมัสการและห้องด้านหม้าของ พระวิหารเพื่อร่วมพิธีอุทิศ อีกมากมายหลายคนอยู่ในห้องเรียนใกล้เคียงในภาคการ อุทิศที่มีกนล้นห้อง ส่วนกนอื่นๆ ฟังอยู่นอกพระวิหารทางหม้าต่างประตูที่เป็ดไว้ ศาสดาช่วยจัดที่นั่งให้สมาชิกที่มาร่วมประชุม

ผู้เข้าร่วมประชุมได้ฟังคำปราศรัยของซิดนีย์ ริกดันที่ปรึกษาในฝ่ายประธาน สูงสุด และร่วมกันร้องเพลง “จงมาร่าเริงยินดี” กับ “แอดัม-ออนได-อามัน” ประพันธ์โดยวิลเลียม ดับเบิลยู. เฟลพ์ส จากนั้นโจเซฟ สมิธลุกขึ้นกล่าวคำสวด อุทิศ ซึ่งท่านได้รับโดยการเป็ดเผย ในคำสวดอัอนวอนท่านพูดถึงพรอันน่าอัศจรรย์มากมายที่ประทานแก่ผู้เข้าพระวิหารของพระผู้เป็นเว้าอย่างมีค่าควร (ดู ค.พ. 109) คณะมักร้องประสานเสียงร้องเพลง “พระวิญญาณพระเว้า” ต่อจาก นั้นผู้เข้าร่วมประชุมลุกขึ้นยืนและโห่ร้องโฮชันนา “ด้วยพลังแรงกล้าจนเกือบจะ ทำให้หอังคาปลิวออกจากอาคาร”1

“ขอทรงให้พระนิเว้้กน์ของพระอง้้ก์เต็ม” ศาสดากล่าวในคกำสวดอุทิศ “ดังด้วยลมอันมีพลังแรง ด้วยรัศมีภาพของพระองค์” (ค.พ. 109:37) สิ่งนี้บังเกิด สัมฤทธิผลโดยครบล้วน เพราะสิทธิชนจำนวนมากเป็นพยานว่าทูตสวรรก้อยู่ที่ นั่นระหว่างพิธีอุทิศ อีไลซา อาร์. สโนว์จำได้ว่า “พิธีอุทิศครั้งนั้นอาจน่ามาบอก เล่าได้อีก แค่ไม่มีภาษาใดของมนุษย์บรรยายปรากฎการณ์จากสวรรค์ของวันอัน น่าจดจำนั้นได้ เหล่าเทพปรากฎต่อคนบางคน ในขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน รู้สึกได้ถึงการประทับของเบื้องบน และใจทุกดวงเต็มตื้นด้วย ‘ความป็ติยินดี เป็นล้นพ้นเหลือที่จะกล่าวได้’ [ดู 1 เปโตร 1:8]”2

เย็นวันนั้น ขณะที่ศาสดาอยู่กับผู้ดำรงฐานะปุโรหิตประมาณ 400 คนในพระวิหาร “พวกท่านได้ยินเสียงเหมือนเสียงลมพัดกรรโชกดังทั่วพระวิหาร และทุก คนในที่ประชุมลุกขึ้นพร้อมกันเพราะได้รับการกระตุ้นจากพลังอำนาจที่มองไม่เห็น” ตามที่ศาสดากล่าว “หลายคนเริ่มพูดภาษาแปลกๆ และพยากรณ์ คนอื่นๆ เห็นภาพปรากฎอันรุ่งโรจน์ และข้าพเจ้าเห็นพระวิหารเต็มไปด้วยเหล่าเทพ ซึ่งข้าพเจ้าประกาศความจริงนี้ให้ผู้เข้าร่วมประชุมทราบ”3

ณ การประชุมหนึ่งซึ่งจัดในพระวิหารสัปดาห์ต่อมา ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน เกิดปรากฎการณ์ที่มืความสำคัญเป็นพิเศษ หลังจากศาสดาช่วยผู้นำ ศาสนาจักรท่านอื่นปฏิบัติศีลระลึก ท่านกับออลิเวอร์ คาวเดอรีปลึกตัวไปยัง แท่นพูดหลังม่านที่ปล่อยชายลงมาและคุกเข่าสวดอ้อนวอนอย่างจริงจัง เมื่อลุก จากการสวดอ้อนวอน พระผู้ช่วยให้รอดทรงปรากฎพระองค์ต่อพวกท่านและ ประกาศยอมรับพระวิหาร “ดูเถิด เรายอมรับบัานแห่งนี้ และนามของเราจะอยู่ ที่นึ่ และเราจะแสดงตัวให้ปรากฎแก่ผู้คนของเราในความเมตตาในบ้านแห่งนี้” (ค.พ. 110:7)

หลังจากภาพปรากฎตังกล่าวสิ้นสุด โจเซฟกับออลิเวอร์เห็นภาพปรากฎต่าง หากอีกสามภาพซึ่งในภาพเหล่านั้นศาสดาสมัยโบราณมาปรากฎต่อพวกท่าน เพื่อฟื้นฟูกุญแจฐานะปุโรหิตอันจำเป็นต่องานยุคสุดกัายของพระเจ้า ศาสดา โมเสสมาปรากฎและมอบ “กุญแจของการรวมอิสราเอลจากสี่ทิศของแผ่นดิน โลก” ให้พวกท่าน และอิไลอัสมา “มอบหมายการประทานพระกิตติคุณสมัย เอบราแฮม” (ค.พ. 110:11–12)

จากนั้นในภาพอันรุ่งโรจน์อีกภาพหนึ่ง โจเซฟกับออลิเวอร์เห็นศาสดาเอลึยาห์ (ดู ค.พ. 110:13–16) การมาของเอลียาห์มืความสำคัญมากถึงขนาดมาลาศี ศาสดาสมัยโบราณพยากรณ์ไว้เมื่อหลายร้อยศตวรรษก่อน และพระผู้ช่วยให้ รอดตรัสอกําพยากรณ์นี้กับชาวนีไฟซํ้าอีกครั้ง (ดู มาลาคี 4:5–6; 3 นีไฟ 25: 5–6; 26:1–2) เอลียาห้มามอบกุญแจแห่งการผนึกให้โจเซฟและออลิเวอร์—พลังอำนาจที่จะผูกมัดและทำให้พิธีการทั้งหมดที่ประกอบบนแผ่นดินโลกมืผล ในสวรรค์ การฟื้นฟูอำนาจการผนึกจำเป็นต่อการเตรียมโลกให้พร้อมรับการเสด็จ มาครั้งที่สองของพระผู้ช่วยให้รอด เพราะหากไม่มีอำนาจดังกล่าว “ทั้งแผ่นดิน โลกก็จะถูกทำลายสิ้นในการเสด็จมาของพระองค์” (ใจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:39)

คำสอนฃองโจเซฟ สมิธ

มาลาคีศาสดาสมัยโบราณบอกล่วงหน้าถึงการมาของเอลียาห์

ศาสดาโจเซฟ สนิธกล่าวเกี่ยวกับการเยือนของโมโรไนในค่ำวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1823 ดังบันทึกไว้ในโจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:36–39 ความว่า “[โมโรไน] เริ่มอ้างถึงกําพยากรณ์ของพระกริสต์ธรรมเดิม ทีแรกท่านอ้างถึงตอน หนึ่งของบทที่สามของมาละไค และท่านอ้างถึงบทที่สี่หรือบทสุดท้ายของคกํา พยากรณ์เดียวกันด้วย แห้ว่าเพี้ยนไปเล็กห้อยจากที่มีอยู่ในไบเบิลของเรา แทนที่ จะอ้างถึงข้อแรกดังที่มีอยู่ในหนังสือของเรา ท่านอ้างถึงมันดังนี้

เพราะดูเถิดวันมาถึงที่จะเผาไหม้ดังเตา และคนจองหองทั้งหมด แท้จริง แล้ว และคนทั้งหมดที่ทำชั่วจะไหม้ดังโคนต้นข้าว เพราะพวกเขาที่มาจะเผา พวกนั้น จอมโยธาตรัส จนบันจะไม่เหลือทั้งรากหรือกิ่งม้านไวัให้เขา

“และอนึ่ง ท่านอ้างถึงข้อที่ห้าดังนี้: ดูเถิด เราจะเป็ดเผยฐานะปุโรหิตแก่เจ้า โดยมือของอิไลจะศาสดา ก่อนการมาของวัอันยิ่งใหญ่และน่าพรั่นพรึงของ พระเจ้า

“ท่านอ้างถึงข้อต่อไปอย่างแตกต่างกันด้วย: และเขาจะปลูกสัญญาที่ทำกับ บรรพบุรุษไว้ในจของลูกหลาน และใจของลูกหลานจะห้นไปหาบรรพบุรุษของ เขา หากไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งแผ่นดินโถูกก็จะลูกทำลายสิ้นในการเสด็จมาของ พระองค์”4

เอลียาห์ปรากฏต่อโจเซฟ สมิธและออลิเวอร์ คาวเดอรี ในพระวิหารเคิร์ทแลนด์

โจเซฟ สมิธพูดถึงการปรากฏของเอลืยาห์ศาสดาสมัยโบราฌต่อท่านและออลิเวอร์ คาวเดอรืเมื่อวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1836 ในพระวิหารเคิร์ทแลนด์ ซึ่งต่อมาบันทึกไฺวู้้ใน คำสอนและพันธสัญญา 110:13–16 ดังนี้ “ภาพที่ยิ่งใหญ่ และรุ่งโรจน์อีกภาพหนึ่งมาประจักษ์แก่เรา เพราะอิไลจะศาสดาผู้ถูกรับไปสวรรค์ โดยไม่ชิมรสความตายยืนอยู่ต่อหห้าเราและกล่าว

“ดูเถิด เวลามาถึงเต็มที่แล้ว ซึ่งพูดไฺวู้้โดยปากของมาละไค—โดยให้ถ้อยคำ ว่า ท่าน (อิไลจะ) จะถูกส่งมาก่อนวันอันยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวของพระเจ้าจะมา—เพื่อหันใจของบรรพบุรุษมาหาลูกหลานและลูกหลานไปหาบรรพบุรุษ เกลือกทั้งแผ่นดินโลกก็จะถูกลงทัณฑ์ด้วยการสาปแช่ง—ฉะนั้น จึงมอบ หมายกุญแจของสมัยการประทานนี้ไวัในมือของท่าน และโดยการนี้ท่านจะรู้ว่า วันอันยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวของพระเจ้าอยู่ใกล้ แห้ที่ประดู”5

เอลียาห์ฟื้นฟูกุญแจการผนึก—พลังและสิทธิอำนาจ ที่จะผูกมัดพิธีการทั้งหมดที่ประกอบบนแผ่นดินโลกไว้ในสวรรค์

“ ‘เราจะส่งเอลืยาห้ผู้เผยพระวจนะมายังเจ้าก่อนวันแห่งพระเจ้า คือวันที่ใหญ่ ยิ่งและน่าสะพรึงกลัวมาถึง’ เป็นด้น [ดู มาลาคี 4:5] เหตุใดจึงส่งเอลียาห์มา เพราะท่านถือกุญแจแห่งสิทธิอำนาจในการปฏิบัติพิธีการทุกอย่างของฐานะปุโรหิต และ [เว้นแต่] จะประทานสิทธิอำนาจนี้ หาไม่แล้วจะปฏิบัติพิธีการใน ความชอบธรรมไม่ได้”6

ศาสดาโจเซฟ สมิธกล่าวในจดหมายที่เขียนถึงสิทธิชน ซึ่งต่อมาน้นทึกไวัใน คำสอนและพันธสัญญา 128:8–11 ดังนี้ “สาระของพิธีการนี้ [น้พติศมาแทน คนตาย] รวมอยู่ในอำนาจฐานะปุโรหิต โดยการเป็ดเผยของพระเยซูคริสต์ ซึ่ง ในนั้นประทานว่าอะไรก็ตามที่ท่านผูกบนแผ่นดินโลกจะถูกผูกในสวรรค์ และ อะไรก็ตามที่ท่านปล่อยบนแผ่นดินโลกจะถูกปล่อยในสวรรค์ …

“กับบางคนดูจะเป็นคำสอนที่อาจหาญมากที่พวกเราพูดถึง—อำนาจซึ่งบันทึกหรือผูกบนแผ่นดินโลกและผูกในสวรรค์ กระนั้นในทุกยุคของโลก เมื่อใดก็ ตามที่พระเจ้าทรงให้สมัยการประทานฐานะปุโรหิตแก่คนใดโดยการเป็ดเผยจริงๆ หรือกลุ่มคนใด ก็ยังมือำนาจนี้ให้เสมอ เหตุนี้อะไรก็ตามที่คนเหล่านั้นทำไปใน อำนาจ ในพระนามของพระเจ้า และทำมันนั้นโดยแท้จริงและซื่อสัตย์ และ รักษาบันทึกเดียวอันไว้อย่างถูกด้องและซื่อสัตย์ มันกลับเป็นกฎบนแผ่นดินโลก และในสวรรค์ และลบล้างไม่ได้ตามประกาศิตของพระจึโฮวาผู้ยิ่งใหญ่ นี่เป็นคำ กล่าวที่ซึ่อสัตย์ ใครเล่าจะได้ยินมันได้?

“และอนึ่ง มัทธิว 16:18, 19 เป็นตัวอย่าง: และเรากล่าวกับเจ้าด้วยว่า เจ้า คือป็เตอร้ และบนศิลานี้เราจะสร้างศาสนาจักรของเรา และประตูนรกจะไม่ชนะมัน และเราจะให้กุญแจของอาฌาจักรสวรรค์แก่เจ้า: และอะไรก็ตามที่เจ้าจะผูก บนแผ่นดินโลกจะถูกผูกในสวรรค์ และอะไรก็ตามที่เจ้าปล่อยบนแผ่นดินโลก จะถูกปล่อยในสวรรค์

“บัดนี้ ความลับยิ่งใหญ่และสำคัญของทั้งเรื่อง และความวิเศษสุดของทั้ง เรื่องที่วางอยู่ต่อหน้าพวกเรารวมอยู่ในการได้รับอำนาจฐานะปุโรหิตอันศักดี้สิทธี้ สำหรับคนที่มีกุญแจเหล่านี้ให้ ไม่มีความลำบากในการได้รับความรู้แห่งความ จริงเกี่ยวกับความรอดของลูกหลานมนุษย์ เช่นเดียวกันทั้งสำหรับคนตายและ สำหรับคนเป็น”7

โดยผ่านอำนาจการผนึก ครอบครัวจะได้ผนึกเพื่อกาลเวลาและ ชั่วนิรันดร์ และสามารถประกอบพิธีการศักดิ์สิทธิ์แทนคนตาย

“วิญญาณ พลังอำนาจ และการเรียกของเอลียาห์คือ เจ้ามีอำนาจถือกุญแจ แห่งการเป็ดเผย พิธีการ พระวจนะ พลังอำนาจ และเอ็นดาวเน้นท์ของความ บริบูรณ์แห่งฐานะปุโรหิตแห่งเมีลคิเซเด็คและอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่น ดินโลก อีกทั้งได้รับ ได้มา และประกอบพิธีการทุกอย่างที่เป็นของอาณาจักร ของพระผู้เป็นเจ้า แน้ไปสู่การหันใจบรรพบุรุษมาหาลูกหลานและห้นใจลูกหลาน ไปหาบรรพบุรุษ แน้คนที่อยู่ในสวรรค์

“มาลาคืกล่าวดังนี้ ‘เราจะส่งเอลียาห์ผู้เผยพระวจนะมายังเจ้าก่อนวันแห่ง พระเจ้า คือวันที่ใหญ่ยิ่งและน่าสะพรึงกลัวมาถึง และห่านผู้นั้นจะกระทำให้ จิตใจของพ่อหันไปหาลูก และจิตใจของลูกหันไปหาพ่อ หาไม่ เราจะมาโจมดี แผ่นดินนั้นด้วยอำสาปแช่ง’ [มาลาคี 4:5–6]

“บัดนี้ สิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนาคือความรู้เรื่องพระผู้เป็นเจ้า และข้าพเจ้าทำไป ตามความคิดเห็นของตนเองเพื่อให้ได้ความรู้นั้น จากพระคัมภีร์ข้อนี้เราด้องเข้า ใจอะไรในวันเวลาสุดท้าย

“ในสมัยของโนอา พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลายโลกด้วยน้ำท่วม และพระองค์ ทรงสัญญาว่าจะทำลายโลกด้วยไฟในวันเวลาสุดท้าย แค่ก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้ เอลียาห์ควรมาก่อนและหันใจบรรพบุรุษมาหาลูกหลาน เป็นด้น

“ตอนนี้ก็มาถึงประเด็นที่ว่า หน้าที่นี้และงานของเอลียาห์คืออะไร นี่เป็นเรื่อง ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็ดเผย พระองค์จะทรง ส่งเอลียาห์มาผนึกลูกหลานกับบรรพบุรุษ และผนึกบรรพบุรุษคับลูกหลาน

“งานนี้จำกัดให้เฉพาะคนเป็นแก้ไขความยุ่งยากอันเกิดแก่ครอบครัวบนแผ่น ดินโลกเท่านั้นหรือ แน่นอนว่าไม่ งานนี้ใหญ่กว่านั้นมาก เอสียาห์! ท่านจะทำ อะไรถ้าท่านอยู่ที่นี่ ท่านจะจำกัดงานของท่านให้คนเป็นเท่านั้นหรือเปล่าเลย ข้าพเจ้าอยากให้ท่านดูในพระคัมภีร์ซึ่งบอกเรื่องนี้ไว้ชัดเจน นั่นคือ หากไม่มี พวกเรา พวกเขาจะถูกทำให้ดีพร้อมไม่ได้ และเราจะดีพร้อมไม่ได้หากไม่มีพวก เขา บรรพบุรุษดีพร้อมไม่ได้หากไม่มีลูกหลาน และลูกหลานดีพร้อมไม่ได้หาก ไม่มีบรรพบุรุษ [ดู ฮีบรู 11:40]

“ข้าพเจ้าประสงค์จะให้ท่านเข้าใจเรื่องนี้ เพราะนี่เป็นเรื่องสำคัญ และหาก ท่านจะรับเรื่องนี้ นี่คือวิญญาณของเอลียาห์ เราไถ่คนตายของเรา เชื่อมโยงตัว เรากับบรรพบุรุษซึ่งอยู่ในสวรรค์ ผนึกคนตายของเราเพื่อจะออกมาในการฟืนคืน ชีวิตแรก และที่นี่เราด้องการอำนาจของเอลียาห์เพื่อผนึกคนที่อยู่บนแผ่นดิน โลกกับคนที่อยู่ในสวรรค์ นี่คืออำนาจของเอลียาห์และกุญแจแห่งอาณาจักรของ พระเยโฮวาห์ …

“อนึ่ง: หลักคำสอนหรืออำนาจการผนึกของเอลียาห์เป็นดังนี้—ถ้าท่านมีอำนาจที่จะผนึกบนแผ่นดินโลกและในสวรรค์แล้วละก็ เราควรจะฉลาด สิ่งแรก ที่ท่านทำคือ ไปและผนึกบุตรธิดากับท่านบนแผ่นดินโลก และผนึกตัวท่านกับ บรรพบุรุษของท่านในรัศมีภาพนิรันดร”8

การมาของเอลียาห์เป็นการเตรียมที่จำเป็นต่อการเสด็จมา ครั้งที่สองของพระผู้ช่วยให้รอด

“ใจของลูกหลานมนุษย์จำต้องหันไปหาบรรพบุรุษ และใจของบรรพบุรุษจำ ต้องหันมาหาลูกหลาน คนเป็นหรือคนตาย เพื่อเตรียมพวกเขาใหัพร้อมรับการ เสด็จมาของบุตรมนุษย์ หากเอลียาห์ไม่มา ทั้งแผ่นดินโลกจะถูกลงทัณฑ์”9

“อิไลอัสคือผู้มาเตรียมทางล่วงหน้า วิญญาณและอำนาจของเอลียาห์ตามมา หลังจากนั้น โดยถือกุญแจแห่งอำนาจ สร้างพระวิหารถึงศิลายอด วางตราผนึก ของฐานะปุโรหิตแห่งเมีลคิเซเด็คไวับนวงศ์วานอิสราเอล และเตรียมการทุกอย่าง ให้พร้อม จากนั้นพระมาไซยาจะเสด็จมาที่พระวิหารของพระองค์ ซึ่งคือสุดห้าย ของทั้งหมด … เอลียาห์ต้องมาเตรียมทางและเสริมสร้างอาณาจักรก่อนการมา ถึงของวันอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า”10

“โลกจะถูกเผาไหน้ในวันเวลาสุดห้าย พระองค์จะทรงส่งศาสดาเอลียาห์มา และท่านจะเป็ดเผยพันธสัญญาของบรรพบุรุษเกี่ยวกับลูกหลานและพันธสัญญา ของลูกหลานเกี่ยวกับบรรพบุรุษ”11

“พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาช่วยชีวิตคนรุ่นนี้อย่างไร พระองค์จะทรงส่งศาสดา เอลียาห์มา … เอลียาห์จะเป็ดเผยพันธสัญญาเพื่อผนึกใจของบรรพบุรุษกับลูก หลาน และลูกหลานกับบรรพบุรุษ”12

ข้อเลนอแนะสำหรับศึกษาและสอน

พิจารณาแนวคิดต่อไปนี้ขณะศึกษาบทเรียนหรือขณะเตรียมสอน ดูความช่วย เหลือเพิ่มเดิมไต้ที่หน้า ⅶ–ⅹⅱ

  • เมื่อพระผู้ช่วยให้รอดทรงปรากฎในพระวิหารเศิร์ทแลนด์ พระองค์รับสั่งกับ โจเซฟ สมิธและออลิเวอร์ คาวเดอรีว่า “เราจะแสดงตัวให้ปรากฎแก่ผู้คน ของเราในความเมตตาในน้านแห่งนี้” (หน้า 332) การฟื้นฟูกุญแจการผนึก เป็นการแสดงพระเมตตาของพระเจ้าอย่างไร พระองค์ทรงแสดงองค์ให้ ประจักษในพระวิหารด้วยวิธีใดอีกบ้าง

  • ศึกษาย่อหน้าที่สามและสี่ในหน้า 333 สองย่อหน้านี้สอนอะไรเกี่ยวกับฟันธกิจของเอลียาห์ที่เราไม่ได้เรียนรู้จากมาลาคี 4:5–6 ความแตกต่างเหล่านี้มี ความสำคัญอย่างไร

  • ศึกษาคำอธิบายเกี่ยวกับอำนาจการผนึกในหห้า 334–335 อำนาจการผนึกคือ อะไร เหตุใดอำนาจดังกล่าวจึงสำคัญต่อท่านและครอบครัว

  • อ่านคำอธิบายของโจเซฟ สมิธเกี่ยวกับงานของเอลียาห์ (หน้า 335–337) วิญญาณของเอลียาห์อีออะไร เหตุใดจึงสำคัญที่เอลียาห์ด้องมาและทำให้งาน ของท่านในยุคสุดห้ายนี้บังเกิดสัมฤทธิผล

  • ท่านเคยมีประสบการณ์อะไรบ้างเกี่ยวกับการที่ท่านได้ห้นใจไปหาสมาชิก ครอบครัวที่สิ้นชีวิตแล้ว บิดามารดาทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยบุตรหลานหันใจ ไปหาบรรพชนของพวกเขา

  • อ่านย่อหน้าแรกของหม้า 334 และย่อหห้าที่สองในหห้า 337 ท่านคิดว่าเหตุ ใดแผ่นดินโลกจึงจะ “ถูกลงทัณฑ์ด้วยการสาปแช่ง” หากไม่มีอำนาจการผนึก

ข้อพระคัมภีร์ทีเกี่ยวข้อง: ฮีลามัน 10:4–10; ค.พ. 132:45–46; 138:47–48; Bible Dictionary “Elijah หน้า 664

อ้างอิง

  1. อีไลซา อาร์. สโนว์ อ้างใน Edward W. Tullidge, The Women of Mormondom (1877), p. 94.

  2. อีไลซา อาร์. สโนว์ อ้างใน The Women of Mormondom, p. 95.

  3. History of the Church, 2:428; จาก “History of the Church” (manuscript), book B–1, addenda, pp. 3–4 หอจดหมายเหตุของศาสนาจักร ศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย ซอลท้เลคซิตี้ ยูทาห์

  4. โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:36–39

  5. คำสอนและพันธสัญญา 110:13–16; คำในวงเล็บอยู่ในต์นฉบับ: ภาพปรากฎ ต่อใจเซฟ สมิธและออลิเวอร์ คาวเดอริ เมื่อ 3 เม.ย. 1836 ในพระวิหารที่ เคิร์ทแลนด์ โอไฮโอ

  6. History of the Church, 4:211; จาก คำปราศรัยของโจเซฟ สมีธและอ่านที่ การประชุมใหญ่ศาสนาจักรเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 1840 ในนอวู อิลลินอยส์

  7. คำสอนและพันธสัญญา 128:8–11; จดหมายที่โจเซฟ สมีธเขียนถึงสิทธิชน 6 ก.ย. 1842 นอวู อิลลินอยส์

  8. History of the Church, 6:251–53; เปลี่ยนตัวสะกดให้ทันสมัย; จากคำ ปราศรัยของโจเซฟ สมีธเมื่อ 10 มี.ค. 1844 ในนอวู อิลลินอยส์; รายงานโดย วิลฟอร์ดวูดรัฟฟ็

  9. History of the Church, 3:390; จากคำปราศรัยของโจเซฟ สมีธประมาณ ก.ค. 1839 ในคอมเมิร์ซ อิลลินอยส์; รายงานโดย วิลลาร์ด ริชาร์ดส์

  10. History of the Church, 6:254; เปลี่ยนตัวสะกดให้ทันสมัย; ปรับเปลี่ยน การแบ่งย่อหน้า; จากคำปราศรัยของใจเซฟ สมีธเมื่อ 10 มี.ค. 1844 ในนอวู อิลลินอยส์; รายงานโดย วิลฟอร์ดวูดรัฟฟ็

  11. History of the Church, 5:530; จาก คำปราศรัยของโจเซฟ สมีธเมื่อ 13 ส.ค. 1843 ในนอวู อิลลินอยส์; รายงานโดย วิลลาร์ด ริ’ชาร์ดส์

  12. History of the Church, 5:555; ปรับ เปลี่ยนการแบ่งย่อหน้า; จากคำปราศรัย ของโจเซฟ สมีธเมื่อ 27 ส.ค. 1843 ในนอวู อิลลินอยส์; รายงานโดย วิลลาร์ด ริชาร์ดส์ และวิลเลียม เคลย์ตัน

Elijah appearing to Joseph and Oliver

“ภาพที่ยิ่่งใหญ่และรุ่งโรจน์อีกภาพหนิ่งมาประจักษ์แก่รา เพราะอีไลจะศาสดาผู้ถูกรับไปสวรรค์โดยไม่ชิมรสความตายยืนอยู่ต่อหน์าเรา”

family at temple

“เราควรจะฉลาด สิ่งแรกที่ท่านทำคือ ไปและผนึกบุตรธิดากับท่านบนแผ่นดินโลก และผนึกตัวท่านกับบรรพบุรุษของท่านในรัศมีภาพนิรันดร์”