หนุ่มสาวรายสัปดาห์
เรียนรู้ที่จะวางใจในพระผู้เป็นเจ้าและศาสดาพยากรณ์ของพระองค์แทนการวางใจตนเอง
กรกฎาคม 2024


เรียนรู้ที่จะวางใจในพระผู้เป็นเจ้าและศาสดาพยากรณ์ของพระองค์แทนการวางใจตนเอง

การฝึกดำน้ำลึกสอนผมว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงทราบว่าสิ่งใดดีที่สุดสำหรับเรามากกว่าตัวเราเอง

ผู้ดำน้ำลึกว่ายน้ำใกล้กับปลาหมึกยักษ์

ขณะกำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยบริคัมยังก์–ฮาวาย ผมไปสอบใบรับรองสำหรับดำน้ำลึกเพื่อผมจะไปสำรวจมหาสมุทรที่ล้อมรอบมหาวิทยาลัยที่สวยงามได้ ในส่วนสุดท้ายของการได้รับใบรับรอง ผมและกลุ่มดำน้ำ 20 นาทีจากท่าเรือลุ่มน้ำโควาลในโฮโนลูลู

ครูสอนดำน้ำของเรารับรู้ว่า ถ้าเรามาถึงจุดนี้แล้ว เราได้เรียนรู้วิธีที่จะปลอดภัยและสนุกไปกับมันได้แล้ว พวกเรายังต้องทำตามกฎพื้นฐาน เช่น มีระบบคู่หูกับเพื่อน แต่เขาบอกเราว่าเราสามารถให้ความสำคัญกับการชมวิว มากกว่าการแสดงความสามารถพิเศษ

การดำน้ำครั้งสุดท้ายยอดเยี่ยมมาก ผมสนุกกับการดูฉลามครีบขาวและเต่าทะเล ไม่มีอะไรจะทำให้ผมชื่นชมโลกที่สวยงามที่พระเจ้าทรงสร้างให้พวกเราได้มากเท่าการมองขึ้นไปที่ผิวน้ำและรู้ว่าผมกำลังหายใจอยู่ใต้น้ำ

ทิ้งไกด์

ขณะที่การเรียนของเราใกล้จะจบลง ครูสอนดำน้ำดูเหมือนจะสนใจหินขนาดเท่าหมอน ดูเหมือนเขาพยายามจะยกมันขึ้น แต่ผมหมดความอดทน “เรามีเวลาแค่ไม่กี่นาที” ผมคิดในใจ “ผมไม่อยากเสียเวลามาดูหิน”

ผมออกมาสำรวจปะการังใกล้ๆ เมื่อจู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงอู้อี้และตื่นเต้นมาจากใต้น้ำ ผมมองเห็นกลุ่มของผมกำลังจ้องไปที่อะไรบางอย่าง แต่ด้วยตัวปรับแรงดันในปาก ผมจึงไม่สามารถถามว่าเกิดอะไรขึ้น

กลุ่มของเราว่ายกลับมาที่ผิวน้ำและขึ้นเรือ หลังจากเราปลดอุปกรณ์แล้ว ทุกคนก็เริ่มพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเห็น คู่หูของผมบอกว่า “ฉันพยายามเรียกนายแล้ว นายจะได้เห็นตอนมันว่ายน้ำออกไป!”

ครูเห็นปลาหมึกยักษ์อยู่ใต้ก้อนหิน เขาจึงขยับก้อนหินเพื่อประโยชน์ของชั้นเรียน ทุกครั้งที่ครูขยับก้อนหิน ปลาหมึกยักษ์ก็หนีเข้าไปข้างใต้ จนกระทั่งมันทนไม่ไหวกับการเล่นซ่อนหาและพ่นหมึกออกมา ก่อนจะว่ายน้ำจากไป

ผมเคยดำน้ำตื้นและลึกมาหลายครั้งและเห็นสิ่งมีชีวิตมากมาย แต่ผมไม่เคยเห็นปลาหมึกยักษ์ และเพราะความใจร้อนของผมทำให้ผมพลาดโอกาสอันหายากนี้

ผมครุ่นคิดถึงประสบการณ์นี้ในหนึ่งชั่วโมงที่ขับรถกลับบ้าน และพบว่าผมได้เรียนรู้บทเรียนพระกิตติคุณที่สำคัญเกี่ยวกับการทำตามพระบัญญัติและเชื่อฟังศาสดาพยากรณ์ ใช่ว่าผมจะไม่เชื่อฟังครูสอนดำน้ำที่นำทางให้เรา แต่ผมตัดสินใจทางอ้อมว่าไกด์ของผมไม่ได้นึกถึงผลประโยชน์สูงสุดของผม

ผมวางใจตัวเองมากกว่าครูของผม

เราสามารถวางใจในศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า

ถ้าผมวางใจไกด์ของผม ผมก็คงจะมีประสบการณ์ที่มีคุณค่ามากกว่านี้ วิธีการเดียวกันสามารถใช้ได้กับการวางใจพระบิดาบนสวรรค์โดยการวางใจในศาสดาพยากรณ์ของพระองค์

เรารู้ว่า จุดประสงค์ของเราในชีวิตนี้คือการเตรียมตัวพบพระผู้เป็นเจ้าโดยการทำและรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่เราอยู่ที่นี่ ลีไฮสอนเจคอบบุตรชายว่าเราอยู่ที่นี่เพื่อเรา “จะมีปีติ” (2 นีไฟ 2:25)

เพื่อช่วยให้เราสัมผัสปีตินั้น และทำตามจุดประสงค์ของการสร้างอย่างครบถ้วน พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงเรียกศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก ท่านเหล่านั้นรับใช้เป็นผู้ส่งสารเพื่อประโยชน์ของเรา พระองค์ประทานพระบัญญัติแก่เราด้วย เพื่อเราจะรับและรักษาปีติที่ไม่มีวันสิ้นสุดนี้

ในด้านหนึ่ง เราสามารถมองศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกเป็นไกด์ดำน้ำของเรา และพระบัญญัติเป็น “กฎในการดำน้ำลึก” ของเรา เพราะสิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อรักษาความปลอดภัยและรับรองความสุขของเรา

ตอนที่เราคิดว่าเรารู้ดีกว่านั้น เช่นเดียวกับที่ผมทำต่อครูสอนดำน้ำของผม เราเสี่ยงที่จะรับประสบการณ์ชีวิตที่แย่กว่า และแสดงให้พระบิดาในสวรรค์ทรงเห็นว่าเราไม่เชื่อว่าพระองค์จะทรงเห็นแก่ประโยชน์สูงสุดของเราก่อน

เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนไว้ว่า

“เหตุใดเราจึงทำตามศาสดาพยากรณ์ เพราะพระเจ้าพระเยซูคริสต์ทรงเรียกท่านและแต่งตั้งท่านเป็นยามบนหอสูงของพระองค์

“… หากเราเลือกเมินเฉยคำแนะนำและคิดว่าเรารู้ดีกว่า ศรัทธาของเราจะซวนเซและเราจะมองไม่เห็นนิรันดร ข้าพเจ้าสัญญาว่าเมื่อท่านยังคงแน่วแน่ในการทำตามศาสดาพยากรณ์ ศรัทธาของท่านในพระผู้ช่วยให้รอดจะเพิ่มขึ้น” 1

เราได้รับพรให้มีชีวิตอยู่ในวันที่คำสอนของพระผู้เป็นเจ้ามีให้เราเข้าถึงได้เสมอ แทนที่จะสงสัยในความต้องการของพระองค์ที่จะให้เราสัมผัสถึงปีติที่ไม่มีวันสิ้นสุด เราสามารถมีศรัทธาในพระองค์และ “พิจารณาถึงสภาพอันเป็นพรและเป็นสุขของคนที่รักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า” (โมไซยาห์ 2:41)

ผมรู้ว่าขณะที่เราวางใจพระผู้เป็นเจ้าโดยการติดตามศาสดาพยากรณ์ของพระองค์และมีศรัทธาในพรที่สัญญาไว้จากการรักษาพันธสัญญาของเราและรักษาพระบัญญัติของพระองค์ พระองค์จะทรงนำเราไปสู่ประสบการณ์มหัศจรรย์และเติมชีวิตของเราด้วยปีติ