การให้ข้อคิดทางวิญญาณ 2021
องอาจในประจักษ์พยานถึงพระเยซู


องอาจในประจักษ์พยานถึงพระเยซู

การให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับคนหนุ่มสาวทั่วโลก S&I ปี 2021

10 มกราคม 2021

พี่น้องชายหญิงที่รัก มีคำอวยพรปีใหม่ที่ไพเราะ—ร้องเป็นภาษาสเปนว่า “ความหวัง โลกชื่นชมยินดี—แสงแห่งวันใหม่บังเกิดแล้ว!”1

ซิสเตอร์กองกับข้าพเจ้าประหลาดใจและกังวลใจเมื่อตรวจพบว่าเราติดเชื้อโควิด-19 ขอบคุณข้อความและคำสวดอ้อนวอนของท่านเพื่อให้เราหายดี แม้ต้องกักตัว แต่เราไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ตอนนี้ซิสเตอร์กองกับข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนมากยิ่งกว่าเดิมให้ทุกคนที่ลำบากจากโรคระบาด

ในโลกนี้มีผู้ใหญ่อายุ 18–30 ปีราว 1.47 พันล้านคน ในศาสนจักรเรามีผู้ใหญ่อายุ 18–30 ปี 2.3 ล้านคนบน 6 ทวีปใน 180 ประเทศและเขตปกครอง ท่านอ่านพระคัมภีร์มอรมอนมากกว่า 144 ภาษา

ซิสเตอร์กองกับข้าพเจ้าชอบประชุมกับท่าน ไม่ว่าในเร็กซ์เบิร์ก ไอดาโฮ; มาเนาส์ บราซิล; โบโกตา โคลอมเบีย; และทั่วโลก2 ในทุกทวีป และทุกสภาวการณ์

ท่านทราบหรือไม่ว่าตอนนี้เรามีสเตคนอร์ทโพล อะแลสกาด้วย?

เรารวมกันวันนี้ผ่านเทคโนโลยี ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำให้เราเป็นหนึ่งในศรัทธา สัมผัสใจท่าน และเปิดทางให้ท่านในช่วงเวลาท้าทายเหล่านี้

พี่น้องที่รัก พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์ ได้โปรดมารู้สึกถึงความรักและเดชานุภาพของพระองค์เพื่อเติบโตและเปลี่ยนแปลง ให้พระองค์ทรงโอบท่านไว้ “ในพระพาหุแห่งความปลอดภัย”3 ด้วยการยืนยันจากพระองค์ว่าท่านดีพอ ท่านมีความสามารถมหาศาลที่ท่านพัฒนาได้ทุกวัน

วันนี้ข้าพเจ้าแบ่งปันคำเชื้อเชิญสามข้อที่เคยช่วยดลใจข้าพเจ้าให้ (1) ทำให้ความสัมพันธ์ของข้าพเจ้ากับพระผู้เป็นเจ้าลึกซึ้งขึ้น (2) เปลี่ยนอนาคตตอนนี้ และ (3) เป็นคนดีขึ้น ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้คำเชื้อเชิญทั้งสามข้อนี้เสริมสร้างศรัทธาของท่านและดึงท่านเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้าและคนรอบตัวท่านมากขึ้นขณะท่านพบปีติอันยั่งยืนบนเส้นทางพันธสัญญาของพระองค์

คำเชื้อเชิญข้อแรก: ด้วยความรักอย่างสุดซึ้ง พระบิดาบนสวรรค์ทรงสัญญาว่า “จง​นิ่ง​เสียและ​รู้​เถิด​ว่าเรา​คือพระผู้เป็น‍เจ้า”4

ข้าพเจ้าเติบใหญ่ในเมืองแต่ชอบแบกเป้เที่ยวตามภูเขา ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ เดินป่าสำรวจกันทั้งวัน แล้วตั้งแคมป์ริมทะเลสาบรกร้างใต้ท้องฟ้ากว้างใหญ่กับเสียงลมพัดยามค่ำคืน

เมื่อเร็วๆ นี้ซิสเตอร์กองกับข้าพเจ้าขับรถไปที่สวยงามแห่งหนึ่งซึ่งมืดมากจนเรามองเห็นทางช้างเผือก แทบจะสว่างเท่าภาพนี้

ทางช้างเผือกเป็นเรื่องของตำนาน ความน่าพิศวง และความลี้ลับ ในภาษาจีน ทางช้างเผือก คือ “Tian He” (“สายธารแห่งสวรรค์”) ในภาษาเบลารุส เอสโตเนีย และฟินแลนด์คือ “วิถีของนก” บางคนเรียกทางช้างเผือกว่า “ถนนไปซานเตียโก” ในภาษาเชโรกีคือ “ทางสุนัขหนี” ในภาษาฮีบรู “สายธารแห่งแสงสว่าง”5

“ในปฐม‍กาลพระ‍เจ้าทรงเนร‌มิต‍สร้างฟ้าและแผ่น‍ดิน … และพระเจ้าทรงเห็นว่าดี”6 พระผู้เป็นเจ้าทรงรอบรู้ ทรงเดชานุภาพ และทรงพระปรีชาญาณ จุดประสงค์ ความงดงาม และความกลมกลืนของงานสร้างเป็นพยานถึงความรักอันไม่มีขอบเขตและแผนแห่งความสุขของพระองค์สำหรับเราแต่ละคน แอลมาเป็นพยานว่า “ทุกสิ่งชี้ให้เห็นว่ามีพระผู้เป็นเจ้า; แท้จริงแล้ว, แม้แผ่นดินโลก, และสิ่งทั้งปวงที่อยู่บนพื้นผิวของมัน, แท้จริงแล้ว, และการเคลื่อนไหวของมัน, แท้จริงแล้ว, และดาวพระเคราะห์ทั้งหมดด้วยซึ่งเคลื่อนไปตามปรกติวิสัยเป็นพยานว่ามีพระผู้สร้างสูงสุด.”7

ต้องใช้ความพยายามอย่างมีสติเพื่อชะลอและ “นิ่ง” ต้องใช้ความเปิดกว้างทางวิญญาณและความถ่อมตนเพื่อ “รู้ว่า [พระผู้เป็นเจ้าคือ] พระผู้เป็นเจ้า”8 บางครั้งการชะลอในสิ่งสำคัญน้อยกว่าจะช่วยให้เราพบสิ่งสำคัญที่สุด

วิธีสำคัญที่จะรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าคือพระผู้เป็นเจ้าคือรับรู้อิทธิพลของพระองค์ในงานสร้างที่รังสรรค์ไว้เพื่อให้ใจยินดี เราขับร้องว่า:

เพราะความโสภาของแผ่นดิน

เพราะความโสภิณของนภา

เพราะความรักตั้งแต่เกิดมา

ดื่นดาษดาเรียงรายอนันต์

พระเจ้าเราขอบคุณทุกวัน

จึงสรรเสริญด้วยเพลงสวดนี้9

อีกวิธีหนึ่งที่จะรู้จักพระผู้เป็นเจ้าคือมองเห็นความดีงามและความหมายในความสัมพันธ์อันสูงค่า—ในความอ่อนโยน พรที่คาดไม่ถึง ความปรองดอง การให้อภัย การเสียสละ

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่าศิลปะ วรรณกรรม และดนตรีสามารถประเทืองตัวเรา10 วิทยาศาสตร์ประเทืองตัวเราเช่นกันเมื่อเข้าใจด้วยศรัทธา

ต่อไปนี้เป็นภาพท้องฟ้ายามค่ำคืนสองภาพอันโด่งดัง

จากวิทยาศาสตร์ ภาพอวกาศห้วงลึกจากกล้องโทรทรรศน์ฮับเบิลเตือนใจเราตามที่ศาสดาพยากรณ์โมเสสและอับราฮัมมองเห็นว่างานสร้างของพระผู้เป็นเจ้ามีกาแล็กซีนับไม่ถ้วนรวมอยู่ด้วย แม้แต่ในสถานที่ที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนดูเหมือนว่างเปล่า

จากศิลปะ วินเซนต์ แวนโก๊ะจับภาพ Starry Night (ราตรีประดับดาว) ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ววาดด้วยสีน้ำมันบนผืนผ้าใบ ภาพดาราศาสตร์ของท้องฟ้าที่วาดไว้ในเดือนมิถุนายนปี 1889 บอกเป็นนัยว่าดาวรุ่งของแวนโก๊ะคือดาวศุกร์ ศิลปะที่ยิ่งใหญ่ดลใจวิธีใหม่ๆ ให้มองเห็นพระคุณความดีของพระผู้เป็นเจ้า

พระคุณความดีของพระผู้เป็นเจ้าสามารถประเทืองจิตวิญญาณเรา โลกที่แปดเปื้อนวุ่นวายหนวกหูของทุกวันนี้ทำให้เรา “​นิ่งและ​รู้ว่า [พระผู้เป็น‍เจ้าทรงเป็น] พระผู้เป็นเจ้า” ได้ยาก11 เราจำไม่ได้ว่าพัดลมในครัวเสียงดังแค่ไหนจนกว่าเราจะปิดพัดลม ความฉาบฉวย ภาพลวงตา และความกังวลเกินเหตุทำให้เขวและสับสน ความกลัวตกกระแส (FOMO) ล้าสมัยไปแล้ว แต่เราก็ยังติดอุปกรณ์มือถือ บางคนคิดว่าการทำงาน 24 ชั่วโมง 7 วันเพิ่มคุณค่าหรือความสำคัญของเรา

เราจัดวางกรอบชีวิตให้เป็นแบบ “เนียนใส” สำหรับโพสต์อินสตาแกรมครั้งต่อไป ทั้งที่เรารู้ว่า “เนียนใส” คือไม่ “เนียน” และไม่ “ใส” เรากังวลว่าฟิลเตอร์ตัวใหม่ ทั้งไม่จริงและไม่สมจริง จะส่งผลต่อการปรับแต่งภาพของเรา

ในสารคดีเรื่อง The Social Dilemma (ภัยแฝงเครือข่ายอัจฉริยะ) คนวงในด้านเทคโนโลยีเตือนว่า “ถ้าคุณไม่ได้จ่ายค่าสินค้า คุณก็คือสินค้า” ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญบางคนกลัวโซเชียลมีเดียทำร้ายสังคมและความผาสุกส่วนตัวแบบไม่คาดคิด พวกเขากังวลว่าอัลกอริทึมโซเชียลมีเดียที่ออกแบบไว้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานออนไลน์ การแชร์ข้อมูล และผลกำไรจากการโฆษณาทำเงินจะก่อให้เกิดความระแวง ความแตกแยก และภาวะซึมเศร้าด้วย12 พูดกันว่าผู้รู้ด้านเทคโนโลยีเหล่านี้ต่างป้องกันไม่ให้ครอบครัวตนใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไป

การนิ่งและใคร่ครวญไม่ใช่การอยู่เดียวดาย ลีโอนาโด ดา วินซีกล่าวว่า “เมื่อคุณอยู่คนเดียว คุณเป็นตัวของตัวเองเต็มที่”13 การชะลอทำให้สมองปลอดโปร่งและจิตใจแจ่มใส เมื่อนั้นความกตัญญูกับความอ่อนน้อมถ่อมตนอันเป็นคุณธรรมควบคู่กันจะเปิดหูเปิดตาทางวิญญาณของข้าพเจ้าให้เห็นและได้ยินพยานยืนยันความสมบูรณ์พูลผลของพระองค์รอบตัวเรา

นักวิจารณ์ภาษาฮีบรูคนหนึ่งอธิบายว่า นิ่ง หมายถึง “ปล่อยไป” รู้เถิดว่าเราคือพระผู้เป็นเจ้า แปลได้ว่า “รับรู้เดชานุภาพการช่วยให้รอดของพระองค์ในชีวิตเรา”14 อีกนัยหนึ่ง “จงนิ่งเสียและรู้เถิดว่าเราคือพระผู้เป็นเจ้า” คือการให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัยในชีวิตเรา15

ประธานเนลสันกล่าวว่า “ไม่มีสิ่งใดเปิดฟ้าสวรรค์เหมือนอย่างการผนวกกันของความบริสุทธิ์ที่เพิ่มพูน การเชื่อฟังอย่างเคร่งครัด การแสวงหาอย่างจริงจัง การดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์ในพระคัมภีร์มอรมอนทุกวัน และเวลาที่ทุ่มเทให้งานพระวิหารและประวัติครอบครัวเป็นประจำ”16—นี่คือเส้นทางพันธสัญญาสู่ปีติอันยั่งยืน

เมื่อเราชะลอและแสวงหาด้วยศรัทธา มุมมองของเราจะเปลี่ยน วันเตรียมวันหนึ่งสมัยเป็นผู้สอนศาสนาวัยหนุ่มในออสเตรเลีย เอ็ลเดอร์มาเรียน จี. รอมนีย์ (ต่อมาเป็นอัครสาวกและสมาชิกในฝ่ายประธานสูงสุด) ไตร่ตรอง หลักคำสอนและพันธสัญญา 76

“เมื่ออ่านจบท่านแปลกใจเมื่อรู้ตัวว่าค่ำแล้ว … ท่านเงยหน้าดูท้องฟ้าเห็นกลุ่มดาวกางเขนใต้และดาวดวงอื่นส่องแสงเจิดจ้ากว่าปกติ ขณะจ้องมองด้วยความพิศวง ดูเหมือนพระวิญญาณจะพาท่านไปอยู่เหนือดาวเหล่านั้นเพื่อให้เห็นสิ่งที่ท่านอ่านมา พระองค์ทรงทำให้ท่านรู้อย่างน่าอัศจรรย์ว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่นิทาน แต่เป็นความจริงที่มีความหมายลึกซึ้งที่สุด”10 ชีวประวัติของท่านกล่าวว่า “หลังจากนั้นท่านก็มีมุมมองนิรันดร์”18

ทุกวันนี้มุมมองนิรันดร์สามารถยึดเหนี่ยวเราได้ ตามที่มีพยากรณ์ไว้ “สิ่งทั้งปวงจะอยู่ในความโกลาหล”19 พระเจ้าตรัสว่าสุรเสียงของพระองค์ได้ยินในแผ่นดินไหว พายุฝนฟ้าคะนอง โรคระบาด และคลื่นแห่งทะเลที่โหมกระหน่ำถั่งโถมขึ้นเหนือฝั่งของมัน20 ในเวลาเหล่านี้ บางคนเรียกความดีว่าความชั่วและเรียกความชั่วว่าความดี21 อีกหลายคนพูดว่า “จงกิน, จงดื่ม, และจงรื่นเริงเถิด, เพราะพรุ่งนี้เราก็ตาย”22 แต่แสงสว่างและความจริงทางวิญญาณไล่ความมืดไปจากบรรดาพวกเรา23

พระเจ้าทรงรับรอง “จงสงบเงียบ”24 “ยืนนิ่ง, ด้วยความมั่นใจอย่างที่สุด, เพื่อเห็นความรอดแห่งพระผู้เป็นเจ้า, และเพื่อพระองค์จะทรงเผยพระพาหุของพระองค์”25 พี่น้องที่รักทั้งหลาย ได้โปรด “จงนิ่งเสีย และรู้เถิดว่า [พระผู้เป็นเจ้าคือพระผู้เป็นเจ้า]”26

ต่อไปนี้เป็นคำเชื้อเชิญข้อสอง: สร้างความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนอนาคตตอนนี้

เมื่อเร็วๆ นี้ข้าพเจ้ารู้สึกขอบคุณคนที่ข้าพเจ้าไม่เคยพบมาก่อนแต่เปลี่ยนอนาคตของข้าพเจ้า

เธอชื่อเมลบา โอ๊คส์ (ไม่ใช่ญาติของประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์)

เมื่อเมลบาอายุ 21 ปีเธอเพิ่งแต่งงานและอยู่ในแซนแมเทโอ แคลิฟอร์เนีย เมลบากับจีนผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่วัย 17 ปีเป็นเพื่อนกัน

จีนเป็นคนเดียวในครอบครัวที่เข้าร่วมศาสนจักร เธอเรียนอยู่ไกลบ้าน บางคนในครอบครัวเธอหวังว่าพอไปอยู่ที่ใหม่เธอจะลืมศาสนจักร

แต่เมลบาและคนอื่นๆ คอยช่วยจีนในวิธีเล็กน้อยและเรียบง่าย เมื่อจีนเรียนจบมัธยมปลาย เมลบาอยู่ที่นั่น เมลบา โอ๊คส์ยังเก็บการ์ดเชิญงานแต่งงานของจีนไว้

จีนตกหลุมรักและแต่งงานกับชายที่ยอดเยี่ยมชื่อวอลเตอร์ อันที่จริงพวกเขาแต่งงานกันสามครั้ง—แต่งงานแบบคนจีน ทำพิธีแบบคนอเมริกัน และผนึกเพื่อกาลเวลาและนิรันดรในพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ ตอนพบกัน วอลเตอร์มีประจักษ์พยานที่เข้มแข็งแบบชาวคริสต์แต่ยังไม่รู้จักศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ดังนั้นจีนและคนอื่นๆ สอนเขาให้รู้จักพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู เขากลายเป็นสมาชิกที่ซื่อสัตย์และผู้ประสาทพรสเตค

ท่านคงเดากันได้ เมื่อแต่งงานกับวอลเตอร์ กอง จีนกลายเป็นจีน กอง คุณแม่ที่รักของข้าพเจ้า ตอนนี้คุณแม่อายุ 94 ปีแล้ว เมลบา โอ๊คส์อายุ 98 ปี ทั้งสองเป็นเพื่อนในพระกิตติคุณนานถึง 77 ปี

เมื่อเร็วๆ นี้ข้าพเจ้าทราบว่าซิสเตอร์เมลบา โอ๊คส์อยู่ในเซนต์จอร์จ ยูทาห์ จึงโทรไปขอบคุณเธอที่เปลี่ยนอนาคตของข้าพเจ้าและครอบครัว ในการช่วยเหลือจีน กองเมื่อเธอเป็นผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสที่เปราะบาง เมลบา โอ๊คส์เป็นพรแก่ครอบครัวกองสี่รุ่นในด้านนี้ของม่านและครอบครัวกองอีก 34 รุ่นในอีกด้านหนึ่งของม่าน ย้อนกลับไปถึงดราก้อน กองที่หนึ่งที่เกิดในปี ค.ศ. 837

น่าเศร้าที่เพื่อนคนอื่นๆ ของคุณแม่ไม่ได้อยู่ในศาสนจักรแล้ว คนหนึ่งออกไปหลังจากสมาชิกศาสนจักรบางคนรังเกียจเธอเพราะเชื้อชาติ อีกคนห่างหายไปเมื่อเธอรู้สึกว่าต้องเลือกระหว่างศาสนจักรกับเพื่อนที่ไม่เป็นสมาชิก คนที่สามปล่อยให้แรงกดดันทางโลกก่อความสงสัยเกี่ยวกับคำสอนของศาสนจักร แน่นอนว่า ท่านประสบความท้าทายหนักยิ่งกว่านี้ในปัจจุบัน

ข้าพเจ้าสำนึกคุณชั่วนิรันดร์ต่อเมลบา โอ๊คส์และทุกคนที่ช่วยเหลือคุณแม่เมื่อท่านใหม่ในพระกิตติคุณ ข้าพเจ้ายกย่องคุณแม่ด้วย ท่านแน่วแน่ในศรัทธาและองอาจในประจักษ์พยาน ท่านกับคุณพ่อข้าพเจ้าตั้งใจเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งในศาสนจักรที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า พวกท่านประสบความสำเร็จทั้งที่แรงกดดันทางสังคมและสมาชิกศาสนจักรบางคนเหยียดท่านเพราะเชื้อชาติ

พี่น้องทั้งหลาย มีจีน กอง กับเมลบา โอ๊คส์อยู่รอบตัวเรา—ในอะพาร์ตเมนต์ ที่ทำงาน วอร์ดหรือสาขา และในแวดวงมิตรสหายของเรา ไม่มีใครอยากเป็นภาระผู้อื่น เราแต่ละคนมองหาสังคมและโอกาสทำคุณประโยชน์ เราทุกคนจำต้องมีสถานที่ปลอดภัยไว้แสวงหาและร้องขอ ที่ปลอดภัยให้เรียนรู้และดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนพระกิตติคุณและวัฒนธรรมศาสนจักร เราต้องการให้คนเห็นว่าเราเป็นผู้ใหญ่ รับผิดชอบ และทำคุณประโยชน์ในฐานะผู้ใหญ่

เราต้องการให้ศาสนจักรเป็นที่ที่เราไม่ตัดสินกันและเรากลับใจถ้ามีคนรู้สึกว่าเรากำลังตัดสินพวกเขาแบบเสียหาย ภรรยาประธานพระวิหารกวาดาลาฮารา เม็กซิโกกล่าวว่าพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ดลใจเธอให้ “ตัดสินน้อยลงและรักมากขึ้น” เธอพูดถูก ได้โปรดมาอย่างที่ท่านเป็น เราต้องการท่าน เมื่อเราเห็นใจและไม่รังเกียจใคร และเชื้อเชิญให้ผู้อื่นทำเหมือนกัน ชุมชนพระกิตติคุณของเราจะเปิดกว้าง อยู่ร่วมกันด้วยดี และดึงดูดคนมากขึ้น ในความหมายหนึ่งคือเราทุกคนกลายเป็นผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่ เป็นสมาชิกที่เพิ่งกลับมา เป็นคนย้ายเข้ามาใหม่ ซึ่งกำลังค้นหาหนทางตนเอง

ในสังคมที่แตกแยก สาวกของพระเยซูคริสต์สามารถมีความเป็นพระเจ้าและความเป็นมนุษย์เหมือนๆ กันมากกว่าความแตกต่าง ในเวลาที่มืดมนและอึดอัดบางครั้ง ผู้เชื่อฉายแสงสว่างและความจริงที่ทำให้เป็นอิสระของพระองค์ ที่ใดมีความกันดารทางวิญญาณในแผ่นดิน27 ที่นั่นเราเทิดทูนพระองค์เป็นน้ำดำรงชีวิตและอาหารแห่งชีวิต

ในโลกที่แห้งแล้ง กระหายรอยยิ้ม และหิวคำทักทาย เราสามารถกำหนดอาณาเขตที่คุ้นเคยของเราใหม่ นั่งข้างๆ คนที่นั่งคนเดียว ไม่รังเกียจ ชมเชย และให้กำลังใจทั้งต่อหน้าและออนไลน์ ยกประโยชน์แห่งความสงสัย รับฟังและออกไปอยู่เคียงข้าง ปฏิบัติศาสนกิจด้วยข้อคิดหรือข้อพระคัมภีร์อย่างทันท่วงที สังเกตเห็นน้ำตาหรือรอยยิ้ม สวดอ้อนวอนเสมอ

วันนี้คุณช่วยผม พรุ่งนี้ผมช่วยคุณ เราอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือกัน นั่นคือสิ่งที่เพื่อนและครอบครัวในพระกิตติคุณทำ

ข้าพเจ้าทราบว่าหลายท่านเป็นสมาชิกคนเดียว หรือสมาชิกแข็งขันคนเดียวในครอบครัว ท่านองอาจและซื่อสัตย์ แต่มักจะเป็นเรื่องยาก ได้โปรดจับราวเหล็กให้แน่น—หรือตามที่ชายหนุ่มคนหนึ่งในมาเนาส์ บราซิลกล่าว “ยึดให้มั่น” จงตั้งใจว่าท่านจะแนวแน่และไม่หวั่นไหว เป็นห่วงเชื่อมที่แข็งแกร่งระหว่างบรรพชนและอนุชนของท่าน นั่นจะคุ้มค่า

การเป็นคนรุ่นแรกหรือรุ่นที่หกในศาสนจักรสำคัญน้อยกว่าการองอาจในประจักษ์พยานของเราถึงพระเยซูคริสต์ ได้โปรดปลูก บำรุงเลี้ยง และป้องกันเมล็ดที่มีค่าของศรัทธา ให้มันหยั่งรากมั่นคงและเบ่งบานในท่านและครอบครัวนิรันดร์ของท่าน

ได้โปรดเป็นเมลบา โอ๊คส์ หรือจีน กอง; สร้างความสัมพันธ์วันนี้ที่เปลี่ยนอนาคต 1 ปี 5 ปี หรือแม้แต่ 77 ปีข้างหน้า

นี่นำเรามาสู่คำเชื้อเชิญข้อสาม: เป็นคนดีขึ้นโดยทำงานเคียงข้างพระเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว

เมื่อเราฝึกทำงานด้วยศรัทธาและความขยันหมั่นเพียร พระเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยวจะทรงอวยพรเราผ่านกฎแห่งการเก็บเกี่ยวให้มี “ปีติในผลแห่งการลงแรงของ [เรา]”28 เมื่อเราทำงานหนักและทำงานฉลาด โอกาสย่อมเปิด สิ่งที่บางคนเรียกว่า โชค เรามองว่าเป็นพร เรารู้ว่าการสวดอ้อนวอนอย่างนอบน้อมและความมานะจริงจังทำให้เกิดปาฏิหาริย์ในเวลาและวิธีของพระองค์

หนังสือกาลาเทียในพันธสัญญาใหม่พูดถึงกฎแห่งการเก็บเกี่ยวว่า “ใครหว่านอะไรลง ก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น”29 เราไม่ควร “เมื่อย‍ล้าในการทำ‍ดี เพราะ‍ว่าถ้าเราไม่ท้อ‍ใจแล้ว เราก็จะเก็บ‍เกี่ยวในเวลาอันสม‍ควร”30 กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เราเก็บเกี่ยวสิ่งที่เราปลูก—ความดีได้ความดีกลับคืน เช่นเดียวกับความชอบธรรม ความยุติธรรม และความเมตตา31

ลอนดอนกับลูค บร็อคแบงค์ อดีตผู้สอนศาสนาที่ซื่อสัตย์และเพิ่งได้รับการผนึกในพระวิหารศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่าพวกเขาเรียนรู้กฎแห่งการเก็บเกี่ยวกับครอบครัวในสวนขณะเติบใหญ่

[เริ่มบทวีดิทัศน์]

ลอนดอน: เราจะตื่นแต่เช้าก่อนผึ้งและก่อนแดดร้อน พยายามถอนวัชพืชและปลูกพืชให้มากที่สุด พยายามทำให้ทุกอย่างเติบโตด้วยปุ๋ยและสิ่งคลุมดิน แล้วก็ดูแลทุกอย่างให้อยู่ในฤดูกาลที่เหมาะสมของมัน

ฉันหมายถึงว่าทุกคนชอบและสนุกกับการเก็บผลไม้—กินไปเก็บไป—แต่ฉันอยากบอกว่าการถอนวัชพืชเป็นงานท้าทายที่สุดเพราะคุณต้องคุกเข่าใช้มือถอน ครู่หนึ่งต่อมาคุณจะเริ่มเจ็บ มือคุณจะสกปรก ปลายนิ้วจะเลอะและหัวแม่มือเป็นสีเขียวจากการถอน

เอ็ลเดอร์กอง: คนถึงพูดกันว่าคุณมีหัวแม่มือเขียว ปลูกอะไรก็ขึ้น

ลอนดอน: ใช่ค่ะ คุณคงคิดว่ามันเป็นเพราะพืชงอกงามดี แต่เป็นเพราะถอนพวกวัชพืชต่างหาก

ลูค: ลอนดอนพูดถึงการทำสิ่งพื้นฐานทั้งหมดในการทำสวน คุณต้องใส่ปุ๋ยและเพาะเลี้ยง คุณจะไปที่สวนอาทิตย์ละครั้งและหวังให้ทุกอย่างดีไปหมดไม่ได้

[สิ้นสุดบทวีดิทัศน์]

เอ็ลเดอร์กอง: ข้าพเจ้าถามลอนดอนกับลูคเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดในฐานะเถาองุ่นแท้ผู้ทรงบำรุงเลี้ยงเราทางวิญญาณ32

[เริ่มบทวีดิทัศน์]

ลอนดอน: เมื่อเราดูแลพืชในสวน เราต้องใส่ปุ๋ยเพื่อให้พืชได้สารอาหารเหมาะแก่การเติบโตต่อไป นั่นคล้ายกับประจักษ์พยานของเราเพราะเราจะอาศัยประสบการณ์ทางวิญญาณครั้งเดียวไม่ได้ เราต้องมีประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ จดจำประสบการณ์ทางวิญญาณของเรา—ประสบการณ์เป็นสิ่งดีที่พึงใคร่ครวญ แต่เราต้องมีมากขึ้นเรื่อยๆ

ลูค: สิ่งเดียวที่เราเชื่อมั่นได้ 100 เปอร์เซ็นต์คือพระผู้ช่วยให้รอด ผมคิดว่าพระองค์ทรงเป็นเถาองุ่นแท้ที่เราพึ่งพาได้ตลอดเวลา และถ้าเราพยายามสุดความสามารถเพื่อให้ความประสงค์ของเราสอดคล้องกับพระองค์เหมือนที่กล่าวว่า—พระองค์อยู่ในเราและเราอยู่ในพระองค์—พระผู้ช่วยให้รอดทรงเป็นผู้ที่สามารถช่วยให้ท่านผ่านพ้นไปได้

ลอนดอน: ฉันรักพระผู้ช่วยให้รอด และฉันมีประจักษ์พยานเข้มแข็งมากเกี่ยวกับพระองค์และสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อเรา พระองค์เป็นเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุด เหมือนคนที่ไม่มีวันทอดทิ้งคุณ เพราะฉันมั่นใจว่าเราทุกคนเคยมีเพื่อนดีๆ ที่ทอดทิ้งเราทั้งแบบคาดคิดและไม่คาดคิด นั่นเป็นประสบการณ์ที่ไม่สนุกเลย แต่มันดีมากที่รู้ว่าพระผู้ช่วยให้รอดจะไม่ทรงทอดทิ้งเรา และจะทรงอยู่กับเราเสมอ และพระองค์จะทรงคอยปลอบโยนเราและคอยช่วยเราเมื่อเราต้องการ

[สิ้นสุดบทวีดิทัศน์]

เอ็ลเดอร์กอง: ขอบคุณครับ ลอนดอนกับลูค ลอนดอน ลูค กับข้าพเจ้าคุยกันเกี่ยวกับความยุติธรรมและความเมตตาในกฎแห่งการเก็บเกี่ยว เราเก็บเกี่ยวสิ่งที่เราหว่าน แต่พระผู้เป็นเจ้าทรงเพิ่มพระเมตตาให้กับความพยายามของเรา อัครสาวกเปาโลกล่าว “ข้าพ‌เจ้าปลูก อ‌ปอล‌โลรด‍น้ำ แต่พระ‍เจ้าทรงทำให้เติบ‍โต”33 เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้เติบโต พระองค์ทรงเปิดหน้าต่างสวรรค์และเทพรลงมาจนไม่มีที่จะพอรับ34 เมื่อมองด้วยตาทางวิญญาณ พระเมตตาอันละเอียดอ่อนของพระเจ้ามักจะมากเกินสิ่งที่เราได้จากงานของเราแต่อย่างเดียว

บางครั้งชีวิตก็เหมือนจะไม่เป็นธรรมและไม่ยุติธรรมซึ่งมาพร้อมกับช่วงเวลายากๆ มืดมน และโดดเดี่ยว ด้วยความปรารถนาที่ชอบธรรมและการพยายามเชื่อฟัง เราอาจรู้สึกว่าเราได้ทำทุกอย่างที่ต้องทำแล้ว กระนั้นสิ่งต่างๆ อาจไม่ได้ผลตามที่เราหวัง มันยาก เราอาจรู้สึกสิ้นหวัง ขุ่นเคือง แม้กระทั่งขมขื่น ในชั่วขณะนั้น โปรดจำไว้ว่า “บุตรแห่งพระมหาบุรุษเคยลดพระฐานะลงต่ำกว่าสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด”35ในแบบที่เราไม่เข้าใจ แต่พระองค์เข้าพระทัยเพราะทรงประสบสิ่งเหล่านั้นมาแล้ว36 “ดูเถิด” พระผู้ช่วยให้รอดตรัส “เราจารึกเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา”37 ทรงสัญญาว่า “สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้จะเป็นประสบการณ์แก่เจ้า, และจะเกิดขึ้นเพื่อความดีของเจ้า”38

เรารอคอยพระเจ้าด้วยความคาดหวังและบางครั้งด้วยความกังวล คำสัญญาของพระองค์แน่นอน: “เขา‍ทั้ง‍หลายผู้รอ‍คอยพระ‍ยาห์‌เวห์จะได้รับกำลังใหม่ เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนก‍อิน‌ทรี เขาจะวิ่งและไม่อ่อน‍เปลี้ย เขาจะเดินและไม่เหน็ด‍เหนื่อย”39 “การร้องไห้อาจจะคงอยู่สักคืนหนึ่ง แต่ความยินดีจะมาเวลาเช้า”40 “โลกไม่มีความโศกใดที่สวรรค์เยียวยาไม่ได้”41

ในเวลาและวิธีของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงชดเชยความอยุติธรรม ความเศร้าโศก และความผิดหวัง พระกิตติคุณของพระองค์ให้โอกาสครั้งที่สองและสาม ให้ถึงเจ็ดสิบครั้งคูณเจ็ด42กับคนที่เต็มใจและอ่อนน้อมถ่อมตน คนที่รักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าได้รับและจะ “ได้รับพรในทุกสิ่ง”43

ในสมัยของเรา เนื่องด้วยความทุกข์มหันต์และความต้องการด้านมนุษยธรรมทุกหนทุกแห่ง เรารู้สึกถึงอุดมการณ์อันแรงกล้าและจุดประสงค์อันสูงส่งในการรับใช้แบบชาวคริสต์ สำหรับเรา ความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อนบ้านหมายถึงโอกาสตามพันธสัญญาและหน้าที่รับผิดชอบตามพันธสัญญา แบบสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ของศาสนจักรระบุว่าคนหนุ่มสาวกำลังค้นหาและตอบสนองความต้องการเร่งด่วนด้านมนุษยธรรมในยุโรป อเมริกากลาง อเมริกาใต้ แคริบเบียน เอเชีย แอฟริกา อเมริกาเหนือ และแปซิฟิก และเกือบทุกที่รอบโลก ยกตัวอย่างเช่น ท่านกับเพื่อนๆ:

  • เย็บหน้ากาก

  • ช่วยเหลือศูนย์ผู้ลี้ภัยสตรี

  • ช่วยทำความสะอาดหลังเกิดภัยธรรมชาติและบรรเทาทุกข์

  • จัดหาอาหารให้เด็ก

  • สร้างชุมชนในท้องที่ และ

  • ส่งมอบอาหารให้ธนาคารอาหาร44

ในช่วงโควิดระบาด สมาชิกของเรา เพื่อนของเรา และศาสนจักรของเราให้การตอบรับด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ที่สุดกับโครงการรับมือโควิด-19 จำนวน 1,031 โครงการใน 151 ประเทศ คนเดือดร้อนได้รับอุปกรณ์ป้องกันตนเอง (PPE) กว่า 28.4 ล้านชุด อาหาร 3.5 ล้านชุด ชุดสุขอนามัย 1.8 ล้านชุด เวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ 1.07 ล้านชิ้น

จนถึงตอนนี้ จากฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร อาหารและสิ่งจำเป็นอื่นๆ กว่า 700 คันรถ เดินทาง 1.6 ล้านไมล์จากระบบคลังอธิการของศาสนจักรไปยังธนาคารอาหาร ศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน และหน่วยงานการกุศล 380 แห่ง ข้าพเจ้าถามว่าปกติแล้วรถบรรทุก 18 ล้อหนึ่งคันมีอะไรบ้าง ปกติรถบรรทุกแต่ละคันนำเนื้อหรือไก่งวง 3,264 กระป๋อง; ข้าวโพด ถั่วเขียว หรือมะเขือเทศหั่น 7,488 กระป๋อง; สตู ซุป หรือถั่วชิลี่ 6,528 กระป๋อง; และของโปรดของข้าพเจ้า—เนยถั่วอันเลื่องชื่อที่ศาสนจักรผลิตซึ่งเต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหาร พลังงาน และความปรารถนาดี 792 ขวด

นอกจากนี้รถบรรทุกของเรายังขนผลไม้ ถั่วฝักยาว และพุดดิ้งที่ผลิตหรือแปรรูปในฟาร์ม 19 แห่ง สวนผลไม้ 3 แห่ง โรงงานเครื่องกระป๋อง 4 แห่ง ฟาร์มโคนม 1 แห่ง และกิจการปศุสัตว์ 3 แห่งของศาสนจักรด้วย บางทีท่านอาจจะอยู่ในชุมชนที่ศาสนจักรร่วมมือกับกลุ่มคนในท้องที่จัดหาอาหารและสิ่งจำเป็นอื่นๆ ให้ก็เป็นได้

อาหารบรรเทาทุกข์และความมั่นคงทางอาหารทั่วโลกเกี่ยวข้องกับเรา สหประชาชาติทำนายว่าการหยุดชะงักเนื่องจากโควิดอาจผลักดันให้อีก 130 ล้านคนไปสู่ความอดอยากเรื้อรัง แม้เป็นเพียงช่วงเริ่มต้น ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมของเรายังดำเนินการต่อเนื่อง เป็นที่ต้องการ และเป็นที่ต้อนรับในพื้นที่เปราะบางอย่างโซมาเลีย เยเมน ดีอาร์คองโก เฮติ และซิมบับเว และในภูมิภาคที่ขัดแย้งกันในซีเรีย เยเมน เซาท์ซูดาน ดีอาร์คองโก และแคว้นซาเฮลของแอฟริกา

เด็กที่หิวโหยต้องการอาหาร เรากับหุ้นส่วนมนุษยธรรมรายหนึ่งมอบ อาหาร 30 ล้านมื้อ แก่เด็กนักเรียนในประเทศกำลังพัฒนาเก้าประเทศ อาหารแต่ละจานมีพลังงานค้ำจุนชีวิต 482 แคลอรีจากธัญพืช โปรตีน ผัก และผลไม้

ดังที่เราเห็น ศาสนจักรของเราทำการบริจาคเพื่อมนุษยธรรมทั่วโลก และให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลในอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และพื้นที่อื่นที่สมาชิกศาสนจักรอาศัยอยู่ด้วย

ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นภายในประเทศเป็นความท้าทายสำคัญด้านมนุษยธรรม ศาสนจักรเราอยู่แนวหน้าของวิกฤติผู้ลี้ภัยหลายครั้ง เรากับหุ้นส่วนมอบอาหาร ชุดสุขอนามัย น้ำและสุขาภิบาล ชุดหลบภัย เครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์ป้องกันตนเอง และความช่วยเหลือด้านการศึกษาในลาตินอเมริกา ยุโรป แอฟริกา เอเชีย และตะวันออกลาง

เราพร้อมและตอบสนองความต้องการในท้องที่ เราเคารพธรรมเนียมและวัฒนธรรมท้องถิ่น ตัวอย่างเช่น สึนามิปี 2004 ในอินโดนีเซียทำให้คนตายหรือสูญหายประมาณ 228,000 คน การอดอาหารทั่วโลกของศาสนจักรเราช่วยสร้างสุเหร่าแห่งใหม่ ซื้อจักรเย็บชุดพื้นเมือง สร้างบ้านและโรงเรียนใหม่ ผู้นำอิสลามบอกศาสนจักรว่า “เราอดอาหาร เงินบริจาคจากการอดอาหารจึงมีความหมายพิเศษต่อเรา การอดอาหารและการเสียสละของคุณสะท้อนศรัทธาและความรักของคุณต่อพระผู้เป็นเจ้า”

ในฐานะสาวกของพระเยซูคริสต์ ความสัมพันธ์ตามพันธสัญญาที่เรามีต่อพระผู้เป็นเจ้าและต่อกันเชื้อเชิญเราให้เป็นคนดีและทำความดี เท่าที่ท่านทราบ ศาสนจักรเราให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา หรือสัญชาติ เราไม่ใช้กิจกรรมด้านมนุษยธรรมเผยแพร่ความเชื่อของเรา เราทำงานกับหุ้นส่วนทุกศาสนา หรือไม่มีศาสนา เราตอบสนองความต้องการเร่งด่วนและระยะยาว เราช่วยต่อแม้หลังจากกล้องของสำนักข่าวไปนานแล้ว เราส่งเสริมคุณค่าในตนเองและการพึ่งพาตนเอง เรารู้สึกถึงพรจากพระบิดาบนสวรรค์เมื่อเราแสดงความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าในการทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อพี่น้องชายหญิงของเรา—บุตรธิดาของพระองค์—ทุกแห่งหน ในทุกวิธีที่เราทำได้

พี่น้องทั้งหลาย ขณะท่านเรียนรู้ เติบโต และรับใช้ ขณะท่านพยายามองอาจในประจักษ์พยานถึงพระเยซูคริสต์ ได้โปรดอดทนและเข้าใจตัวท่านเอง บ่อยเหลือเกินที่เราเข้มงวดกับตัวเองมากเกินไป พระเจ้าทรงเชื้อเชิญให้เรามาดังที่เราเป็น ทำทุกสิ่งด้วย​ “ปัญญา​และ​ระเบียบ” พระองค์ไม่ทรงคาดหวังให้เราวิ่งเร็วเกินกำลัง แม้เมื่อเราขยันหมั่นเพียรและองอาจ45

บางครั้งเราอาจรู้สึกด้อยค่าหรือมุ่งมั่นน้อยลงถ้าพระเจ้าไม่ทรงขอให้เราทำ “สิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง”46 ทว่าบ่อยครั้งสิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการมากที่สุดคือให้เราส่องแสงเจิดจ้าทุกวัน จำไว้ว่า พระเยซูคือเถาองุ่นแท้ การเติบโตทางวิญญาณและความสุขของท่านมีค่าต่อพระองค์

สรุปคือ ขณะเริ่มต้นปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าขอเชื้อเชิญท่านให้รับพรเต็มที่จากคำเชื้อเชิญสามข้อนี้:

  1. “จงนิ่งและรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าคือพระผู้เป็นเจ้า”47 ให้พระคุณความดีและงานสร้างของพระองค์ปลุกจินตนาการของท่าน ทำให้ใจท่านสงบและเชื่อมั่น และเป็นพยานว่าพระองค์ทรงรอทำให้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของท่านลึกซึ้งขึ้น

  2. เปลี่ยนอนาคตตอนนี้ บำรุงเลี้ยงความสัมพันธ์หลายรุ่นอันจะเป็นพรแก่ท่านและคนรอบข้างไปอีกหลายปี

  3. วางใจพระเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยวให้ทรงช่วยท่านเป็นคนที่ดีขึ้น ขณะที่เราทำงานเคียงข้างพระองค์ในสวนองุ่น พระเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยวจะประทานให้เกิดความสมบูรณ์พูนผล พรของพระองค์คือปีติอันบริบูรณ์48

การกระทำอีกสามอย่างจะช่วยท่านเสริมสร้างศรัทธาและองอาจในประจักษ์พยานถึงพระเยซูคริสต์

  1. ถือใบรับรองพระวิหารที่เป็นปัจจุบันอย่างมีค่าควร ได้โปรดทำเช่นนั้นถึงแม้พระวิหารยังไม่เปิดดำเนินการเต็มที่ ได้โปรดทำเช่นนั้นถึงแม้ท่านอาจต้องจัดระเบียบบางอย่างในชีวิต

  2. ให้อธิการหรือประธานสาขารู้ว่าท่านเป็นใครและอยู่ที่ไหน ถ้าปัจจุบันท่านไม่มีการเรียกในศาสนจักร ได้โปรดพูดว่า “อธิการ (หรือประธานสาขา) ครับ เมื่อพระเจ้าทรงมีการเรียกให้ผม ผมยินดีรับใช้ในศาสนจักรครับ”

    เราแต่ละคนต้องมีปีกและราก—แวดวงของมิตรภาพที่กว้างขวางและไปมาหาสู่กันในสังคม และแวดวงเล็กลงที่เราสามารถรับใช้เป็นประจำกับเพื่อนแวดวงเดียวกันและผู้นำที่ใส่ใจ รวมทั้งอธิการผู้ถือกุญแจ

  3. ขณะที่ท่านเคาะ ขอ และหา ได้โปรดสร้างสภาพแวดล้อมส่วนตัวที่บำรุงเลี้ยงศรัทธาและช่วยท่านรักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า พระบัญญัติที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ด้วยความรักจะคุ้มครองและเป็นพร โปรดดำเนินชีวิตให้มีค่าควรจนพระวิญญาณบริสุทธิ์สามารถเป็นเพื่อนของท่านตลอดเวลาและช่วยให้ท่านพบสิ่งที่ท่านต้องการและแสวงหามากที่สุด อย่าปล่อยให้โลกแสร้งเสนอที่สิ่งที่โลกให้ไม่ได้

พี่น้องที่รักทั้งหลาย พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระบิดานิรันดร์ของเรา พระบุตรที่รักของพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด พระเยซูคริสต์ของเรา ศาสนพิธี พันธสัญญา และหลักคำสอนนิรันดร์มีอยู่ในศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูที่มีชื่อตามพระนามของพระองค์: ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย การฟื้นฟูความสมบูรณ์ของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธจนถึงประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันในปัจจุบัน พระคัมภีร์มอรมอนและพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เป็นพยานเช่นเดียวกับข้าพเจ้าว่าพระเยซูคือพระคริสต์

เพื่อนที่รัก จงให้แสงของท่านส่องสว่าง!49 ซื่อสัตย์ต่อไปในพันธสัญญาและองอาจในประจักษ์พยานถึงพระเยซูคริสต์ ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงนำและปกป้องท่านด้วยพระกรุณาธิคุณและทรงอวยพรท่านในความหวังและความปรารถนาอันชอบธรรมของท่าน ขอให้ท่านพบความสัมพันธ์ตามพันธสัญญาและปีติในพระกิตติคุณ พบสถานที่และพื้นที่ในศาสนจักรของพระองค์ซึ่งคือศาสนจักรของเรา ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ของพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์ เอเมน

พิมพ์