การให้ข้อคิดทางวิญญาณ 2017
ห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อกัน


ห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อกัน

ยามค่ำกับเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์

การให้ข้อคิดทางวิญญาณทั่วโลกสำหรับคนหนุ่มสาว • 10 กันยายน 2017 • ศูนย์สเตคเอเพ็กซ์ นอร์ทแคโรไลนา

สายโซ่ของรุ่น

ข่าวสารของข้าพเจ้ามีที่มาจากประสบการณ์ที่ซูซานกับข้าพเจ้าได้รับในเดือนกันยายนปี 1999 ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์มาที่วิทยาลัยริคส์ ซึ่งปัจจุบันคือบีวายยู—ไอดาโฮ เพื่ออุทิศอาคารสเป็นเซอร์ดับเบิลยู. คิมบัลล์ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ข้าพเจ้ากับซูซานได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพให้ประธานและซิสเตอร์ฮิงค์ลีย์ในระหว่างวันทางวิญญาณที่พิเศษและน่าจดจำ

ขณะที่ประธานฮิงค์ลีย์อยู่ในวิทยาลัย ท่านพูดกับนักศึกษา เจ้าหน้าที่ และคณาจารย์ในการให้ข้อคิดทางวิญญาณ ข้าพเจ้านั่งอยู่บนยกพื้นห่างจากประธานของศาสนจักรที่พระเจ้าทรงฟื้นฟูเพียงไม่กี่ฟุตขณะที่ท่านแบ่งปันข่าวสาร แม้จนทุกวันนี้ ในชั่วขณะนี้เมื่อข้าพเจ้ามองและพูดกับท่าน ข้าพเจ้ายังจำภาพประธานฮิงค์ลีย์ยืนอยู่ตรงแท่นพูดในหอประชุมฮาร์ทได้ชัดเจน ข้าพเจ้าจำได้ถึงหลักธรรมที่ท่านสอน น้ำเสียงและสีหน้าของท่าน ตลอดจนสิ่งต่างๆ ที่ข้าพเจ้าเรียนรู้ด้วยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ขณะฟังท่านพูด

ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านมีส่วนร่วมในส่วนหนึ่งของการให้ข้อคิดทางวิญญาณครั้งนั้น

“วันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาเราอุทิศพระวิหารแห่งใหม่ที่สวยงามในโคลัมบัส โอไฮโอ มีคนเต็มพระวิหารและอาคารประชุมวอร์ดใกล้เคียงสำหรับพิธีอุทิศทั้งหกภาค พระวิญญาณพระเจ้าทรงสถิตอยู่ ณ ที่นั้น นับเป็นโอกาสพิเศษและสำคัญยิ่งในการอุทิศพระวิหารแห่งที่สองในประวัติศาสตร์ของศาสนจักรที่รัฐโอไฮโอ

“ภรรยากับลูกสาวอยู่กับข้าพเจ้าด้วย เธอมาช่วยคุณแม่ของเธอ ท่ามกลางความปีติยินดีของเรา หลานสาวกับลูกสองคนของเธอ เหลนของเรา ขับรถมาจากบ้านของพวกเขาที่เซนต์หลุยส์ …

“วันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้านั่งอยู่ในพระวิหารโคลัมบัส โอไฮโอ มองดูเหลนของข้าพเจ้า มีสิ่งประหลาดเกิดขึ้น ข้าพเจ้าตระหนักทันทีว่ากำลังยืนอยู่ตรงกลาง โดยมีบรรพชนสามรุ่นที่ข้าพเจ้าคุ้นเคยอยู่ข้างหลังข้าพเจ้าและมีลูกหลานอีกสามรุ่นอยู่ข้างหน้า ใจข้าพเจ้าหันไปหาบรรพบุรุษจริงๆใจข้าพเจ้าหันไปหาลูกหลานเช่นกัน ข้าพเจ้าแลเห็นสายโซ่ของรุ่น สายโซ่เส้นนั้นย้อนกลับไปไกลมากในอดีตที่เราไม่ค่อยรู้จัก ซึ่งบัดนี้ขยายออกไปสามรุ่นต่อจากข้าพเจ้า ข้าพเจ้านึกภาพสายโซ่ดังกล่าว ตราบจนทุกวันนี้ยังไม่ขาดสะบั้น ยังคงใหม่เอี่ยม และทนทาน …

“ขณะที่ข้าพเจ้านั่งอยู่ในพระวิหาร ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าเป็นห่วงโซ่ ซึ่งเชื่อมรุ่นอดีตทั้งหมดกับรุ่นอนาคตทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทุกสิ่งที่ข้าพเจ้ามีเกี่ยวกับใจและกาย เนื้อหนังและแขนขา ข้อต่อและสมอง เป็นมรดกตกทอดจากผู้ที่อยู่ก่อนข้าพเจ้า และทุกสิ่งที่ลูกหลานข้าพเจ้ามีส่งผ่านข้าพเจ้าไปถึงพวกเขา ข้าพเจ้าจะทำลายโซ่เส้นนั้นไม่ได้ ลูกหลานข้าพเจ้าจะทำลายโซ่เส้นนั้นไม่ได้ …

“ข้าพเจ้าหวังจะมีสำนวนโวหารในการสื่อสารกับพวกท่านคนหนุ่มสาวที่อยู่ที่นี่วันนี้ถึงความรู้สึกที่ข้าพเจ้าได้รับในพระวิหาร ความปรารถนาอันท่วมท้นที่ข้าพเจ้าหรือลูกหลานข้าพเจ้าจะไม่มีวันทำลายห่วงโซ่ของรุ่นต่างๆ ในครอบครัวเรา

“ข้าพเจ้าพูดกับท่านด้วยสุดพลังความสามารถที่ข้าพเจ้ามี ท่านต้องไม่เป็นห่วงโซ่ที่เปราะบางของคนในรุ่นท่าน ท่านมายังโลกนี้พร้อมด้วยมรดกแสนวิเศษ ท่านมาจากชายหญิงผู้ยิ่งใหญ่ จากบุรุษผู้องอาจกล้าหาญ จากสตรีผู้ประสบความสำเร็จและมีศรัทธาแรงกล้า จงอย่าทำให้พวกเขาผิดหวัง จงอย่าทำสิ่งใดก็ตามที่จะทำให้สายโซ่ซึ่งท่านเป็นส่วนสำคัญในนั้นต้องเปราะบาง”1

ภาพสายโซ่ของรุ่นชัดเจนในความคิดข้าพเจ้า คำเตือนที่ไม่ให้เป็นห่วงโซ่ที่เปราะบางในสายโซ่ของรุ่นมีพลังในใจข้าพเจ้า คำเตือนที่ไม่ให้ทำสิ่งใดก็ตามที่จะทำให้สายโซ่ของรุ่นเปราะบางนั้นแทรกซึมสู่จิตวิญญาณข้าพเจ้า สำหรับซูซานกับข้าพเจ้า บทเรียนที่เรียบง่ายและทรงพลังที่เราเรียนรู้ในบ่ายเดือนกันยายนนั้นมีอิทธิพลดีต่อชีวิตแต่งงาน ครอบครัว และทุกด้านในชีวิตเรา

ครอบครัวคอลล์

ในฐานะเด็กหญิงที่เติบโตในแอฟตัน ไวโอมิง เมืองบ้านเกิดของเธอ ซูซานรู้จักและชื่นชมครอบครัวหนึ่งในวอร์ดของเธอซึ่งเป็นแบบอย่างอันยอดเยี่ยมในสายโซ่ของรุ่น

Sister Susan K. Bednar’s remarks

ในวอร์ดที่ดิฉันเติบโตมา มีครอบครัวที่ยอดเยี่ยมครอบครัวหนึ่ง พวกเขามีลูก 14 คน เบสซี่กับอีแวน คอลล์ ซึ่งเป็นแม่และพ่อแต่งงานในพระวิหาร ทั้งสองยังคงแน่วแน่และซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของตนเอง พวกเขาสอนลูกๆ ถึงหลักคำสอนของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูและได้รับพรในการเลี้ยงดูครอบครัวที่ชอบธรรม

หลายปีมาแล้ว ดิฉันพบหญิงสาวผู้สวยงามคนหนึ่งในการประชุมศีลระลึก ขณะที่เธอแนะนำตัว เธอบอกว่าดิฉันรู้จักคุณแม่ของเธอ คุณแม่ของเธอเป็นลูกสาวของบราเดอร์กับซิสเตอร์คอลล์และเป็นเพื่อนที่รักมากในวัยเยาว์ของดิฉัน หญิงสาวคนนี้ที่ดิฉันพบในการประชุมศีลระลึกเป็นหลานสาวของครอบครัวคอลล์ หลังจากสอบถาม ดิฉันพบว่าเธอเป็นหลานคนที่ 44 จากทั้งหมด 96 คน และลูกน้อยของเธอเป็นเหลนคนที่ 230 ของเบสซี่กับอีแวน คอลล์ จำนวนเหล่านี้ทำให้ดิฉันถึงกับอึ้ง ช่างเป็นลูกหลานที่เยอะมาก!

ตั้งแต่นั้นมาดิฉันคิดหลายครั้งว่า จะเป็นอย่างไรหากบราเดอร์กับซิสเตอร์คอลล์ไม่ได้แต่งงานในพระวิหารหรือรักษาพันธสัญญาของพวกเขา จะเป็นอย่างไรหากพวกเขาไม่ซื่อตรงต่อ “ศรัทธาแรงกล้า” ของคนรุ่นก่อน จะเป็นอย่างไรหากพวกเขาไม่ได้สอนพระกิตติคุณให้ลูกๆ โดยแบบอย่างและการสั่งสอนอบรม จะเป็นอย่างไรหากพวกเขาเป็นห่วงโซ่ที่เปราะบางในสายโซ่ของรุ่นพวกเขา ทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อคนกี่คน คำตอบนั้นชัดเจน การตัดสินใจของคู่สามีภรรยาคู่นี้ได้ส่งผลต่อสมาชิกครอบครัวมากกว่า 300 คนแล้ว—และจำนวนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อมีเหลนและเหลนรุ่นต่อจากนั้นเพิ่มเข้ามาในครอบครัว

เปรียบเทียบเรื่องนี้กับอีกประสบการณ์หนึ่งที่ดิฉันได้รับกับเพื่อนรักซึ่งไม่ใช่สมาชิกผู้ที่ดิฉันรู้จักมานาน ลองคิดดูว่าดิฉันตกใจแค่ไหนเมื่อวันหนึ่งเธอพูดขึ้นมาลอยๆ ว่าคุณยายของเธอเป็นมอรมอน ดิฉันอึ้งเพราะเธอไม่รู้จักและไม่เคยสนใจจะรู้จักหลักคำสอนและหลักธรรมของพระกิตติคุณ ถึงแม้ดิฉันจะไม่รู้คำตอบ แต่บ่อยครั้งดิฉันสงสัยว่า “สายโซ่ของรุ่นเธอขาดสะบั้นตรงที่ใด” บทสรุปที่แน่นอนคือเพื่อนดิฉันไม่เคยได้รับพรจากพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ในชีวิตเธอเนื่องจากการตัดสินใจของคนรุ่นก่อนเธอ

ในฐานะสายโซ่ของคนในรุ่นท่าน ท่านควรตระหนักว่าการตัดสินใจที่ท่านทำในเวลานี้และในอนาคตไม่ได้เกี่ยวกับตัวท่านเท่านั้น การตัดสินใจของท่านส่งผลต่อคนที่มาก่อนหน้าท่านและคนที่มาหลังท่าน แบบอย่างและอิทธิพลของการที่ท่านเชื่อฟังหลักธรรมพระกิตติคุณ พลังอำนาจของความชอบธรรมส่วนตัวของท่าน ผลของการตัดสินใจที่ดีและไม่ดีของท่านจะแผ่ขยายไปสู่คนทุกรุ่น จงเป็นห่วงโซ่ที่แข็งแรงในสายโซ่ของรุ่นท่าน

ดิฉันมีประจักษ์พยานเกี่ยวกับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ ดิฉันเป็นพยานว่าการแต่งงานระหว่างชายและหญิงได้รับแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้าและครอบครัวเป็นศูนย์กลางต่อจุดหมายนิรันดร์ของบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้า”

ดิฉันเป็นพยานว่าเพราะการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระองค์ พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เราจากบาปและการเลือกที่ผิด นอกจากนี้พระองค์ยังประทานกำลังเกินกว่าที่เรามีเพื่อเราจะซื่อตรงต่อพระกิตติคุณและพันธสัญญาที่เราทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราพบว่าประสบการณ์ชีวิตนั้นยากลำบาก

ดิฉันรู้ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์นำความประทับใจทางวิญญาณมาสู่ความคิดและใจเรา พระองค์จะทรงช่วยเราค้นหาและประยุกต์ใช้วิธีต่างๆ ในการเป็นห่วงโซ่ที่ซื่อสัตย์ในสายโซ่ของรุ่นเรา ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

End of Sister Susan K. Bednar’s remarks

ห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อกัน

บัดนี้ข้าพเจ้าหวังจะเสริมต่อจากคำสอนของประธานฮิงค์ลีย์เกี่ยวกับ “สายโซ่ของรุ่น” เรา ท่านบรรยายอย่างชัดเจนและเน้นย้ำถึงสิ่งที่เราไม่ควรทำ ซึ่งได้แก่การเป็นห่วงโซ่ที่เปราะบางในสายโซ่ของรุ่น ข้าพเจ้าต้องการมุ่งเน้นถึงสิ่งที่เราควรทำ ซึ่งได้แก่การเป็นห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อกันในสายโซ่ของรุ่น

ในหลักคำสอนและพันธสัญญา 128:18 เราเรียนรู้ “ว่าแผ่นดินโลกจะถูกลงทัณฑ์ด้วยคำสาปแช่ง เว้นแต่จะมี ห่วง บางชนิดบางประเภทเชื่อมระหว่างบรรพบุรุษกับลูกหลาน, ในบางเรื่องบางอย่าง—และดูเถิด เรื่องนั้นคือเรื่องอะไรเล่า ? เรื่องนั้นคือบัพติศมาแทนคนตาย. เพราะเราโดยไม่มีพวกเขาพระองค์จะทรงทำให้ดีพร้อมไม่ได้; ทั้งพวกเขาโดยไม่มีเราพระองค์จะทรงทำให้ดีพร้อมไม่ได้. ทั้งพวกเขาหรือเราพระองค์จะทรงทำให้ดีพร้อมไม่ได้โดยไม่มีคนที่ตายในพระกิตติคุณด้วย; เพราะในการทำให้สมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลาเริ่มต้น, ซึ่งสมัยการประทานนั้นบัดนี้เริ่มต้นแล้ว, นี่คือสิ่งจำเป็นที่การรวมกันและการเชื่อมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์และครบถ้วนและดีพร้อม, ของการประทานสมัยต่างๆ, และกุญแจ, และอำนาจ, และรัศมีภาพทั้งหลายพึงเกิดขึ้น, และได้รับการเปิดเผยตั้งแต่วันเวลาของอาดัมแม้จนถึงเวลาปัจจุบัน”2

ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านพิจารณาคำถามพื้นฐานสองข้อที่เกิดขึ้นจากพระคัมภีร์ข้อนี้

คำถามแรก: ห่วงที่เชื่อมต่อกันคืออะไร ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธสอนว่า “ต้องมีการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันและมีการรวมกันของบิดามารดากับลูก และลูกกับบิดามารดา จนกว่าห่วงโซ่ครอบครัวของพระผู้เป็นเจ้าจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกันเป็นเส้นเดียว และพวกเขาทั้งหมดจะกลับเป็นครอบครัวของพระผู้เป็นเจ้าและพระคริสต์ของพระองค์”3

การฟื้นฟูสิทธิอำนาจและกุญแจฐานะปุโรหิตในสมัยการประทานสุดท้ายนี้ทำให้เป็นไปได้ที่เราแต่ละคนจะได้รับ ระลึกถึง และให้เกียรติศาสนพิธีแห่งความรอดของแต่ละบุคคลและความสูงส่งของครอบครัว เอลียาห์มาตามที่สัญญาไว้จริงๆ เพื่อประสาทกุญแจฐานะปุโรหิตและสิทธิอำนาจการผนึกซึ่งหันใจและหลอมรวมห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อกันทุกรุ่น อีกครั้งบนแผ่นดินโลกในยุคสุดท้ายนี้เรามีผู้รับใช้ที่ได้รับสิทธิอำนาจ ผู้ที่สามารถส่งพรศักดิ์สิทธิ์ที่พระผู้ช่วยให้รอดประทานไว้ “ว่าสิ่งใดก็ตามที่เจ้าผนึกไว้บนแผ่นดินโลกจะผนึกไว้ในสวรรค์; และสิ่งใดก็ตามที่เจ้าผูกไว้บนแผ่นดินโลก, ในนามของเราและโดยคำของเรา, พระเจ้าตรัส, สิ่งนั้นจะผูกไว้เป็นนิรันดร์ในสวรรค์”4

ฉะนั้น “ศาสนพิธีทำแทนที่เราประกอบในพระวิหาร เริ่มต้นจากบัพติศมา จึงทำให้เกิดห่วงโซ่นิรันดร์ที่เชื่อมต่อกันระหว่างรุ่นต่างๆ ซึ่งทำให้จุดประสงค์ของการสร้างโลกเกิดสัมฤทธิผล”5

คำถามที่สอง: ห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อกันปกป้องโลกจากการถูกลงทัณฑ์ด้วยคำสาปแช่งอย่างไร ประธานโจเซฟ ฟิลดิงก์ สมิธประกาศว่า “ไม่ใช่ความสงสัยเรื่องบัพติศมาแทนคนตายเท่านั้น แต่การผนึกบิดามารดาและบุตรธิดากับบิดามารดาด้วย ดังนั้น จึงควรมี ‘การรวมกันและการเชื่อมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์และครบถ้วนและดีพร้อม, ของการประทานสมัยต่างๆ, และกุญแจ, และอำนาจ, และรัศมีภาพทั้งหลาย’ นับจากกาลเริ่มต้นลงมาจนกาลอวสาน หากอำนาจการผนึกนี้ [ที่เอลียาห์ฟื้นฟู] ไม่มีอยู่บนแผ่นดินโลก ความสับสนจะปกครองและความไม่เป็นระเบียบจะเข้าแทนที่ความเป็นระเบียบในวันนั้นเมื่อพระเจ้าจะเสด็จมา และแน่นอนว่าไม่อาจเป็นไปได้ เพราะสิ่งทั้งปวงได้รับการปกครองและควบคุมโดยกฎที่สมบูรณ์แบบในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า”6

เหตุใดแผ่นดินโลกจึงจะถูกสาปแช่ง “เพราะหากไม่มีการเชื่อมเข้าด้วยกันระหว่างบรรพชนกับลูกหลาน—ซึ่งเป็นงานสำหรับผู้วายชนม์—เราก็จะถูกปฏิเสธ งานทั้งหมดของพระผู้เป็นเจ้าจะล้มเหลวและถูกทำลายล้างลงสิ้น … การฟื้นฟูสิทธิอำนาจ [การผนึก] นี้ส่งผล [หรืออิทธิพลที่ชอบธรรม] ให้โลกรอดจากการทำลายล้างลงสิ้น ณ การเสด็จมาของพระเยซูคริสต์”7

ความจริงพระกิตติคุณพื้นฐานเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจเหตุผลที่ “การแต่งงานระหว่างชายและหญิงได้รับแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้าและว่าครอบครัวเป็นศูนย์กลางต่อแผนของพระผู้สร้างเพื่อจุดหมายปลายทางนิรันดร์ของบุตรธิดาของพระองค์”8

พวกท่านบางคนประสบกับความโศกเศร้าใหญ่หลวงในความสัมพันธ์ครอบครัวซึ่งโหดร้ายทารุณหรือไม่ปกติ ผลที่ตามมาคือท่านอาจมีความปรารถนาเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยที่จะเชื่อมโยงกับคนที่สร้างความปวดร้าวใจและความทุกข์เช่นนั้น

ขอจงฟัง ห่วงโซ่ครอบครัวนิรันดร์เชื่อมต่อกันโดยผ่านสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตและความชอบธรรมส่วนตัวเท่านั้น ไม่ว่าเรื่องเลวร้ายอะไรจะเกิดขึ้นในครอบครัวท่าน ข้าพเจ้าเป็นพยานและสัญญาว่าพระเจ้าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นบ่อเกิดของการเยียวยา การเริ่มต้นใหม่ และการฟื้นฟูสิ่งที่ท่านต้องการ

การ​ร้อง‍ไห้​อาจ​จะ​คง​อยู่​สัก​คืน‍หนึ่งแห่งความทุกข์ยากของท่าน แต่ปีติจะมาเวลาเช้าแห่งชีวิตใหม่ของท่านซึ่งเกิดขึ้นได้โดยพระผู้ไถ่และพระผู้ช่วยให้รอดของเรา9

ฉะนั้น อะไรเล่า

ระหว่างการสนทนาเรื่องสำคัญในโควรัมอัครสาวกสิบสอง ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์มักจะถามว่า “ฉะนั้น อะไรเล่า” ข้าพเจ้าเข้าใจคำถามของท่านว่าหมายถึง “ฉะนั้น แนวคิด ข้อเสนอ หรือวิธีปฏิบัติเหล่านี้จะสร้างคุณค่าสำคัญทางวิญญาณอะไรเล่าในชีวิตของสมาชิกศาสนจักร สิ่งนี้จะเป็นพรแก่คนที่เรารับใช้จริงหรือ” โดยนัยสำคัญนี้ ท่านกำลังเชื้อเชิญให้เราพิจารณาคุณค่าและนัยอันต่อเนื่องของหัวข้อที่เรากำลังหารือกัน ข้าพเจ้าพบว่าคำถาม “ฉะนั้น อะไรเล่า” มีประโยชน์มากที่สุดในการมุ่งความคิดของข้าพเจ้าไปที่เรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งและในการระบุว่าสิ่งใดสำคัญที่สุด

ดังนั้น ท่านอาจถามว่า “บราเดอร์เบดนาร์ อะไรคือ ‘ฉะนั้น อะไรเล่า’ ของข่าวสารที่ท่านให้เรา” ข้าพเจ้าเชื่อว่าคำตอบของคำถามนั้นมีอยู่ในคำถามสามข้อที่พวกท่านบางคนอาจกำลังถามตนเองในเวลานี้

มีคนหนุ่มสาวหลายคนที่เป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายคนแรกในครอบครัวมาร่วมการให้ข้อคิดทางวิญญาณครั้งนี้ ท่านได้ฟังและรับข่าวสารของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ รับบัพติศมาและการยืนยันโดยสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตที่ถูกต้อง และปัจจุบันนี้กำลังมุ่งหน้าด้วยศรัทธามั่นคงในพระคริสต์ ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่หรือนานแล้ว ท่านเป็นสิ่งจรรโลงชีวิตของศาสนจักรและความรอดของครอบครัวในปัจจุบันและครอบครัวในอนาคตของท่าน ท่านเป็นห่วงโซ่ห่วงแรกในสายโซ่ของรุ่นท่าน

แต่ท่านอาจถามตนเองว่า “ในฐานะสมาชิกศาสนจักรคนเดียวในครอบครัวและเนื่องจากฉันเผชิญกับการต่อต้านจากบิดามารดา พี่น้อง และสมาชิกครอบครัวคนอื่น ฉันจะเป็นห่วงโซ่ที่แข็งแรงได้อย่างไร”

ขณะที่ท่านอ่านและฟังเรื่องราวเกี่ยวกับผู้บุกเบิกยุคแรกของสมัยการประทานนี้ที่ทุกข์ทนกับการข่มเหง อดทนต่อความยากลำบากทางร่างกาย และเดินข้ามทุ่งราบเพื่อตั้งรกรากในหุบเขาซอลท์เลค ท่านอาจสงสัยว่าท่านจะทำอย่างที่พวกเขาทำได้หรือไม่ แต่พวกท่านหลายคน กำลัง ทำสิ่งที่พวกเขาทำ! ลักษณะและประเภทของความท้าทายที่ท่านเผชิญอยู่ทุกวันนี้อาจแตกต่างจากผู้บุกเบิกเหล่านั้น แต่การต่อต้านความจริงที่ได้รับการฟื้นฟูเป็นเช่นเดียวกันกับทุกวันนี้และยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

ในเดือนเมษายนปี 1986 หัวหน้าเผ่าๆ หนึ่งในกานาตอนกลางถึงแก่กรรม ผู้ที่ช่วยเตรียมพิธีศพคือเฟรด อันทวี น้องชายต่างมารดาของหัวหน้าเผ่า ผู้รับบัพติศมาและยืนยันเป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายหนึ่งปีก่อนหน้านี้ โดยที่เฟรดไม่รู้ น้องสาวของหัวหน้าเผ่า ภริยาหัวหน้าเผ่าคนก่อน ได้วางแผนให้เขาเป็นหัวหน้าเผ่าคนใหม่

ในช่วงค่ำก่อนพิธีฝังศพ สมาชิกครอบครัวคนหนึ่งแอบถามเฟรดว่า “พี่รู้ไหมว่าครอบครัววางแผนอะไรให้พี่” เฟรดตอบ “ไม่รู้ ยังไม่มีใครบอก” สมาชิกครอบครัวคนนั้นจึงบอกว่า “พี่จะได้เป็นหัวหน้าเผ่าคนใหม่” เฟรดประหลาดใจและกล่าวอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ไม่! ศาสนาของพี่จะไม่อนุญาตให้พี่ทำอย่างนี้

การรับใช้เป็นหัวหน้าเผ่านับเป็นเกียรติยศ หัวหน้าเผ่าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านของเขาทั้งหมู่บ้าน และเมื่อเขาพูด ผู้คนจะทำตามคำสั่ง หัวหน้าเผ่าได้รับการสนับสนุนทางการเงิน และสิ่งใดก็ตามที่เขารู้สึกว่าเขาต้องการก็จะมีผู้จัดหามาให้ เวลานั้นเฟรดกำลังรับใช้เป็นประธานสาขาเมื่อเขารู้ว่าการเป็นหัวหน้าเผ่าเป็นเรื่องสุดวิสัยสำหรับเขา เขาไม่เต็มใจจะมีส่วนร่วมในพิธีกรรมของเผ่าที่ขัดกับหลักธรรมพระกิตติคุณของพระผู้ช่วยให้รอด

ข้าพเจ้าขออ้างอิงคำพูดของเฟรดเองที่ตอบโต้ข่าวอันน่าตกใจของน้องสาว “ในค่ำวันเดียวกันนั้น ผมขับรถไปเยี่ยมผู้อาวุโสคนหนึ่งของเผ่าในหมู่บ้านใกล้ๆ กัน ผมอยากจะพูดกับเขาเกี่ยวกับข่าวที่ผมได้รับฟังมา เขาอธิบายว่า ‘ผมทราบแผนดังกล่าว และผมทำอะไรไม่ได้ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องเป็นหัวหน้าเผ่า’

เฟรดจึงพูดว่า “คุณก็รู้ว่าผมเป็นชาวคริสต์ และศาสนาของผมจะไม่อนุญาตให้ผมเป็นหัวหน้าเผ่าเพราะมีหลายสิ่งที่หัวหน้าเผ่าต้องทำซึ่งผมจะไม่ทำ” ผู้อาวุโสของเผ่าตอบว่า “ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปบอกผู้นำของคุณว่าคุณเป็นชาวคริสต์และไม่สามารถเป็นหัวหน้าเผ่าได้” เฟรดตอบว่า “ผมกลับไปแจ้งให้ผู้นำทราบ แต่พวกเขาไม่ใส่ใจสิ่งที่ผมพูด”

เฟรดพูดต่อว่า “เราต้องทำพิธีฝังพี่ชายต่างแม่ของผม [หัวหน้าเผ่าคนก่อน] เวลาเที่ยงคืน ผมก็ขับรถตามหลังสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ในรถของพวกเขา เมื่อมาถึงสี่แยกระหว่างทางไปสถานที่ฝัง แทนที่จะเลี้ยวซ้ายเหมือนคนอื่น ผมเลี้ยวขวาไปตามถนนที่มุ่งหน้าสู่เคปโคสต์และเร่งความเร็วจากไป”

ตลอดระยะเวลาหกเดือนต่อมา เฟรดไม่ติดต่อครอบครัวใหญ่ของเขาเลย ภายหลังเขาเรียนรู้ว่าหากเขาไปยังสถานที่ฝังศพ เขาจะได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเผ่าคนใหม่ เขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก ในที่สุดเขาทราบว่าหลานชายของเขา บุตรของภริยาม่ายหัวหน้าเผ่าคนก่อน ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเผ่าคนใหม่

ขณะที่เฟรดเลี้ยวขวาและมุ่งหน้าสู่เคปโคสต์ เขากำลังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ห่วงโซ่ห่วงแรกในสายโซ่ของรุ่นเขา โดยมั่นคงในประจักษ์พยานของตนเองถึงหลักคำสอนและหลักธรรมแห่งพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู วิถีชีวิตของเฟรดเปลี่ยนไปอย่างน่าอัศจรรย์ เขากับซิสเตอร์อันทวีเป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลาคู่แรกจากแอฟริกาตะวันตกที่ได้รับมอบหมายให้รับใช้ในพระวิหารกานา ปัจจุบัน เฟรดรับใช้เป็นที่ปรึกษาในฝ่ายประธานพระวิหารอักกรา กานาและภรรยาของเขาเป็นผู้ช่วยผู้เข้าพระวิหาร

ในฐานะผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่ต่อศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระผู้ช่วยให้รอด เฟรดได้รับพรและพละกำลังเพื่อเอาชนะการต่อต้านที่ทรงพลังจากครอบครัว มิตรสหาย และคนรู้จัก บราเดอร์กับซิสเตอร์อันทวีสอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ให้ลูกๆ ของพวกเขาอย่างขยันหมั่นเพียรและสถาปนาแบบแผนแห่งความชอบธรรมในครอบครัวพวกเขาซึ่งกำลังเอื้อมออกไปจากรุ่นสู่รุ่น เฉกเช่นการเริ่มต้นที่เฟรดและภรรยาของเขาฉันใด สิ่งนี้ก็เริ่มต้นที่ตัวท่านด้วยฉันนั้น!

สำหรับท่านผู้เป็นสมาชิกศาสนจักรรุ่นแรกในครอบครัว สิ่งนี้เริ่มต้นที่ตัวท่าน! ท่านเป็นผู้บุกเบิกให้ต้นตระกูลและลูกหลานของท่านพร้อมๆ กัน สมาชิกครอบครัวผู้ล่วงลับแล้วของท่าน ผู้มาก่อนท่านในสายโซ่ของรุ่นท่านกำลังสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากท่าน และคนที่จะมาหลังจากท่านจะพึ่งพาความซื่อสัตย์ของท่าน แน่นอนว่าท่านมีพลังในการเป็นห่วงโซ่แข็งแรงที่เชื่อมต่อกัน จงจำไว้ว่าสิ่งนี้เริ่มต้นที่ตัวท่าน และด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า ท่านทำได้

พวกท่านบางคนอาจถามตนเองว่า “ฉันหวังจะสร้างครอบครัวนิรันดร์โดยที่ไม่เคยเป็นสมาชิกของครอบครัววิสุทธิชนยุคสุดท้ายที่เข้มแข็งได้อย่างไร” ข้อสังเกตสองสามข้อจากประสบการณ์ของข้าพเจ้าอาจช่วยท่านได้

“สายโซ่ของรุ่น” ส่วนตัวข้าพเจ้าแตกต่างกันทีเดียวในลำดับเชื้อสายบรรพชนฝ่ายคุณแม่และฝ่ายคุณพ่อ สายโซ่ฝ่ายคุณแม่ ข้าพเจ้าเป็นสมาชิกศาสนจักรรุ่นที่ห้าในครอบครัว บรรพชนของเธอเข้าร่วมศาสนจักรที่อังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงแรกเริ่มของการฟื้นฟู ฉะนั้น ในสายของคุณแม่ ข้าพเจ้าเป็นห่วงโซ่หนึ่งข้อในสายโซ่เส้นยาวของรุ่นที่ซื่อสัตย์

ในสายโซ่ฝ่ายคุณพ่อ ข้าพเจ้าเป็นสมาชิกศาสนจักรรุ่นแรกในครอบครัว เนื่องจากคุณพ่อข้าพเจ้าไม่ได้เข้าร่วมศาสนจักรจนช่วงปลายชีวิตท่าน ข้าพเจ้ากับพี่ชายเป็นตระกูลเบดนาร์คนแรกที่ได้รับฐานะปุโรหิต ข้าพเจ้าเป็นคนแรกในครอบครัวที่รับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลา ฉะนั้น เช่นเดียวกับพวกท่านหลายคน ข้าพเจ้าเป็นห่วงโซ่ข้อแรกของพระกิตติคุณในสายโซ่ของรุ่นเบดนาร์

คุณพ่อข้าพเจ้าเป็นคนดี อุทิศตน และทำงานหนัก ข้าพเจ้ารักท่านและเรียนรู้บทเรียนสำคัญจากการทำงานกับท่านซึ่งช่วยให้ข้าพเจ้าเป็นอย่างที่เป็นในทุกวันนี้ คุณแม่สอนให้ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนและยึดมั่นพระคัมภีร์ ข้าพเจ้ารักท่านและสำนึกคุณต่อเปลวไฟแห่งศรัทธาที่ท่านจุดประกายในตัวข้าพเจ้า อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจคือ ข้าพเจ้าจำไม่ได้ว่าเราเคยสวดอ้อนวอน ศึกษาพระคัมภีร์ หรือจัดสังสรรค์ในครอบครัวร่วมกันเป็นครอบครัว ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนและอ่านพระคัมภีร์มอรมอนกับคุณแม่ แต่เราไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้ด้วยกันเป็นพ่อแม่ลูก

ด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า ท่านสร้างครอบครัวนิรันดร์ได้ แม้ว่าท่านไม่ได้มาจากครอบครัวแบบวิสุทธิชนยุคสุดท้ายที่อยู่บนปกนิตยสาร เลียโฮนา ขอให้จำไว้ว่า สิ่งนี้เริ่มต้นที่ตัวท่าน!

ข้อเท็จจริงที่ว่าข้าพเจ้าไม่เคยได้รับประสบการณ์รูปแบบครอบครัวที่ชอบธรรมในบ้านวัยเด็กของข้าพเจ้าทำให้ข้าพเจ้ามีความปรารถนาแรงกล้าที่จะเต็มใจร่วมมือกับซูซานในการทำให้รูปแบบนั้นเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่เราร่วมกันสร้างเสมอ ขณะที่เราหารือกันและสวดอ้อนวอนทูลขอความช่วยเหลือ เราได้รับการดลใจและได้รับพรในการช่วยให้ลูกของเราเรียนรู้หลักธรรมแห่งพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระผู้ช่วยให้รอด แน่นอนว่าเราไม่ใช่บิดามารดาที่ดีพร้อม แต่เราได้รับของประทานทางวิญญาณที่เราต้องการและพบกับความ “ช่วยเหลือ … เพิ่มขึ้น”10

ท่านกับข้าพเจ้าไม่ได้ติดอยู่ในประสบการณ์อดีต เราไม่ได้ตกเป็นเหยื่อของสภาวการณ์ปัจจุบันหรือตกเป็นทาสสภาพแวดล้อมของเราอย่างสิ้นเชิง พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงสอนเราทุกสิ่งที่เราควรทำ รวมถึงรูปแบบของความชอบธรรมในครอบครัวซึ่งเราไม่เคยมีส่วนร่วมมาก่อน สิ่งนี้เริ่มต้นที่ตัวท่าน! และด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า ท่านทำได้

พวกท่านบางคนหัวใจสลายเพราะสมาชิกครอบครัวหรือผู้นำที่ท่านเคารพไม่ให้เกียรติพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ของการแต่งงาน ท่านอาจถามตนเองว่า “ถ้าพ่อแม่ของฉันหรือคู่สามีภรรยาคนอื่นๆ ที่ฉันรู้จักได้รับการผนึกในพระวิหารแต่ชีวิตแต่งงานของพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จ ฉันจะหวังได้หรือว่าชีวิตแต่งงานของฉันจะยั่งยืนชั่วนิรันดร์”

สำหรับท่านที่ประสบกับความปวดร้าวใจของการหย่าร้างในครอบครัวท่านหรือเจ็บปวดที่ความไว้วางใจถูกล่วงละเมิด โปรดจำไว้ว่าสิ่งนี้เริ่มต้นที่ตัวท่าน! ห่วงโซ่หนึ่งข้อในสายโซ่ของรุ่นท่านอาจจะขาดสะบั้น แต่ห่วงโซ่ที่ชอบธรรมอื่นๆ และสิ่งที่ยังคงอยู่ในสายโซ่ก็มีความสำคัญชั่วนิรันดร์ ท่านสามารถเพิ่มพลังให้สายโซ่ของท่านและแม้แต่ช่วยซ่อมแซมห่วงโซ่ที่หัก งานนั้นจะสำเร็จทีละข้อ

เราเป็นบุตรและธิดาของพระผู้เป็นเจ้า ตามแผนนิรันดร์แห่งความสุขของพระบิดา พระองค์ทรงประสิทธิ์ประสาทเราด้วยของประทานแห่งสิทธิ์เสรีทางศีลธรรมและเป็นผู้มีสิทธิ์เสรีพร้อมด้วยความสามารถที่จะกระทำ เราไม่ได้เป็นแค่วัตถุที่ถูกกระทำ เราเป็นผู้มีสิทธิ์เสรีของตนเองและควรทำงานอย่างทุ่มเทในการทำให้เกิดความชอบธรรมมาก11

ชีวิตแต่งงานที่สมหวังและมีความสุขไม่ได้มาจากการค้นหา แต่เกิดจากการสร้างสรรค์โดยชายและหญิงผู้รักษาพันธสัญญา ข้าพเจ้าเกรงว่าพวกท่านบางคนอาจกำลังทุ่มเทในการค้นหาบางสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงอย่างไม่รู้จบ ไม่มีคู่สมรสที่มีศักยภาพเพียบพร้อมผู้ที่สามารถปกป้องท่านจากความเจ็บปวดทางอารมณ์และความทุกข์ทางวิญญาณได้ แต่ด้วยพละกำลังของพระเจ้า ชายและหญิงที่ซื่อสัตย์ผู้มีสิทธิ์เสรีสามารถสร้างชีวิตแต่งงานที่สมหวังและครอบครัวนิรันดร์ที่พวกเขาใฝ่ฝัน

การรับใช้อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยในสัมพันธภาพของชีวิตแต่งงานเรียกร้องความอดทนและความมานะบากบั่นในโลกที่ส่งเสริมความเอาแต่ใจตนเองและความเห็นแก่ตัวอย่างไม่หยุดหย่อน แต่สิ่งนี้เริ่มต้นที่ตัวท่านเมื่อท่านกระทำและมุ่งหน้าด้วยศรัทธาในพระผู้ช่วยให้รอด แสวงหาความช่วยเหลือจากสวรรค์อย่างต่อเนื่อง และใช้สิทธิ์เสรีทางศีลธรรมของท่านอย่างชอบธรรม ท่านทำได้ด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า’

คำสัญญา พร และประจักษ์พยาน

พี่น้องที่รัก ข้าพเจ้าวิงวอนท่านด้วยสุดพลังแห่งจิตวิญญาณข้าพเจ้าให้ท่านเป็นห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อกันในสายโซ่ของรุ่นท่าน

การเป็นห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อกันเริ่มต้นที่ตัวท่านโดยทำสิ่งเรียบง่ายที่บราเดอร์และซิสเตอร์คอลล์ทำในการให้เกียรติพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์และสอนลูกๆ ของพวกเขาให้รักและดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์

การเป็นห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อกันเริ่มต้นที่ตัวท่านโดยมีความกล้าหาญและศรัทธาในพระผู้ช่วยให้รอดที่จะเลี้ยวขวา เหมือนกับบราเดอร์อันทวี

การเป็นห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อกันเริ่มต้นที่ตัวท่านโดยวางใจว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงสอนท่านทุกสิ่งและส่องสว่างเส้นทางของท่านแม้ในยามที่ท่านไม่รู้ล่วงหน้าอย่างแน่ชัดว่าท่านควรจะไปที่ใดและควรทำอะไร

การเป็นห่วงโซ่เชื่อมต่อกันเริ่มต้นที่ตัวท่านโดยไล่ความมืดไปจากบรรดาพวกท่าน12 อย่างขยันหมั่นเพียรและกล้าหาญ และยืนหยัดต่อต้านความชั่วร้ายที่เย้ายวนใจของยุคสุดท้าย

ข้าพเจ้าขอให้พรแห่งอัครสาวกสถิตกับท่าน แม้พรที่โดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ท่านจะเข้าใจมากยิ่งขึ้นถึงความสำคัญของตำแหน่งที่ท่านอยู่ในสายโซ่ของรุ่น ข้าพเจ้าทราบว่าท่านจะได้รับพรและพละกำลังขณะที่ท่านพยายามเป็นห่วงโซ่แข็งแรงที่เชื่อมต่อกัน และข้าพเจ้าสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้าท่านทำได้!

ข้าพเจ้าเป็นพยานอย่างเบิกบานใจว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรผู้ทรงพระชนม์ของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ข้าพเจ้าทราบว่าพระองค์ทรงพระชนม์ พระองค์ทรงฟื้น พระองค์ทรงรู้จักเราและรักเราเป็นรายบุคคล ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าสิทธิอำนาจและกุญแจฐานะปุโรหิตที่ผูกไว้บนแผ่นดินโลกและในสวรรค์ได้รับการฟื้นฟูมายังแผ่นดินโลกในยุคสุดท้ายนี้ และข้าพเจ้าทราบว่าเมื่อเราทำตามแผนนิรันดร์ของพระบิดา เรามีความสุขในชีวิตนี้ และครอบครัวของเราสามารถอยู่ด้วยกันชั่วนิรันดร์ ข้าพเจ้ายืนยันและเป็นพยานถึงสิ่งเหล่านี้ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ เอเมน