เยาวชน
ความหวังอิสราเอล


2:3

ความหวังอิสราเอล

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน: ข้าพเจ้าไม่สามารถเอ่ยคำแสดงความซาบซึ้งใจได้มากพอต่อคณะนักร้องเซมินารี พวกท่านทำได้เยี่ยมมาก ขอบคุณ ขอบคุณมากครับ ขณะที่ข้าพเจ้ามองรอบศูนย์การประชุมใหญ่แห่งนี้ซึ่งเต็มไปด้วยวิสุทธิชนยุคสุดท้ายผู้สวยงาม ข้าพเจ้ารู้สึกว่าในที่สุดข้าพเจ้าก็ได้มีครอบครัวใหญ่ตามที่หวังไว้แล้ว พวกท่าน 22,000 คนอยู่ที่นี่ค่ำคืนนี้และอีกหลายพันคนอยู่กับเราผ่านการถ่ายทอดนี้

ซิสเตอร์เนลสันกับข้าพเจ้าปลื้มปีติมากที่ได้อยู่กับท่านค่ำวันนี้ เราชอบอยู่กับท่าน เยาวชนแห่งศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย—และครูและบิดามารดาของท่าน

เราอยากได้ยินทุกท่านเล่าประสบการณ์ที่ท่านเตรียมรับการชุมนุมทั่วโลกของเรา เมื่อท่านอ่านพระคัมภีร์มอรมอนทุกวันและเมื่อท่านสวดอ้อนวอนเพื่อรับฟังสิ่งที่พระเจ้าตั้งพระทัยจะสอนท่าน

ข้าพเจ้าขอขอบคุณคณะนักร้องเซมินารีอีกครั้งที่ร้องเพลงสวดเปิดด้วยความรู้สึกเช่นนั้น เพลงสวดนั้น—“เราขอบพระทัยสำหรับศาสดา”—ถ้อยคำเหล่านั้นหันใจของเราไปหาท่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธเสมอ เราเป็นหนี้ท่านอย่างยิ่ง! ท่าน คือ ศาสดาพยากรณ์แห่งสมัยการประทานสุดท้าย! ลองนึกดู! ท่านมีอายุเท่าๆ กับท่านทั้งหลายเมื่อท่านได้รับการดลใจด้วยถ้อยคำของอัครสาวกยากอบ “ถ้าใครในพวกท่านขาดสติปัญญา ให้​คน​นั้น​ทูล​ขอ​จาก​พระ‍เจ้า​”1

ถ้อยคำเหล่านี้ผลักดันให้เด็กหนุ่มโจเซฟออกไปที่ดงไม้ใกล้บ้าน ท่านทุ่มเทใจให้พระผู้เป็นเจ้า

ฟ้าสวรรค์เปิด! โจเซฟเห็นพระบิดากับพระบุตรและเรียนรู้ด้วยตนเองว่าจะหาคำตอบต่อคำถามของท่านได้จากที่ใด

ข้าพเจ้าวิงวอนท่านแต่ละคนให้ทำดังที่เด็กหนุ่มโจเซฟทำ นำคำถามของท่านไปยังพระบิดาสวรรค์โดยตรงในการสวดอ้อนวอน ทูลขอพระองค์ ในพระนามของพระเยซูคริสต์ ให้ทรงนำทางท่าน ท่านจะเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง—เวลานี้ในวัยของท่าน—วิธีรับการเปิดเผยส่วนตัว ไม่มีสิ่งใดจะส่งผลดีต่อชีวิตท่านมากไปกว่านั้น!

ข้าพเจ้าสัญญากับ ท่าน—ไม่ใช่กับคนที่นั่งข้างท่าน แต่กับ ท่าน—ว่า ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดในโลก ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดบนเส้นทางแห่งพันธสัญญา—แม้ในชั่วขณะนี้หากท่านไม่ได้อยู่ บน ทางนั้น—ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่าหากท่านจะทำงานทางวิญญาณที่จำเป็นต่อการพัฒนาทักษะทางวิญญาณที่สำคัญยิ่งของการเรียนรู้ที่จะรับฟังสุรเสียงกระซิบของพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยความจริงใจและพากเพียร ท่านจะได้รับการนำทาง ทุกอย่าง ที่ท่านต้องการในชีวิต ท่านจะได้รับคำตอบต่อคำถามของท่านในวิธีและในเวลาของพระเจ้า และอย่าลืมปรึกษาบิดามารดาของท่านและผู้นำศาสนจักร พวกเขาก็แสวงหาการเปิดเผยเพื่อท่านเช่นกัน

เมื่อท่านทราบว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงกำกับดูแลชีวิตท่าน ถึงแม้จะมีความท้าทายและความผิดหวัง แต่ท่านจะรู้สึกถึงปีติและสันติสุข

ต่อไปนี้ เราอยากจะพูดกับท่านเกี่ยวกับความท้าทาย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อุดมการณ์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และงาน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด บนแผ่นดินโลก เราต้องการเชื้อเชิญให้ ท่าน มีส่วนในเรื่องนี้!

ข้าพเจ้าได้ขอให้ซิสเตอร์เวนดี้ เนลสันให้บริบทบางอย่างเกี่ยวกับข่าวสารสำคัญนั้น เชิญครับ ซิสเตอร์เนลสัน

ซิสเตอร์เวนดี้ ดับเบิลยู. เนลสัน: เยาวชนที่รักทั้งหลาย ผู้ที่เรารักและเชื่อมั่น ดิฉันขอเริ่มต้นด้วยเรื่องเล่าในวันหนึ่งที่ดิฉันกับสามีเห็นขณะขับรถเอทีวีผ่านเนินเขาในยูทาห์

ฤดูใบไม้ร่วงวันนั้นช่างสวยงาม เราชอบอยู่ท่ามกลางแมกไม้สีทองสวยงาม ต้นไม้ทุกต้น ลำต้นตั้งตรง สูงตระหง่านไปสู่สรวงสวรรค์

แมกไม้

จากนั้นเราเลี้ยวที่หัวมุมถนน ดิฉันเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งทำให้นึกถึงตนเองและความรู้สึกที่มักจะเกิดขึ้นกับดิฉันในสถานการณ์ต่างๆ

ลำต้นโค้งงอ

ท่านทราบไหมว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร ท่านเหลียวมองไปรอบๆ และเห็นคนรอบข้างท่านทุกคนมีความตั้งตรง สูงตระหง่านไปสู่สรวงสวรรค์ จะกล่าวเช่นนั้นก็ว่าได้

พวกเขาเข้าใจดีทุกเรื่อง พวกเขาสวมเสื้อผ้าสุภาพเรียบร้อย พูดสิ่งที่ถูกต้องเสมอ ไม่มีปัญหาใดๆ เชื่อฟังโดยไม่มีเงื่อนไข—และดูเหมือนไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลยในชีวิต

แล้วก็ มีท่านกับดิฉัน!

เยาวชนที่รัก ถึงเวลาที่จะหยุดเปรียบเทียบตัวเราเองกับผู้อื่นได้แล้ว ถึงเวลาที่จะเลิกมองตัวเราเองและผู้อื่นอย่างไม่ถูกต้อง ความจริงคือเราไม่ได้บกพร่องอย่างไร้ความหวังเหมือนที่เราคิด และคนอื่นๆ ไม่ได้ดีพร้อมเหมือนที่เราเห็น—ทุกคนยกเว้นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเยซูคริสต์

สิ่งเดียวที่สำคัญจริงๆ คือท่านกับดิฉันกำลังทำสิ่งที่เราให้คำมั่นสัญญา—แม้ทำพันธสัญญา—ในโลกก่อนเกิดกับพระบิดาบนสวรรค์ว่าเรา จะ ทำขณะที่เราอยู่ที่นี่บนแผ่นดินโลก

ดังนั้น ดิฉันขอถามท่านว่า ท่าน เกิดมาเพื่อทำอะไร

ดิฉันอยากจะให้ท่านดูวีดิทัศน์ 10 นาทีเกี่ยวกับชีวิตก่อนเกิดของท่านใน YouTube เสียเหลือเกิน

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธสอนว่าถ้าท่านจ้องมองสวรรค์ห้านาที ท่านจะรู้เรื่องในหัวข้อหนึ่งมากกว่าที่ท่านจะศึกษาตลอดชีวิตท่าน2 ลองวาดมโนภาพดูว่าถ้าท่านสามารถจ้องมองชีวิตก่อนเกิดของท่าน 10 นาที!

แน่นอนเราตระหนักว่าพระเจ้าทรงดึงม่านมาปิดความทรงจำเหล่านั้นด้วยพระปรีชาญาณ แต่ลองคิดดูสักหน่อยถึงผลที่จะเกิดขึ้นต่อชีวิตท่านเวลานี้หากท่านได้รับอนุญาตให้ดูชีวิตก่อนเกิดของท่าน 10 นาที

ดิฉันเชื่อว่าหากท่านสามารถเห็นตนเองดำเนินชีวิตอยู่กับพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์และกับพระเยซูคริสต์ หากท่านสามารถเฝ้าสังเกตสิ่งที่ทำในโลกก่อนเกิดและเห็นตนเองให้คำมั่นสัญญา—แม้พันธสัญญา—กับผู้อื่น รวมถึงครูพี่เลี้ยงและครูที่สอนท่าน หากท่านสามารถเห็นตนเองตอบโต้อย่างกล้าหาญต่อการโจมตีความจริงและยืนหยัดอย่างองอาจเพื่อพระเยซูคริสต์ ดิฉันเชื่อว่าพวกท่านทุกคนจะมีพลัง คำมั่นสัญญา และมุมมองนิรันดร์ที่เพิ่มขึ้นเพื่อช่วยท่านเอาชนะความสับสน ความสงสัย การต่อสู้ดิ้นรน และปัญหา ใดๆ ก็ตาม ทั้งหมด ที่ท่านมี ทั้งหมด เลย!

ดิฉันเชื่อว่าหากท่านสามารถจำคนที่ท่านบอกว่าท่านจะช่วยขณะอยู่ที่นี่บนแผ่นดินโลก หรือประสบการณ์ทุกข์ทรมานใดๆ ที่ท่านยินยอมจะผ่านพ้น ไม่ว่า สถานการณ์ยากลำบากใดๆ ก็ตามที่ท่านประสบอยู่ในเวลานี้—หรือในอนาคต—ท่านจะบอกว่า “โอ้ ฉันจำได้แล้ว ฉันเข้าใจแล้ว ฉันเข้าใจสถานการณ์ยากลำบากนี้แล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า ฉันทำได้!”

มีอีกอย่างที่ดิฉันเชื้อเชิญให้ท่านนึกถึง ดิฉันชอบคิดว่าเราแต่ละคนมาแผ่นดินโลกพร้อมกับม้วนกระดาษแนบติดมากับวิญญาณเราซึ่งเขียนว่า “สิ่งที่ต้องทำขณะอยู่บนแผ่นดินโลก”

ลองมาคุยกันว่าในม้วนกระดาษนั้นมีอะไรบ้าง แน่นอนว่าเราจะพูดคุยกันถึงสิ่งต่างๆ ห้าข้อที่เขียนอยู่ในม้วนกระดาษของท่านตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

หนึ่ง ท่านมาเพื่อรับร่างกายมรรตัย และนั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก

สอง ท่านมาเพื่อรับการทดสอบ

ท่านสังเกตหรือไม่ว่าการทดสอบของเรามักจะเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ที่จะควบคุมความอยากและกิเลสตัณหาของร่างกายเรา ซึ่งบางครั้งอาจควบคุมไม่ได้ หากท่านกำลังประสบปัญหากับผลตกค้างของการเสพติดทุกรูปแบบ หรือบาปหนักที่ยังไม่ได้กลับใจ ดิฉันกระตุ้นให้ท่านปลดภาระตนเองโดยการพูดคุยกับอธิการของท่าน—วันนี้ อธิการถือกุญแจฐานะปุโรหิตที่ช่วยท่านได้

สิ่งที่ต้องทำข้อที่สามขณะอยู่บนแผ่นดินโลกคือ เลือกติดตามพระเยซูคริสต์และยืนหยัดเพื่อพระองค์ ดังที่ท่านทำมาแล้วในโลกก่อนเกิด

สี่ เลือกที่จะกลับใจทุกวันและรับส่วนศีลระลึกทุกสัปดาห์ เมื่อท่านทำเช่นนั้น ท่านจะได้รับการเยียวยา เสริมสร้างความเข้มแข็งและขยาย จนบริสุทธิ์และสูงส่งในที่สุด ผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์

ต่อไปนี้คือข้อที่ห้าในรายการของท่าน การหาพันธกิจมรรตัยของท่านและทำให้เกิดสัมฤทธิผล เพื่อนที่รัก ในโลกก่อนเถิดท่านกับดิฉันต่างได้รับพันธกิจพิเศษที่ต้องทำให้เกิดสัมฤทธิผลขณะเราอยู่ที่นี่บนแผ่นดินโลก

เรามีโอกาสที่จะทำพันธกิจมรรตัยของเราให้เกิดสัมฤทธิผล แต่เราไม่ ต้อง ทำก็ได้ ไม่มีใครจะ บังคับ เรา เรามีสิทธ์เสรีในการเลือกใช้เวลา พลังงาน พรสวรรค์และแหล่งช่วยของเรา อันที่จริง สิ่ง ที่เราเลือกทำเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบจริงๆ

ท่านกับดิฉันเลือกได้ เราจะเลือกทำ สุดความสามารถ เพื่อทำให้พันธกิจพิเศษของเราเกิดสัมฤทธิผลตามที่เราถูกส่งมาแผ่นดินโลกเพื่อการนี้หรือไม่

ขณะที่ท่านไตร่ตรองคำถามนั้น ขอให้เราเปลี่ยนมาพูดถึงเหตุผลที่ท่านอยู่ที่นี่บนแผ่นดินโลก—ใน ช่วงเวลานี้โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นช่วงเวลาพิเศษที่สุดในประวัติศาสตร์โลก

ทำไมท่านจึงอยู่ที่นี่บนแผ่นดินโลกเวลานี้

ทำไมท่านจึงไม่เกิดในทศวรรษ 1880 หรือ 30 ปีหลังจากนี้

ดิฉันขอเล่าประสบการณ์หนึ่งซึ่งสอนดิฉันโดยตรงเกี่ยวกับวันเวลาในประวัติศาสตร์ที่เราอยู่

เรามักจะพูดถึงการมีชีวิตอยู่ในยุคสุดท้าย นั่นเพราะเราเป็นวิสุทธิชนยุคสุดท้าย แต่บางทียุคนี้อาจเป็นยุค “สุดท้าย” มากกว่าที่เราเคยคิดไว้

ดิฉันตระหนักถึงความจริงนี้จากประสบการณ์ของดิฉันระหว่างช่วงเวลา 24 ชั่วโมงที่เริ่มต้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 2013 ดิฉันกับสามีอยู่ที่มอสโก รัสเซีย

ขณะประธานเนลสันประชุมกับผู้นำฐานะปุโรหิต ดิฉันมีโอกาสพิเศษที่ได้พบกับพี่น้องสตรีของเราเกือบ 100 คน ดิฉัน รัก พี่น้องสตรีชาวรัสเซีย พวกเธอน่าประทับใจมาก!

เมื่อดิฉันเดินไปที่แท่นพูด ดิฉันพบว่าตนเองกำลังพูดบางสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดไว้ก่อน ดิฉันบอกพี่น้องสตรีว่า “ดิฉันอยากรู้จักท่านโดยเชื้อสาย กรุณายืนขึ้นเมื่อดิฉันพูดถึงเผ่าแห่งอิสราเอลซึ่งแสดงถึงเชื้อสายที่ประกาศไว้ในปิตุพรของท่าน”

“เบ็นจามิน” สตรีสองคนยืนขึ้น

“ดาน” อีกสองคนยืนขึ้น

“รูเบน” อีกสองสามคนยืนขึ้น

“นัฟทาลี” อีกคนยืนขึ้น

ขณะที่ประกาศชื่อสิบสองเผ่าแห่งอิสราเอล—ตั้งแต่อาเชอร์ถึงเศบูลุน—และเมื่อพี่น้องสตรียืนขึ้น เราทุกคนประหลาดใจมากกับสิ่งที่เราเห็นกับตา รู้สึก และเรียนรู้

ท่านคิดว่าจากสิบสองเผ่าแห่งอิสราเอลมีกี่เผ่าที่อยู่ในการชุมนุมเล็กๆ ของสตรีไม่ถึง 100 คนในวันเสาร์นั้นที่มอสโก

สิบเอ็ดเผ่า! สิบเอ็ดจากสิบสองเผ่าแห่งอิสราเอลอยู่ที่นั่นในห้องเดียวกัน! เผ่าที่หายไปคือเลวี ดิฉันประหลาดใจ ช่างเป็นประสบการณ์ทางวิญญาณที่จับใจมากสำหรับดิฉัน

ทันทีหลังจากการประชุมเหล่านั้น ดิฉันกับสามีตรงไปที่เยเรวาน อาร์เมเนีย สองคนแรกที่เราพบเมื่อลงจากเครื่องบินคือประธานคณะเผยแผ่กับภรรยา เธอได้ยินเรื่องประสบการณ์นี้ในมอสโก และบอกเราด้วยความยินดีอย่างยิ่งว่า “ฉันเป็นเลวี!”

ลองนึกดูว่าเราตื่นเต้นเพียงใดเมื่อดิฉันกับสามีพบกับผู้สอนศาสนาในวันรุ่งขึ้น รวมถึงเอ็ลเดอร์คนหนึ่งจากเผ่าเลวีผู้บังเอิญมาจากกิลเบิร์ต แอริโซนา

เมื่อดิฉันยังเป็นเด็กเล็กๆ เข้าเรียนปฐมวัยในเรย์มอนด์ แอลเบอร์ตา แคนาดา ดิฉันเรียนรู้ว่าในยุคสุดท้าย—ก่อนการเสด็จมาครั้งที่สองของพระผู้ช่วยให้รอด—สิบสองเผ่าแห่งอิสราเอลจะมารวมกัน ความจริงนั้นช่างน่าตื่นเต้นสำหรับดิฉัน ขณะเดียวกันดิฉันก็รู้สึกหนักใจเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ลองนึกดูว่าดิฉันรู้สึกอย่างไรที่ได้อยู่กับสมาชิกจากสิบสองเผ่าแห่งอิสราเอลภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง!

ตั้งแต่นั้นมาดิฉันเรียนรู้ว่าดิฉันไม่ควรขอให้พี่น้องสตรีเหล่านั้นระบุตนเองโดยเชื้อสายเพราะปิตุพรศักดิ์สิทธิ์และเชื้อสายที่ประกาศไว้ในนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ดิฉันขอบพระทัยจริงๆ สำหรับโอกาสพิเศษที่ได้เห็นผลของการรวบรวมอิสราเอลด้วยตนเอง ผลที่ตามมาจากประสบการณ์ดังกล่าวไม่เคยลดลงเลยในใจหรือความคิดของดิฉัน

เยาวชนที่รัก นี่เป็นยุคสุดท้ายจริงๆ! ไม่เคย มีช่วงเวลาแบบนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลกนี้ ไม่เคยเลย! ในโลกก่อนเกิด ท่านกับดิฉันให้คำมั่นสัญญาที่จะทำงานสำคัญขณะอยู่ที่นี่บนแผ่นดินโลก และด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า เราจะทำ! ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

ประธานเนลสัน: ขอบคุณครับเวนดี้ ผมรักคุณ!” เธอยอดเยี่ยมมากใช่ไหม

เยาวชนที่รักทั้งหลาย แน่นอนนี่ เป็น ยุคสุดท้าย และพระเจ้าทรงกำลังเร่งงานของพระองค์ในการรวบรวมอิสราเอล การรวบรวมนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินโลกในปัจจุบัน ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ในด้านมิติ ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ในด้านความสำคัญ ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ในด้านความสง่างาม และถ้าท่านเลือก ถ้าท่านต้องการ ท่านสามารถเป็นส่วนสำคัญได้มาก ท่านสามารถเป็นส่วนสำคัญของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ บางสิ่งที่โอ่อ่า บางสิ่งที่สง่างาม!

เมื่อเราพูดถึง การรวบรวม เราเพียงแต่กล่าวความจริงพื้นฐานนี้ บุตรธิดาทุกคนของพระบิดาบนสวรรค์ในทั้งสองด้านของม่าน สมควรได้ยินข่าวสารพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ พวกเขาตัดสินใจด้วยตนเองว่าพวกเขาอยากจะรู้มากขึ้นหรือไม่

คนที่มีเชื้อสายมาจากเผ่าต่างๆ ของอิสราเอลคือคนที่ใจของพวกเขาน่าจะหันไปหาพระเจ้า พระองค์ตรัสว่า “แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา เรารู้จักแกะเหล่านั้น และแกะนั้นก็ตามเรา”3 คนที่มีเชื้อสายแห่งอิสราเอลจะรับรู้ได้ง่ายว่าพระเจ้าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขาและจะปรารถนาจะรับการรวบรวมเข้าสู่ฝูงของพระองค์ พวกเขาจะต้องการเป็นสมาชิกศาสนจักรของพระองค์ ทำพันธสัญญากับพระองค์และพระบิดาบนสวรรค์ และรับศาสนพิธีที่จำเป็น

พระเจ้าตรัสกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธว่าเวลานี้ ซึ่งหมายถึงสมัยของเรา คือโมงที่สิบเอ็ดและครั้งสุดท้ายที่พระองค์จะทรงเรียกคนงานเข้าไปในสวนองุ่นของพระองค์เพื่อจุดประสงค์ชัดเจนในการรวบรวมผู้ที่ถูกเลือกไว้จากสี่เสี้ยวของแผ่นดินโลก4

คำถามที่ข้าพเจ้ามีให้ทุกท่านระหว่างอายุ 12 ถึง 18 ปีคืนนี้คือ ท่านอยากจะเป็นส่วนสำคัญของความท้าทาย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อุดมการณ์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และงาน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด บนแผ่นดินโลกในปัจจุบันนี้หรือไม่

ท่านอยากช่วยรวบรวมอิสราเอลระหว่างยุคสุดท้ายอันล้ำค่านี้หรือไม่ ท่านซึ่งเป็นคนที่ได้รับเลือก เต็มใจช่วยหาคนที่ได้รับเลือกผู้ที่ไม่ได้ยินข่าวสารของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูหรือไม่ ท่านอยากจะเป็นหนึ่งใน “​ผู้‍สื่อ‍สาร​ที่​รวด‍เร็ว” ตามที่ศาสดาพยากรณ์อิสยาห์กล่าวถึงหรือไม่5

การมีส่วนร่วมในการรวบรวมอิสราเอลจะเรียกร้องให้ท่านเสียสละบางอย่าง อาจถึงกับเรียกร้องให้ท่านเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิต แน่นอนว่าจะใช้เวลาและพลังงานตลอดจนพรสวรรค์ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ท่าน ท่านยังคงสนใจหรือไม่

ลองนึกถึงความตื่นเต้นและความเร่งรีบของทั้งหมด ศาสดาพยากรณ์ทุกท่านเริ่มตั้งแต่อาดัมมองเห็นยุคสมัยของเรา และศาสดาพยากรณ์ทุกท่านได้พูดถึงยุคสมัย ของเรา เมื่ออิสราเอลจะถูกรวบรวมและโลกจะพร้อมรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระผู้ช่วยให้รอด ลองนึกดู! จากบรรดาคนทั้งหมดที่เคยอยู่บนแผ่นดินโลก เรา เป็นคนที่มีส่วนร่วมในงานรวบรวมครั้งสุดท้ายที่สำคัญยิ่งนี้ ช่างน่าตื่นเต้น!

พระบิดาบนสวรรค์ทรงเก็บรักษาดวงวิญญาณที่สูงส่งที่สุดหลายดวงของพระองค์—บางทีข้าพเจ้าอาจพูดได้ว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดของพระองค์—สำหรับระยะสุดท้ายนี้ ดวงวิญญาณที่สูงส่งเหล่านั้น—ผู้เล่นที่ดีที่สุดเหล่านั้น วีรบุรุษวีรสตรีเหล่านั้น—คือ ท่าน!

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าเวลานี้คือเวลาแห่งการรวบรวม และนี่เป็นเรื่องจริง ในปีที่ข้าพเจ้าเกิด สมาชิกภาพทั้งหมดของศาสนจักรมีน้อยกว่า 600,000 คน ไม่มีสมาชิกในอเมริกาใต้เลย วันนี้มีสมาชิกมากกว่า 16 ล้านคนทั่วโลก โดยเกือบ 3 ล้านคนอยู่ในอเมริกาใต้

ข้าพเจ้าขอเล่าประสบการณ์ในปี 1979 สมัยนั้นข้าพเจ้ากำลังรับใช้เป็นประธานสามัญโรงเรียนวันอาทิตย์ ข้าพเจ้าได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมของผู้นำศาสนจักรซึ่งประธานศาสนจักร ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์เป็นผู้พูด ท่านสั่งให้เราสวดอ้อนวอนว่าประตูแห่งประชาชาติทั้งหลายจะเปิด ทั้งนี้เพื่อให้พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์สามารถไปสู่คนทั้งปวงบนแผ่นดินโลก ท่านกล่าวถึงประเทศจีนโดยเฉพาะและขอให้เราสวดอ้อนวอนเพื่อผู้คนในประเทศจีน ท่านยังกล่าวด้วยว่า “เราควรรับใช้ผู้คนชาวจีน เราควรเรียนภาษาของพวกเขา เราควรสวดอ้อนวอนให้พวกเขาและช่วยพวกเขา”

ข้าพเจ้ากลับบ้านไปหาภรรยา แดนท์เซล (ผู้ถึงแก่กรรมไป 13 ปีกว่าแล้ว) และบอกเธอว่า “ประธานคิมบัลล์ขอให้เราในการประชุมนั้นเรียนภาษาจีน! และผม ไม่ ได้ยินท่านพูดว่า ‘ทุกคนยกเว้นบราเดอร์เนลสัน!’ ดังนั้นคุณจะเต็มใจเรียนภาษาจีนกลางกับผมไหม” แน่นอนว่าเธอเห็นด้วยและเราเรียนภาษาจีนกลาง

หกสัปดาห์หลังคำสั่งของประธานคิมบัลล์ ข้าพเจ้ากำลังเข้าร่วมการประชุมประจำปีของสมาคมศัลยแพทย์ทรวงอกแห่งอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นที่บอสตัน แมสซาชูเซตส์ เช้าวันนั้น ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนในโรงแรมสำหรับผู้คนในประเทศจีน ตามที่ประธานคิมบัลล์ขอ ข้าพเจ้าไปที่การประชุมแรกของวันนั้นและนั่งในที่ซึ่งข้าพเจ้านั่งมาตลอดในการประชุมด้านงานอาชีพเหล่านี้—แถวหน้าสุดของห้อง แต่เมื่อการประชุมดำเนินไป ข้าพเจ้ารู้สึกอึดอัดมากขึ้นบนเก้าอี้ของข้าพเจ้า เมื่อไฟหรี่ลงสำหรับการนำเสนอสไลด์ ข้าพเจ้าลุกจากเก้าอี้และเดินอย่างเงียบๆ ไปที่หลังห้อง—ซึ่งโดยปกติข้าพเจ้าจะไม่มีวันนั่งตรงนั้น เมื่อไฟสว่างอีกครั้ง ข้าพเจ้าพบว่าตนเองกำลังนั่งอยู่ข้างแพทย์ชาวจีน เขาแนะนำตัวว่าเป็นศาสตราจารย์วู หยิง-ข่ายจากปักกิ่ง ประเทศจีน!

หลังจากการสนทนาอย่างมีไมตรีจิตกับเขา ข้าพเจ้าเชื้อเชิญเขามาเยี่ยมซอลท์เลคซิตี้และให้คำบรรยายที่โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยยูทาห์ เขาตอบรับด้วยความยินดีและให้คำบรรยายอย่างดีเยี่ยม จากนั้นเขากลับไปประเทศจีน

ไม่นานหลังจากนั้น เขาเชิญข้าพเจ้าไปเป็นศาสตรจารย์ศัลยศาสตร์รับเชิญที่มหาวิทยาลัยแพทย์ซานตงในจี่หนาน ประเทศจีน เหตุการณ์ครั้งนั้นนำไปสู่คำเชื้อเชิญในเวลาต่อมาให้ข้าพเจ้าเป็นศาสตราจารย์รับเชิญที่มหาวิทยาลัยอีกสองแห่งในประเทศจีน

ประสบการณ์ด้านงานอาชีพที่พิเศษเหล่านี้—ก่อนการเรียกเป็นอัครสาวกสิบสอง—มาถึงจุดสูงสุดเมื่อศัลยแพทย์ชาวจีนขอให้ข้าพเจ้าผ่าตัดหัวใจเพื่อรักษาชีวิตนักร้องโอเปร่าที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ข้าพเจ้าทำ และขอบพระทัยที่การผ่าตัดครั้งนั้นประสบความสำเร็จ นั่นเป็นครั้งสุดท้ายในงานอาชีพของข้าพเจ้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

เป็นเวลาเกือบ 40 ปีแล้ว ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนให้ผู้คนในประเทศจีน ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีที่ได้คบหาสมาคมกับเพื่อนร่วมงานทางการแพทย์และเพื่อนที่รักคนอื่นๆ ในประเทศจีน ข้าพเจ้าปลื้มปีติอย่างยิ่งที่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้เป็น “สหายเก่าแก่ของจีน”

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าเมื่อเราทำตาม สิ่งใดก็ตาม ที่ศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าขอให้เราทำ หนทางจะเปิดและชีวิตจะเปลี่ยน

บัดนี้ ข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะถามตนเองว่า “ในฐานะวัยรุ่นคนหนึ่ง ฉันจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยรวบรวมอิสราเอล” ข้าพเจ้ากับซิสเตอร์เนลสันถามคำถามเดียวกันนั้น และอีกสองสามคำถาม กับกลุ่มเยาวชนอายุ 12 ถึง 18 ปี ซึ่งหลายท่านอยู่ที่นี่ค่ำคืนนี้

เราถามคำถามนี้ก่อน “การรวบรวมอิสราเอลคืออะไร และมีความหมายต่อท่านอย่างไร” คำตอบของพวกเขาหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่บ่งบอกว่าพวกเขาไม่แน่ใจว่าคืออะไร ค่ำคืนนี้ เราอยากให้ท่านรู้ว่าสุดท้ายแล้วการรวบรวมอิสราเอลหมายถึงการเสนอพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ให้บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าในทั้งสองด้านของม่านผู้ที่ยังไม่ได้ทำพันธสัญญาสำคัญกับพระผู้เป็นเจ้าหรือรับศาสนพิธีที่จำเป็นสำหรับตนเอง

บุตรธิดาทุกคนของพระบิดาบนสวรรค์สมควรได้รับโอกาสในการ เลือก ติดตามพระเยซูคริสต์ ยอมรับและรับพระกิตติคุณของพระองค์พร้อมด้วยพรทั้งหมดของพระกิตติคุณ—ใช่แล้ว พรทั้งหมดที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาต่อเชื้อสายแห่งอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ซึ่งท่านทราบกันดีว่าคืออิสราเอล

เยาวชนสุดพิเศษของข้าพเจ้า พระองค์ทรงส่งท่านมาแผ่นดินโลกในเวลานี้โดยเฉพาะ เวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก เพื่อช่วยรวบรวมอิสราเอล ไม่มีสิ่งใด ที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินโลกเวลานี้ที่สำคัญไปกว่าเรื่องดังกล่าว ไม่มีสิ่งใด ที่จะบังเกิดผลลัพธ์ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ ไม่มีสิ่งใด เลย

การรวบรวมนี้ควรมีความหมาย ทุกอย่าง ต่อท่าน นี่ คือ พันธกิจซึ่งท่านถูกส่งมาแผ่นดินโลกเพื่อการนี้

ฉะนั้นคำถามที่ข้าพเจ้าจะถามท่านคือ “ท่านเต็มใจเข้าร่วมกองทัพเยาวชนของพระเจ้าเพื่อช่วยรวบรวมอิสราเอลหรือไม่” ขอให้นึกถึงเรื่องนี้ อย่าเพิ่งตอบ

กลับไปที่คำถามที่ข้าพเจ้ากับซิสเตอร์เนลสันถามเพื่อนรุ่นเยาว์ของเรา เราถามว่า “ถ้าศาสดาพยากรณ์เชื้อเชิญคนที่มีอายุ 12 ถึง 18 ปีทุกคนในศาสนจักรให้ช่วยกันรวบรวมอิสราเอล ท่านจะเต็มใจทำสิ่งใด”

เยาวชนตอบด้วยความเห็นที่สร้างแรงบันดาลใจ เช่น “ถ้าศาสดาพยากรณ์เชื้อเชิญให้เราช่วยกันรวบรวมอิสราเอล ฉันจะเข้าร่วม อย่างแน่นอนที่สุด อีกคนบอกว่า “ฉันจะละทิ้งทุกอย่างที่ทำอยู่และช่วย!” อีกคน “ฉันจะไปและทำ อะไรก็ตาม ที่ท่านขอให้ฉันทำ เพราะศาสดาพยากรณ์เป็นผู้สั่งสอนจากพระผู้เป็นเจ้า”

คำตอบของพวกเขายังรวมถึงคำตอบเหล่านี้ “ฉันจะเต็มใจทำ [งานประวัติครอบครัว] มากขึ้น ฉันจะเปิดกว้างมากขึ้นและพยายามมากขึ้นที่จะพูดกับผู้อื่นถึงพระกิตติคุณ ฉันจะเป็นแบบอย่างที่ดีในการแสดงคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ ฉันจะทำบัพติศมาแทนคนตายมากขึ้น เปลี่ยนวิถีชีวิตและการเลือกบางอย่างของฉัน เดินทางไปทุกแห่งที่ท่านต้องการให้ฉันไป เรียนรู้ภาษาใหม่ พบผู้คนใหม่ๆ ให้ยืมพระคัมภีร์มอรมอนสำหรับคนที่ไม่เคยอ่าน และฉันจะเป็นคนใจดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้”

เรายังถามเยาวชนเหล่านี้ว่าพวกเขาเต็มใจจะเสียสละอะไรเพื่อจะช่วยรวบรวมอิสราเอล เยาวชนทำให้เราประทับใจอีกครั้ง พวกเขาตอบว่า “ฉันจะใช้เวลาเล่นกีฬาให้น้อยลงเพื่อฉันจะช่วยบุคคลที่ต้องการรู้ความจริง ฉันจะไม่ออกไปเที่ยวกับเพื่อนแต่ชวนพวกเขามาพระวิหารแทน ฉันจะลดเวลาใช้โทรศัพท์ลงแน่นอน ฉันใช้เวลาบนหน้าจอน้อยลง ฉันจะเต็มใจ [แม้กระทั่ง] สละเวลานอนกลางวันบ่ายวันอาทิตย์!”

เราถามว่า “ถ้าท่านต้องการช่วยรวบรวมอิสราเอล ท่านอยากจะเริ่มทำหรือหยุดทำอะไร” พวกเขาขานรับด้วยคำตอบอย่างเช่น “ฉันจะศึกษาพระคัมภีร์มากขึ้น และตั้งใจมากขึ้น เพื่อจะตอบคำถามที่ผู้คนอาจถามฉันได้ ฉันจะใช้เวลากับสื่อสังคมออนไลน์น้อยลง จะมีส่วนร่วมมากขึ้นในงานสมาชิกผู้สอนศาสนาที่เรียบง่าย รวมถึงการรับใช้ประจำวัน ฉันจะใช้เวลากับโทรศัพท์น้อยลง และเมื่อฉันใช้โทรศัพท์ ฉันจะโพสต์รูปภาพหรือข่าวสารทางวิญญาณลงในสื่อสังคมออนไลน์ ฉันจะศึกษาคำพูดการประชุมใหญ่สามัญเพราะนั่นสำคัญมาก ฉันจะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อจะได้มีร่างกายแข็งแรง ฉันจะหยุดคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวพันกับตัวฉัน” ขอบคุณพี่น้องทุกท่าน สำหรับคำตอบต่อคำถามของเรา

คิดถึงเรื่องนี้ เยาวชนที่รัก เวลานี้ข้าพเจ้ากำลังเตรียมตัวสำหรับวันที่จะต้องรายงานต่อศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ ประธานบริคัม ยังก์ และท่านอื่นๆ—และในที่สุดต่อพระเจ้า—เกี่ยวกับความเป็นผู้พิทักษ์ของข้าพเจ้าในฐานะศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลกในปัจจุบัน ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้ท่านใดถามว่า “บราเดอร์เนลสัน ทำไมท่านจึงไม่ชัดเจนกับเยาวชนมากกว่านี้เกี่ยวกับบทบาท ของพวกเขา ในการรวบรวมอิสราเอล เหตุใดท่านจึงไม่กล้าหาญมากขึ้นในการเกณฑ์พวกเขาให้มีส่วนร่วม”

ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเชื้อเชิญเยาวชนชายหญิง ทุกคน ที่อายุระหว่าง 12 ถึง 18 ปีในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายให้เข้าร่วมกองทัพเยาวชนของพระเจ้าเพื่อช่วยรวบรวมอิสราเอล

สิ่งใดจะช่วยท่าน ขณะที่ท่านอ่านพระคัมภีร์มอรมอนต่อไปทุกวัน ท่านจะเรียนรู้หลักธรรมแห่งการรวบรวม6 ความจริงเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ การชดใช้ของพระองค์ และความสมบูรณ์ของพระกิตติคุณของพระองค์ซึ่งไม่พบในพระคัมภีร์ไบเบิล พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศูนย์กลางต่อการรวบรวมอิสราเอล7 ที่จริงแล้ว หากไม่มีพระคัมภีร์มอรมอน การรวบรวมอิสราเอลที่สัญญาไว้ก็จะไม่เกิดขึ้น

และบัดนี้ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านเตรียมตนเองโดยทำสิ่งสำคัญอีกห้าข้อ—ห้าข้อที่จะเปลี่ยนท่านและช่วยท่านเปลี่ยนโลก

หนึ่ง เลิกการพึ่งพาสื่อสังคมออนไลน์ตลอดเวลา เพื่อลดอิทธิพลทางโลกที่มีต่อท่าน

ข้าพเจ้าขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับเยาวชนชายคนหนึ่งอายุเท่าท่าน หลานชายเพื่อนรักของข้าพเจ้า เขาเป็นที่นิยมในหมู่เพื่อนและเป็นผู้นำในโรงเรียนมัธยมปลาย เมื่อไม่นานมานี้ บิดามารดาพบบางสิ่งในโทรศัพท์ของเขาซึ่งไม่เหมาะสมสำหรับผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ พวกเขายืนกรานให้บุตรชายออกจากสื่อสังคมออนไลน์สักระยะหนึ่ง พวกเขาเปลี่ยนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของบุตรชายเป็นโทรศัพท์ฝาพับ เขาตกใจ เขาจะติดต่อกับเพื่อนๆ อย่างไร

ในตอนแรกเขาโกรธพ่อแม่มาก แต่สองสามวันผ่านไป เขาขอบคุณพ่อแม่ที่นำเอาโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของเขาไป เขาบอกว่า “ผมรู้สึกเป็นอิสระครั้งแรกในเวลานานมาก” ปัจจุบัน เขาโทรหาเพื่อนโดยใช้โทรศัพท์ฝาพับเพื่อติดต่อกับพวกเขา เขาพูดกับเพื่อนจริงๆ แทนที่จะส่งเป็นข้อความตลอด!

มีการเปลี่ยนแปลงอื่นใดอีกที่เกิดขึ้นในชีวิตของเยาวชนชายคนนี้ เขาบอกว่าเวลานี้เขาชอบเป็นอิสระจากชีวิตปลอมๆ ที่สื่อสังคมออนไลน์สร้างขึ้น เขามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในชีวิตแทนที่จะก้มหน้าอยู่กับโทรศัพท์ตลอดเวลา เขามีส่วนร่วมในกิจกรรมนันทนาการกลางแจ้งแทนที่จะเล่นวิดีโอเกมส์ เขาคิดบวกและช่วยเหลือครอบครัวมากขึ้น เขามองหาโอกาสในการรับใช้ เขาเป็นผู้ฟังที่ดีขึ้นที่โบสถ์ มีสีหน้าสดใสมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น และเตรียมรับใช้งานเผยแผ่อย่างแข็งขัน! ทั้งหมดนี้เพราะเขาตัดขาดจากอิทธิพลแง่ลบของสื่อสังคมออนไลน์

ดังนั้นคำเชื้อเชิญข้อแรกที่ข้าพเจ้าให้ท่านวันนี้คือให้เลิกพึ่งพาสื่อสังคมออนไลน์ตลอดเวลาโดยการละเว้นสื่อสังคมออนไลน์เจ็ดวัน ข้าพเจ้าทราบว่ามีสิ่งที่ดีเกี่ยวกับสื่อสังคมออนไลน์ แต่ถ้าท่านสนใจข่าวสารจากสื่อสังคมออนไลน์มากกว่าเสียงกระซิบของพระวิญญาณ ท่านกำลังทำให้ตนเองตกอยู่ในอันตรายทางวิญญาณ—รวมถึงอันตรายจากการประสบความโดดเดี่ยวและความซึมเศร้าอย่างรุนแรง ท่านกับข้าพเจ้ารู้จักเยาวชนที่ได้รับอิทธิพลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ทำหรือพูดสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาจะไม่ทำหรือพูดต่อหน้า ตัวอย่างเช่นการข่มเหงรังแก

ข้อเสียอีกอย่างของสื่อสังคมออนไลน์คือการสร้างภาพที่ขัดกับความเป็นจริง ทุกคนโพสต์ภาพที่สนุกที่สุด ผจญภัยที่สุด และน่าตื่นเต้นที่สุดของตนเอง ซึ่งสร้างความประทับใจผิดๆ ว่าทุกคนยกเว้นท่านกำลังมีชีวิตที่สนุก ได้ผจญภัย และน่าตื่นเต้น สิ่งที่ปรากฏในหน้ารวมสื่อสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่ของท่านนั้นถูกบิดเบือน ไม่ก็เป็นของปลอม ดังนั้นขอให้ท่านหยุดพักจากของปลอมเป็นเวลาเจ็ดวัน!

เลือกเจ็ดวันต่อเนื่องและลงมือทำ! ดูว่าท่านสังเกตเห็นความแตกต่างในความรู้สึกและความคิดของท่านหรือไม่ และแม้แต่ วิธี ที่ท่านคิด ในระหว่างเจ็ดวันนั้น หลังจากเจ็ดวัน สังเกตว่ามีบางสิ่งที่ท่านอยากจะหยุดทำและบางสิ่งที่ท่านอยากจะเริ่มทำหรือไม่

การละเว้นจากสื่อสังคมออนไลน์นี้สามารถเป็นเรื่องระหว่างท่านกับพระเจ้า เป็นเครื่องหมายที่ท่านแสดงให้พระองค์ทรงเห็นว่าท่านเต็มใจก้าวออกไปจากโลกเพื่อเข้าร่วมกองทัพเยาวชนของพระองค์

คำเชื้อเชิญข้อที่สองคือให้สละเวลารายสัปดาห์ให้พระเจ้า เป็นเวลาสามสัปดาห์ต่อเนื่องกัน เพื่อให้พระองค์ทรงทราบว่าท่านต้องการเป็นส่วนหนึ่งในกองทัพเยาวชนของพระองค์—มากกว่าสิ่งอื่นใดที่ท่านต้องการ เป็นเวลาสามสัปดาห์ให้ท่านเลิกทำบางสิ่งที่ท่านชอบทำและใช้เวลานั้นเพื่อช่วยรวบรวมอิสราเอล

เวลาใดก็ตาม ที่ท่านทำ สิ่งใดก็ตาม ที่ช่วยให้ ใครก็ตาม—จากทั้งสองด้านของม่าน—ก้าวไปสู่การทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าและรับบัพติศมาและศาสนพิธีพระวิหารที่จำเป็น ท่านกำลังช่วยรวบรวมอิสราเอล เป็นเรื่องที่เรียบง่ายอย่างยิ่ง

ขณะที่ท่านสวดอ้อนวอนเกี่ยวกับการสละเวลานี้ ท่านจะได้รับการนำทางให้รู้ว่าสิ่งใดที่ท่านจะเลิกทำในสัปดาห์นั้นและสิ่งใดที่ท่านจะทำแทนเพื่อช่วยรวบรวมอิสราเอล ตัวอย่างเช่น นักกอล์ฟรุ่นเยาว์อาจสละเวลาเล่นกอล์ฟรอบหนึ่งและใช้เวลานั้นในอ่างบัพติศมาพระวิหารแทน

คำเชื้อเชิญข้อที่สามคือให้ท่านทำแบบประเมินชีวิตที่ละเอียดถี่ถ้วนกับพระเจ้า และบางทีกับบิดามารดาและอธิการของท่าน เพื่อให้แน่ใจว่าเท้าของท่านยืนอย่างมั่นคงในเส้นทางแห่งพันธสัญญา หากท่านออกนอกเส้นทาง หรือหากมีบางสิ่งที่ท่านต้องปล่อยวางเพื่อช่วยให้ความคิดและใจของท่านบริสุทธิ์มากขึ้น วันนี้เป็นเวลาเหมาะสมที่สุดที่จะเปลี่ยนแปลง

หากท่านไม่แน่ใจว่าจะกลับใจอย่างไร ให้พูดคุยกับอธิการหรือบิดามารดาของท่านหรือทั้งสองคน พวกเขาจะช่วยให้ท่านเข้าใจการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ พวกเขาจะช่วยให้ท่านประสบปีติที่เกิดจากการกลับใจ ที่แท้จริงเสมอ

อย่า ออกนอกเส้นทางแห่งพันธสัญญาเกินหนึ่งนาที ขอให้กลับมาผ่านการกลับใจที่แท้จริง เดี๋ยวนี้ เราต้องการให้ท่านอยู่กับเราในกองทัพเยาวชนนี้ของพระเจ้า ซึ่งจะไม่เหมือนเดิมหากไม่มีท่าน!

คำเชื้อเชิญข้อที่สี่คือให้ท่านสวดอ้อนวอนทุกวันว่าบุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้าจะรับพรแห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ท่านกับข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่เพื่อเห็น และจะเห็นต่อไป ว่ามีการรวบรวมอิสราเอลด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ และท่านสามารถเป็นส่วนหนึ่งของพลังเบื้องหลังการรวบรวมนั้น!

คำเชื้อเชิญข้อที่ห้าคือให้ท่านโดดเด่น จงแตกต่างจากโลก ท่านกับข้าพเจ้ารู้ว่าท่านต้องเป็นแสงส่องโลก ดังนั้น พระเจ้าทรงต้องการให้ท่านดูเหมือน ฟังเหมือน กระทำเหมือน และแต่งกายเหมือนสานุศิษย์ที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์ ใช่แล้ว ท่านกำลังมีชีวิตอยู่ในโลก แต่ท่านมีมาตรฐานต่างจากโลกมากซึ่งจะช่วยให้ท่านหลีกเลี่ยงรอยเปื้อนของโลก

โดยมีพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นเพื่อน ท่านจะมองทะลุผ่านวัฒนธรรมของการเยินยอความโด่งดังซึ่งเป็นที่นิยมชมชอบในสังคมของเรา ท่านสามารถฉลาดได้มากกว่าคนในรุ่นก่อน และถ้าบางครั้งมีคนเรียกท่านว่า “แปลก” จงสวมความแปลกนั้นเสมือนเป็นตราแห่งเกียรติยศและจงมีความสุขว่าแสงของท่านกำลังส่องสว่างเจิดจ้าในโลกนี้ที่กำลังมืดมนลงทุกที!

จงตั้งมาตรฐานให้โลกที่เหลือ! จงน้อมรับการเป็นคนแตกต่าง! สมุด เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน ควรเป็นมาตรฐาน ของท่าน นี่คือมาตรฐานที่พระเจ้าทรงคาดหวังให้เยาวชนทุกคนของพระองค์ปฏิบัติตาม บัดนี้ ในฐานะศาสดาพยากรณ์ผู้นอบน้อมถ่อมตนของพระองค์ ข้าพเจ้าวิงวอนให้ท่านศึกษาสมุดเล่มนี้—อีกครั้ง อ่านร่วมกับการสวดอ้อนวอนราวกับท่านไม่เคยอ่านมาก่อน ทำเครื่องหมายไว้ พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ สนทนากันเรื่องมาตรฐานกับเพื่อนๆ ของท่าน ตัดสินใจว่าท่านจะดำเนินชีวิตตามมาตรฐานเหล่านี้ มาตรฐาน ของท่าน อย่างไร ด้วยความเที่ยงตรงมากขึ้น

ท่านมีสมุดของตนเองแล้ว ดังนั้นคืนนี้เมื่อสิ้นสุดการประชุม หากท่านเลือกจะเข้าร่วมกองทัพ โปรดรับสมุด เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน ไว้และมอบสมุดเล่มใหม่นี้ให้เพื่อนคนหนึ่งที่อาจไม่รู้จักมาตรฐานของท่าน หรืออาจจะไม่ได้ดำเนินชีวิตตามนั้น

สวดอ้อนวอนว่าใครต้องการสมุดเล่มนี้ ท่านจะได้รับการนำทาง จะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น

ต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะสรุปโดยทบทวนคำเชื้อเชิญทั้งห้าข้อให้ท่านที่จะเข้าร่วมกองทัพเยาวชนของพระเจ้าเพื่อช่วยรวบรวมอิสราเอล

  1. ละเว้นจากสื่อสังคมออนไลน์เจ็ดวัน

  2. สละเวลารายสัปดาห์ให้พระเจ้าเป็นเวลาสามสัปดาห์

  3. จงดำเนินต่อไปบนเส้นทางพันธสัญญา หากท่านออกนอกทาง จงกลับใจและกลับเข้ามาบนเส้นทาง

  4. สวดอ้อนวอนทุกวันว่าบุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้าจะรับพรแห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

  5. จงโดดเด่น จงแตกต่าง จงเป็นแสงสว่าง มอบสมุด เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน ให้เพื่อนคนหนึ่ง

เยาวชนที่รักของข้าพเจ้า ท่านเป็นหนึ่งในบรรดาคนดีที่สุดที่พระเจ้า เคย ส่งมายังโลกนี้ ท่านมีสมรรถภาพที่จะฉลาดมากขึ้น มีปัญญามากขึ้น และมีอิทธิพลต่อโลกมากกว่าคนรุ่นก่อน!

สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านยืนกับเยาวชนทั่วโลกและประสบกับความตื่นเต้นของการเป็นสมาชิกกองทัพเยาวชนของพระเจ้าในกองทหารไซอันด้วยการร้องเพลงสวดปิด “ความหวังอิสราเอล” เพราะเพลงสวดนี้เกี่ยวข้องกับท่านทั้งหมด!

ข้าพเจ้าเป็นพยานจากสุดจิตวิญญาณข้าพเจ้าว่านี่คืองานของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระองค์ทรงพระชนม์ พระเยซูคือพระคริสต์ นี่คือศาสนจักรของพระองค์ ซึ่งได้รับการฟื้นฟูเพื่อทำพันธกิจของพระเจ้าให้บรรลุผลสำเร็จ รวมถึงการรวบรวมอิสราเอลที่ทรงสัญญาไว้

ท่านคือ ความหวัง ของอิสราเอล “เผ่าพันธ์ของวันที่สัญญา”!8 ข้าพเจ้าเป็นพยานในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. ยากอบ 1:5.

  2. ดู คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ (2007), 451.

  3. ยอห์น 10:27.

  4. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 33:3, 6.

  5. ดู อิสยาห์ 18:2.

  6. หลักคำสอนเกี่ยวกับการรวบรวมเชื้อสายแห่งอิสราเอลเป็นหนึ่งในบทเรียนที่สอนแต่แรกเริ่มที่สุดในพระคัมภีร์มอรมอน: “หลังจากเชื้อสายแห่งอิสราเอลกระจัดกระจายแล้วพระองค์จะทรงทำให้พวกเขารวมกันอีก; … กิ่งเดิมของต้นมะกอก, หรือเชื้อสายแห่งอิสราเอลที่เหลืออยู่, จะได้รับการต่อกิ่ง, หรือเข้าถึงความรู้เกี่ยวกับพระเมสสิยาห์องค์จริง, พระเจ้าของพวกเขาและพระผู้ไถ่ของพวกเขา” (1 นีไฟ 10:14).

  7. ดู, ตัวอย่าง, 3 นีไฟ 5:23–26.

  8. “ความหวังอิสราเอล,” เพลงสวด, บทเพลงที่ 121.