ภาคบ่ายวันเสาร์
ปรับความประสงค์ของเราให้สอดคล้องกับพระประสงค์
เนื้อหาคัดลอก
เพื่อนที่รัก เมื่อเราเลือกให้พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นอิทธิพลอันทรงพลังที่สุดในชีวิตเหนือกว่าการแสวงหาเพื่อรับใช้ตนเอง เราจะก้าวหน้าในความเป็นสานุศิษย์ มีใจและความนึกคิดเป็นหนึ่งเดียวกับพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อเราไม่ยอมให้วิถีของพระผู้เป็นเจ้ามีชัยในชีวิต เราย่อมถูกปล่อยไว้ตามลำพัง ไร้การนำทางจากการดลใจของพระเจ้า เราจะหาข้ออ้างให้ตนเองได้แทบทุกเรื่องไม่ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร และเรายังหาข้ออ้างที่จะทําอะไรตามทางตนเองได้ด้วย โดยอ้างว่า “ฉันแค่ทําตามทางของฉัน” …
… แม้สภาวการณ์ส่วนตัว เช่น พันธุกรรม สภาพภูมิศาสตร์ ปัญหาทางร่างกายและจิตใจ จะมีอิทธิพลต่อการเดินทางของเรา แต่ในเรื่องสําคัญจริงๆ ยังมีพื้นที่ภายในให้เราเลือกได้อย่างอิสระว่าจะตัดสินใจทําตามแบบแผนที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้เพื่อชีวิตเราหรือไม่ …
ในฐานะสานุศิษย์ของพระคริสต์ เราปรารถนาที่จะเดินตามเส้นทางที่ทรงบอกไว้ขณะทรงงานบนโลกนี้ เราไม่เพียงปรารถนาจะทําตามพระประสงค์และทุกสิ่งที่พระองค์จะพอพระทัยเท่านั้น แต่พยายามเลียนแบบพระองค์ด้วย …
ข้าพเจ้าเป็นพยานต่อท่านว่า การทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตจะทำให้เราสามารถค้นพบไข่มุกล้ำค่ายิ่งในโลกนี้—นั่นคืออาณาจักรสวรรค์ ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนให้เราทุกคนว่า เมื่อถึงเวลา เราจะสามารถประกาศด้วยความมั่นใจในพันธสัญญาต่อพระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์ว่า “สิ่งที่พระองค์เห็นสมควร ข้าพระองค์ก็เห็นสมควร”