แอลมา 18

แอมันรับใช้และสอนกษัตริย์ลาโมไน

เราไม่รู้ว่าทำไมกษัตริย์ลาโมไนนับถือแอมันมากตอนพบกันครั้งแรก บางทีอาจเป็นเพราะแอมันเต็มใจรับใช้หรือเพราะแสงสว่างของพระคริสต์ที่เขาสะท้อนออกมา หรือเพราะเขาเป็นบุตรชายของกษัตริย์โมไซยาห์ ไม่ว่าเหตุผลของความประทับใจตอนเจอแอมันครั้งแรกคืออะไร แต่ลาโมไนซาบซึ้งใจอย่างยิ่งที่แอมันรับใช้เขาตลอดช่วงสามวันต่อมาด้วยความซื่อสัตย์ เพราะสิ่งที่ลาโมไนรู้สึก เขาจึงเต็มใจเชื่อคำพูดทุกคำของแอมัน บทเรียนนี้ตั้งใจจะช่วยท่านหาวิธีช่วยให้ผู้อื่นมาใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นผ่านความรักและการรับใช้เหมือนพระคริสต์

สั่งสอนพระกิตติคุณ

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ สอนเมื่อครั้งอยู่ในฝ่ายประธานสูงสุดว่า:

หนึ่งในโอวาทครั้งใหญ่สุดที่เคยประกาศไว้เกี่ยวกับงานสอนศาสนาคือความคิดที่เรียบง่ายนี้จากนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี: “จงสั่งสอนพระกิตติคุณตลอดเวลาและใช้คำพูดหากจำเป็น” (ดู ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “การรอคอยบนถนนสู่ดามัสกัส” เลียโฮนา, พ.ค. 2011, 96)

• เราจะสั่งสอนพระกิตติคุณโดยไม่ใช้คำพูดได้อย่างไร?

• เหตุใดวิธีสั่งสอนเช่นนั้นจึงมีพลัง?

พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์พร้อมของการสอนพระกิตติคุณ

• ท่านนึกเรื่องที่พระเยซูทรงช่วยให้ผู้อื่นเรียนรู้เกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์โดยตรัสไม่มากนักออกหรือไม่?

ท่านคงจำได้ว่าเมื่อแอมันเริ่มงานเผยแผ่ท่ามกลางชาวเลมันในแผ่นดินอิชมาเอล เขาไม่ได้เริ่มสอนพระกิตติคุณทันที แต่เขาสัญญากับกษัตริย์ว่า “ข้าพเจ้าจะเป็นผู้รับใช้ท่าน” (แอลมา 17:25) แอมันจึงได้รับมอบหมายให้เฝ้าฝูงสัตว์ของกษัตริย์ โดยผ่านเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า เขาป้องกันฝูงสัตว์และผู้รับใช้คนอื่นๆ จากชาวเลมันที่พยายามทำให้แกะกระจัดกระจายไป

ขณะศึกษา แอลมา 18 ในวันนี้ ให้เอาใจใส่ผลการรับใช้อย่างซื่อสัตย์ของแอมันต่อกษัตริย์ลาโมไน คิดหาวิธีที่ท่านจะช่วยให้ผู้อื่นมาใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นโดยรักและรับใช้พวกเขาแบบพระคริสต์

ผลของความรักและการรับใช้เหมือนพระคริสต์ของแอมัน

อ่าน แอลมา 18:1–11 โดยมองหาผลจากการกระทำของแอมันต่อกษัตริย์ลาโมไน ท่านจะดู “Ammon Defends the King’s Flocks” ตั้งแต่ช่วงเวลา 2:57 ถึง 5:24 ด้วยขณะดูพระคัมภีร์ตาม วีดิทัศน์เรื่องนี้มีอยู่ที่ ChurchofJesusChrist.org

• ท่านประทับใจอะไรเกี่ยวกับการกระทำของแอมันในข้อเหล่านี้?

• การกระทำของแอมันมีผลต่อกษัตริย์อย่างไร?

หลังจากแอมันจัดเตรียมม้าและรถรบของกษัตริย์เสร็จแล้ว เขาเข้าเฝ้ากษัตริย์และสังเกตเห็นสีหน้าของลาโมไนเปลี่ยนไป โดยผ่านพระวิญญาณแอมันรับรู้ความคิดของกษัตริย์และรู้ว่าลาโมไนประหลาดใจกับวิธีที่แอมันปกป้องฝูงสัตว์ของกษัตริย์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ (ดู แอลมา 18:12–19)

อ่าน แอลมา 18:20–23 โดยมองหาสิ่งที่ลาโมไนปรารถนา ท่านจะดู “Ammon Teaches King Lamoni about the Gospel of Jesus Christ” ตั้งแต่ช่วงเวลา 0:23 ถึง 1:56 ด้วยขณะดูพระคัมภีร์ตาม วีดิทัศน์เรื่องนี้มีอยู่ที่ ChurchofJesusChrist.org

• ท่านคิดว่าความรักและการรับใช้เหมือนพระคริสต์ของแอมันมีบทบาทอะไรในความเต็มใจของกษัตริย์ที่จะเชื่อคำพูดของแอมัน?

ความจริงประการหนึ่งที่เราเรียนรู้ได้จากเรื่องนี้คือ พระผู้เป็นเจ้าทรงสามารถเตรียมใจคนที่เรารับใช้ให้พร้อมรับความจริงพระกิตติคุณผ่านความรักและการรับใช้เหมือนพระคริสต์ของเรา

1. ตอบคำถามต่อไปนี้:

• เราจะช่วยให้ผู้อื่นมาใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นผ่านความรักและการรับใช้เหมือนพระคริสต์ของเราด้วยวิธีใดได้บ้าง?

แอมันสอนความจริงพระกิตติคุณแก่ลาโมไน

อ่าน แอลมา 18:24–43 โดยมองหาสิ่งที่แอมันสอนลาโมไน ท่านจะเขียนสิ่งที่พบออกมาเป็นข้อๆ โดยให้ความสนใจกับคำว่า “เล่าให้ฟัง” “อรรถาธิบาย” และ “บอก” ท่านจะดูวีดิทัศน์เรื่อง “Ammon Teaches King Lamoni about the Gospel of Jesus Christ” ตั้งแต่ช่วงเวลา 1:56 ถึง 5:41 ที่ ChurchofJesusChrist.org ด้วยและดูพระคัมภีร์ตาม

2. ตอบคำถามต่อไปนี้:

• ความจริงสำคัญๆ อะไรบ้างที่แอมันช่วยให้ลาโมไนเข้าใจ?

• ความจริงเหล่านี้มีผลต่อลาโมไนอย่างไรบ้าง?

• เหตุใดความจริงเหล่านี้จึงสำคัญที่เราต้องเข้าใจวันนี้?

ถึงแม้ชาวเลมันจำนวนมากคิดว่าลาโมไนตายแล้วตอนล้มลงกับพื้นดิน แต่ต่อมาแอมันช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่ากษัตริย์ “อยู่ภายใต้เดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า” หรือ “พระผู้เป็นเจ้าพาเขาไป” (แอลมา 19:6) ท่านจะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของลาโมไนเมื่อท่านศึกษา แอลมา 19

การประยุกต์ใช้สิ่งที่ท่านเรียนรู้

นึกถึงคนที่ท่านรู้สึกว่าท่านจะช่วยให้มาใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นได้ผ่านความรักและการรับใช้เหมือนพระคริสต์

3. ตอบคำถามที่มีจุดนำต่อไปนี้อย่างน้อยสองข้อ:

• ท่านจะรับใช้หรือแสดงความรักเหมือนพระคริสต์ต่อบุคคลนี้ได้อย่างไร?

• ความพยายามของท่านอาจจะช่วยให้บุคคลนี้มาใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นได้อย่างไร?

• ท่านเห็นอุปสรรคอะไรบ้างที่ทำให้รับใช้บุคคลนี้ด้วยความรักอันบริสุทธิ์ได้ยาก? ท่านจะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นได้อย่างไร?

เลือกได้: ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมหรือไม่?

เหตุใดการรับใช้ผู้อื่นจึงเป็นวิธีแบ่งปันพระกิตติคุณที่ได้ผล?

ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์จากฝ่ายประธานสูงสุดใคร่ครวญความสำคัญของการเตรียมม้าของกษัตริย์หลังจากแอมันปกป้องฝูงสัตว์ของกษัตริย์ได้สำเร็จ ประธานอายริงก์กล่าวต่อจากนั้นว่า:

ไม่แปลกหรอกหรือ? เขาได้รับเรียกให้มาสอนหลักคำสอนแห่งความรอด แต่กลับอยู่ในคอกม้า ท่านไม่คิดหรอกหรือว่าเขาควรจะสวดอ้อนวอน อดอาหาร และปรับปรุงแผนการสอนของตน? เปล่าเลย เขาอยู่แต่ในคอกม้า …

… อย่า อย่าดูถูกคุณค่าทางวิญญาณของการทำสิ่งทางโลกให้คนที่ท่านรับใช้

… จงเป็นผู้รับใช้ของพวกเขา แล้วท่านจะรักพวกเขา และพวกเขาจะรู้สึกถึงความรักของท่าน ที่สำคัญกว่านั้นคือพวกเขาจะรู้สึกถึงความรักของพระผู้เป็นเจ้า (เฮนรีย์ บี. อายริงก์, “The Book of Mormon Will Change Your Life,” Ensign, Feb. 2004, 13–14)

ฉันควรรับใช้ผู้อื่นเพื่อให้พวกเขายอมรับพระกิตติคุณเท่านั้นหรือ?

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ กล่าวเมื่อครั้งอยู่ในฝ่ายประธานสูงสุดว่า:

พระผู้ช่วยให้รอดทรงรักบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าไม่ว่าสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคม เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา ความคิดเห็นทางการเมือง สัญชาติ หรือการรวมกลุ่มแบบอื่นของพวกเขาจะเป็นเช่นไร และเราควรรักให้ได้เช่นนั้น

รางวัลยิ่งใหญ่ที่สุดของพระผู้เป็นเจ้าจะมอบให้ผู้ที่รับใช้โดยไม่คาดหวังรางวัล มอบให้ผู้ที่รับใช้โดยไม่โอ้อวด ผู้ที่ค้นหาวิธีช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเงียบๆ ผู้ที่ปรนนิบัติผู้อื่นเพียงเพราะพวกเขารักพระผู้เป็นเจ้าและบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้า (ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “คนที่เป็นใหญ่ในพวกท่าน,” เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 79–80)

มีตัวอย่างอะไรบ้างของคนในยุคปัจจุบันที่มาใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นผ่านความรักเหมือนพระคริสต์ของผู้อื่น?

ดูวีดิทัศน์เรื่อง “The Transforming Power of Love” (5:08) ที่ ChurchofJesusChrist.org เพื่อดูตัวอย่างของคนหนุ่มสาวสามคนที่ถูกดึงมาศาสนจักรเพราะความรักที่พวกเขารู้สึกจากผู้อื่น