“1–7 มกราคม: พยานหลักฐานอีกเล่มหนึ่งของพระเยซูคริสต์ หน้าคำนำของพระคัมภีร์มอรมอน,” จงตามเรามา—สำหรับบ้านและศาสนจักร: พระคัมภีร์มอรมอน 2024 (2024)
“1–7 มกราคม หน้าคำนำของพระคัมภีร์มอรมอน,” จงตามเรามา—สำหรับบ้านและศาสนจักร: 2024 (2024)
1–7 มกราคม: พยานหลักฐานอีกเล่มหนึ่งของพระเยซูคริสต์
หน้าคำนำของพระคัมภีร์มอรมอน
ท่านอ่านยังไม่ถึง 1 นีไฟ บทที่ 1 ท่านก็สังเกตเห็นแล้วว่าพระคัมภีร์มอรมอนไม่ใช่หนังสือธรรมดา หน้าคำนำพูดถึงเรื่องราวภูมิหลังไม่เหมือนเรื่องใด—รวมไปถึงการเยือนของเหล่าเทพ บันทึกโบราณที่ฝังอยู่ข้างเนินเขานานหลายศตวรรษ และชายหนุ่มคนหนึ่งที่แปลบันทึกโดยเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า พระคัมภีร์มอรมอนไม่เพียงเป็นประวัติของอารยธรรมอเมริกาสมัยโบราณเท่านั้น พระคัมภีร์เล่มนี้พยายามโน้มน้าวทุกคนว่า “พระเยซูคือพระคริสต์” (หน้าชื่อเรื่องของพระคัมภีร์มอรมอน) และพระผู้เป็นเจ้าเองทรงชี้นำว่าพระคัมภีร์นี้ถูกเขียน เก็บรักษา และเผยแพร่แก่เราอย่างไร ปีนี้ขณะที่ท่านอ่านพระคัมภีร์มอรมอน ให้สวดอ้อนวอนเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน และประยุกต์ใช้คำสอนในพระคัมภีร์ แล้วท่านจะอัญเชิญเดชานุภาพของพระผู้ช่วยให้รอดเข้ามาในชีวิตท่าน และท่านอาจรู้สึกอยากพูดเหมือนที่พยานทั้งสามคนกล่าวในคำยืนยันของพวกเขาว่า “อัศจรรย์ในสายตา [ของฉัน]”
แนวคิดสำหรับการเรียนรู้ที่บ้านและที่โบสถ์
หน้าชื่อเรื่องของพระคัมภีร์มอรมอน
การศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนสามารถเสริมสร้างศรัทธาของฉันในพระเยซูคริสต์
หน้าชื่อเรื่องของพระคัมภีร์มอรมอน ให้มากกว่าชื่อเรื่อง นอกจากนี้ยังได้ระบุจุดประสงค์หลายประการของบันทึกศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วย มองหาจุดประสงค์เหล่านี้ในหน้าชื่อเรื่อง คำถามเช่นนี้จะช่วยท่านขณะที่ท่านไตร่ตรอง: เหตุใดเราจึงมีพระคัมภีร์มอรมอน? พระคัมภีร์มอรมอนแตกต่างจากหนังสือเล่มอื่นอย่างไร?
ตอนนี้อาจเป็นเวลาที่ดีในการวางแผนสำหรับการอ่านพระคัมภีร์มอรมอนในปีนี้เป็นการส่วนตัวหรือกับครอบครัว ท่านจะอ่านเมื่อใดและที่ไหน? ท่านจะอัญเชิญพระวิญญาณเข้ามาในการศึกษาของท่านอย่างไร? มีอะไรที่ท่านจะมองหาขณะศึกษาเป็นพิเศษหรือไม่? ตัวอย่างเช่น ท่านอาจมองหาข้อความที่บรรลุจุดประสงค์ที่ท่านพบในหน้าชื่อเรื่อง ท่านอาจเขียนข้อพระคัมภีร์ที่สร้างศรัทธาของท่านในพระเยซูคริสต์ออกมาเป็นข้อๆ
ดู 2 นีไฟ 25:26; โมไซยาห์ 3:5–8; แอลมา 5:48; 7:10–13; ฮีลามัน 5:12; 3 นีไฟ 9:13–18; 11:6–14; โมโรไน 10:32–33 ด้วย
คำนำพระคัมภีร์มอรมอน; “ประจักษ์พยานของพยานสามคน”; “ประจักษ์พยานของพยานแปดคน”
ฉันสามารถเป็นพยานของพระคัมภีร์มอรมอน
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพยานต่อท่านได้ว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง แม้ท่านจะไม่เคยเห็นแผ่นจารึกทองคำเหมือนพยานสามคนและพยานแปดคน ขณะที่ท่านอ่านถ้อยคำของพวกเขา ให้คิดว่าประจักษ์พยานของพวกเขาทำให้ท่านเข้มแข็งขึ้นอย่างไร
วิธีที่พยานเหล่านี้แบ่งปันประจักษ์พยานเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านอย่างไร? ไตร่ตรองว่าท่านจะแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนได้อย่างไร—โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ ตัวอย่างเช่น สมมติว่าท่านกำลังคุยกับเพื่อนที่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนมาก่อน ท่านจะบอกอะไรพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้? ท่านจะพยายามสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนของท่านอ่านพระคัมภีร์อย่างไร? ท่านอาจจะทบทวน คำนำของพระคัมภีร์มอรมอน ท่านอาจพบรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ที่จะนำไปแบ่งปันกับเพื่อนของท่านได้ วีดิทัศน์ต่อไปนี้อาจให้แนวคิดแก่ท่านได้
ท่านอาจเขียนสิ่งที่ท่านจะแบ่งปันกับเพื่อนเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนออกมาเป็นข้อๆ ลองแบ่งปันพระคัมภีร์มอรมอนโดยใช้แอปพระคัมภีร์มอรมอน
“ประจักษ์พยานของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ”
การมาปรากฏของพระคัมภีร์มอรมอนเป็นปาฏิหาริย์
ถ้ามีคนถามท่านว่าพระคัมภีร์มอรมอนมาจากไหน ท่านจะตอบว่าอย่างไร? ท่านจะอธิบายถึงการมีส่วนร่วมของพระผู้เป็นเจ้าในการประทานพระคัมภีร์มอรมอนแก่เราอย่างไร? ขณะที่ท่านอ่านประจักษ์พยานของโจเซฟ สมิธ ให้ตั้งใจฟังว่าเขาอธิบายอย่างไร จากสิ่งที่ท่านอ่าน ท่านคิดว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับความสำคัญของพระคัมภีร์มอรมอน?
ดู ยูลิซีส ซวาเรส, “การออกมาของพระคัมภีร์มอรมอน,” เลียโฮนา, พ.ค. 2020, 32–35 ด้วย
แนวคิดสำหรับการสอนเด็ก
หน้าชื่อเรื่องของพระคัมภีร์มอรมอน
การอ่านพระคัมภีร์มอรมอนช่วยให้ฉันมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์
-
ให้เด็กดูและถือพระคัมภีร์มอรมอน ช่วยให้พวกเขาชี้ไปที่คำบรรยาย พยานหลักฐานอีกเล่มหนึ่งของพระเยซูคริสต์ ในหน้าชื่อเรื่อง ท่านอาจช่วยพวกเขาค้นหาวลี “พระเยซูคือพระคริสต์, พระผู้เป็นเจ้านิรันดร์, และทรงแสดงองค์ให้ประจักษ์แก่ประชาชาติทั้งปวง” ช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าวลีนี้หมายความว่าพระคัมภีร์มอรมอนสอนเราเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ บอกพวกเขาพอสังเขปว่าพระคัมภีร์มอรมอนเสริมสร้างศรัทธาของท่านในพระเยซูคริสต์อย่างไร ท่านอาจถามพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องราวในพระคัมภีร์มอรมอนที่ชื่นชอบได้เช่นกัน การร้องเพลง “เรื่องราวในพระคัมภีร์มอรมอน” (หนังสือเพลงสำหรับเด็ก, 62–63) อาจทำให้พวกเขานึกถึงเรื่องราวเหล่านี้ได้
พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา
-
หน้ากิจกรรมของสัปดาห์นี้และรูปภาพด้านล่างจะช่วยให้เด็กเข้าใจคำพูดเหล่านี้ของโจเซฟ สมิธใน คำนำพระคัมภีร์มอรมอน ที่ว่า “พระคัมภีร์มอรมอน [เป็น] ศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา” ท่านอาจหาอะไรสนุกๆ ทำ เช่น การสร้างหรือวาดซุ้มประตูโดยมีศิลาหลักอยู่ด้านบน จะเกิดอะไรขึ้นถ้านำศิลาหลักออกไป? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไม่มีพระคัมภีร์มอรมอน? ท่านอาจอ่านย่อหน้าสุดท้ายของคำนำด้วยกันเพื่อค้นหาว่าเราจะเรียนรู้อะไรอีกบ้างเมื่อเรายอมรับความจริงของพระคัมภีร์มอรมอน เราจะทำให้พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งศรัทธาของเราในพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร?
“ประจักษ์พยานของพยานสามคน”; “ประจักษ์พยานของพยานแปดคน”
ฉันสามารถเป็นพยานของพระคัมภีร์มอรมอน
-
เพื่อช่วยให้เด็กเข้าใจว่าการเป็นพยานหมายความว่าอย่างไร ท่านอาจอธิบายให้พวกเขาฟังถึงสิ่งที่ท่านเคยเห็นซึ่งพวกเขาไม่เคยเห็น จากนั้นให้พวกเขาอธิบายเช่นเดียวกัน การทำเช่นนี้สามารถนำไปสู่การสนทนาเกี่ยวกับคน 11 คนที่เห็นแผ่นจารึกทองคำซึ่งเป็นต้นฉบับก่อนแปลของพระคัมภีร์มอรมอน ขณะที่ท่านอ่านประจักษ์พยานด้วยกัน ท่านสามารถสนทนาว่าเหตุใดพยานเหล่านี้จึงต้องการให้ผู้อื่นรู้เกี่ยวกับประจักษ์พยานของพวกเขา เราต้องการบอกใครให้รู้เกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน?
“ประจักษ์พยานของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ”
เราได้รับพระคัมภีร์มอรมอนโดยเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า
-
เพื่อช่วยให้เด็กเรียนรู้วิธีที่พระผู้เป็นเจ้าประทานพระคัมภีร์มอรมอนแก่เรา ท่านอาจอ่าน “ประจักษ์พยานของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ” บางส่วนให้พวกเขาฟัง ท่านอาจจะใช้ “บทที่ 1: เราได้พระคัมภีร์มอรมอนมาอย่างไร” (ใน เรื่องราวจากพระคัมภีร์มอรมอน, 2–4) ได้เช่นกัน เด็กๆ อาจสนุกกับการแสดงบทบาทตามเรื่องราวสักสองสามครั้ง