ท่านเป็นครูในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์

ท่านได้รับการเรียกจากพระผู้เป็นเจ้าให้สอนบุตรธิดาของพระองค์ในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด ท่านได้รับการวางมือมอบหน้าที่สู่การเรียกนี้โดยผู้มีสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ถึงแม้ท่านไม่ได้เป็นครูที่มีประสบการณ์ แต่เมื่อท่านดำเนินชีวิตอย่างมีค่าควร สวดอ้อนวอนทุกวัน และศึกษาพระคัมภีร์ พระบิดาบนสวรรค์จะประทานอิทธิพลและพลังอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่ท่าน (ดู 2 นีไฟ 33:1)

คนเหล่านั้นที่มอบให้ท่านดูแลล้วนเป็นบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ทรงทราบว่าพวกเขาต้องการอะไรและจะช่วยเหลือพวกเขาได้ดีที่สุดอย่างไร โดยผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านจะได้รับการนำทางระหว่างการเตรียมและขณะที่ท่านสอน พระองค์จะทรงเปิดเผยต่อท่านว่าควรพูดอะไรและควรทำอะไร

จุดประสงค์หลักของการเรียนพระกิตติคุณคือเปลี่ยนชีวิต เป้าหมายการเป็นครูของท่านคือช่วยคนที่ท่านสอนให้ทำสุดความสามารถเพื่อเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์—เป้าหมายที่ต้องทำนอกเวลาชั้นเรียนด้วย เชื้อเชิญคนที่ท่านสอนให้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการเรียนรู้หลักธรรมและหลักคำสอนของพระเยซูคริสต์ด้วยตนเองและปฏิบัติตามสิ่งที่เรียนรู้ กระตุ้นให้พวกเขาทำให้การศึกษาส่วนตัวและกับครอบครัวนอกชั้นเรียนเป็นเป้าหมายหลักของการเรียนพระกิตติคุณ ขณะพวกเขาปฏิบัติด้วยศรัทธาโดยศึกษาเป็นส่วนตัวและกับครอบครัว พวกเขาจะอัญเชิญพระวิญญาณเข้ามาในชีวิตและได้รับพรลึกซึ้งกว่าสิ่งที่ครูทำ

สอนเฉพาะหลักคำสอนของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ตามที่พบในพระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้าย หลักคำสอนที่บริสุทธิ์—ความจริงนิรันดร์อันไม่เปลี่ยนแปลงที่พระผู้เป็นเจ้าและผู้รับใช้ของพระองค์สอน—อัญเชิญพระวิญญาณและมีพลังเปลี่ยนชีวิต

การเรียกให้สอนเป็นความไว้วางใจอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นธรรมดาที่บางครั้งจะรู้สึกหนักใจ แต่พึงจำไว้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกท่าน และพระองค์จะไม่มีวันทอดทิ้งท่าน งานนี้เป็นงานของพระเจ้า และเมื่อท่านรับใช้ “ด้วยสุดใจ, พลัง, ความนึกคิด และพละกำลัง” (คพ. 4:2) พระองค์จะทรงขยายความสามารถ ของประทาน และพรสวรรค์ของท่าน และการรับใช้ของท่านจะเป็นพรแก่ชีวิตคนที่ท่านสอน