เซมินารี
1 ยอห์น 2–4


1 ยอห์น 2–4

“ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักกันและกัน”

A painting of a mass of people from different ethnic backgrounds. Submission for the 11th Annual Art Competition.

เหตุใดบางครั้งจึงยากที่จะแสดงความรักต่อผู้อื่น? ความรักในพระผู้เป็นเจ้าของเราเชื่อมโยงกับการรักคนอื่นอย่างไร? อัครสาวกยอห์นสอนวิสุทธิชนว่าความรักของพระผู้เป็นเจ้าที่มีต่อวิสุทธิชนเหล่านั้นจะดลใจให้พวกเขารักพระผู้เป็นเจ้าและผู้อื่นได้อย่างไร (ดู 1 ยอห์น 4:11, 19) บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจและประยุกต์ใช้พระบัญญัติในการรักผู้อื่นขณะที่ท่านรักพระผู้เป็นเจ้า

การรักผู้อื่น

ลองคิดหาวิธีที่ท่านจะสามารถเติมประโยคต่อไปนี้ให้สมบูรณ์:

เป็นเรื่องง่ายที่จะรักผู้อื่นเมื่อ …

เป็นเรื่องยากกว่าที่จะรักผู้อื่นเมื่อ …

ไตร่ตรองคำถามต่อไปนี้:

  • อะไรที่เป็นแรงจูงใจให้ท่านหรือทำให้ท่านแสดงความรักต่อผู้อื่นได้ยาก?

คำสอนของยอห์นเกี่ยวกับความรัก

อัครสาวกยอห์นสอนอย่างกล้าหาญเกี่ยวกับความจำเป็นที่จะต้องรักผู้อื่น

อ่าน 1 ยอห์น 3:16–17 ; 4:7–11, 19–21 และทำเครื่องหมายความจริงที่ท่านคิดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านเมื่อพิจารณาถึงความท้าทายในการรักผู้อื่น &#160

  • ท่านพบว่าอะไรน่าสนใจหรือมีความหมายจากคำสอนของยอห์น? เพราะเหตุใด?

หนึ่งในความจริงที่ยอห์นสอนในข้อพระคัมภีร์เหล่านี้คือ ถ้าเรารักพระผู้เป็นเจ้า เราจะรักผู้อื่นด้วย ท่านอาจต้องการทำเครื่องหมายที่ความจริงข้อนี้ใน 1 ยอห์น 4:21

Writing on a piece of paper with a pen or pencil. 1. ทำกิจกรรมต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน:

เพื่อช่วยให้ท่านไตร่ตรองพรจากการรักผู้อื่น ให้เลือกหนึ่งในตัวอย่างด้านล่างและตอบคำถามที่ตามมา:

ก. ตัวอย่างหนึ่งจากพระชนม์ชีพของพระผู้ช่วยให้รอดเมื่อทรงแสดงความรักต่อผู้อื่น ข. ใครสักคนที่ท่านรู้จักซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีเสมอในการรักผู้อื่น ค. ประสบการณ์ของท่านเองที่มุ่งมั่นในการรักผู้อื่น หรือประสบการณ์ที่ผู้อื่นแสดงความรักต่อท่าน ง. ตัวอย่างของการแสดงความรักต่อผู้อื่นจากคำปราศรัยในการประชุมใหญ่สามัญ หรือวีดิทัศน์ของศาสนจักร เช่น “การรับพระนามของพระเยซูคริสต์” ตั้งแต่รหัสเวลา 4:43 ถึง 6:15 (มีให้รับชมที่ ChurchofJesusChrist.org)

2:3

การรับพระนามของพระเยซูคริสต์

เอ็ลเดอร์เกย์สอนว่าเราสามารถารับพระนามของพระคริสต์ได้โดยเห็นดังที่พระองค์ทรงเห็น รับใช้ดังที่พระองค์ทรงรับใช้ และวางใจว่าพระคุณของพระองค์เพียงพอ

  • บุคคลนี้/ท่านทำสิ่งใดเพื่อแสดงความรัก?

  • การกระทำของบุคคลนี้/ของท่านแสดงถึงความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร?

  • อะไรคือผลลัพธ์ของการที่บุคคลนี้/ท่านแสดงความรัก?

  • ท่านเรียนรู้อะไรจากตัวอย่างนี้?

การได้รับพรจากการรักผู้อื่น

อ่าน 1 ยอห์น 3:17–18 เพื่อดูว่ายอห์นชักชวนให้เรารักผู้อื่นอย่างไร

  • ท่านคิดว่าการรักผู้อื่น “ด้วยการกระทำและด้วยความจริง” อาจหมายความว่าอย่างไร? ( 1 ยอห์น 3:18)

ทั้งนี้อาจมีความหมายที่จะอ่านคำสอนบางประการของพระผู้ช่วยให้รอดเกี่ยวกับการรักกันและกันที่บันทึกไว้ใน มัทธิว 5:43–44 ; 22:37–40 และ ยอห์น 13:34 เพื่อมองหาวิธีที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนให้เรารักผู้อื่น (ดู ยอห์น 15:12, 17 ด้วย)

สร้างรายการวิธีที่ท่านสามารถแสดงความรักต่อผู้อื่น “ด้วยการกระทำและด้วยความจริง” หรือดังที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงรักเรา อาจเป็นประโยชน์ที่จะพิจารณาวิธีแสดงความรักต่อผู้คนที่แตกต่างกัน เช่น สมาชิกในครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมชั้นเรียน

หากเป็นประโยชน์ที่จะดูตัวอย่างบางประการเกี่ยวกับการรักผู้อื่น “ด้วยการกระทำและด้วยความจริง” &#160

2:18

Now Serving

Each day is full of small chances to do a little good.

Writing on a piece of paper with a pen or pencil. 2. ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน:

  • แนวคิดในการแสดงความรักข้อใดโดดเด่นสำหรับท่านมากที่สุด? เพราะเหตุใด?

  • เพราะเหตุใดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่การกระทำของเราต้องมีความจริงใจ?

  • การกระทำอย่างจริงใจเหล่านี้จะช่วยให้เราเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้นอย่างสม่ำเสมอได้อย่างไร?

การประยุกต์ใช้

ลองนึกถึงใครสักคนที่ท่านรู้จักที่พระเจ้าอาจทรงประสงค์ให้ท่านแสดงความรักต่อบุคคลนั้นมากขึ้น ลองนึกถึงความรักที่พระบิดาสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอดทรงมีต่อบุคคลนั้น พิจารณาการสวดอ้อนวอนพระบิดาบนสวรรค์ ฟังและรู้สึกถึงการดลใจในสิ่งที่พระองค์อาจประสงค์ให้ท่านทำเพื่อแสดงความรักต่อบุคคลนี้ ท่านอาจต้องการสวดอ้อนวอนเพื่อทูลขอความช่วยเหลือในความพยายามของท่าน นอกจากนี้ยังอาจเป็นประโยชน์ที่จะแบ่งปันสิ่งที่ท่านวางแผนที่จะทำกับผู้ใหญ่หรือเพื่อนที่วางใจได้ และขอให้บุคคลเหล่านั้นช่วยเหลือท่าน

ทางเลือก: ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมใช่หรือไม่?

1 ยอห์น 3:18. การรัก “ด้วยการกระทำและด้วยความจริง” หมายความว่าอย่างไร?

เอ็ลเดอร์โจเซฟ บี. เวิร์ธลิน (1917–2008) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายดังนี้:

Last official portrait of Elder Joseph B. Wirthlin of the Quorum of the Twelve Apostles, 2004. Died December 1, 2008.

บ่อยครั้ง ปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดของความรักคือการกระทำเรียบง่ายอันเกิดจากความเมตตาและความห่วงใยที่เราพบตามเส้นทางแห่งชีวิต

(โจเซฟ บี. เวิร์ธลิน, “พระบัญญัติข้อใหญ่,” เลียโฮนา, พ.ย. 2007, 29)

พรของการรักผู้อื่นมีอะไรบ้าง?

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟเป็นพยานเมื่อครั้งอยู่ในฝ่ายประธานสูงสุดถึงพรที่สามารถมาจากการรักผู้อื่น

2:3

The Love of God

Love is the measure of our faith, the inspiration for our obedience, and the true altitude of our discipleship.

Official portrait of Elder Dieter F. Uchtdorf of the Quorum of the Twelve Apostles, 2006. Called as Second Counselor in the First Presidency, 3 February 2008. Made official portrait in 2008 replacing portrait taken in 2004.

เพราะความรักเป็นพระบัญญัติข้อใหญ่ ความรักจึงควรเป็นศูนย์รวมของทั้งหมดและทุกสิ่งที่เราทำในครอบครัว ในการเรียกที่โบสถ์ และในวิธีดำเนินชีวิตของเรา ความรักเป็นยาสมานรอยร้าวในความสัมพันธ์ส่วนตัวและกับครอบครัว เป็นสายใยที่ถักทอครอบครัว ชุมชน และประเทศเข้าด้วยกัน ความรักเป็นพลังทำให้เกิดมิตรภาพ ความอดทนอดกลั้น ความสุภาพและความเคารพ เป็นแหล่งเอาชนะความแตกแยกและความเกลียดชัง ความรักเป็นไฟที่ทำให้ชีวิตเราอบอุ่นด้วยปีติอันหาใดเทียบได้และความหวังจากสวรรค์ ความรักควรเป็นวิถีชีวิตของเรา

เมื่อเราเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ารักดังที่พระเยซูคริสต์ทรงรักเราหมายถึงอะไร ความสับสนจะหมดไปและเรื่องสำคัญที่สุดจะมาก่อน การเป็นสานุศิษย์ของพระคริสต์จะมีปีติมากขึ้น ชีวิตเราจะมีความหมายใหม่ ความสัมพันธ์ของเรากับพระบิดาบนสวรรค์ของเราจะลึกซึ้งขึ้น

(ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “ความรักของพระผู้เป็นเจ้า,” เลียโฮนา, พ.ย. 2009, 25)

1 ยอห์น 3:18 เราจะแสดงความรัก “ด้วยการกระทำและด้วยความจริง” ในความสัมพันธ์กับครอบครัวของเราได้อย่างไร?

รับชม “พรนิรันดร์ของการแต่งงาน” จากรหัสเวลา 6:23 ถึง 8:41 เพื่อดูเอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์ (1928–2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายการกระทำที่ดีที่ท่านและภรรยาของท่านมอบให้กันและกัน

15:3

The Eternal Blessings of Marriage

The temple sealing has greater meaning as life unfolds. It will help you draw ever closer together and find greater joy and fulfillment.

//media.ldscdn.org/webvtt/general-conference/april-2011-general-conference/2011-04-5010-elder-richard-g-scott-en.vtt

6:13

Two Brothers Apart

Follow Luke and Sam over several years as they struggle to understand and connect with each other.

1 ยอห์น 4:12 ยอห์นหมายความว่าอย่างไรเมื่อเขาพูดว่า “ไม่มีมนุษย์คนใดเคยเห็นพระเจ้า”?

“งานแปลของโจเซฟ สมิธข้อนี้อธิบายความเข้าใจผิดที่ว่ามนุษย์ไม่สามารถมองเห็นพระผู้เป็นเจ้า: ‘ไม่มีมนุษย์คนใดเคยเห็นพระเจ้า เว้นแต่คนเหล่านั้นที่เชื่อ’ (ใน 1 ยอห์น 4:12 , เปรียบเทียบ 1 ยอห์น 4:12) ยอห์นกล่าวต่อไปด้วยการสอนว่า: ‘ถ้าเรารักกันและกัน พระ‍เจ้าก็สถิตอยู่ในเรา และความรักของพระ‍องค์ก็สม‌บูรณ์อยู่ในเรา’ ( 1 ยอห์น 4:12) ยอห์นเองได้เห็นพระผู้เป็นเจ้าพระบิดา (ดู วิวรณ์ 5:1 ; คพ. 67:11) เพื่ออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับมนุษย์ที่สามารถมองเห็นพระผู้เป็นเจ้า ดู ยอห์น 14:23 ; กิจการ 7:56 ; คพ. 93:1 ; โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:16–17 ” (พันธสัญญาใหม่ คู่มือนักเรียน [2014], 517)

1 ยอห์น 4:20–21 “พี่น้อง” ของเราคือใคร?

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันอธิบายว่า:

Official portrait of President Russell M. Nelson taken January 2018

สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเราคือการรักพระผู้เป็นเจ้าและรักเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งหมายรวมโดยกว้างๆ ถึงเพื่อนบ้านในครอบครัวของเราเอง ชุมชนของเรา ประเทศของเรา และโลกของเรา

(รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “Teach Us Tolerance and Love,” Ensign หรือ Liahona, May 1994, 69)