ยอห์น 7
จงทำตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อรู้หลักคำสอนของพระองค์
ระหว่างเทศกาลอยู่เพิงในเยรูซาเล็ม พระเยซูทรงอธิบายว่าใครๆ ก็รู้ได้ด้วยตนเองว่าหลักคำสอนที่ทรงสอนมาจากพระบิดาบนสวรรค์ บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านค้นพบสิ่งที่ท่านสามารถทำได้เพื่อรู้ความจริงเกี่ยวกับคำสอนของพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์
ความเชื่อที่แตกต่างเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์
-
ผู้คนมีความเชื่ออะไรบ้างว่าพระเยซูคริสต์คือใคร?
-
เหตุใดจึงสำคัญสำหรับท่านที่จะรู้ความจริงเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ไม่ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร?
ใช้เวลาหนึ่งนาทีคิดว่าสิ่งใดมีอิทธิพลต่อความเชื่อของท่านเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ กำหนดแหล่งที่มาที่ท่านมักจะหันไปใช้เพื่อค้นหาความจริงและไตร่ตรองว่าสิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลต่อความเชื่อของท่านอย่างไร ขณะท่านศึกษาในวันนี้ มองหาสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อรู้ความจริงเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์และคำสอนของพระองค์
เพราะในเยรูซาเล็มมีหลายคนที่ต้องการปลงพระชนม์พระเยซู พระองค์จึงทรงเข้าร่วมเทศกาลอยู่เพิงอย่างลับๆ (ดู ยอห์น 7:1, 10) ขณะที่ชาวยิวมองหาพระเยซูและตลอดเทศกาลผู้คนแบ่งปันความคิดเห็นที่แตกต่างต่อกันว่าพระเยซูคือใคร
เพื่อให้ทราบว่าผู้คนพูดถึงพระเยซูอย่างไรให้เลือกข้ออ้างอิงสองหรือสามข้อต่อไปนี้แล้วตอบคำถามที่ตามมา
ผู้คนมีแนวคิดแตกต่างกันอย่างไรว่าพระเยซูคือใคร? | |
เหตุใดบางคนจึงเชื่อในพระเยซู? | |
เหตุใดผู้คนจึงสนทนาว่าพระเยซูทรงมาจากที่ใด? | |
สิ่งใดเกี่ยวกับพระเยซูที่โดดเด่นสำหรับเจ้าหน้าที่ซึ่งมีผู้ขอให้จับกุมพระองค์? | |
พวกฟาริสีอธิบายถึงคนที่เชื่อในพระเยซูอย่างไร? |
-
ผู้คนให้เหตุผลอะไรในการเชื่อหรือไม่เชื่อในพระเยซูคริสต์?
-
ผู้คนมีความคิดเห็นอะไรบ้างเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์และคำสอนของพระองค์ในวันนี้?
-
เราจะรู้ความจริงเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์และสิ่งที่พระองค์ทรงสอนได้อย่างไร?
การรู้ความจริงเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์และคำสอนของพระองค์
ในระหว่างเทศกาลอยู่เพิง พระเยซูเสด็จไปพระวิหารเพื่อสอน พระองค์ทรงอธิบายกับผู้คนที่นั่นว่าทั้งหลักคำสอนที่ทรงสอนและพระองค์เองมาจากพระบิดาบนสวรรค์ (ดู ยอห์น 7:14, 16–18, 28–29)
อ่าน ยอห์น 7:17 โดยมองหาสิ่งที่พระเยซูตรัสว่าผู้คนสามารถทำอะไรเพื่อรู้ว่าสิ่งที่พระเยซูทรงสอนเป็นความจริงและพระบิดาบนสวรรค์ทรงส่งพระองค์มา
หลักธรรมหนึ่งที่เราสามารถเรียนรู้จากข้อนี้คือ ถ้าเราทำตามพระประสงค์ของพระบิดาบนสวรรค์ เราจะรู้ได้ว่าหลักคำสอนของพระองค์เป็นความจริง
การทำตามพระประสงค์ของพระบิดาบนสวรรค์หมายถึงการดำเนินชีวิตตามที่พระองค์ทรงต้องการให้เราดำเนิน พระผู้ช่วยให้รอด พระเยซูคริสต์ทรงดำเนินพระชนม์ชีพและทรงสอนตามพระประสงค์ของพระบิดาบนสวรรค์เสมอ
-
ท่านอาจแบ่งปันตัวอย่างอะไรบ้างที่พระเยซูทรงทำตามพระประสงค์ของพระบิดา?
-
การดำเนินชีวิตตามหลักธรรมที่เรายังไม่รู้ว่าเป็นความจริงจะเป็นเรื่องยากได้อย่างไร?
ประธานบอนนี่ แอล. ออสคาร์สัน อดีตประธานเยาวชนหญิงสามัญให้คำแนะนำเกี่ยวกับการมารู้ความจริงดังนี้
บางครั้งเราพยายามทำกลับกัน ตัวอย่างเช่น เราอาจทำตามวิธีนี้ นั่นคือ ดิฉันจะทำตามกฎส่วนสิบอย่างมีความสุขแต่ดิฉันต้องรู้ก่อนว่าเป็นความจริงหรือไม่ บางครั้ง เราอาจสวดอ้อนวอนเพื่อได้รับประจักษ์พยานเกี่ยวกับกฎส่วนสิบและหวังว่าพระเจ้าจะประทานพรเราด้วยประจักษ์พยานนั้นก่อนที่เราเขียนใบบริจาคส่วนสิบด้วยซ้ำ แต่ประจักษ์พยานในหลักธรรมไม่ได้ทำงานเช่นนั้น พระเจ้าทรงคาดหวังให้เราแสดงศรัทธา เราต้องจ่ายส่วนสิบเต็มและอย่างซื่อสัตย์สม่ำเสมอเพื่อได้รับประจักษ์พยานเกี่ยวกับส่วนสิบ รูปแบบเดียวกันนี้นำมาใช้กับทุกหลักธรรมแห่งพระกิตติคุณไม่ว่าจะเป็นกฎความบริสุทธิ์ทางเพศ หลักธรรมเรื่องการแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย พระคำแห่งปัญญา หรือกฎการอดอาหาร
(บอนนี่ แอล. ออสคาร์สัน, “จงเปลี่ยนใจเลื่อมใส,” เลียโฮนา, พ.ย. 2013, 77)
-
เหตุใดท่านจึงคิดว่าพระเยซูคริสต์ทรงต้องการให้เรารู้ว่าหลักคำสอนของพระองค์มาจากพระบิดาบนสวรรค์และเป็นความจริง?
-
การรู้ว่าหลักคำสอนของพระเยซูคริสต์เป็นความจริงช่วยให้เรามารู้จักพระองค์ได้อย่างไร?
เลือกคำสอนของพระเจ้าหนึ่งอย่างที่ท่านต้องการเสริมสร้างประจักษ์พยานให้เข้มแข็ง สำหรับแนวคิดเกี่ยวกับคำสอนของพระองค์ ท่านอาจค้นหาคำปราศรัยต่อเยาวชนในการประชุมใหญ่สามัญที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน ท่านอาจมองหาแนวคิดได้ด้วยในจุลสาร เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน (2011) หรือในนิตยสาร เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน อัญเชิญพระวิญญาณให้ช่วยท่านเลือกคำสอนของพระเจ้าหนึ่งอย่างที่จะมุ่งเน้นซึ่งจะเป็นพรแก่ท่านมากที่สุดในชีวิตท่านเวลานี้
1. ทำกิจกรรมต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน:
เขียนคำสอนที่ท่านเลือกไว้ด้านบนของหน้าเปล่าในบันทึกการศึกษาของท่านหรือบนกระดาษเปล่า ตอนนี้ให้นึกถึงภาพหรือวัตถุเรียบง่ายที่ท่านอาจวาดเพื่อแสดงถึงหลักคำสอนนี้ และวาดไว้ตรงกลางกระดาษของท่าน
ตัวอย่างเช่น ท่านอาจเลือกเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับประจักษ์พยานของท่านถึงพระคัมภีร์มอรมอนในฐานะพระคำของพระผู้เป็นเจ้า ท่านอาจวาดภาพเรียบง่ายของพระคัมภีร์มอรมอน
เพื่อช่วยให้ท่านพิจารณาสิ่งจำเป็นเพื่อรับประจักษ์พยานถึงคำสอนที่ท่านเลือก ให้นึกถึงการกระทำต่างๆ ที่พระบิดาบนสวรรค์อาจทรงต้องการให้ท่านทำซึ่งเกี่ยวข้องกับคำสอนนั้น เขียนการกระทำอย่างน้อยสามอย่างรอบภาพที่ท่านวาด
ลองคิดดูว่าการมีประจักษ์พยานที่เข้มแข็งถึงหลักคำสอนนี้อาจมีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ของท่านกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์อย่างไร
2. ในพื้นที่ใต้ภาพของท่าน ตอบคำถามต่อไปนี้
-
อุปสรรคใดบ้างอาจกีดกันท่านจากการดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนนี้? ท่านจะเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ได้อย่างไร?
-
สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจเกี่ยวกับเวลาและความพยายามที่อาจต้องมีเพื่อรู้ว่าหลักคำสอนนี้มาจากพระผู้เป็นเจ้าคืออะไร?
ท่านอาจต้องการแบ่งปันแผนของท่านกับสมาชิกในครอบครัวที่อาจช่วยให้ท่านดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนและมารู้ว่าหลักคำสอนนี้มาจากพระผู้เป็นเจ้า
ทางเลือก: ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมใช่หรือไม่?
ยอห์น 7:2 เทศกาลอยู่เพิงคืออะไร?
เทศกาลอยู่เพิงเริ่มและสิ้นสุดลงในวันสะบาโตและจึงใช้เวลานานถึงแปดวัน ส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองนี้รวมถึงการสร้างกระท่อมชั่วคราวที่ทำจากกิ่งไม้ ผู้คนพักอยู่ในกระท่อมเหล่านี้ระหว่างเทศกาลเพื่อเตือนให้ตระหนักว่าพระผู้เป็นเจ้าประทานพรแก่ผู้คนของพระองค์เป็นเวลา 40 ปีขณะอาศัยอยู่ในแดนทุรกันดารแห่งซีนาย
ยอห์น 7:17 คุณค่าของการแสวงหาความจริงโดยผ่านการเชื่อฟังคืออะไร?
พระผู้ช่วยให้รอดตรัสกับสานุศิษย์ของพระองค์ว่าผู้ที่ยังคงดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระองค์จะมารู้เรื่องความจริงและความจริงนี้จะให้อิสรภาพแก่พวกเขา (ดู ยอห์น 8:31–32)ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายว่าเหตุใดเราจึงต้องการพยายามรับประจักษ์พยานส่วนตัวถึงความจริง
บางคนอาจพูดว่าขั้นตอนเหล่านั้นยากเกินไปหรือไม่มีค่าพอ แต่ข้าพเจ้าแนะนำว่าประจักษ์พยานส่วนตัวเกี่ยวกับพระกิตติคุณและศาสนจักรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดซึ่งท่านจะมีได้ในชีวิตนี้ ซึ่งไม่เพียงจะเป็นพรและช่วยนำทางท่านตลอดชีวิตนี้เท่านั้นแต่จะมีผลโดยตรงกับชีวิตท่านตลอดนิรันดรเช่นกัน
(ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “การได้รับประจักษ์พยานถึงแสงสว่างและความจริง,” เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 21)
ยอห์น 7:39 เหตุใดยอห์นจึงพูดว่า “พระวิญญาณยังไม่สถิตด้วย”?
ยอห์นอ้างถึง “ของประทาน แห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้นที่ไม่อยู่ เนื่องจาก อำนาจ ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ยังทรงทำงานระหว่างการปฏิบัติศาสนกิจของยอห์นผู้ถวายบัพติศมาและพระเยซู หาไม่แล้ว คงไม่มีใครได้รับประจักษ์พยานเกี่ยวกับความจริงที่ชายเหล่านี้สอน [มัทธิว 16:16–17; ดู 1 โครินธ์ 12:3 ด้วย]” (คู่มือพระคัมภีร์, “พระวิญญาณบริสุทธิ์”)