“แนวคิดเพื่อปรับปรุงการศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัวของท่าน,” แนวคิดในการศึกษาพระคัมภีร์ (2021)
“แนวคิดเพื่อปรับปรุงการศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัวของท่าน,” แนวคิดในการศึกษาพระคัมภีร์
แนวคิดเพื่อปรับปรุงการศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัวของท่าน
ต่อไปนี้เป็นวิธีง่ายๆ บางวิธีที่จะยกระดับการศึกษาพระคำของพระผู้เป็นเจ้าในพระคัมภีร์
สวดอ้อนวอนขอการดลใจ
พระคัมภีร์มีพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ขณะท่านศึกษาพระคัมภีร์ ทูลขอการนำทางจากพระบิดาบนสวรรค์และรับพระวิญญาณของพระองค์เพื่อช่วยให้ท่านเข้าใจพระวจนะเหล่านั้น
มองหาความจริงเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์
พระคัมภีร์สอนเราว่าทุกสิ่งเป็นพยานถึงพระคริสต์ (ดู 2 นีไฟ 11:4; โมเสส 6:63) ฉะนั้นจงมองหาพระองค์ในเหตุการณ์ เรื่องเล่า และคำสอนของพระคัมภีร์ ท่านอาจจดหรือทำเครื่องหมายข้อที่สอนเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดและวิธีทำตามพระองค์
มองหาคำและวลีที่สร้างแรงบันดาลใจ
ท่านอาจพบว่าคำบางคำและวลีบางวลีในพระคัมภีร์ทำให้ท่านประทับใจประหนึ่งเขียนไว้ให้ท่านโดยเฉพาะ พระวจนะเหล่านั้นอาจให้ความรู้สึกเกี่ยวข้องเป็นส่วนตัว สร้างแรงบันดาลใจ และแรงจูงใจต่อท่าน ท่านอาจทำเครื่องหมายคำและวลีเหล่านั้นในพระคัมภีร์ของท่านหรือเขียนไว้ในสมุดบันทึกการศึกษา
มองหาความจริงพระกิตติคุณ
บางครั้งความจริงพระกิตติคุณ (บ่อยครั้งเรียกว่าหลักคำสอนหรือหลักธรรม) บอกกล่าวโดยตรง และบางคราวบอกเป็นนัยผ่านตัวอย่างหรือเรื่องเล่า ถามตัวท่านเองว่า “ข้อเหล่านี้สอนความจริงพระกิตติคุณอะไรบ้าง?”
ฟังพระวิญญาณ
จงเอาใจใส่ความคิดและความรู้สึกของท่าน แม้ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ท่านกำลังอ่าน ความประทับใจเหล่านั้นอาจเป็นเรื่องที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้ท่านเรียนรู้และรู้สึก
เปรียบพระคัมภีร์กับชีวิตท่าน
พิจารณาว่าเรื่องเล่าและคำสอนที่ท่านกำลังอ่านจะประยุกต์ใช้กับชีวิตท่านได้อย่างไร ตัวอย่างเช่น ท่านอาจจะถามตนเองว่า “ฉันเคยมีประสบการณ์อะไรคล้ายกับที่ฉันกำลังอ่านบ้าง?” หรือ “ฉันจะทำตามแบบอย่างของบุคคลนี้ในพระคัมภีร์ได้อย่างไร?”
ถามคำถาม
การถามคำถามเกี่ยวกับพระกิตติคุณจะช่วยให้ท่านตัดสินใจได้ว่าจะศึกษาเรื่องใด ขณะท่านศึกษาพระคัมภีร์ คำถามอาจเข้ามาในความคิดได้ด้วย คำถามเหล่านี้อาจจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ท่านกำลังอ่านหรือกับชีวิตท่านโดยรวม ไตร่ตรองคำถามเหล่านี้และหาคำตอบขณะท่านยังคงศึกษาพระคัมภีร์ต่อไป หลังการศึกษา ทูลถามพระผู้เป็นเจ้าว่าประสงค์ให้ท่านเรียนรู้สิ่งเพิ่ม และตั้งใจรอคำตอบในชั่วโมงหรือวันที่กำลังมาถึง
ใช้สิ่งช่วยศึกษาพระคัมภีร์
เพื่อให้ได้ข้อคิดเพิ่มเติมในข้อที่ท่านอ่าน ให้ใช้เชิงอรรถ คู่มือพระคัมภีร์ (scriptures.ChurchofJesusChrist.org) และสิ่งช่วยศึกษาอื่นๆ
พิจารณาบริบทของพระคัมภีร์
ท่านจะพบข้อคิดที่มีความหมายเกี่ยวกับพระคัมภีร์ถ้าท่านพิจารณาบริบทของข้อนั้น—สภาวการณ์หรือสภาวะแวดล้อมของพระคัมภีร์ ตัวอย่างเช่น การรู้ภูมิหลังและความเชื่อของผู้คนที่ศาสดาพยากรณ์พูดถึงจะช่วยให้ท่านเข้าใจเจตนาของข่าวสารจากศาสดาพยากรณ์
บันทึกความคิดและความรู้สึกของท่าน
มีหลายวิธีที่จะบันทึกความประทับใจที่เกิดขึ้นขณะท่านศึกษา ตัวอย่างเช่น ท่านอาจจะทำเครื่องหมายคำหรือวลีที่มีความหมาย และบันทึกความคิดเป็นหมายเหตุไว้ในพระคัมภีร์ของท่าน ท่านอาจจดบันทึกส่วนตัวเกี่ยวกับข้อคิด ความรู้สึก และความประทับใจที่ท่านได้รับ หรือท่านอาจบันทึกคำถามที่ท่านถามก่อนเริ่มศึกษา ตามด้วยคำตอบที่ท่านได้รับจากการชี้นำไปพบ
ศึกษาถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกยุคสุดท้าย
อ่านสิ่งที่ศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกยุคสุดท้ายสอนเกี่ยวกับหลักธรรมที่ท่านพบในพระคัมภีร์ ข่าวสารของพวกท่านมีอยู่ใน “การประชุมใหญ่สามัญ” “นิตยสาร” และสิ่งอื่นๆ ที่รวบรวมไว้ในคลังค้นคว้าพระกิตติคุณ
อ่านเรื่องเล่า
อ่านเรื่องเล่าในพระคัมภีร์ พยายามเข้าใจบริบทของเรื่องเหล่านั้น (เวลา สถานที่ ผู้พูด และผู้ฟัง) เรื่องเล่าที่แสดงไว้ในพระคัมภีร์เป็นแหล่งข้อมูลอันประเสริฐสำหรับสิ่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ และสมาชิกที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับพระคัมภีร์
แบ่งปันข้อคิด
การสนทนาข้อคิดจากการศึกษาส่วนตัวของท่านเป็นวิธีที่ดีในการสอนผู้อื่นและช่วยเสริมสร้างความเข้าใจของท่านในสิ่งที่ท่านได้อ่าน
ดำเนินชีวิตตามสิ่งที่ท่านเรียนรู้
การศึกษาพระคัมภีร์สามารถสร้างแรงบันดาลใจและนำเราให้เปลี่ยนวิธีดำเนินชีวิตของเรา จงฟังสิ่งที่พระวิญญาณกระตุ้นเตือนให้ท่านทำขณะที่ท่านอ่าน และจากนั้นให้คำมั่นสัญญาที่จะทำตามการกระตุ้นเตือนเหล่านั้น