สื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน บทที่ 22

การป้องกันตัวเราจากหลักคำสอนเท็จของวันเวลาสุดท้าย

เอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุกแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองให้ข้อสังเกตว่า “เราอยู่ในยุคที่ยาก มีแนวโน้มที่จะ ‘เรียกความชั่วว่าดี, และความดีว่าชั่ว’ [2 นีไฟ 15:20; ดู อิสยาห์ 5:20]” (“ระเบียบเรียบร้อยแบบบริสตอล: จงมีค่าควรสู่พระวิหาร—ไม่ว่ายามดีหรือลำบาก,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 40) ด้วยความรู้ล่วงหน้าและความรักที่ยิ่งใหญ่ พระเจ้าประทานพระคัมภีร์ซึ่งช่วยเปิดโปงคำสอนเท็จและแนวคิดที่แพร่หลายในวันเวลาของเรา ขณะท่านศึกษาสื่อการเรียนการสอนนี้ ให้พิจารณาว่าหลักธรรมใดจากพระคัมภีร์มอรมอนที่สามารถช่วยให้ท่านตระหนักถึงการหลอกลวงและยืนหยัดเพื่อความจริง

หมวดที่ 1

พระคัมภีร์มอรมอนช่วยปกป้องฉันจากคำสอนเท็จในโลกทุกวันนี้ได้อย่างไร?

ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันและประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนสิ่งต่อไปนี้เกี่ยวกับพลังอำนาจของพระคัมภีร์มอรมอนที่จะปกป้องเราจากคำสอนเท็จ:

พระคัมภีร์มอรมอนเปิดโปงศัตรูของพระคริสต์ หักล้างหลักคำสอนเท็จ … อีกทั้งเสริมความแข็งแกร่งให้ผู้ติดตามที่อ่อนน้อมถ่อมตนของพระคริสต์ต้านแผนชั่ว กลยุทธ์ และหลักคำสอนของมารในสมัยเรา (คำสอนของประธานศาสนจักร: เอสรา แทฟท์ เบ็นสัน [2014], 132)

พระคัมภีร์มอรมอนชี้แจงคำสอนของพระอาจารย์อีกทั้งเปิดโปงกลยุทธ์ของปฏิปักษ์ [ดู 2 นีไฟ 26–33] พระคัมภีร์มอรมอนสอนหลักคำสอนที่แท้จริงเพื่อขจัดประเพณีผิดๆ ด้านศาสนา (“พระคัมภีร์มอรมอน: ชีวิตท่านจะเป็นอย่างไรหากปราศจากพระคัมภีร์เล่มนี้” เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 62)

นีไฟบันทึกคำพยากรณ์ที่โดดเด่นเกี่ยวกับการออกมาของพระคัมภีร์มอรมอน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ (ดู 2 นีไฟ 27:6–23) จากนั้นนีไฟพยากรณ์เกี่ยวกับผู้สอนปลอม หลักคำสอนที่โง่เขลา และกลยุทธ์ของมารที่จะนำผู้คนให้หลงทาง (ดู 2 นีไฟ 28)

ศึกษาเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

อ่าน 2 นีไฟ 28:7–9, 20–22, 29–30 และพิจารณาทำเครื่องหมายคำสอนเท็จที่นีไฟเคยกล่าวว่าเราจะเผชิญในวันเวลาสุดท้าย

ไตร่ตรองเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

การศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนทุกวันจะเชื้อเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์มาสู่ชีวิตเรา พระวิญญาณบริสุทธิ์คือความช่วยเหลือที่ดีที่สุดในการแยกแยะความจริงจากข้อผิดพลาด ท่านเคยเห็นตัวอย่างของคำสอนเท็จที่นีไฟเคยเตือนว่าเราจะต้องเผชิญในวันเวลาสุดท้ายเมื่อใด? ท่านตระหนักว่านั่นเป็นคำสอนเท็จอย่างไร? ท่านทำอะไรเพื่อปกป้องตัวท่านเองจากคำสอนเท็จเหล่านี้?

หมวดที่ 2

ฉันจะเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับผู้ที่อาจมุ่งทำลายศรัทธาของฉันในพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร?

พระคัมภีร์มอรมอนเตือนผู้ต่อต้านพระคริสต์ ผู้ต่อต้านพระคริสต์คือ “ผู้ใดหรือสิ่งใดที่ปลอมแปลงแผนแห่งความรอดของพระกิตติคุณอันแท้จริงและต่อต้านพระคริสต์อย่างเปิดเผยหรืออย่างลับๆ” (คู่มือพระคัมภีร์, “ผู้ต่อต้านพระคริสต์,” scriptures.ChurchofJesusChrist.org) ประธานเนลสันกล่าวถึงผู้ต่อต้านว่า:

ท่านจำคอริฮอร์ผู้ต่อต้านพระคริสต์ได้หรือไม่? คอริฮอร์เดินทางไปทั่วเพื่อประกาศความเท็จเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอด จนกระทั่งถูกนำมาอยู่ต่อหน้ามหาปุโรหิตผู้ถามเขาว่า: “ทำไมท่านจึงเที่ยวไปบิดเบือนทางของพระเจ้า? ทำไมท่านจึงสอนคนเหล่านี้ว่าจะไม่มีพระคริสต์, เพื่อขัดขวางการชื่นชมยินดีของพวกเขา?” [แอลมา 30:22]

สิ่งใดก็ตามที่ต่อต้านพระคริสต์และหลักคำสอนของพระองค์จะขัดขวางปีติของเรา นั่นรวมถึงปรัชญาของมนุษย์ซึ่งมีอยู่มากมายทางออนไลน์และในบล็อก สิ่งเหล่านั้นทำเหมือนกับที่คอริฮอร์ทำ (“ปีติและการอยู่รอดทางวิญญาณ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2016, 84)

บันทึกความคิดของท่าน

ในการเตรียมเข้าชั้นเรียน ให้ศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งต่อไปนี้: (1) เชเร็มและเจคอบ (2) นีฮอร์และกิเดียน (3) คอริฮอร์และแอลมา (หมายเหตุ: ข้ออ้างอิงพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้องกับข้อพระคัมภีร์เหล่านี้มีระบุไว้ในหมวดต่อไปนี้) แต่ละเรื่องราวจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผู้ต่อต้านพระคริสต์ที่ไม่ยอมรับพระเจ้าและศาสนจักรของพระองค์ รวมทั้งผู้ที่ตอบรับด้วยศรัทธาในพระเยซูคริสต์ ขณะที่ท่านศึกษา ให้เขียนคำตอบสำหรับคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน จงพร้อมมาแบ่งปันสิ่งที่เรียนรู้ให้กับชั้นเรียน

คำถามเพื่อศึกษา

1. กลยุทธ์ใดที่ผู้ต่อต้านพระคริสต์ใช้ในการทำลายศรัทธาของผู้คนในพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์?

2. ตัวอย่างในยุคสมัยปัจจุบันเกี่ยวกับแนวคิดอันเป็นเท็จที่มีการสอนมา หรือวิธีที่ใช้โดยผู้ต่อต้านพระคริสต์ในเรื่องราวนี้คืออะไร? ซาตานสามารถแพร่แนวคิดเหล่านี้ในยุคสมัยของเราได้อย่างไร?

3. หลักธรรมหรือการปฏิบัติใดที่ท่านเรียนรู้จากแบบอย่างอันซื่อสัตย์ของบุคคลที่เผชิญกับข่าวสารเท็จ? (ให้เขียนอย่างน้อยสามข้อ) บางคนจะใช้หลักธรรมและการปฏิบัติเหล่านี้ในการตอบโต้หลักคำสอนหรือข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จอย่างไรในสมัยปัจจุบัน?

ใช้แหล่งช่วยด้านล่างขณะที่ท่านศึกษาเรื่องราวที่ท่านเลือก

เชเร็มและเจคอบ

อ่าน เจคอบ 7:1–14 หรือดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน “Sherem Denies Christ (เจคอบ 7)” จนถึงนาทีที่ 4:20 และตอบคำถามการศึกษาก่อนหน้านี้

รากฐานทางวิญญาณของเจคอบคือแหล่งที่มาของจุดแข็งที่จะเอาชนะคำกล่าวอ้างของเชเร็ม (ดู เจคอบ 7:5) อ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์โรนัลด์ เอ. ราสแบนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง แล้วพิจารณาว่าท่านจะสามารถปฏิบัติตามตัวอย่างของเจคอบได้อย่างไร

เมื่อข้าพเจ้าแนะนำแต่ละคน [ที่ประสบปัญหาในศรัทธา] ข้าพเจ้าสำรวจการตัดสินใจที่พวกเขาทำตลอดหลายปีซึ่งชักนำพวกเขาให้ลืมประสบการณ์ศักดิสิทธิ์ บั่นทอน และสงสัย ข้าพเจ้ากระตุ้นพวกเขาเช่นเดียวกับกระตุ้นท่านตอนนี้ โดยเฉพาะในยามวิกฤติ ให้นึกถึงเวลาที่ท่านรู้สึกถึงพระวิญญาณและประจักษ์พยานของท่านเข้มแข็ง จงจดจำรากฐานทางวิญญาณที่ท่านสร้างไว้ ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่าถ้าท่านจะทำเช่นนี้ โดยหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่เสริมสร้างและไม่ทำให้ประจักษ์พยานของท่านเข้มแข็งหรือดูถูกความเชื่อของท่าน เวลามีค่าเหล่านั้นเมื่อประจักษ์พยานของท่านรุ่งเรืองจะเปลี่ยนเป็นความทรงจำอีกครั้งผ่านการสวดอ้อนวอนและการอดอาหาร ข้าพเจ้ารับรองกับท่านว่าท่านจะรู้สึกถึงความปลอดภัยและความอบอุ่นของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์อีกครั้ง (“เกรงว่าท่านจะลืม,” เลียโฮนา, พ.ย. 2016, 114)

บันทึกประสบการณ์ทางวิญญาณไว้ในสมุดบันทึกการศึกษาของท่านอย่างน้อยหนึ่งรายการที่ท่านสามารถระลึกถึงได้ในช่วงเวลาที่ศรัทธาของท่านในพระเยซูคริสต์หรือพระกิตติคุณของพระองค์กำลังถูกท้าทาย

นีฮอร์และกิเดียน

ศึกษา แอลมา 1:2–16 และตอบคำถามในการศึกษาก่อนหน้านี้ อาจเป็นประโยชน์หากจะสังเกตว่านีไฟสอนว่า “การฉ้อฉลในอำนาจปุโรหิตคือการที่มนุษย์สั่งสอนและตั้งตนเป็นความสว่างแก่โลก, เพื่อพวกเขาจะหาผลประโยชน์และการสรรเสริญของโลก; แต่พวกเขาไม่ได้แสวงหาความผาสุกของไซอัน” (2 นีไฟ 26:29)

เหตุใดท่านจึงคิดว่าคำสอนเท็จของนีฮอร์กลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้คนบางคน? อ่านคำอธิบายต่อไปนี้เกี่ยวกับกลยุทธ์ของปฏิปักษ์จากประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์แห่งฝ่ายประธานสูงสุด และนึกถึงแนวทางการนำไปใช้กับคำสอนของนีฮอร์ที่บันทึกไว้ใน แอลมา 1:4

ซาตานเป็นผู้หลอกลวงที่ยิ่งใหญ่และเป็นบิดาแห่งการโกหก (ดู ยอห์น 8:44) ไม่ใช่เพราะซาตานบอกกล่าวเพียงแต่คำโกหกอย่างเดียว การโกหกที่มีประสิทธิภาพที่สุดของซาตานคือความจริงเพียงครึ่งเดียวหรือคำโกหกที่มาพร้อมกับความจริง (“Reading Church History” [คำปราศรัยต่อนักการศึกษาศาสนาระบบการศึกษาของศาสนจักร, 16 ส.ค., 1985], 9)

บันทึกคำตอบสำหรับคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน: ฉันจะพัฒนาความกล้าหาญมากขึ้นในการเลือกสิ่งที่ถูกต้องแทนสิ่งซึ่งเป็นที่นิยมแต่ผิดได้อย่างไร?

คอริฮอร์กับแอลมา

อ่าน แอลมา 30:12–18, 23, 27–28, 32–33, 39–46 หรือดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน “ทุกสิ่งชี้ให้เห็นว่ามีพระผู้เป็นเจ้า (แอลมา 30)” จนถึงนาทีที่ 7:45 และตอบคำถามการศึกษาก่อนหน้านี้

ประธานเอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองให้คำแนะนำแก่สมาชิกของศาสนจักรดังนี้:

ขอให้เราระวังศาสดาปลอมและผู้สอนปลอม ทั้งชายและหญิง คนที่ตั้งตนเป็นผู้ประกาศหลักคำสอนของศาสนจักร คนที่หาช่องทางเผยแผ่กิตติคุณปลอมของเขาและดึงดูดผู้ติดตามโดยเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยง แจกหนังสือ และวารสาร ซึ่งเนื้อหาในนั้นท้าทายคำสอนเบื้องต้นของศาสนจักร จงระวังคนที่พูดและตีพิมพ์สิ่งที่ตรงข้ามกับศาสดาพยากรณ์ที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้าและผู้ที่ชักชวนคนอื่นอย่างแข็งขันโดยไม่คำนึงถึงสภาพนิรันดร์ของคนที่เขาเกลี้ยกล่อมเลยสักนิด (“จงระวังศาสดาปลอมและผู้สอนปลอม,” เลียโฮนา, ม.ค. 1999, 77)

ขณะแสดงประจักษ์พยานถึงความจริง แอลมาให้หลักฐานหลายประการแก่คอริฮอร์เพื่อแสดงถึงการดำรงอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า บันทึกหลักฐานที่ท่านเคยเห็นที่ “ชี้ให้เห็นว่ามีพระผู้เป็นเจ้า” ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน (แอลมา 30:44) หลักฐานเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ศรัทธาของท่านและประจักษ์พยานถึงพระผู้เป็นเจ้าด้วยวิธีใด?

ต้องการเรียนรู้มากขึ้นหรือไม่? (เลือกได้)

ฉันสามารถเพิ่มความสามารถของฉันในการแยกแยะระหว่างความดีกับความชั่วได้อย่างไร?

อ่าน โมโรไน 7:12–19 เพื่อเรียนรู้ว่าแสงสว่างของพระคริสต์ทำให้คนสามารถแยกแยะความดีจากความชั่วได้อย่างไร และในวีดิทัศน์ “Patterns of Light: The Light of Christ” (2:33) เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนเราเกี่ยวกับแสงสว่างของพระคริสต์

อะไรคือความแตกต่างระหว่างพยานของพระวิญญาณกับพยานจากเครื่องหมาย?

ทั้งเชเร็มกับคอริฮอร์ต่างก็ร้องขอเครื่องหมายเพื่อจะเชื่อความจริง (ดู เจคอบ 7:13–14; แอลมา 30:43–48)

ปรัชญาของคอริฮอร์มีลักษณะคล้ายปรัชญาของโลกปัจจุบันอย่างไร?