หลักธรรมของการเป็นผู้นำค่าย
“เจ้าจงอ่อนน้อมถ่อมตน; และพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าจะทรงจูงมือนำเจ้าไป, และให้คำตอบคำสวดอ้อนวอนของเจ้าแก่เจ้า” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 112:10)
เยาวชนและผู้ใหญ่จะเป็นผู้นำค่ายที่ประสบความสำเร็จเมื่อพวกเขาทำตามหลักธรรมการเป็นผู้นำใน คู่มือทั่วไป: การรับใช้ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย: เตรียมพร้อมทางวิญญาณ มีส่วนร่วมในสภา ปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่น และสอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ (ดู คู่มือทั่วไป, 4.2 และบทเรียนการเป็นผู้นำของฝ่ายประธานชั้นเรียนที่ Helps for Presidencies)
เตรียมพร้อมทางวิญญาณ
ในฐานะผู้นำ ท่านสามารถรับการดลใจเมื่อท่านสวดอ้อนวอน ศึกษาพระคัมภีร์ และอดอาหารขณะนึกถึงเยาวชนหญิง ท่านอาจจะเข้าพระวิหารหากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ การเตรียมพร้อมทางวิญญาณของท่านจะชี้นำความพยายามของท่านขณะวางแผนและเตรียมค่าย
มีส่วนร่วมในสภา
ฝ่ายประธานเยาวชนหญิง ผู้นำค่ายที่เป็นผู้ใหญ่ และผู้นำค่ายที่เป็นเยาวชนประชุมหารือกันเรื่องค่าย การหารือกันในวิธีนี้เชื้อเชิญการดลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์และจะช่วยให้ท่านพบวิธีที่มีประสิทธิผลเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของเยาวชนหญิงและครอบครัวของพวกเธอผ่านค่าย ทุกคนที่เข้าร่วมในสภาเหล่านี้ควรรู้สึกว่าความเห็นและแนวคิดของพวกเขามีค่า (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:122; คู่มือทั่วไป, 4.2.5)
ผู้นำฐานะปุโรหิต
ผู้นำฐานะปุโรหิตของวอร์ดและสเตคมีความรับผิดชอบเบื้องต้นต่อเยาวชนหญิงและต้องอนุมัติแผนค่ายทั้งหมด ฝ่ายประธานเยาวชนหญิงควรกรอกข้อมูลใน แผนกิจกรรมและเหตุการณ์ หารือ และรับการนำทางจากผู้นำฐานะปุโรหิตเกี่ยวกับจุดประสงค์ เป้าหมาย สถานที่ รายละเอียดกิจกรรม และกำหนดการของค่าย ผู้นำฐานะปุโรหิตควรอนุมัติแนวทางงบประมาณและแผนสำหรับความปลอดภัยของค่ายด้วย ซึ่งรวมถึงการเลือกพี่เลี้ยงสตรีที่เหมาะสมและกำหนดมาตรฐานความประพฤติและการแต่งกายของค่าย
ผู้นำฐานะปุโรหิตสามารถเรียกสตรีจากวอร์ดและสเตคมาช่วยวางแผนและบริหารค่าย (หากค่ายมีเยาวชนหญิงจากวอร์ดเท่านั้น ควรเรียกผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่จากวอร์ดนั้นไม่ใช่จากสเตค) พวกเขาควรวางแผนให้มีผู้นำฐานะปุโรหิตเข้าร่วมและไปเยี่ยมค่ายมากพอ ต้องมีพี่น้องชายฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดคสองคนขึ้นไปอยู่ในค่ายตลอดเวลาเพื่อให้การสนับสนุนและความคุ้มครอง (ดู คู่มือทั่วไป, 20.5.5) สำหรับกิจกรรมค้างคืน ผู้นำฐานะปุโรหิตเหล่านี้ควรอยู่แยกจากเยาวชนหญิงและผู้นำสตรีที่เป็นผู้ใหญ่ ผู้นำฐานะปุโรหิตควรหลีกเลี่ยงการอยู่สองต่อสองกับผู้นำสตรีหรือเยาวชนหญิงเว้นแต่อยู่ในระยะที่คนอื่นสามารถมองเห็นชัดเจน
ผู้นำค่ายเยาวชนหญิง
สตรีในวอร์ดและสเตคต้องได้รับเรียกจากผู้นำฐานะปุโรหิตของพวกเธอให้เป็นผู้นำค่ายเยาวชนหญิง ผู้นำค่ายเหล่านี้ทำงานกับผู้นำค่ายที่เป็นเยาวชนเพื่อจัดระเบียบและดำเนินค่ายภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานเยาวชนหญิง
ผู้นำค่ายที่เป็นเยาวชน
ค่ายเป็นโอกาสให้เยาวชนหญิงพัฒนาและฝึกทักษะการเป็นผู้นำขณะพวกเธอวางแผนและนำค่าย ผู้นำสามารถเรียกเยาวชนหญิงอายุ 16 ถึง 17 ปีเป็นผู้นำค่ายได้ ผู้นำค่ายที่เป็นเยาวชนเหล่านี้ควรมีความรับผิดชอบเบื้องต้นในการวางแผน กำกับดูแล และประเมินค่าย พวกเธอหารือกับฝ่ายประธานเยาวชนหญิง ผู้นำค่ายของวอร์ดและสเตค และผู้นำฐานะปุโรหิต หากวอร์ดหรือสเตคไม่มีเยาวชนหญิงวัยนี้ เยาวชนหญิงวัยอื่นสามารถทำบทบาทเหล่านี้ได้ ฝ่ายประธานชั้นเรียนอาจมีความรับผิดชอบในการเป็นผู้นำค่ายเช่นกัน ดูแหล่งข้อมูลเพื่อช่วยเยาวชนหญิงเตรียมรับบทบาทการเป็นผู้นำเหล่านี้ได้จาก คู่มือทั่วไป หมวด 4.2 และบทเรียนการเป็นผู้นำของฝ่ายประธานชั้นเรียนที่ ความช่วยเหลือสำหรับฝ่ายประธาน
ความรับผิดชอบตามปกติของผู้นำค่ายที่เป็นเยาวชน ได้แก่ ดำเนินการวางแผนการประชุม เลือกและวางแผนกิจกรรม กำกับดูแลและดำเนินกิจกรรมที่กำหนดไว้ และประเมินค่าย
ปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่น
“และพวกเขาสอน, และปฏิบัติต่อกันและกัน” (3 นีไฟ 26:19)
เมื่อเราปฏิบัติศาสนกิจ เท่ากับเรารับใช้และสอนผู้อื่น ผู้นำทุกคนมีโอกาสกระชับความสัมพันธ์และพัฒนาความไว้วางใจในหมู่เยาวชนหญิงที่ค่ายผ่านการปฏิบัติศาสนกิจ การปฏิบัติศาสนกิจเรียกร้องความรัก มิตรภาพที่จริงใจ และความปรารถนาจะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้อื่น ค่ายจัดสภาพแวดล้อมให้เยาวชนหญิงได้เป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้นขณะพวกเธอฝึกปฏิบัติศาสนกิจต่อกัน ในฐานะผู้นำ ท่านสามารถเป็นแบบอย่างของการปฏิบัติศาสนกิจได้เมื่อท่านหนุนใจผู้อื่น สร้างความเชื่อมั่นผ่านคำพูดและการกระทำ เลือกที่จะอดทน ทำหน้าที่เป็นผู้สร้างสันติ ไม่บ่น แบ่งปันประจักษ์พยาน และช่วยรวมทุกคนไว้ในกลุ่ม
หากท่านคือผู้นำค่ายที่เป็นเยาวชน ท่านมีโอกาสปฏิบัติศาสนกิจต่อเยาวชนหญิงที่ค่ายมากขึ้นเพราะท่านมีส่วนอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในประสบการณ์ของพวกเธอ ในฐานะผู้นำค่ายที่เป็นเยาวชน ท่านสามารถปฏิบัติศาสนกิจต่อเยาวชนหญิงที่ค่ายในวิธีต่อไปนี้
-
พบปะพูดคุยกับเยาวชนหญิงแต่ละคนเป็นรายตัว ทำความรู้จักเธอและช่วยให้เธอเข้าใจว่าจะะคาดหวังอะไรจากค่ายได้บ้าง
-
สวดอ้อนวอนให้เยาวชนหญิงแต่ละคนโดยเอ่ยชื่อก่อนมาค่ายและแต่ละวันระหว่างค่าย พึงแน่ใจว่าเยาวชนหญิงแต่ละคนรวมอยู่ในกลุ่มและรู้สึกเป็นที่รัก
-
แสดงแบบอย่างที่เรียบง่ายของความมีน้ำใจและการรับใช้
-
สอนเยาวชนหญิงเกี่ยวกับการปฏิบัติศาสนกิจ เชื้อเชิญให้พวกเธอปฏิบัติศาสนกิจต่อกัน เล่าประสบการณ์สู่กันฟังเมื่อสิ้นวันของแต่ละวัน
สอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
ผู้นำค่ายทุกคนเป็นครูโดยแบบอย่างและประจักษ์พยาน ค่ายควรอุดมไปด้วยการเรียนรู้ทั้งทางโลกและทางวิญญาณ ขณะท่านวางแผนว่าจะสอนอะไรที่ค่าย ขอให้สวดอ้อนวอนและไตร่ตรองเกี่ยวกับเยาวชนหญิงแต่ละคน จัดเตรียมโอกาสให้เยาวชนหญิงแต่ละคนรู้สึกถึงพระวิญญาณ ช่วยเธอประยุกต์ใช้หลักคำสอนของพระกิตติคุณกับประสบการณ์ประจำวัน สอนทักษะที่จะเตรียมเธอให้พร้อมรับอนาคต คุ้มครองเธอและครอบครัวในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ว่าท่านจะเลือกสอนหลักธรรมใด พึงจำไว้ว่าทุกอย่างที่ท่านทำที่ค่ายควรช่วยให้เยาวชนหญิงแต่ละคนประสบผลลัพธ์ต่อไปนี้ (ดู คู่มือทั่วไป, 11.1.1 ด้วย):
-
ทำให้ศรัทธาและประจักษ์พยานของพวกเธอในพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์เข้มแข็งขึ้น
-
เข้าใจอัตลักษณ์ของตนในฐานะธิดาของพระผู้เป็นเจ้า
-
ดำเนินชีวิตอย่างมีค่าควรขณะเชื่อฟังพระบัญญัติและดำเนินชีวิตตามมาตรฐานพระกิตติคุณ
-
ได้รับ รับรู้ และพึ่งพาการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณบริสุทธิ์
-
เตรียมรับบทบาทอันสูงส่งของเธอในฐานะผู้นำ ภรรยา และมารดา
-
เข้าใจและรักษาพันธสัญญาที่ทำไว้
-
พัฒนามิตรภาพและสนุกสนาน