ปจส., ลูกา ๑๒:๙–๑๒ (เปรียบเทียบ ลูกา ๑๒:๙–๑๐)
(การลบหลู่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะไม่ได้รับการให้อภัย.)
๙ แต่คนที่ปฏิเสธเราต่อหน้าคนทั้งหลาย, จะถูกปฏิเสธต่อหน้าเหล่าเทพของพระผู้เป็นเจ้า.
๑๐ บัดนี้สานุศิษย์ของพระองค์ทราบว่าพระองค์ตรัสเรื่องนี้, เพราะพวกเขากล่าววาจาให้ร้ายพระองค์ต่อหน้าผู้คน; เพราะพวกเขากลัวที่จะยอมรับพระองค์ต่อหน้าคนทั้งหลาย.
๑๑ และพวกเขาหาเหตุผลในบรรดาพวกเขาเอง, โดยกล่าวว่า, พระองค์ทรงทราบความในใจของเรา, และพระองค์รับสั่งเพื่อให้เกิดการกล่าวโทษแก่เรา, และเราจะไม่ได้รับการให้อภัย. แต่พระองค์ตรัสตอบพวกเขา, และรับสั่งแก่พวกเขาว่า,
๑๒ ผู้ใดก็ตามที่จะกล่าวคำต่อต้านบุตรแห่งพระมหาบุรุษ, และกลับใจ, เขาจะได้รับการให้อภัย; ทว่าคนที่ลบหลู่พระวิญญาณบริสุทธิ์, เขาคนนั้นจะไม่ได้รับการให้อภัย.
ปจส., ลูกา ๑๒:๔๑–๕๗ (เปรียบเทียบ ลูกา ๑๒:๓๘–๔๘)
(เราต้องพร้อมรับการเสด็จมาของพระเจ้าเสมอ.)
๔๑ เพราะ, ดูเถิด, พระองค์เสด็จมาในยามแรกของคืน, และพระองค์จะเสด็จมาในยามที่สองด้วย, และพระองค์จะเสด็จมาในยามที่สามอีก.
๔๒ และตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, พระองค์เสด็จมาแล้ว, ดังที่มีเขียนไว้ถึงพระองค์; และอีกครั้งเมื่อพระองค์จะเสด็จมาในยามที่สอง, หรือเสด็จมาในยามที่สาม, ผู้รับใช้เหล่านั้นเป็นสุขแล้วเมื่อพระองค์เสด็จมา, ผู้ที่พระองค์จะทรงพบว่าทำเช่นนั้น;
๔๓ เพราะนายของผู้รับใช้เหล่านั้นจะคาดเอวของเขา, และทำให้พวกเขานั่งลงกินอาหาร, และจะออกมารับใช้พวกเขา.
๔๔ และบัดนี้, ตามจริงแล้วเรากล่าวสิ่งเหล่านี้แก่เจ้า, เพื่อเจ้าจะทราบเรื่องนี้, ว่าการเสด็จมาของพระเจ้าเป็นดังขโมยในเวลากลางคืน.
๔๕ และสิ่งนี้เหมือนกับชายซึ่งเป็นเจ้าบ้าน, ผู้ที่, หากเขาไม่เฝ้าทรัพย์สินของตน, ขโมยก็มาในโมงซึ่งเขาไม่รู้ตัว, และนำทรัพย์สินของเขาไป, และแบ่งกันกับพวกพ้องของเขา.
๔๖ และพวกเขากล่าวในบรรดาพวกเขาเองว่า, หากหัวหน้าครอบครัวรู้ว่าโมงใดขโมยจะมา, เขาจะเฝ้าดู, และไม่ยอมให้ขโมยบุกเข้ามาในบ้านและไม่ยอมสูญเสียทรัพย์สินของเขา.
๔๗ และพระองค์ตรัสกับพวกเขา, ตามจริงแล้ว เรากล่าวแก่เจ้า, ดังนั้นเจ้าจงเตรียมพร้อมเช่นเดียวกัน; เพราะบุตรแห่งพระมหาบุรุษเสด็จมาในโมงที่เจ้าหาได้คิดไม่.
๔๘ จากนั้นเปโตรทูลพระองค์ว่า, ข้าแต่พระเจ้า, พระองค์รับสั่งคำอุปมานี้แก่พวกข้าพระองค์, หรือแก่คนทั้งปวง ?
๔๙ และพระเจ้าตรัส, เราพูดกับคนเหล่านั้นที่พระเจ้าจะทำให้เป็นผู้ปกครองเหนือครัวเรือนของพระองค์, เพื่อให้มอบอาหารในส่วนที่จะให้แก่ลูก ๆ ของพระองค์ในฤดูกาลอันเหมาะสม.
๕๐ และพวกเขากล่าว, ถ้าเช่นนั้นผู้ใดเล่าคือผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์และมีปัญญาคนนั้น ?
๕๑ และพระเจ้ารับสั่งแก่พวกเขา, คนนั้นคือผู้รับใช้ที่เฝ้าดู, เพื่อแบ่งปันอาหารในส่วนของเขาในฤดูกาลอันเหมาะสม.
๕๒ ผู้รับใช้คนนั้นเป็นสุขแล้วผู้ที่พระเจ้าของเขา, จะทรงพบว่าเขาทำเช่นนั้น, เมื่อพระองค์เสด็จมา.
๕๓ โดยแท้แล้ว เรากล่าวแก่เจ้า, ว่าพระองค์จะทรงทำให้เขาเป็นผู้ปกครองเหนือสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ทรงมี.
๕๔ แต่ผู้รับใช้ที่ชั่วร้ายคือผู้ที่พบว่าไม่ได้เฝ้าดู. และหากพบว่าผู้รับใช้คนนั้นไม่ได้เฝ้าดู, เขาจะกล่าวในใจว่า, นายของข้าพเจ้าคงจะมาช้า; และจะเริ่มตีผู้รับใช้อื่น ๆ, และสาวใช้ทั้งหลาย, และกิน, และดื่ม, และเมาสุรา.
๕๕ นายของผู้รับใช้คนนั้นจะมาในวันที่เขาหาได้เฝ้าคอยไม่, และในโมงที่เขาไม่รู้ตัว, และจะลงโทษเขา, และจะกำหนดส่วนที่จะให้แก่เขาเช่นเดียวกับคนที่ไม่เชื่อ.
๕๖ และผู้รับใช้คนนั้นซึ่งทราบความประสงค์ของนายตน, และหาได้เตรียมตัวรับนายของตนไม่, ทั้งมิได้ทำตามความประสงค์ของนาย, จะถูกเฆี่ยนหลายแผล.
๕๗ แต่คนที่หารู้ไม่ถึงความประสงค์ของนายตน, และกระทำสิ่งที่สาสมแก่การถูกเฆี่ยน, จะถูกเฆี่ยนเล็กน้อย. เพราะแก่ผู้ใดก็ตามที่ให้ไว้มาก, ก็จะเรียกร้องจากผู้นั้นมาก; และแก่ผู้ใดที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้มาก, คนทั้งหลายก็จะขอจากผู้นั้นมากยิ่งกว่า.