นิมิตที่นำดิฉันสู่ความจริง
ดิฉันเพิ่งจินตนาการถึงรูปปั้นใช่หรือไม่?
ไม่กี่ปีก่อน ดิฉันพบกับผู้สอนศาสนาในช่วงที่ดิฉันมีปัญหาด้านสุขภาพ ดิฉันทุกข์ใจและทั้งหมดที่ดิฉันต้องการคือรู้สึกถึงการนำทางบางอย่างในชีวิตดิฉัน
ดิฉันรู้สึกไม่มั่นใจหรือตื่นเต้นกับสิ่งใดเลย โดยเฉพาะกับศาสนจักรแห่งนี้ที่ผู้สอนศาสนาพูดถึงอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้น ดิฉันก็ตัดสินใจเข้าร่วมการประชุมศีลระลึกเป็นครั้งแรกอย่างไม่เต็มใจนัก
คุณแม่มากับดิฉันด้วยและเมื่อเรามาถึงอาคารศาสนจักร หัวใจดิฉันแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นรูปปั้นสีทองอร่ามอยู่บนหลังคา นั่นเป็นภาพที่สวยงามที่สุดเท่าที่ดิฉันเคยเห็นมา! อาคารหลังนี้ดูสงบมาก ทำให้ดิฉันเปลี่ยนเจตคติอย่างสิ้นเชิง และดิฉันอยากเข้าไปข้างในมาก
ในช่วงพิธีศีลระลึก ดิฉันหลับตา ภาพของพระเยซูปรากฏขึ้นในความนึกคิด ขณะเติบโต ดิฉันรู้จักพระเยซูมาโดยตลอด แต่ไม่ได้สนใจพระองค์จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ดิฉันไม่เคยอ่านพระคัมภีร์ไบเบิล พูดตรงๆ ดิฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเหตุผลที่พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์บนกางเขนหรือเหตุผลที่พระองค์ทรงมีอัครสาวกสิบสองหรือเหตุผลที่ศาสดาพยากรณ์หลายท่านสอนเกี่ยวกับพระองค์
แต่ในขณะนั้น ดิฉันรู้สึกเชื่อมโยงกับพระองค์ ในที่สุดพระองค์ก็ดูเหมือนดำรงอยู่จริงสำหรับดิฉัน ดิฉันรู้สึกถึงความรักอย่างท่วมท้นและปรารถนาจะเรียนรู้มากขึ้น ดิฉันเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นบ่อเกิดแห่งความจริงและความรักที่ดิฉันแสวงหา
สองสามวันต่อมา ดิฉันถามคุณแม่เรื่องรูปปั้นที่ดิฉันสังเกตเห็น เธอดูสับสนเล็กน้อยและบอกว่าเธอไม่เห็นรูปปั้น แต่เธอต้องการขับรถผ่านไปดูที่อาคารหลังนั้นอีกหลังจากดิฉันอธิบายว่ารูปปั้นนั้นสวยงามเพียงใด
แต่เมื่อเรามาถึงอาคารศาสนจักร รูปปั้นที่ดิฉันเห็นเมื่อสองสามวันก่อนหายไป ดิฉันไม่อยากจะเชื่อ! มีใครเอารูปปั้นออกไปหรือไม่?
ที่โบสถ์ในสัปดาห์ต่อมา ดิฉันถามบางคนเกี่ยวกับรูปปั้น เธองุนงงและบอกว่าอาคารหลังนี้ไม่เคยมีรูปปั้น แต่เมื่อดิฉันอธิบายว่ารูปปั้นมีลักษณะอย่างไรเธอก็พูดว่า “โอ้! คุณหมายถึงรูปปั้นโมโรไนใช่ไหม? รูปปั้นเหล่านั้นไม่ได้อยู่ที่อาคารศาสนจักร แต่ส่วนใหญ่รูปปั้นโมโรไนจะอยู่ที่พระวิหาร” เธอบอกดิฉันว่าโมโรไนเป็นศาสดาพยากรณ์ในพระคัมภีร์มอรมอนและมีบทบาทในการฟื้นฟูด้วย
ดิฉันบอกได้เลยว่าดิฉันต้องจินตนาการถึงรูปปั้นนั้น แต่ดิฉันก็ค้นคว้าพระคัมภีร์มอรมอนเพื่อหาถ้อยคำที่กล่าวถึงโมโรไน ดิฉันเรียนรู้ว่าท่านสูญเสียครอบครัวและเพื่อนๆ ท่านเจ็บปวดเพราะบาปของโลก และแม้เป็นเช่นนั้น ท่านยังคงทำตามพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้าที่ให้ปกป้องความจริง ดิฉันยังเรียนรู้ด้วยว่าท่านปรากฏต่อโจเซฟ สมิธหลายครั้งเพื่อให้ข่าวสารจากพระบิดาบนสวรรค์ การเรียนรู้เกี่ยวกับโมโรไนและคำสอนของท่านตลอดจนวิธีที่ท่านพยายามอย่างมากเพื่อทำตามพระคริสต์และพิทักษ์ความจริงช่วยให้ดิฉันเปลี่ยนใจเลื่อมใสมาสู่พระกิตติคุณอย่างแท้จริง
ในที่สุดเมื่อดิฉันมีโอกาสไปพระวิหารซับโปะโระ ญี่ปุ่น ดิฉันเห็นรูปปั้นโมโรไนของจริงเป็นครั้งแรก เป็น รูปปั้นเดียวกันกับที่ดิฉันเคยเห็นบนอาคารศาสนจักร แต่รูปปั้นที่ดิฉันเห็นในวันนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าเหนือโลกนี้ ดิฉันเชื่อว่า “รูปปั้นแวววาว” คือนิมิตจากพระบิดาบนสวรรค์ที่เชื้อเชิญให้ดิฉันค้นหาความรักของพระองค์และความจริงของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณเช่นโมโรไนผู้เป็นพยานถึงพระคริสต์และศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่ผู้ทำเช่นเดียวกัน เพื่อพบการนำทางที่ดิฉันพยายามค้นหา
ดิฉันทราบว่าพระเจ้าทรงฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและเรามีศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันผู้ได้รับการนำทางจากพระองค์เพื่อนำความจริงมาให้เราและช่วยให้เรากลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ ดิฉันทราบว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นบ่อเกิดแห่งสันติสุขและปีติในชีวิตนี้รวมถึงชีวิตหน้าด้วย
ความสว่างของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระองค์และพรทุกประการที่ประทานให้นั้นเปลี่ยนชีวิตดิฉัน และเช่นเดียวกับในวันแรกที่โบสถ์ ดิฉันทราบว่าพระบิดาบนสวรรค์จะทรงนำทางชีวิตดิฉันขณะดิฉันติดตามพระองค์และผู้ส่งสารของพระองค์ต่อไป