หนุ่มสาวรายสัปดาห์
วิธีที่พระคัมภีร์มอรมอนเปิดสวรรค์ให้ดิฉัน
กุมภาพันธ์ 2024


ดิจิทัลเท่านั้น: คนหนุ่มสาว

วิธีที่พระคัมภีร์มอรมอนเปิดสวรรค์ให้ดิฉัน

ขณะที่เราศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนปีนี้ ดิฉันต้องการแบ่งปันว่าดิฉันมีประจักษ์พยานถึงพลังและอิทธิพลที่พระคัมภีร์มอรมอนจะมีในชีวิตท่านได้

ผู้เขียนอาศัยอยู่ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา

ดิฉันมีประจักษ์พยานเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนตั้งแต่อ่านครั้งแรกเมื่ออายุยังน้อย แต่จริงๆ แล้ว ดิฉันรู้สึกว่า “การศึกษา” พระคัมภีร์ของดิฉันในช่วงหลายเดือนก่อนการประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคมปี 2018 เป็นเหมือนการอ่านผ่านตามากกว่า ด้วยเหตุนี้เมื่อประธานเนลสันท้าทายสตรีของศาสนจักรให้อ่านพระคัมภีร์มอรมอนจบก่อนสิ้นปี ดิฉันรู้สึกว่านั่นเป็นคำเชื้อเชิญที่ดิฉันต้องการ

คำเชื้อเชิญของท่านมาพร้อมคำสัญญาอันเปี่ยมด้วยพลังบางอย่างเช่นกัน ท่านกล่าวว่า “เมื่อท่านศึกษาร่วมกับการสวดอ้อนวอน ข้าพเจ้าสัญญาว่าสวรรค์จะเปิดให้ท่าน” (“การมีส่วนร่วมของพี่น้องสตรีในการรวบรวมอิสราเอล” เลียโฮนา พ.ย. 2018, 69)

ขณะฟัง ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะอ่านพระคัมภีร์ที่ดิฉันรักมากอีกครั้ง และดิฉันแทบอดใจรอสวรรค์เปิดให้ดิฉันไม่ไหว

และสวรรค์เปิด ในหลายๆ ด้าน หลังจากอ่านพระคัมภีร์มอรมอนจบตามคำท้าทายนั้น ดิฉันใช้เวลาไตร่ตรองประสบการณ์ที่เคยมีและยังมีอยู่ ดิฉันอัศจรรย์ใจกับสิ่งที่ดิฉันเรียนรู้ รู้สึก และเป็นโดยศึกษาหน้าต่างๆ ที่ได้รับการดลใจในนั้น

สิ่งที่ดิฉันเรียนรู้

เมื่อดิฉันอ่านพระคัมภีร์มอรมอนเร็วกว่าเดิม เรื่องเล่าในนั้นมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ดิฉันรู้สึกเชื่อมโยงกับคนที่ประจักษ์พยานและประสบการณ์ของพวกเขาประกอบเป็นพระคัมภีร์เล่มนี้

ดิฉันเรียนรู้จากแซมพี่ชายของนีไฟว่าความชอบธรรมแบบเงียบๆ น่ายกย่องมาก ดิฉันเรียนรู้จากแอลมาว่าอย่าทิ้งศรัทธาของดิฉัน ดิฉันเรียนรู้จากบุตรชายของเขาว่าไม่มีวันสายเกินไปที่จะเข้าใกล้พระคริสต์และประสบเดชานุภาพการชำระให้สะอาดของการชดใช้อันไม่มีขอบเขตของพระองค์ (ดู โมไซยาห์ 27; แอลมา 36) บิดาของกษัตริย์ลาโมไนเป็นแรงบันดาลใจให้ดิฉันเสียสละเพื่อพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น (ดู แอลมา 22:15, 18) เพโฮรันสอนให้ดิฉันใจเย็นและเป็นเหมือนพระคริสต์เมื่อรู้สึกว่ามีคนเข้าใจผิด (ดู แอลมา 61) ดิฉันเรียนรู้จากพี่ชายของเจเร็ดว่าแม้การกระทำในส่วนของเราจำเป็น แต่เท่านั้นไม่พอ เราต้องได้รับความช่วยเหลือและเดชานุภาพอันกอปรด้วยพระปรีชาสามารถของพระคริสต์ด้วย (ดู อีเธอร์ 2–3) ดิฉันเรียนรู้จากโมโรไนว่าแม้เราจะรู้สึกโดดเดี่ยว แต่เราไม่มีวันโดดเดี่ยวจริงๆ (ดู มอรมอน 8:3, 5)

ดิฉันเรียนรู้ที่จะทูลถามพระเจ้าบ่อยๆ สวดอ้อนวอนอย่างไม่หยุดยั้งและด้วยศรัทธา ดิฉันเรียนรู้ความสำคัญของการจดบันทึก การแสดงประจักษ์พยาน และวิธีกลับใจอย่างถูกต้อง ดิฉันเรียนรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงห่วงใย พระคริสต์ทรงเมตตา และทั้งสองพระองค์เป็นหนึ่งเดียว

ดิฉันเรียนรู้ว่า “[การดื่มด่ำ] พระวจนะของพระคริสต์” (2 นีไฟ 32:3) ให้ทิศทางที่ดิฉันต้องการในชีวิต

ดิฉันเรียนรู้อีกครั้งว่าโจเซฟ สมิธไม่ได้เขียน—และไม่สามารถ—เขียนพระคัมภีร์เล่มนี้

สิ่งที่ดิฉันรู้สึก

เป็นความบังเอิญหรือไม่ที่ดิฉันอ่านบทสดุดีของนีไฟ (2 นีไฟ 4) ในวันที่ดิฉันรู้สึกหนักใจกับความไม่ดีพอและความอ่อนแอของตน? แน่นอนว่าไม่ เป็นเหตุบังเอิญอันน่ายินดีหรือไม่ที่ดิฉันเจอคำประกาศของกษัตริย์ลิมไฮที่ว่า “โอ้งานของพระเจ้าน่าอัศจรรย์เพียงใด, และพระเจ้าทรงทนกับผู้คนของพระองค์นานเพียงใด” (โมไซยาห์ 8:20) เมื่อดิฉันรู้สึกโดดเดี่ยวในการทดลองของดิฉัน? ไม่! กับพระผู้เป็นเจ้าไม่มีความบังเอิญ มีเพียงพระเมตตาอันละเอียดอ่อนที่แสดงออกอย่างสมบูรณ์แบบเท่านั้น และดิฉันเป็นผู้ได้รับพระเมตตามากมายตามที่ดิฉันอ่าน ดิฉันรู้สึกจริงๆ ว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงรักดิฉัน และรู้สึกสงบอย่างหาที่เปรียบมิได้ขณะตั้งใจศึกษาพระคัมภีร์มอรมอน

เดชานุภาพการเยียวยาของพระผู้ช่วยให้รอดนั่นเองที่ดิฉันรู้สึกมากที่สุดตลอดการอ่านพระคัมภีร์มอรมอน ข้อแล้วข้อเล่าเป็นพยานถึงพระคุณ พระเมตตา ความสงสาร และความรักอันไม่มีขอบเขตของพระองค์ ขณะอ่านเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ ดิฉันรู้สึกท่วมท้นด้วยความสำนึกคุณต่อการเสียสละของพระองค์ ปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งที่ดิฉันประสบขณะอ่านคือความรู้สึกได้รับการให้อภัยอย่างสมบูรณ์ในการเลือกไม่ดีทั้งหลายที่เคยทำไว้เมื่อหลายปีมาแล้ว ดิฉันรู้สึกประหนึ่งพระผู้ช่วยให้รอดตรัสกับดิฉันโดยตรงขณะอ่าน ในใจดิฉันรู้สึกถึงพระดำรัสที่ว่า เดินหน้าได้แล้ว พระคริสต์ประทานการเยียวยาที่ดิฉันต้องการ

แม้ดิฉันไม่เห็นพระคริสต์ผู้ฟื้นคืนพระชนม์เหมือนชาวนีไฟเห็น (ดู 3 นีไฟ 11) แต่ดิฉันรู้สึกว่าพระองค์ทรงอยู่ในชีวิตดิฉันขณะอ่านเกี่ยวกับพระองค์ในพระคัมภีร์มอรมอน พระองค์เข้าพระทัยเราแต่ละคนและการทดลองของเราจริงๆ และทรงมีเดชานุภาพที่จะช่วยให้รอด ปลอบโยน และเยียวยาเรา

คนที่ดิฉันจะเป็น

ขณะตั้งใจศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนในแต่ละวัน ดิฉันอดทน เห็นอกเห็นใจ สำนึกคุณ และมองโลกในแง่ดีมากขึ้น ดิฉันตั้งใจว่าจะเห็นแก่ตัวน้อยลง และกังวลกับเรื่องทางโลกน้อยลง

เพราะพระคัมภีร์มอรมอนและพระวิญญาณที่พระคัมภีร์เล่มนี้นำเข้ามาในชีวิต ดิฉันจึงเป็นมารดา ภรรยา บุตรสาว และมิตรสหายที่ดีขึ้น ดิฉันเป็นสานุศิษย์ที่อุทิศตนมากขึ้นของพระเยซูคริสต์

หนังสือเล่มเดียวจะมีคำตอบ ทั้งหมด ได้อย่างไร? หนังสือเล่มเดียวจะทำให้บรรลุผลสำเร็จมากขนาดนั้นได้อย่างไร?

เฉพาะหนังสือที่พระผู้เป็นเจ้าทรงออกแบบเท่านั้นจึงจะมีอานุภาพเช่นนั้น และดิฉันรู้ว่าหนังสือเล่มนี้มาจากพระผู้เป็นเจ้าจริงๆ

เฉกเช่นประธานเนลสันสัญญา สวรรค์ เปิด ให้ดิฉันในหลายๆ ด้าน มากกว่าที่ดิฉันจะจินตนาการได้ ด้วยเหตุนี้ดิฉันจึงจะอ่านและศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนต่อไป ดิฉันจะค้นคว้าหน้าต่างๆ ในนั้นต่อไปและหาพระคริสต์ที่นั่นเพราะพระคัมภีร์เล่มนี้เป็นทั้งหมดเกี่ยวกับ พระองค์ จริงๆ