“ภาพของความเป็นหนึ่งเดียวกัน” เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน, เม.ย. 2021, 6–8
จงตามเรามา
ภาพของความเป็นหนึ่งเดียวกัน
เราทุกคนแตกต่างกันเหมือนจุดสีบนผืนผ้าใบ แต่เป็นสิ่งสวยงามเมื่อเราทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า
เมื่อท่านได้ยินคำว่า ความเป็นหนึ่งเดียวกัน ท่านนึกถึงอะไร? อาจจะนึกถึงคณะนักร้องประสานเสียงร้องเพลงพร้อมเพรียงกันหรือทีมกีฬาโปรดของท่านเล่นประสานกันดีมาก ท่านพบความเป็นหนึ่งเดียวได้ในครอบครัว ชุมชน แม้กระทั่งในธรรมชาติ!
ความเป็นหนึ่งเดียวกันเกี่ยวข้องกับการมาทำงานด้วยกัน ถึงแม้เรามาจากภูมิหลังต่างกัน วัฒนธรรมต่างกัน และมีความสามารถต่างกัน แต่พระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้เรารักกันและ “เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 38:27) แต่เราจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้อย่างไรในเมื่อเราทุกคนแตกต่างกันมาก?
ความเป็นหนึ่งเดียวกันในศิลปะ
เราพูดถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในดนตรีและกีฬา แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าเราสามารถเรียนรู้เรื่องความเป็นหนึ่งเดียวกันได้จากศิลปะด้วย? มีภาพวาดแบบหนึ่งเรียกว่าภาพผสานจุดสีที่จิตรกรแต้มจุดสีเล็กๆ ทั่วพื้นผิวเพื่อสร้างสรรค์ภาพหนึ่งขึ้นมาแทนที่จะผสมสีบนจานสีแล้วใช้พู่กันขนาดใหญ่ลงสี เมื่อท่านยืนใกล้ภาพวาดเหล่านี้ ทั้งหมดที่ท่านเห็นคือจุดสีแต่ละจุด
แต่เมื่อท่านยืนห่างออกมา จุดจะกลมกลืนกันจนเห็นเป็นภาพ
จุดสีแต่ละจุดทำงานด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม เราทุกคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหมือนจุดสี พระบิดาบนสวรรค์ทรงเห็น “ทั้งภาพ” พระองค์ทรงเห็นเราทุกคนเป็นบุตรธิดาของพระองค์ “ทายาทแห่งอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า” (4 นีไฟ 1:17) ถ้าเราสามารถเรียนรู้วิธีถอยออกมาดูภาพที่ใหญ่กว่าได้ เราจะเรียนรู้วิธีรักและทำงานกับคนที่ต่างจากเราได้ ต่อไปนี้เป็นบางสิ่งที่เราทำได้เพื่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกัน
ระลึกถึงพันธสัญญา
การระลึกถึงพันธสัญญาบัพติศมาของเราช่วยให้เราทำงานจนเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้อื่น ใน โมไซยาห์ 18:10 เราอ่านว่าส่วนหนึ่งของการบัพติศมาคือการยินยอมรับใช้พระผู้เป็นเจ้าและรักษาพระบัญญัติของพระองค์ วิธีหนึ่งที่เราทำสิ่งนี้คือ “แบกภาระของกันและกัน … โศกเศร้ากับคนที่โศกเศร้า; แท้จริงแล้ว, และปลอบโยนคนที่ต้องการการปลอบโยน” (โมไซยาห์ 18:8–9)
เมื่อเราเข้าไปคุยกับเพื่อนที่เศร้าเสียใจ ช่วยพ่อแม่ทำงานรอบๆ บ้าน หรือเข้าไปคุยกับคนใหม่ที่โรงเรียน เรากำลังพยายามเปิดใจรับพวกเขาและให้ “ใจ [เรา] ผูกพันกันไว้ในความเป็นหนึ่งเดียวและในความรักที่มีต่อกัน” (โมไซยาห์ 18:21) มีวิธีใดอีกบ้างที่ท่านสามารถรักษาพันธสัญญาบัพติศมาว่าจะรับใช้พระผู้เป็นเจ้า? ท่านอาจจะถามคำถามนี้กับตนเองเมื่อท่านรับศีลระลึกครั้งต่อไป เมื่อท่านมองหาวิธีอื่นในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้อื่น พระบิดาบนสวรรค์จะทรงช่วยเหลือท่าน
หลีกเลี่ยงการใช้คำว่า “ชาว”
ในพระคัมภีร์มอรมอน ผู้คนใช้ชื่อเป็นวิธีแบ่งและแยกตนเอง พวกเขาเรียกตนเองว่าชาวนีไฟ ชาวเลมัน ชาวโซรัม และชาวอแมลิไค—นี่แค่ไม่กี่ชื่อ บางครั้งพวกเขาถึงกับมีเครื่องหมายพิเศษไว้แสดงตนว่าพวกเขาอยู่กลุ่มใด (ดู แอลมา 3:4) พวกเขามีความสุขที่สุดเมื่อพวกเขาไม่มี “ชาว” ใดๆ (ดู 4 นีไฟ 1:16–17)
ลองนึกถึงที่ทำงาน โรงเรียน หรือแถวบ้านท่าน เราอาจจะไม่ได้ใช้ชื่อเรียกอย่างเช่น “ชาวนีไฟ” หรือ “ชาวโซรัม” แต่ท่านนึกชื่อเรียกอื่นที่คนอาจจะใช้ออกหรือไม่? บางคนในโลกพยายามแยกเราตามสิ่งต่างๆ อย่างเช่นความสามารถทางกาย สีผิว หรือแม้แต่จำนวนเงินมากน้อยที่เรามี พระเยซูคริสต์ไม่ได้ทรงสอนให้เราทำเช่นนั้น พระองค์ทรงสอนให้เรา “รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (มาระโก 12:31) เพื่อเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้น เราต้องหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อเรียกที่แบ่งแยกเรา
ใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตน
ส่วนหนึ่งของความเป็นหนึ่งเดียวกันคือ “[การ] เรียนรู้ที่จะมีความสุขกับความสำเร็จของพี่น้องและเพื่อน …เราทุกคนต้องพยายามอ่อนน้อมถ่อมตนมากขึ้น”1 บางครั้งเรารู้สึกว่าทำได้ยาก เพื่อนที่ดีที่สุดของท่านอาจติดทีมแต่ท่านไม่ติด หรือพี่น้องของท่านเรียนได้เกรดดีกว่าท่าน เราอาจจะรู้สึกเศร้าใจหรือเจ็บปวดที่เห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ ลองพยายามฉลองความสำเร็จกับพวกเขาแม้เราอาจรู้สึกว่าทำได้ยาก! เราทุกคนมีของประทานและพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม และพระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้เราแสวงหาและพัฒนาของประทานที่ดี
ความแตกต่างเป็นเรื่องดี
บางครั้งเราอาจจะอยากปฏิสัมพันธ์เฉพาะกับคนที่ดูเหมือนเรา พูดเหมือนเรา หรือคิดเหมือนเรา แต่พระเยซูคริสต์ทรงเจตนาปฏิสัมพันธ์กับคนที่คนอื่นมองว่าแตกต่างเสมอ ความแตกต่างเป็นเรื่องดีและ จำเป็นต้องมี!
ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์แห่งฝ่ายประธานสูงสุดกล่าวไว้ว่า “แม้จะแตกต่างกันก็สามารถมองเป็นโอกาสได้ พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยให้เราเห็นความแตกต่างของคนอื่นซึ่งไม่ใช่ที่มาของความรำคาญแต่คือการเอื้อประโยชน์”2 ทุกคนจะเล่นตำแหน่งเดียวกันในทีมกีฬาหรือร้องเสียงเดียวกันในคณะนักร้องประสานเสียงไม่ได้ โลกจะน่าเบื่อถ้าดอกไม้ทุกดอกมีสีเดียวกันหรือถ้าต้นไม้ทุกต้นเหมือนกันหมด ความแตกต่างทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นและช่วยให้เราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
“เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน”
เมื่อท่านทำงานเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้อื่น ท่านอาจจะเห็นว่าเราไม่ต่างกันอย่างที่เราคิด เมื่อเราฝึกมองกันเหมือนที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงมองเรา เราจะเข้าใจว่าทุกคนเป็นที่ต้องการและเป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า เราแต่ละคนเป็นจุดสีที่ดีเยี่ยมในภาพจิตรกรรมที่งดงาม จงยอมรับความจริง และภาพนั้นจะไม่เหมือนเดิมหากไม่มีท่าน