ท่าน จะตอบรับ การเรียกของพระเจ้า หรือไม่?

โดย เอ็ลเดอร์ฮอร์เฮ ที. เบเซร์รา

แห่งสาวกเจ็ดสิบ

พระเจ้าจะทรงเรียกท่านให้ทำสิ่งสำคัญๆ ตอนนี้และในอนาคต

หลายพันปีก่อนเด็กชายคนหนึ่งชื่อซามูเอลกำลังเรียนรู้หน้าที่ของเขาในพระวิหารจากปุโรหิตชื่อเอลี คืนหนึ่งขณะซามูเอลกำลังเข้านอน เขาได้ยินคนเรียกเขา ตอนแรกซามูเอลคิดว่าเอลีเรียก เขาจึงวิ่งไปหาเอลีและตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่นี่ ท่านเรียกข้าพเจ้า” (1 ซามูเอล 3:5) เอลีไม่ได้เรียกและเขาบอกให้ซามูเอลกลับไปนอน

ซามูเอลได้ยินคนเรียกและไปหาเอลีอีกสองครั้งและได้คำตอบเหมือนเดิม

หลังจากซามูเอลได้ยินคนเรียกและไปหาเอลีครั้งที่สาม เอลีรู้เลยว่าพระเจ้าทรงเรียกซามูเอล เอลีจึงบอกให้ซามูเอลกลับไปนอน เอลีบอกว่าถ้าพระเจ้าเรียกอีกครั้งให้ทูลว่า “พระยาห์เวห์เจ้าข้าขอตรัสเถิด เพราะผู้รับใช้ของพระองค์คอยฟังอยู่” (1 ซามูเอล 3:9)

พระเจ้าทรงเรียกอีกครั้ง และซามูเอลทำตามคำแนะนำของเอลี จากนั้นพระเจ้าทรงเปิดเผยพระประสงค์ต่อซามูเอล (ดู 1 ซามูเอล 3:11–14) แม้ซามูเอลยังเด็ก แต่พระเจ้าทรงรู้จักเขาและทรงมีงานให้เขาทำ

ท่านเหมือนซามูเอลคือมีโอกาสเรียนรู้ เข้าใจ รู้จักพระเจ้าและพระดำรัสของพระองค์ทั้งนี้เพื่อพระประสงค์ของพระองค์จะเปิดเผยต่อท่านได้ พระเจ้าจะทรงเรียกท่านให้ทำสิ่งสำคัญๆ ตอนนี้และในอนาคต

ท่านจะตอบรับหรือไม่?

จงเต็มใจลงมือทำ

ก่อนประสบการณ์ของซา‌มู‌เอลกับพระเจ้า “ซามูเอล [ยัง] ไม่เคยรู้‍จักพระ‍ยาห์‌เวห์ และพระ‍ยาห์‌เวห์ ยัง ไม่เคยทรงสำแดงพระ‍ดำรัสของพระ‍องค์แก่เขา” (1 ซามูเอล 3:7; เน้นตัวเอน)

ข้าพเจ้ารักคำว่า ยัง ในข้อนี้ ซามูเอลไม่เคยรู้จักพระเจ้า แต่ทันทีที่ท่านตอบรับการเรียกของพระเจ้า ท่าน “เติบโตขึ้น และพระยาห์เวห์สถิตกับท่าน และท่านไม่ให้วาจาทั้งหมด [ของพระเจ้า] ตกไปเปล่า” (1 ซามูเอล 3:19)

ข้าพเจ้าชอบเชื่อมโยงเรื่องราวของซามูเอลกับ หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:99 ซึ่งกล่าวว่า “ดังนั้น, บัดนี้ให้ทุกคนพึง เรียนรู้ หน้าที่ของตน, และ กระทำ ในตำแหน่งซึ่งตนได้รับการกำหนดไว้, ด้วยความขยันหมั่นเพียรจนสุดความสามารถ” (เน้นตัวเอน) เราเรียนรู้และเติบโตโดยการทำ ไม่ใช่โดยการยืนอยู่เฉยๆ ขอให้เราเรียนรู้สิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราทำแล้วลงมือทำ!

การสวดอ้อนวอนให้รู้ว่าต้องทำอะไรเป็นเรื่องสำคัญ ท่านควรสวดอ้อนวอนเสมอ แต่ท่านควรเต็มใจลุกขึ้นมาทำบางอย่าง พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงช่วยท่านได้ง่ายขึ้นเมื่อท่านลงมือทำบางอย่าง

สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เตรียมท่าน

สมัยข้าพเจ้าเป็นมัคนายก ข้าพเจ้าส่งผ่านศีลระลึกและรวบรวบเงินบริจาคอดอาหาร ข้าพเจ้าจัดและเก็บเก้าอี้สำหรับการประชุมด้วย หน้าที่เหล่านี้ดูเหมือนเล็กน้อยสำหรับข้าพเจ้า ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไป ข้าพเจ้าเห็นได้ว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นการรับใช้ของข้าพเจ้าในศาสนจักร สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เตรียมข้าพเจ้าให้พร้อมรับวันที่พระเจ้าจะทรงเรียกข้าพเจ้าให้ทำมากขึ้น

บางครั้งเราคิดว่าประสบการณ์ทางวิญญาณหรือการกระตุ้นเตือนต้องน่าอัศจรรย์หรือใหญ่โตหรือโดดเด่น เช่น ฝันหรือได้ยินเสียง แต่ส่วนใหญ่แล้ว อย่างน้อยก็สำหรับข้าพเจ้า ประสบการณ์กับพระวิญญาณมาในรูปความคิดและแนวคิดเล็กๆ ให้ทำบางสิ่งบางอย่างหรือติดต่อช่วยเหลือบางคน ประสบการณ์กับพระวิญญาณจะมากขึ้นเมื่อท่านลงมือทำตามการกระตุ้นเตือนเหล่านั้น ดังนั้นถ้าท่านได้รับการกระตุ้นเตือนเล็กๆ ให้ทำสิ่งที่ดีและมีประโยชน์จงทำ! พระเจ้าจะไม่ประทานสิ่งใหญ่โตให้ท่านทำจนกว่าท่านจะฟังและลงมือทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ

พระเจ้าทรงไว้วางใจท่าน

ขณะข้าพเจ้ารับใช้เป็นอธิการ ข้าพเจ้าเฝ้าดูเยาวชนชายคนหนึ่งในวอร์ดก้าวหน้าเป็นมัคนายก ผู้สอน และปุโรหิต ต่อจากนั้นเขาเตรียมรับใช้งานเผยแผ่ เขาเป็นคนเงียบๆ และเขินอาย มาจากครอบครัวที่ไม่แข็งขันในพระกิตติคุณ

วันอาทิตย์ที่เขาจะพูดก่อนไปเป็นผู้สอนศาสนา ข้าพเจ้าถามว่าเตรียมพูดมาหรือเปล่า

“ครับ” เขาตอบ เขาเปิดแฟ้มสีเหลืองให้ดูคำพูดของเขา

“เยี่ยมมาก” ข้าพเจ้าบอก “แต่ผมอยากให้คุณทำการทดลองอย่างหนึ่ง คุณจะพูดจากใจแทนได้ไหมครับ?”

“คุณอยากให้ผมทำ อะไร นะครับ?” เขาถาม

“ผมไว้ใจคุณ” ข้าพเจ้าบอก “แค่พูดจากใจ ผมรู้ว่าคุณจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในการประชุมนี้ ผมจะอยู่ข้างๆ คุณถ้าคุณต้องการผม”

เขาเอาคำพูดของเขาให้ผม ข้าพเจ้าจะไม่มีวันลืมว่าเขาตื่นกลัวแค่ไหนขณะผู้พูดคนอื่นๆ พูดก่อนเขา แต่เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องพูด เขาลุกขึ้นให้ข่าวสารอันทรงพลัง ทุกคนในที่ประชุมสนใจเด็กเขินอายคนนี้ที่กลายเป็นกระบอกเสียงของพระเจ้า

ปาฏิหาริย์จริงๆ เกิดขึ้นหลังจบการประชุม เพื่อนสามคนของเขาที่เคยบอกข้าพเจ้าว่าจะไม่ไปเป็นผู้สอนศาสนาเดินน้ำตาคลอมาหาข้าพเจ้า แต่ละคนบอกว่า “ผมอยากไปรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาครับ” ประจักษ์พยานของเยาวชนชายคนนี้ทำให้เพื่อนๆ เชื่อมั่นว่าพวกเขาต้องรับใช้ ทั้งสามคนรับใช้งานเผยแผ่ที่ประสบผลสำเร็จ ปัจจุบันเยาวชนชายคนนี้เป็นบิดาและยังคงทำตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์อย่างแข็งขัน เขาช่วยพาสมาชิกหลายคนในครอบครัวเขากลับเข้ามาในศาสนจักรด้วย

ประสบการณ์นี้เตือนข้าพเจ้าว่าพระเจ้าทรงไว้วางใจเยาวชนของศาสนจักร พระองค์ประทานวิธีให้ท่านมากกว่าแต่ก่อนเพื่อพิสูจน์ว่าทรงไว้วางใจท่าน ขณะอายุเท่าท่านข้าพเจ้าไม่พร้อมรับโอกาสที่ท่านมีด้วยซ้ำ! แต่ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านพร้อมช่วยสร้างศาสนจักรไม่ว่าท่านอยู่ที่ใด

ท่านจะไม่มีวันโดดเดี่ยว

เมื่อท่านตอบรับการเรียกของพระเจ้าตลอดชีวิต ท่านมีสัญญาว่าท่านจะไม่มีวันโดดเดี่ยว พระเจ้าจะทรงนำทางท่าน ท่านอาจจะต้องอายุมากขึ้นอีกนิด เหมือนข้าพเจ้าจึงจะเห็นว่าพระเจ้าทรงนำทางท่านอย่างไร ตัวอย่างเช่น พระเจ้าทรงนำทางท่านผ่านศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก สุรเสียงของพระเจ้าไม่แปลกหูสำหรับพวกท่าน พระองค์ทรงนำทางท่านเมื่อท่านอ่านพระคัมภีร์

ท่านได้รับพรด้วยของประทาน พรสวรรค์ และความสามารถในการทำสิ่งสำคัญๆ นี่ควรทำให้ท่านมั่นใจในการตอบรับการเรียกของพระเจ้าและเป็นคนที่พระองค์ทรงรู้ว่าท่านจะเป็นได้