“พยานของการฟื้นคืนพระชนม์,” เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน, เม.ย. 2023
จงตามเรามา
อีสเตอร์
พยาน ของ การฟื้นคืนพระชนม์
พยานในพันธสัญญาใหม่ที่เห็นพระผู้ช่วยให้รอดฟื้นคืนพระชนม์สามารถช่วยให้ท่านพบพยานของท่านเองเช่นกัน
เช้าวันอาทิตย์หลังการตรึงกางเขนพระเยซูคริสต์ มารีย์ชาวมักดาลามาถึงอุโมงค์ที่วางพระศพของพระองค์ เธอพบว่ามีคนกลิ้งหินหนักก้อนใหญ่ออกไปแล้วและอุโมงค์ว่างเปล่า
มารีย์ร้องไห้เพราะเชื่อว่ามีคนนำเอาพระศพของพระผู้ช่วยให้รอดไป มีคนเดินมาหาเธอและถามว่า “หญิงเอ๋ย ร้องไห้ทำไม?”
มารีย์จำเสียงที่พูดกับเธอไม่ได้ มารีย์เข้าใจว่าเป็นคนทำสวนจึงตอบว่า “ขอบอกให้ดิฉันรู้ว่าเอาพระองค์ไปไว้ที่ไหน ดิฉันจะได้รับพระองค์ไป”
“มารีย์เอ๋ย” เสียงนั้นตอบ
มารีย์รู้ทันทีว่าใครเรียกชื่อเธอ พระผู้ช่วยให้รอดนั่นเอง—ตอนนี้มีรัศมีภาพและฟื้นคืนพระชนม์แล้ว! (ดู ยอห์น 20:15–16)
มารีย์เป็นคนแรกที่เห็นว่าพระเยซูคริสต์ทรงพระชนม์อยู่ พระคัมภีร์บอกเราว่าคนอื่นเห็นเช่นกันว่าพระองค์ทรงชนะความตาย ประสบการณ์ของพวกเขาจะเสริมสร้างศรัทธาของท่านได้อย่างไร? ท่านจะเป็นพยานได้อย่างไรว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงพระชนม์อยู่ทั้งที่ท่านไม่เคยเห็นพระองค์?
สาวกสองคนบนถนนไปเอมมาอูส
วันหนึ่งหลังการตรึงกางเขนพระคริสต์ไม่นาน มีคนแปลกหน้ามาร่วมเดินทางไปเอมมาอูสกับสาวกสองคน พวกเขาคุยกันเรื่องคำพยากรณ์เกี่ยวกับการฟื้นคืนพระชนม์ การสนทนาเรื่องนี้ทำให้สาวกที่กำลังโศกเศร้าเปี่ยมด้วยปีติ
เมื่อมาถึงเอมมาอูส สาวกทั้งสองขอให้คนแปลกหน้าพักอยู่กับพวกเขา ระหว่างอาหารมื้อค่ำ คนแปลกหน้าให้พรและเสิร์ฟอาหาร สาวกทั้งสองจำคนแปลกหน้าได้ทันที แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร คนแปลกหน้าก็หายไป สาวกจึงทราบทันทีว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงอยู่กับพวกเขามาตลอด!
“ใจเรารุ่มร้อนภายในไม่ใช่หรือ?” พวกเขาถามกัน พระวิญญาณทรงยืนยันว่าพระเยซูทรงอยู่กับพวกเขาจริงๆ (ดู ลูกา 24:13–34)
อัครสาวกสิบคน
พระเยซูคริสต์ทรงปรากฏต่ออัครสาวก 10 คนขณะพวกเขาคุยกันเรื่องประจักษ์พยานที่ได้ยินมาเกี่ยวกับการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์
“สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” พระองค์ตรัส “จงดูที่มือและเท้าของเราว่าเป็นเราเอง จงคลำตัวเราดู เพราะว่าผีไม่มีเนื้อและกระดูกเหมือนอย่างที่พวกท่านเห็นว่าเรามี” (ลูกา 24:36, 39) อัครสาวกแต่ละคนเห็นและสัมผัสรอยตะปูในพระหัตถ์และพระบาทของพระผู้ช่วยให้รอด
อัครสาวกโธมัส
โธมัสไม่อยู่เมื่อพระผู้ช่วยให้รอดทรงปรากฏต่ออัครสาวกคนอื่นๆ เขาจึงไม่เชื่อว่าพระเยซูทรงฟื้นจริงๆ เขาพูดว่า “ถ้าข้าไม่เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์ของพระองค์ … ข้าจะไม่เชื่อเลย” (ยอห์น 20:25)
แปดวันต่อมาพระเยซูทรงปรากฏต่อเหล่าอัครสาวกอีกครั้ง คราวนี้โธมัส อยู่ ด้วยและเชื่อ พระเยซูรับสั่งกับโธมัสว่า “เพราะท่านเห็นเราท่านจึงเชื่อหรือ? คนที่ไม่เห็นเราแต่เชื่อก็เป็นสุข” (ดู ยอห์น 20:26–29)
หาพยานของท่านเอง
พระเยซูคริสต์ทรงปรากฏต่อคนอื่นๆ อีกหลายคนหลังจากฟื้นคืนพระชนม์ (ดู มัทธิว 28:9–10; กิจการ 9:4–8; 1 โครินธ์ 15:6) แม้ท่านไม่เห็นพระองค์เหมือนพวกเขา แต่ก็ยังสามารถเป็นพยานได้
พระผู้ช่วยให้รอดตรัสถามเหล่าสาวกว่า “คนทั่วไปพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นใคร?” เขาทั้งหลายทูลตอบว่า “บางคนว่าเป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา … หรือเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้เผยพระวจนะ”
แล้วพระเยซูจึงตรัสถามว่า “แล้วพวกท่านว่าเราเป็นใคร?”
เปโตรตอบว่า “พระองค์เป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่”
“ท่านก็เป็นสุข” พระเยซูรับสั่งกับเปโตร “เพราะมนุษย์ไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้แก่ท่าน แต่พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผยให้ทราบ” (มัทธิว 16:13–17)
พระเยซูทรงยืนตรงหน้าเปโตร เปโตรเคยเดินและพูดคุยกับพระองค์ และเห็นปาฏิหาริย์มากมายของพระองค์ แต่นั่นไม่ได้ให้พยานแก่เขา พระเยซูทรงชี้ให้เห็นว่าพระบิดาในสวรรค์ทรงเปิดเผยคำพยานของเปโตร และทรงสอนด้วยว่าคำพยานนั้นแน่นอนกว่าการเห็นด้วยตาเราเอง
แม้ไม่เห็นพระเยซูคริสต์ด้วยตาตนเอง แต่ท่านสามารถแสวงหาพระองค์ด้วยตนเองและเรียนรู้เกี่ยวกับพระองค์มากขึ้นได้ ท่านสามารถใช้ศรัทธาในพระองค์โดยรักษาพระบัญญัติของพระองค์ พระวิญญาณทรงสามารถสัมผัสจิตวิญญาณและประทานพยานแก่ท่าน ท่านสามารถยืนเป็นพยานได้เช่นเดียวกับคนที่เห็นพระผู้ช่วยให้รอดผู้ฟื้นคืนพระชนม์ว่าพระองค์ทรงพระชนม์ ทรงรักเรา และทรงอยู่ที่นั่นเพื่อเราวันนี้