“พลังเปลี่ยนชีวิตของการระลึกถึงพระองค์,” เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน, มิ.ย. 2023
จงตามเรามา
มัทธิว 26:26–29; มาระโก 14:22–25
พลังเปลี่ยนชีวิตของ การระลึกถึง พระองค์
โดยผ่านศีลระลึกและพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราระลึกถึงพระเยซูคริสต์ พบพลัง สันติสุข และปีติ
เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงให้อัครสาวกมารวมตัวกันในห้องชั้นบนในกรุงเยรูซาเล็มเพื่อร่วมปัสกา อาหารมื้อสุดท้ายของพระองค์กับพวกเขาในความเป็นมรรตัย พระองค์ทรงทราบว่า “ถึงเวลาแล้ว” (ยอห์น 13:1) อีกไม่นานพระองค์จะทรงพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้อันไม่มีขอบเขตและเป็นนิรันดร์
บรรดาอัครสาวกได้เดินสนทนากับพระเยซู พวกเขาได้ยินคำสอนของพระองค์และเห็นการอัศจรรย์ของพระองค์ ตอนนี้พระองค์ต้องไปแล้วหรือ? พวกเขาจะอยู่โดยไม่มีพระองค์ได้อย่างไร?
พระเยซูทรงแบ่งปันกับพวกเขาว่าพวกเขาจะระลึกพระองค์ได้อย่างไรเมื่อพระองค์ไม่อยู่กับพวกเขาแล้ว พระองค์ทรงแนะนำศีลระลึกและสัญญาว่าจะส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มา
ในฐานะสานุศิษย์ยุคสุดท้ายของพระเจ้า เราได้รับบัญชาให้ระลึกถึงพระองค์ ตลอดเวลา ขณะแบ่งปันว่าศีลระลึกและพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยให้เราระลึกถึงและติดตามพระเยซูคริสต์อย่างไร ข้าพเจ้าขอเชื้อเชิญให้ท่านพิจารณาวิธีที่ท่านจะระลึกถึงและติดตามพระองค์ได้ดีขึ้นทุกวัน
พรของศีลระลึก
ระหว่างพระกระยาหารมื้อสุดท้าย พระเยซูทรงให้พรขนมปังและส่งให้บรรดาอัครสาวกตรัสว่า “จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของเรา” แล้วพระองค์ทรง “หยิบถ้วย เมื่อขอบพระคุณแล้ว ก็ทรงส่งให้พวกเขา ตรัสว่า จงรับไปดื่มทุกคนเถิด เพราะว่านี่เป็นโลหิตของเรา … ที่หลั่งออกเพื่อยกบาปโทษคนจำนวนมาก” (มัทธิว 26:26–28)
พระองค์ตรัสว่า “จงทำอย่างนี้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเรา” (ลูกา 22:19)
ในฐานะสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เราได้รับบัญชาให้รับส่วนศีลระลึกทุกสัปดาห์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 59:9, 12) ศาสนพิธีฐานะปุโรหิตอันศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นการเชื้อเชิญซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กลับใจอย่างจริงใจ รับการฟื้นฟูทางวิญญาณ และระลึกถึงพระเยซูคริสต์
การรับส่วนขนมปังและดื่มน้ำไม่ปลดบาป แต่ขณะเตรียมตัวอย่างจริงใจร่วมกับการสวดอ้อนวอนและมีส่วนร่วมในศาสนพิธีอย่างมีค่าควร เราสำรวจการกระทำและความปรารถนาของใจเราและน้อมรับพระดำรัสเชิญของพระเจ้าให้กลับใจ (ดู โมเสส 6:57) เมื่อเราถวายเครื่องบูชาที่พระองค์ทรงเรียกร้อง—ใจที่ชอกช้ำและวิญญาณที่สำนึกผิด (ดู 3 นีไฟ 9:20)—เราได้รับสัญญาว่าเราจะมีพระวิญญาณของพระองค์อยู่กับเราตลอดเวลา และโดยพลังชำระให้บริสุทธิ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในฐานะเพื่อนที่ยั่งยืนของเรา เราจะได้รับและทำให้การปลดบาปของเรามีอยู่เสมอ (ดู โมโรไน 6:4)
หลังจากรับส่วนศีลระลึกระหว่างการประชุมผู้นำ ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า “ข้าพเจ้าทำพันธสัญญาขณะรับส่วนศีลระลึกว่าข้าพเจ้าจะเต็มใจรับพระนามของพระเยซูคริสต์และข้าพเจ้าจะเต็มใจเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ บ่อยครั้งข้าพเจ้าได้ยินคำกล่าวที่ว่าเรารับส่วนศีลระลึกเพื่อต่อพันธสัญญาที่ทำไว้เมื่อครั้งบัพติศมา แม้จะจริง แต่เป็นยิ่งกว่านั้น ข้าพเจ้าได้ทำพันธสัญญาใหม่ ท่านได้ทำพันธสัญญาใหม่ … แล้ว [พระเจ้า] รับสั่งเป็นการตอบแทนว่าเราจะมีพระวิญญาณของพระองค์อยู่กับเราตลอดเวลา นับเป็นพรอย่างยิ่ง!”1
ระหว่างศีลระลึก เราระลึกถึงพระเยซูคริสต์และการที่ “พระองค์ทนทุกข์ หลั่งเลือดวายปราณ”2 เพื่อเรา การเตรียมรับส่วนศีลระลึกอย่างจริงใจและตั้งใจนำมาซึ่งการฟื้นฟูทางวิญญาณ พลังจากสวรรค์ และพรที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้
อัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์
พระเยซูทรงสัญญากับบรรดาอัครสาวกว่าพระบิดาจะทรงส่งพระผู้ปลอบโยนหรือพระวิญญาณบริสุทธิ์มาอวยพรพวกเขาหลังจากพระองค์เสด็จไปแล้ว (ดู ยอห์น 14:26)
บทบาทของพระวิญญาณบริสุทธิ์คือนำทาง (ดู ยอห์น 16:13) ชี้ทาง (ดู 2 นีไฟ 32:5) ปลอบโยน (ดู ยอห์น 14:26) ปกป้องคุ้มครอง (ดู โมไซยาห์ 2:36) และชำระเราให้บริสุทธิ์ (ดู 3 นีไฟ 27:20) พระองค์ทรงสามารถทำงานกับเราและผ่านเราได้ต่อเมื่อเราปรารถนาความเป็นเพื่อนที่ยั่งยืนของพระองค์อย่างจริงใจ เตรียมและอัญเชิญพระองค์เข้ามาในชีวิตของเราอย่างเหมาะสม
เพื่ออัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราต้องศึกษา ไตร่ตรอง และดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์ในพระคัมภีร์ (ดู 2 นีไฟ 31:20) สวดอ้อนวอนอยู่เสมอ ทำตามการกระตุ้นเตือนอย่างซื่อสัตย์ แสวงหาความนึกคิด การกระทำ และคำพูดที่สะอาดบริสุทธิ์ นมัสการที่บ้าน ในพระวิหาร และที่โบสถ์
ขณะนำการปฏิบัติที่ชอบธรรมเหล่านี้เข้ามาในชีวิตพระเจ้าทรงสัญญาว่าท่าน “จะมีพระวิญญาณของพระองค์อยู่กับ [ท่าน] ตลอดเวลา” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:77; เน้นตัวเอน)
การเปลี่ยนแปลงอันทรงพลัง
เมื่อเทพของพระเจ้าปรากฏต่อแอลมาผู้บุตรและเรียกให้เขากลับใจ แอลมาล้มลงกับพื้นและพูดหรือขยับตัวไม่ได้อยู่หลายวัน
ระหว่างนี้ ท่านทรมานด้วยความทรงจำถึงบาป แต่จากนั้นท่านจำได้ว่าบิดาของท่านพยากรณ์ “เกี่ยวกับการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์องค์หนึ่ง, พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อทรงชดใช้บาปของโลก” ต่อมาท่านบันทึกว่า “เมื่อจิตของพ่อนึกได้ถึงความคิดนี้, พ่อร้องอยู่ภายในใจพ่อ: ข้าแต่พระเยซู, พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า, ขอพระองค์ทรงเมตตาข้าพระองค์ … และบัดนี้, ดูเถิด, เมื่อพ่อคิดดังนี้, พ่อจำความเจ็บปวดของพ่อไม่ได้อีก” (แอลมา 36:17–19)
การปรากฏของเทพไม่ได้เปลี่ยนแอลมา การระลึกถึง พระเยซูคริสต์และการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระองค์ทำให้เขากลับใจ สวดอ้อนวอนขอการให้อภัยและความเมตตา รู้สึกปีติอย่างยิ่ง และกลายเป็นสานุศิษย์ที่อุทิศตน
เมื่อท่านระลึกถึงพระเยซูคริสต์ แสวงหาและติดตามพระองค์อย่างจริงจัง พระองค์จะทรงเป็นมากกว่าตัวละครหลักในเรื่องราวพระคัมภีร์ ความเป็นพระเจ้าและการทรงพระชนม์อยู่จริงของพระองค์มีผลต่อการตัดสินใจประจำวันของท่าน เป็นพรแก่ท่าน และทำให้ท่าน กระตือรือร้น ที่จะเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงอันทรงพลังนี้เริ่มต้นเมื่อท่านระลึกถึงพระเยซูคริสต์!
ความหวังของข้าพเจ้าสำหรับท่าน
ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระเจ้าพระเยซูคริสต์จะทรงอวยพรท่านเมื่อระลึกถึงพระองค์ รับพระนามของพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:77, 79) พระองค์ตรัสว่า “และหากเจ้าระลึกถึงเราตลอดเวลาเจ้าจะมีพระวิญญาณของเราอยู่กับเจ้า” (3 นีไฟ 18:7)
ข้าพเจ้าหวังว่าครั้งต่อไปเมื่อท่านรับส่วนขนมปังและน้ำระหว่างศีลระลึก ท่านจะพูดในใจว่า “ฉันจะไม่ลืมพระองค์หรือการเสียสละของพระองค์เพื่อฉัน ฉันจะรักและติดตามพระองค์” ข้าพเจ้าขอให้ท่านมีปณิธานเช่นนี้ตลอดชีวิต
ขอให้ท่านก้าวไปข้างหน้าด้วยพลัง สันติสุข และปีติที่มาจากการระลึกถึงและติดตามพระเยซูคริสต์ ตลอดเวลา