จงรวบรวม—อย่าทำให้กระจัดกระจาย

โดย เดวิด เอ. เอ็ดเวิร์ดส์

นิตยสารศาสนจักร

พระเจ้าไม่ได้แสดงความลำเอียงในหมู่ผู้คน และเราก็ไม่ควรทำเช่นกัน

ภาพ

ผู้คนที่หลากหลาย

ภาพประกอบโดย ทราวิส คอนสแตนติน

ไม่กี่สัปดาห์หลังจากผมมาถึงเยอรมนีในฐานะผู้สอนศาสนา ผมกับคู่ผู้อบรมไปเคาะประตูบ้านหญิงชราคนหนึ่งซึ่งอนุญาตให้เราสอนเธอ

ในช่วงบทเรียนแรก เราชวนเธออ่านพระคัมภีร์แบบออกเสียง เธออ่านผ่านแว่นตาหนาเตอะด้วยความยากลำบาก ตะกุกตะกักกับคำเหล่านั้น และเธอตอบคำถามของเราด้วยคำตอบสั้นๆ เราไม่แน่ใจว่าเธอเข้าใจมากแค่ไหน

เราขอให้เธออ่านข้อพระคัมภีร์บางข้อในพระคัมภีร์มอรมอนก่อนการเยี่ยมครั้งต่อไป เมื่อเรากลับมาอีกครั้ง เธออ่านแต่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ เราสงสัยว่าเธออาจมีความท้าทายในการเรียนรู้ เราสงสัยว่าเราควรจะสอนเธอต่อหรือไม่ แต่เราก็สอนเธอต่อไป

ในการมาเยี่ยมครั้งต่อมา เรารู้สึกประหลาดใจเมื่อเธอบอกว่าเธอต้องการรับบัพติศมา จากนั้น ขณะที่เราสอนเธอต่อไป เราสังเกตว่าทักษะการอ่านของเธอดีขึ้น คำตอบของเธอสำหรับคำถามของเรายังสั้นแต่ดูเหมือนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

ไม่ช้าผมถูกย้ายไปเมืองอื่น แต่คู่ผู้อบรมของผมเขียนจดหมายถึงผมในภายหลังเพื่อบอกว่าหญิงชราคนนี้รับบัพติศมาและได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสาขา หากท่านถามเราเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนว่าใครในบรรดาผู้ติดต่อของเราที่มีแนวโน้มว่าจะรับบัพติศมาและเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของศาสนจักรมากที่สุด เธอคงไม่อยู่ในอันดับต้นๆ ของรายชื่อ

ดังนั้นเราจึงได้เรียนรู้บทเรียนเก่า—บทเรียนเดียวกันกับที่อัครสาวกเปโตรเรียนรู้เมื่อนานมาแล้ว และเราแต่ละคนต้องเรียนรู้ต่อไป: “พระเจ้าไม่ทรงลำเอียง” (กิจการของอัครทูต 10:34)

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เปโตรเป็นประธานศาสนจักรในช่วงเวลาวิกฤต พระผู้ช่วยให้รอดรับสั่งกับเหล่าอัครสาวกว่า “พวกท่านจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน” (มาระโก 16:15) แต่จนถึงตอนนี้พวกเขาสั่งสอนและให้บัพติศมาในหมู่ชาวยิวเท่านั้น

จากนั้นมีเรื่องที่น่าทึ่งมากมายเกิดขึ้น นายร้อยชาวโรมันคนหนึ่งชื่อโครเนลิอัส—เป็นคนต่างชาติ ไม่ใช่ยิว เป็นทหารที่สวมเครื่องแบบเดียวกันกับผู้ที่ตรึงพระเยซูคริสต์ที่กางเขน—เห็นทูตสวรรค์ในนิมิต ทูตสวรรค์บอกโครเนลิอัสให้ส่งคนชื่อเปโตรมาสอนเขา หลังจากนั้นไม่นาน เปโตรมีนิมิตเห็นอาหารต้องห้ามภายใต้กฎหมายของชาวยิว แต่มีคนบอกให้กินเพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้มันสะอาด หลังจากเปโตรเห็นนิมิตนี้ คนใช้ของโครเนลิอัสก็มาถึงและขอให้เขาตามไปด้วย พระวิญญาณบอกให้เปโตรไป

หลังจากพบกับโครเนลิอัสและเห็นว่าเขาเป็นคนดีและจริงใจยิ่งนัก เปโตรก็เข้าใจความหมายในนิมิตของท่าน ข่าวประเสริฐจะไปถึงคนต่างชาติเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับโครเนลิอัสด้วย เปโตรกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่าพระเจ้าไม่ทรงลำเอียง ทุกคนในทุกชนชาติที่เกรงกลัวพระองค์ และประพฤติตามทางชอบธรรมก็เป็นที่ชอบพระทัยพระองค์” (กิจการของอัครทูต 10:34–35) เปโตรสอนโครเนลิอัสเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์และเชื้อเชิญเขากับครอบครัวให้รับบัพติศมา (ดู กิจการของอัครทูต 10)

การนำพระกิตติคุณไปสู่คนต่างชาติถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับศาสนจักรยุคแรก บางคนมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งนี้สอนความจริงพื้นฐานเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์ของเรา

ไม่มีความลำเอียง

เมื่อพระองค์ทรงอวยพรลูกๆ พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงเลือกข้างโดยพิจารณาจากสัญชาติ เชื้อชาติ เพศ ความมั่งคั่ง การศึกษา ความสามารถ รูปร่างหน้าตา หรือความแตกต่างอื่นใดที่ทำให้ผู้คนแตกแยก¹ พระองค์ “ทรงถือว่าเนื้อหนังทั้งปวงเท่าเทียมกัน; เขาผู้ชอบธรรมย่อมเป็นที่โปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า” (1 นีไฟ 17:35) ทุกคนสามารถมาหาพระองค์ได้เพราะ “ทุกคนเหมือนกันหมดสำหรับพระผู้เป็นเจ้า” (2 นีไฟ 26:33) พระองค์ “ทอดพระเนตรจิตใจ” (1 ซามูเอล 16:7) พระองค์ทรงยอมรับคนที่ “ทำความยุติธรรม … รักความเมตตา และ … ดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจ” (มีคาห์ 6:8)

ทุกคน สามารถเลือกมาหาพระเยซูคริสต์ ทำพันธสัญญากับพระบิดาบนสวรรค์ และเดินตามทางของพระองค์ได้ และความจริงนี้ควรนำทางเราถึงวิธีแบ่งปันพระกิตติคุณของพระเจ้าและความรักของพระองค์

เราไม่สามารถมองเพียงลักษณะภายนอกของใครบางคนและคิดว่าพวกเขาไม่ใช่ “ลักษณะของคนที่” จะได้รับข่าวประเสริฐ เราไม่อาจทำแค่ตีตราทางโลกกับผู้คนและคิดว่าตราเหล่านั้นตัดสิทธิ์พวกเขาจากการมาโบสถ์ เราไม่อาจตัดสินใจว่าจะไม่ช่วยเหลือใครเพียงเพราะพวกเขามีความคิดเห็นทางการเมือง งานอดิเรก หรือรสนิยมแตกต่างจากเรา

พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงเห็นบุคคลเป็นเพียงตราสัญลักษณ์ที่แสดงถึงกลุ่มหรือคุณลักษณะต่างๆ พระองค์ทรงมองว่าแต่ละบุคคล—คือลูกของพระองค์ และนั่นคือวิธีที่เราควรมองผู้อื่น—ในฐานะบุคคลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีโอกาสและความสามารถเท่าเทียมกันในการมาหาพระผู้เป็นเจ้า

จงเป็นผู้รวบรวม

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกระตุ้นให้เรามีส่วนร่วมในการรวบรวมอิสราเอล² แต่ถ้าเราไม่เหมือนกับพระผู้เป็นเจ้า และเลือกที่จะเป็น “ผู้เคารพนับถือบุคคล” เมื่อพูดถึงการแบ่งปันพระกิตติคุณและรวมถึงผู้คนที่โบสถ์ เราอาจกำลังทำให้ผู้คนกระจัดกระจายหรือแตกแยกมากกว่าที่เราจะรวบรวมให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ขอให้เราทุกคนให้คำมั่นสัญญา: ว่าจะไม่ทำให้กระจัดกระจายอีกต่อไป จงเป็นผู้รวบรวม รัก แบ่งปัน และเชื้อเชิญ

ผมกับคู่ไม่แน่ใจว่าสตรีที่เราสอนในเยอรมนีมีแนวโน้มจะรับบัพติศมาหรือไม่ เราไม่รู้ใจเธอ แต่พระผู้เป็นเจ้าทรงรู้ ผมดีใจที่เรารู้สึกได้รับการกระตุ้นเตือนให้สอนเธอต่อไป

ขณะที่ท่านพยายามทำตามพระวิญญาณและพยายามไม่ลำเอียง ท่านจะได้รับการนำทางเพื่อช่วยคนรอบข้างมาหาพระคริสต์ โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างของพวกเขา