ฉันจะได้รับการให้อภัย ให้อภัยตนเอง และให้อภัยผู้อื่นได้อย่างไร?

โดย เอ็ลเดอร์ยูลิซีส ซวาเรส

แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง

ภาพ

ยูลิซีส ซวาเรส

ขณะที่เราให้ชีวิตมุ่งเน้นที่พระผู้ช่วยให้รอด เราจะพบคําตอบสำหรับข้อกังวลอันลึกซึ้งและจําเป็นของจิตวิญญาณเรา

จากคำปราศรัยการให้ข้อคิดทางวิญญาณที่มหาวิทยาลัยบริคัมยังก์–ฮาวาย วันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 2023

ภาพ

แอลมากับบรรดาบุตรของโมไซยาห์สวมกอดกัน

ข้าพเจ้าต้องการตอบคําถามบางข้อที่เกี่ยวข้องกับสานุศิษย์หนุ่มสาวของพระเยซูคริสต์

ฉันจะได้รับการให้อภัย รู้สึกมีค่าควร และรู้สึกถึงความรักของพระผู้เป็นเจ้าได้อย่างไร?

หลายคนประสบปัญหากับการกลับใจและการได้รับการให้อภัยบาป ความรู้สึกมีค่าควรรับส่วนศีลระลึก และความรู้สึกถึงความรักที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมีต่อเราแม้เมื่อเรารู้สึกไม่มีค่าควร

หลักธรรมแห่งการกลับใจเกิดขึ้นหลังจากศรัทธาในพระเยซูคริสต์ พระผู้เป็นเจ้า ทรงรัก เรา แม้เราจะจมดิ่งลงไปในบาป เราได้รับการ ให้อภัย เมื่อเราถ่อมตนต่อพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า ปรึกษากับผู้นำศาสนจักรที่เหมาะสมตามความจำเป็น กลับใจและละทิ้งบาปของเรา การทำตามขั้นตอนเหล่านี้ทำให้เราใกล้ชิดพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น ผู้ทรงสามารถปลดปล่อยเราจากความรู้สึกผิด โทมนัส และพันธนาการทางวิญญาณและทางร่างกาย

เราไม่รู้ว่าเหตุใดบางครั้งเรายังคงรู้สึกผิดแม้หลังจากเรากลับใจจากบาปที่เราทำไปแล้ว แทนที่จะคาดเดา ขอให้พูดคุยกับพระบิดาบนสวรรค์ของท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถามคําถามนี้กับพระองค์โดยตรง ข้าพเจ้ารู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไป พระองค์จะทรงเปิดเผยสิ่งที่ท่านต้องการ

ในกรณีของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายังมีความทรงจำเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตอยู่บ้าง เมื่อสวดอ้อนวอนเกี่ยวกับเรื่องนี้ พระเจ้าทรงบอกว่าข้าพเจ้าได้รับการให้อภัยแล้ว และไม่ควรกังวลเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้นอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้ายังรู้สึกว่าความทรงจำเหล่านั้นเป็นสิ่งเตือนใจให้ข้าพเจ้าพยายามไม่พลาดพลั้งเช่นนั้นอีก ดังนั้นการมีความทรงจําเหล่านั้นจึงไม่ใช่แง่ลบทั้งหมด ข้าพเจ้ามองความทรงจำเหล่านั้นในชีวิตเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมีต่อข้าพเจ้าเมื่อพระองค์ทรงเตือนอย่างสม่ำเสมอให้หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางนั้นอีก

เมื่อเราพยายามทําสุดความสามารถอย่างต่อเนื่อง โดยแสดงให้เห็นผ่านงานของเราว่าเราปรารถนาจะชําระภาชนะข้างในให้สะอาด ความรู้สึกผิดและความท้อแท้มีแนวโน้มจะหายไป เมื่อเวลาผ่านไป ประสบการณ์ของเราจะเป็นเหมือนแอลมาผู้เป็นพยานหลังจากกลับใจว่า “เขายังคงจดจำบาปของเขา แต่ความทรงจำเกี่ยวกับบาปของเขาจะไม่ทำให้เขาเป็นทุกข์และทรมานอีกต่อไป เพราะเขารู้ว่าเขาได้รับการให้อภัยแล้ว”

ฉันจะให้อภัยคนที่ทำให้ฉันขุ่นเคืองหรือทำร้ายฉันได้อย่างไร?

ข้อกังวลที่น่าสนใจที่คนหนุ่มสาวแสดงออกมานั้นเกี่ยวข้องกับการให้อภัยคนที่ทำให้เราขุ่นเคืองและทำสิ่งไม่ดีกับเรา

ขณะศึกษาพระคำของพระผู้เป็นเจ้า เราเรียนรู้ว่าการให้อภัยผู้อื่นนำมาซึ่งพรมากมายทางวิญญาณ รวมถึงสันติสุขและความหวัง บางทีพรสำคัญที่สุดคือเมื่อเราให้อภัยผู้อื่น เราสามารถได้รับการอภัยบาปของเราเองเช่นกัน พระเจ้าทรงสอนเราว่าการให้อภัยเป็นพระบัญญัติสากลและเราถูก “เรียกร้องที่จะให้อภัยมนุษย์ทั้งปวง” อย่างไรก็ตาม อาจยังเป็นเรื่องยาก

บางครั้งเรายอมให้ความจองหอง ความกลัว ความขุ่นเคือง หรือความขมขื่นทำให้เราท้อใจและขัดขวางความสามารถในการรู้สึกมีความหวัง แต่ความกล้าหาญที่จะให้อภัยเกิดขึ้นกับผู้ที่มอบศรัทธาและความวางใจในพระเจ้า การให้อภัยหมายถึงการปล่อยวางการโทษความเจ็บปวดในอดีต อีกทั้งยังเป็นการปลดปล่อยภาระหนักอึ้งอีกด้วย เป็นการให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้า

เกี่ยวกับการหลงลืม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า “การให้อภัยไม่ได้หมายความว่าลืมเรื่องขุ่นเคืองที่เคยเกิดขึ้นหรือแสร้งทำเป็นว่าไม่เคยเกิดขึ้น ไม่ได้หมายความว่าท่านยอมให้พฤติกรรมที่ทำร้ายจิตใจเกิดขึ้นต่อไป ไม่ได้หมายความว่าทุกความสัมพันธ์จะได้รับการเยียวยา และไม่ได้หมายความว่าผู้ทำให้ขุ่นเคืองไม่ต้องรับผิดชอบการกระทําของตน แต่หมายความว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงช่วยให้ท่านปล่อยวางได้”

ต่อไปนี้เป็นข้อเสนอแนะบางประการที่จะช่วยในกระบวนการนี้:

สวดอ้อนวอนทูลขอความอ่อนน้อมถ่อมตน ความอ่อนน้อมถ่อมตนตรงข้ามกับความจองหอง ซึ่งเป็นอุปสรรคหลักในการพยายามให้อภัย ความจองหองนำเรามุ่งเน้นที่ความรู้สึกเกลียดชังผู้อื่น อีกทั้งทําให้เรามองข้ามความอ่อนแอ ความผิดพลาด และบาปของเราเอง พระเจ้าทรงสัญญาว่า “หากพวกเขานอบน้อมถ่อมตนต่อหน้าเรา, และมีศรัทธาในเรา, เมื่อนั้นเราจะทำให้สิ่งที่อ่อนแอกลับเข้มแข็งสำหรับพวกเขา” ตามความอ่อนน้อมถ่อมตนและศรัทธาของเรา พระเจ้าจะทรงช่วยให้เราเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นและให้อภัยอย่างแท้จริงดังที่พระองค์ทรงให้อภัย
แสดงความสำนึกคุณ การแสดงความสํานึกคุณอัญเชิญพระวิญญาณเข้ามาในชีวิตเราอย่างเต็มที่มากขึ้น ซึ่งจะทําให้ใจเราเปลี่ยนและอ่อนลง ท่านอาจจดบันทึกสิ่งที่ท่านรู้สึกสำนึกคุณ มองหาการแสดงให้ประจักษ์ถึงความรักของพระผู้เป็นเจ้าทุกวัน ขณะท่านปลูกฝังเจตคติของความสํานึกคุณ ท่านอาจพบว่าแม้แต่จะระบุเหตุผลที่ต้องสํานึกคุณต่อการทดลองของท่าน ท่านก็สามารถทำได้ด้วย
จงอดทน การให้อภัยเมื่อท่านเจ็บปวดมากอาจต้องใช้เวลา ท่านสามารถมีพื้นที่ในใจให้กับการให้อภัยผ่านการสวดอ้อนวอน การศึกษา และการใคร่ครวญอย่างจริงจัง การดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์ทุกวันจะช่วยให้ท่านเข้าใกล้พระองค์มากขึ้นและจะนําเดชานุภาพที่ยิ่งใหญ่ของการเยียวยาเข้ามาในชีวิตท่าน
ทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง อดีตคืออดีต ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ท่านสามารถมุ่งพลังไปที่วันนี้ เพราะวันนี้ท่านมีอำนาจที่จะเลือกให้อภัย วางภาระไว้กับพระเจ้า จําไว้ว่านอกจากจะทรงรับเอาบาปของโลกไว้กับพระองค์แล้ว พระคริสต์ทรงรับเอาความเจ็บปวดและความทุพพลภาพของเราไว้กับพระองค์ด้วย หากท่านยอมต่อพระองค์ พระองค์จะทรงทำให้ภาระของท่านเบาลงได้

การพบความเข้มแข็งที่จะให้อภัยอาจเป็นเรื่องท้าทาย แต่พระผู้ช่วยให้รอดและการชดใช้ของพระองค์ทำให้เรื่องนี้เป็นจริงได้ โดยแท้แล้ว ขณะเปิดใจให้อภัยผู้อื่น เราจะได้รับสันติสุข ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านน้อมรับเดชานุภาพการเยียวยาของการให้อภัย

ขณะที่เราให้ชีวิตมุ่งเน้นที่พระผู้ช่วยให้รอด เราจะพบคําตอบสำหรับข้อกังวลอันลึกซึ้งและจําเป็นของจิตวิญญาณเรา เดชานุภาพการรักษาของพระผู้ช่วยให้รอดเติมเต็มจิตวิญญาณเราด้วยสันติสุข แสงสว่าง ความเข้าใจ ปีติ และความรัก