พบทางฝ่าหมอกแห่งความมืด
จูเวนตา เวซซานี, แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ย้อนกลับไปเมื่อสามสี่ปีก่อนดิฉันประสบช่วงเวลาที่มืดมนเป็นพิเศษของชีวิต ดิฉันเผชิญปัญหายุ่งยากมากมาย ดิฉันรู้สึกหดหู่และมีภาระท่วมท้น
ที่โบสถ์วันอาทิตย์วันหนึ่ง ดิฉันมองไปรอบๆ เห็นครอบครัวที่มีความสุขกำลังร้องเพลงสวดและลิ้มรสความรักของพระผู้เป็นเจ้า ดิฉันอยากรู้สึกแบบนั้นบ้าง แต่มีบางอย่างผิดปกติในตัวดิฉัน
ดิฉันเคยรู้สึกถึงพระวิญญาณในอดีต แต่ไม่ได้รู้สึกมานานพอสมควร เหมือนในนิมิตของลีไฮเกี่ยวกับต้นไม้แห่งชีวิต ดิฉันรู้สึกประหนึ่งถูกรายล้อมด้วยหมอกแห่งความมืด—ดิฉันมองไม่เห็นต้นไม้ (ดู 1 นีไฟ 8:2–24)
เมื่อคำสวดอ้อนวอนศีลระลึกเริ่มต้น ดิฉันหลับตา คิดถึงพระบิดาบนสวรรค์พลางวิงวอนขอความเชื่อมั่นในความรักของพระองค์ ดิฉันทูลถามพระองค์ว่าเหตุใดดิฉันจึงไม่สามารถลิ้มรสผลของต้นไม้แห่งชีวิตได้
ขณะไตร่ตรองความฝันของลีไฮ ดิฉันเกิดความตระหนักอย่างมาก “ทำไมดิฉันไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้” ดิฉันคิด การเดินทางฝ่าหมอกแห่งความมืดเป็นเรื่องปกติที่สุดในแผนของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงยอมให้เราประสบความยากลำบากครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเราจะสามารถพึ่งพาพระองค์และพระบุตรอย่างเต็มที่ กุญแจคือยึดราวเหล็ก ดิฉันยังคงมองเห็นตนเองในหมอกแห่งความมืด แต่ดิฉันมีความหวัง
เมื่อความรู้สึกนี้ออกไปจากความคิดดิฉันรู้สึกถึงการยืนยันจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่าการทดลองของดิฉันจะผ่านไป พระวิญญาณทรงเป็นพยานว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงอยู่ที่นั่น ดิฉันเช็ดน้ำตา ขอบพระทัยที่ดิฉันสามารถรู้สึกถึงพระวิญญาณอีกครั้ง
ดิฉันเริ่มจดจ่ออยู่กับพระคัมภีร์ ดิฉันยังมีวันมืดมนหลายวัน แต่มีศรัทธาว่าถ้าดิฉันยึดราวเหล็ก—พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า (ดู 1 นีไฟ 11:25)—ดิฉันจะเป็นอิสระจากหมอกแห่งความมืด ดิฉันไม่แน่ใจว่าจะใช้เวลานานเท่าใด แต่สักวันหนึ่งดิฉันคงจะได้ลิ้มรสความรักของพระผู้เป็นเจ้าอีกครั้ง เหมือนแสงอาทิตย์อบอุ่นหลังฤดูหนาวที่ยาวนาน
ขณะที่ดิฉันต่อสู้กับปัญหาท้าทายของชีวิตเป็นครั้งเป็นคราว ดิฉันนึกถึงคำสัญญาของดิฉันที่ว่าจะยึดราวเหล็กให้มั่นโดยศึกษาพระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ ดิฉันรู้ว่าเมื่อเกิดหมอกแห่งความมืด ดิฉันมีเครื่องมือที่จำเป็นต่อการมองเห็นทางฝ่าหมอกและคำสัญญาของการต้อนรับที่อบอุ่นอีกด้านหนึ่ง