“บทที่ 77—หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:1–17: ‘เรียกร้อง … ที่จะให้อภัย,’” หลักคำสอนและพันธสัญญา คู่มือครูเซมินารี (2025)
“หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:1–17,” หลักคำสอนและพันธสัญญา คู่มือครูเซมินารี
ระหว่างการเดินทางจากมิสซูรีไปยังโอไฮโอ โจเซฟ สมิธและคนอื่นๆ ประสบกับความขัดแย้งและความรู้สึกไม่ดีต่อกัน ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 64 พระเยซูคริสต์ทรงแนะนำพวกเขาเกี่ยวกับความจำเป็นที่จะให้อภัย บทเรียนนี้จะช่วยให้นักเรียนทำตามแบบอย่างของพระเยซูคริสต์และให้อภัยมากขึ้น
กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้
ในเดือนสิงหาคมปี 1831 หลังจากอุทิศไซอันในมิสซูรี โจเซฟ สมิธ, ออลิเวอร์ คาวเดอรี, ไอแซค มอร์ลีย์, เอซรา บูธ และคนอื่นๆ กำลังกลับบ้านที่โอไฮโอ สภาพอากาศร้อน การเดินทางที่เป็นอันตราย และความไม่เห็นด้วยกับความเป็นผู้นำทำให้กลุ่มวิพากษ์วิจารณ์และทะเลาะวิวาทกัน หลังจากมาถึงบ้าน ความตึงเครียดระหว่างพวกเขายังคงอยู่ (ดู วิสุทธิชน: เรื่องราวของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ในยุคสุดท้าย, เล่ม 1, มาตรฐานแห่งความจริง, 1815–1846 [2018], 133–134, 136–137) เพื่อตอบสนองต่อประสบการณ์ของพวกเขา พระเจ้าประทานการเปิดเผยที่ปัจจุบันเรียกว่า หลักคำสอนและพันธสัญญา 64
อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:1–7 โดยมองหาว่าพระเยซูคริสต์ทรงตอบสนองต่อผู้ที่ทำบาปอย่างไร
อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:9–11 โดยมองหาวิธีที่พระเยซูคริสต์ทรงเชื้อเชิญให้เราทำตามแบบอย่างของพระองค์
-
สิ่งใดโดดเด่นสำหรับท่านเกี่ยวกับสิ่งที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนโจเซฟและคนอื่นๆ?
-
ท่านคิดว่าเหตุใดพระเยซูคริสต์ทรงเรียกร้องให้เราให้อภัยทุกคน?
-
เหตุใดท่านจึงคิดว่าเรามี “บาปที่ร้ายแรงกว่า” (ข้อ 9) เมื่อเราเลือกที่จะไม่ให้อภัยผู้อื่น?
-
ท่านคิดว่าการพูดในใจว่า “ให้พระผู้เป็นเจ้าทรงตัดสินระหว่างข้าพเจ้ากับท่าน” (ข้อ 11) จะช่วยเราให้อภัยผู้อื่นได้อย่างไร?
การเรียนรู้วิธีให้อภัยผู้อื่น
เอ็ลเดอร์เกอร์ริท ดับเบิลยู. กองแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนวิธีที่พระเยซูคริสต์ทรงช่วยเราให้อภัยผู้อื่น:
13:21
บางครั้งการที่เรายินดีให้อภัยผู้อื่นจะเปิดทางให้พวกเขาและเราเชื่อได้ว่าเราสามารถกลับใจและรับการอภัย บางคราวความยินดีที่จะกลับใจและความสามารถในการให้อภัยมาคนละเวลา พระผู้ช่วยให้รอดทรงเป็นคนกลางระหว่างเรากับพระผู้เป็นเจ้า แต่ก็ทรงช่วยนำเรามาหาตัวเองและมาหากันขณะที่เรามาหาพระองค์ด้วย โดยเฉพาะเมื่อบาดแผลและความเจ็บปวดอยู่ลึก การแก้ไขความสัมพันธ์และการเยียวยาใจเราทำได้ยาก บางทีเราอาจทำไม่ได้ด้วยตนเอง แต่สวรรค์ประทานความเข้มแข็งและสติปัญญาเกินกว่าที่เรามีเพื่อให้เรารู้ว่าต้องอดทนเมื่อใดและต้องปล่อยวางอย่างไร (เกอร์ริท ดับเบิลยู. กอง, “มีความสุขตลอดไป,” เลียโฮนา, พ.ย. 2022, 85)
เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า:
2:3
“จงยกโทษให้เขา แล้วพวกท่านจะได้รับการยกโทษ” [ลูกา 6:37] พระคริสต์ทรงสอนในสมัยพันธสัญญาใหม่ ในยุคสมัยของเราทรงสอนว่า “เรา, พระเจ้า, จะให้อภัยผู้ที่เราจะให้อภัย, แต่เรียกร้องจากเจ้าที่จะให้อภัยมนุษย์ทั้งปวง” [หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:10] แต่สำคัญที่พวกท่านบางคนผู้ดำเนินชีวิตด้วยความทุกข์อย่างแท้จริงจะตระหนักถึงสิ่งที่พระองค์ ไม่ได้ ตรัส พระองค์ ไม่ได้ ตรัสว่า “เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้รู้สึกถึงความเจ็บปวดหรือความทุกข์ระทมอย่างแท้จริงจากการกระทำย่ำยีด้วยน้ำมือของผู้อื่น” และพระองค์ก็ ไม่ได้ ตรัสว่า “เพื่อจะยกโทษให้อย่างสมบูรณ์ เจ้าต้องกลับเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษภัยหรือกลับไปสู่สภาวการณ์เลวร้ายที่เป็นอันตราย” แต่ทั้งที่อาจเกิดการกระทำผิดที่เลวร้ายที่สุดต่อเรา เราก็ยังสามารถรับมือกับความเจ็บปวดของเราได้ เพียงแค่เราก้าวเดินสู่เส้นทางแห่งการเยียวยาอย่างแท้จริง เส้นทางนั้นคือการให้อภัยซึ่งพระเยซูแห่งนาซาเร็ธทรงดำเนินตาม พระองค์ทรงเรียกหาเราแต่ละคนว่า “จงกลับมาติดตามเรา” [ลูกา 18:22] (เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “พันธกิจในเรื่องการคืนดี,” เลียโฮนา, พ.ย. 2018, 78–79)
ไตร่ตรองคำถามต่อไปนี้และพิจารณาเขียนความคิดหรือความรู้สึกของท่านลงในสมุดบันทึกการศึกษา