ผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน: เอเฟซัส 2:19–20

ศาสนจักรก่อตั้งบนพระเยซูคริสต์ และอัครสาวกกับศาสดาพยากรณ์ของพระองค์

ในการศึกษา เอเฟซัส 2 ของท่าน ท่านได้เรียนรู้ว่าศาสนจักรของพระเยซูคริสต์สร้างขึ้นบนรากฐานของอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์ และพระเยซูคริสต์ทรงเป็นศิลาหัวมุม บทเรียนนี้มุ่งหมายจะเพิ่มความเชี่ยวชาญของท่านเกี่ยวกับคำสอนเหล่านี้ขณะท่านท่องจำข้ออ้างอิงและวลีสำคัญจากพระคัมภีร์สำหรับ เอเฟซัส 2:19–20 อธิบายหลักคำสอน และประยุกต์ใช้หลักคำสอนและหลักธรรมของการได้ความรู้ทางวิญญาณในสถานการณ์จริง

ท่องจำและอธิบาย

เพื่อช่วยท่านท่องจำข้ออ้างอิงและวลีสำคัญจากพระคัมภีร์ในผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนข้อนี้ ให้เขียนสิ่งต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่านอย่างน้อยสามครั้ง: “เอเฟซัส 2:19–20 ศาสนจักร ‘ก่อ‍ร่างสร้างขึ้นบนราก‍ฐานของบรร‌ดาอัคร‌ทูตและบรร‌ดาผู้‍เผย‍พระ‍วจนะ มีพระ‍เยซู‍คริสต์เป็นศิลาหัว‍มุม’”

ท่านจะเขียนวลีในลักษณะที่อธิบายความจริงนี้ด้วยก็ได้ ตัวอย่างเช่น ท่านจะวาดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ารอบวลีเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนรากฐานและวาดโบสถ์อยู่ด้านบน หรือ หากท่านวาดตัวอย่างของรากฐานนี้ไว้แล้วสำหรับบทเรียนก่อนหน้านี้ ท่านจะเขียนวลีสำคัญไว้บนหรือใกล้ภาพวาดภาพนั้นก็ได้

1. เพื่อช่วยท่านอธิบายสิ่งที่ท่านรู้เกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก ให้ทำกิจกรรมต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน

1. อ่าน เอเฟซัส 2:19–20 แล้วไตร่ตรองข้อความที่อยู่ในนั้น

2. คิดคำถามที่บางคนอาจมีเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกที่ เอเฟซัส 2:19–20 จะช่วยตอบได้ บางตัวอย่าง เช่น “ทำไมศาสนจักรของคุณมีศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก?” “พระคัมภีร์สอนอะไรเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก?” หรือ “อะไรคือความสัมพันธ์ระหว่างพระผู้ช่วยให้รอดกับศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก?” จดคำถามของท่าน

3. ใช้ เอเฟซัส 2:19–20 เขียนสิ่งที่ท่านจะพูดเพื่อตอบคำถาม

ฝึกประยุกต์ใช้

กิจกรรมต่อไปนี้สามารถช่วยท่านทบทวนหลักธรรมของการได้ความรู้ทางวิญญาณ จับคู่แต่ละข้อความกับหลักธรรมของการได้ความรู้ทางวิญญาณ  ถ้าจำเป็น ให้ใช้ ย่อหน้าที่ 5–12 ในหมวด “การได้ความรู้ทางวิญญาณ” ของ เอกสารหลักผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน (2022) เพื่อช่วยเหลือท่าน    

ผู้แสวงหาความจริงอย่างจริงใจควรระวังแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ	ปฏิบัติด้วยศรัทธา
เมื่อเราซื่อสัตย์ต่อความจริงและความสว่างที่เราได้รับแล้ว เราจะได้รับมากขึ้น	พินิจแนวคิดและคำถามด้วยมุมมองนิรันดร์
เมื่อเรายึดมั่นความไว้วางใจในพระบิดาบนสวรรค์และแผนแห่งความรอดของพระองค์ เราจะมองเห็นประเด็นปัญหาได้ชัดขึ้น	แสวงหาความเข้าใจเพิ่มเติมผ่านแหล่งที่ทรงกำหนด

สมมติว่าเอสเตลลาเพื่อนสนิทของท่านรู้สึกขัดแย้ง เธอมีประจักษ์พยานเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก แต่เธอต่อต้านคำสอนปัจจุบันของศาสนจัก อันที่จริงเธอมีความรู้สึกต่อต้านอย่างรุนแรง เธอขอให้ท่านช่วยให้รู้ว่าต้องทำอย่างไร ในตอนนั้นท่านไม่ทราบจะพูดอะไรดี แต่ท่านตัดสินใจทำตามหลักธรรมของการได้ความรู้ทางวิญญาณที่ท่านเคยใช้ในเซมินารีเพื่อเตรียมช่วยเหลือเพื่อน

ใช้แผนภูมิต่อไปนี้ใคร่ครวญความคิดและความรู้สึกของท่านเองเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกและวิธีที่ท่านจะช่วยเอสเตลลา

ฉันได้เรียนรู้ที่จะวางใจและทำตามอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์อย่างไร?	ฉันจะช่วยเหลือเพื่อนของฉันได้อย่างไร?
ฉันได้เรียนรู้ที่จะวางใจและทำตามอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์อย่างไร? ฉันเคยมีประสบการณ์อะไรบ้างเมื่อปฏิบัติด้วยศรัทธาในพระเยซูคริสต์เพื่อทำตามอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์ของพระองค์? ประสบการณ์ใดอาจเป็นประโยชน์หากแบ่งปันกับเอสเตลลา?	ฉันจะช่วยเหลือเพื่อนของฉันได้อย่างไร? ฉันจะถามคำถามอะไรกับเอสเตลล์ได้บ้างเพื่อช่วยให้เธอพิจารณาว่าพระเจ้าทรงประสงค์ให้เธอปฏิบัติด้วยศรัทธาอย่างไร?
ฉันได้เรียนรู้ที่จะวางใจและทำตามอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์อย่างไร? ฉันรู้อะไรแล้วบ้างเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์ แผนของพระองค์ และวิธีที่พระองค์ทรงปฏิสัมพันธ์กับลูกๆ ของพระองค์ที่อาจจะช่วยเอสเตลลาในสถานการณ์นี้ได้?	ฉันจะช่วยเหลือเพื่อนของฉันได้อย่างไร? ฉันจะถามคำถามอะไรกับเอสเตลล์ได้บ้างเพื่อช่วยให้เธอมองข้อกังวลของเธอด้วยมุมมองนิรันดร์?
ฉันได้เรียนรู้ที่จะวางใจและทำตามอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์อย่างไร? แหล่งช่วยที่ทรงกำหนดแหล่งใดเคยช่วยให้ฉันไว้วางใจอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์? แหล่งช่วยเหล่านั้นเคยช่วยฉันอย่างไร?	ฉันจะช่วยเหลือเพื่อนของฉันได้อย่างไร? ฉันจะแนะนำให้เอสเตลลาหันไปหาแหล่งช่วยที่ทรงกำหนดแหล่งใด?

2. ทำสิ่งต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน:

เขียนว่าท่านคิดว่าการสนทนาของท่านกับเอสเตลลาจะเป็นอย่างไร หรือวาดเป็นการ์ตูนรูปคนแบบง่าย สิ่งที่ท่านจะพูดและวิธีที่ท่านคิดว่าเอสเตลลาอาจตอบสนองต้องสมจริง