ฮีบรู 3–4
เข้าไปในสถานพักผ่อนของพระเจ้า
พระบิดาบนสวรรค์ของเราและพระเยซูคริสต์ทรงปรารถนาจะอวยพรเราด้วยพรอันอุดมที่สุดของพระองค์ ความไม่เชื่อและใจแข็งกระด้างกีดกันคนมากมายจากการได้รับพรเหล่านี้ เปาโลพยายามจะช่วยให้วิสุทธิชนกลับไปยังพันธสัญญาที่พวกเขาเคยทำไว้ ด้วยการกระตุ้นให้วิสุทธิชนละทิ้งเจตคติที่ไม่เชื่อ บทเรียนนี้มีเจตนาจะช่วยให้ท่านเอาชนะความไม่เชื่อ เพื่อที่ท่านจะสามารถได้รับพรที่สัญญาไว้ของพระผู้ช่วยให้รอด
ความเชื่อของเราในพระเยซูคริสต์
เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายถึงปัญหาจากการเผชิญหน้ากับโลกในปัจจุบัน:
เราพูดถึงพระคริสต์
คำสอนของเปาโลเกี่ยวกับลูกหลานของอิสราเอล
ในจดหมายของเขาถึงชาวฮีบรู เปาโลตระหนักว่าเนื่องจากการข่มเหง ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสบางคนคิดว่าจะหันไปจากความเชื่อของตนในพระเยซูคริสต์
อ่าน ฮีบรู 3:7–19 และมองหาเรื่องราวสมัยโบราณที่เปาโลอ้างอิงถึงเพื่อช่วยให้ชาวฮีบรูเข้าใจอันตรายของความไม่เชื่อ
“การกบฏ … ในถิ่นทุรกันดาร” ( ฮีบรู 3:8) หมายถึงยุคสมัยภายหลังจากถูกปลดปล่อยจากอียิปต์แล้ว ที่ชาวอิสราเอลได้ก่อกบฏต่อพระเจ้าให้ทรงพระพิโรธและถูกปฏิเสธพรที่พระองค์ทรงรอคอยที่จะประทานให้พวกเขา (ดู กันดารวิถี 14 ; เจคอบ 1:7–8 ; แอลมา 12:33–37)
-
พรใดที่ลูกหลานของอิสราเอลพลาดไป? เพราะเหตุใด?
สถานพักผ่อนของพระเจ้า
พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงต้องการให้เราประสบกับการพักผ่อนของพระองค์ ศึกษาข้อพระคัมภีร์และคำพยากรณ์ต่อไปนี้เพื่อเรียนรู้ว่าสถานพักผ่อนของพระเจ้าคืออะไร อาจจะเป็นประโยชน์ถ้าค้นดูคำว่า “ พักผ่อน, สถานพักผ่อน ” ในคู่มือพระคัมภีร์ หากมี
อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:24 เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานพักผ่อนของพระเจ้า (และดูที่ แอลมา 13:6, 12–13, 28–29)
ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธ (1838–1918) สอนวิธีที่เราจะสามารถเข้าไปในสถานพักผ่อนของพระเจ้าขณะอยู่ในความเป็นมรรตัย:
ศาสดาพยากรณ์โบราณพูดถึง “การเข้าสถานพักผ่อนของพระผู้เป็นเจ้า” [ดู แอลมา 12:34 ; หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:23–24 ]; สิ่งนี้หมายถึงอะไร? ในความคิดของข้าพเจ้านั่นหมายถึงการเข้าไปสู่ความรู้และความรักของพระผู้เป็นเจ้า โดยมีศรัทธาในจุดประสงค์และในแผนของพระองค์ จนถึงระดับที่เรารู้ว่าเราถูกต้องและเราไม่แสวงหาสิ่งใดอีก เราจะไม่หันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง หรือด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง … บุคคลผู้ซึ่งบรรลุศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าถึงระดับนั้นแล้วจนความสงสัยและความกลัวทั้งหมดได้อันตรธานหายไปจากเขา เขาได้เข้าสู่ “สถานพักผ่อนของพระผู้เป็นเจ้า” แล้ว
(คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ เอฟ. สมิธ [1998] )
-
ท่านจะบรรยายสถานพักผ่อนของพระเจ้าว่าอย่างไร?
แอลมาแบ่งปันข่าวสารที่คล้ายกันกับเปาโลกับผู้คนในยุคสมัยของเขา ซึ่งบางคนก็ประสบปัญหาที่จะเชื่อเช่นกัน อ่าน แอลมา 12:34–37 , เพื่อหาข้อคิดเพิ่มเติม
-
หลักธรรมใดที่ท่านสามารถระบุได้จาก ฮีบรู 3 และ แอลมา 12:34–37 ?
เลือกที่จะเชื่อ
อ่าน ฮีบรู 3:7–8, 12–15 ; 4:2–3, 6–7, 11 ขณะที่ท่านอ่าน ให้มองหาว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเข้าไปสถานพักผ่อนของพระเจ้า  
-
ท่านประทับใจอะไรในข้อเหล่านี้?
ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนวิธีที่เราสามารถเอาชนะความไม่เชื่อได้:
พระคริสต์ทรงฟื้น: ศรัทธาในพระองค์จะเคลื่อนภูเขา
ทางเลือก: ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมใช่หรือไม่?
ฉันจะมีใจที่เชื่อมากขึ้นได้อย่างไร?
ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งฝ่ายประธานสูงสุดในขณะนั้นกล่าวว่า:
อย่าวิตกเลย จงเชื่อเท่านั้น
ความเชื่อไม่ได้มาจากแหล่งอัศจรรย์ แต่ ความต้องการ ที่จะเชื่อ เป็น ก้าวแรกที่สำคัญ! พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงลำเอียง พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของท่าน พระองค์ทรงประสงค์จะคุยกับท่าน อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีความใฝ่รู้ทางวิทยาศาสตร์บ้างเล็กน้อย—จำเป็นต้องมีการทดลองพระคำของพระผู้เป็นเจ้า—และใช้ “อนุภาคหนึ่งของศรัทธา” [ แอลมา 32:27 ] ซึ่งเรียกร้องความนอบน้อมถ่อมตนเล็กน้อย เรียกร้องการเปิดใจและความคิด สิ่งนี้ต้องมี การแสวงหา ตามความหมายของคำนั้น และบางทีสิ่งที่ยากที่สุดคือสิ่งนี้เรียกร้องความอดทนและการรอคอยพระเจ้า
ถ้าเราไม่พยายามเชื่อ เราก็เหมือนกับคนที่ถอดปลั๊กไฟดวงใหญ่และจากนั้นก็โทษไฟดวงนั้นว่าไม่ให้แสงสว่าง
(ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “อย่าวิตก จงเชื่อเท่านั้น,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 78)
ใครที่สามารถช่วยให้เราค้นพบสถานพักผ่อนของพระผู้ช่วยให้รอด?
เอ็ลเดอร์ดับเบิลยู. เครก ซวิคแห่งสาวกเจ็ดสิบกล่าวว่า:
พระบิดาบนสวรรค์ทรงรักบุตรธิดาแต่ละคนของพระองค์และอยากให้พวกเราทุกคนกลับมาหาพระองค์ พระองค์ประทานศาสดาพยากรณ์และผู้นำฐานะปุโรหิตที่มีสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตที่แท้จริงเพื่อช่วยให้เรายังคงอยู่บนทางคับแคบและแคบ เราจึงมีการนำทางจากผู้นำเหล่านี้เพื่อช่วยให้เราไปสู่สถานพักผ่อนของพระองค์
(ดับเบิลยู. เครก ซวิค, “Enter into the Rest of the Lord,” Ensign, Feb. 2012, 24)