เราเป็นมากกว่าฉายาของเรา
คุณค่าของท่านไม่ได้วัดจากสิ่งที่ท่านทำได้หรือไม่ได้
มนุษย์เราชอบตั้งฉายาให้ตัวเราเอง—ลูกสาว จิตรกร นักเรียน นักวิ่ง ถึงแม้ฉายาทำให้เราเป็นตัวของตัวเอง ส่งเสริมอัตลักษณ์ของเรา และให้โอกาสเราเติบโต แต่มีอันตรายในนั้นเช่นกัน เมื่อเราเปรียบเทียบฉายาของเรากับของผู้อื่น ฉายาที่เรารับมานั้นข่มหรือขัดกับธรรมชาติอันสูงส่งของเรา หรือยอมให้บางฉายาทำให้เรารู้สึกด้อยค่า คุณค่าในตัวเราและความเข้มแข็งทางวิญญาณของเราย่อมละเอียดเป็นผุยผง
จะเป็นอย่างไรถ้าเราบอกท่านว่ามีฉายาหนึ่งที่พิเศษ ยั่งยืน สำคัญ และเราทุกคนมีเหมือนกัน
ต่อไปนี้เป็นข้อคิดบางประการจากพี่น้องสตรีสามคนที่มีชีวิตต่างกันมาก แต่เราทุกคนมีฉายาสำคัญที่สุดในบรรดาฉายาทั้งหมด
ชานเตเล:
บางครั้งยากที่จะไม่เปรียบเทียบตัวคุณกับคนอื่นๆ โดยเฉพาะคนในครอบครัว ตัวอย่างที่ดิฉันรับมือมาทั้งชีวิตคือมีคนเปรียบเทียบดิฉันกับน้องสาวสองคนมาโดยตลอด เราต่างกันมาก เราอยู่ในช่วงชีวิตต่างกัน มีพรสวรรค์และบุคลิกภาพต่างกัน ดิฉันแต่งงานเกือบ 15 ปีแล้ว มีลูกสี่คน เขียนและจัดพิมพ์นวนิยายห้าเรื่องขายในประเทศและดีดพิณมาเกือบ 30 ปี ดิฉันมีเป้าหมายมากมายที่ต้องการทำให้สำเร็จ เมื่อดิฉันท้อแท้ไม่สมหวังมากเท่าที่ตั้งใจ ดิฉันจะนึกถึงความรักที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงมีต่อดิฉัน แม้ไม่บรรลุเป้าหมายเหล่านั้นทั้งหมดก็ตาม ถึงแม้ดิฉันจะคิดว่าพรสวรรค์ที่ต่างกันช่วยหล่อหลอมเรา แต่ถ้าคุณเอาทั้งหมดนั้นออกไป—พรสวรรค์และฉายาทั้งหมด นั่นไม่สำคัญ สำคัญที่สุดคืออัตลักษณ์ของเราในฐานะบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้า ตราบใดที่ดิฉันทำสุดความสามารถ พระบิดาบนสวรรค์จะทรงอยู่กับดิฉัน ความจริงดังกล่าวช่วยดิฉันระหว่างการเดินทางและทำให้ดิฉันอบอุ่นใจ ไม่ว่าโลกจะตั้งฉายาให้ดิฉันหรือดิฉันจะตั้งฉายาให้ตนเองว่าอย่างไรก็ตาม
ชาลีส:
ดิฉันเป็นแม่อยู่บ้านเลี้ยงลูก ดิฉันมีลูกชายสามคนและสามีผู้เป็นชีวิตทั้งชีวิตของดิฉัน ดิฉันเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญที่สุดของพวกเขา พวกเขาทำให้ดิฉันเป็นตัวดิฉัน ดิฉันไม่มีอาชีพนอกครอบครัว พี่สาวของดิฉันเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกสี่คน แต่เธอเป็นนักเขียนที่เก่งมากด้วย น้องสาวของดิฉันเป็นคนเดียวในครอบครัวที่เรียนจบมหาวิทยาลัย เธอทำงานตามความฝันของเธอ และยังโสด เราทุกคนต่างกัน เราอาจมีฉายาต่างกัน แต่ฉายาเหล่านั้นไม่ทำให้คุณค่าของเรามากหรือน้อยกว่ากัน แม้เราจะต่างกัน แต่เราทุกคนเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้าและพระองค์ทรงรักเราทุกคน สุดท้ายแล้วนั่นแหละที่สำคัญจริงๆ ฉายาของดิฉันอาจต่างจากพี่สาวและน้องสาว แต่เมื่อคุณวางฉายาเหล่านั้นลง เราทุกคนก็เหมือนกัน เรามีศักยภาพนิรันดร์เหมือนกัน
ชาเคลล์:
ดิฉันได้รับฉายามากมาย ดิฉันเป็นบัณฑิต นักเขียน และผู้ส่งเสริมให้ชีสเค้กเป็นอาหารหมวดหนึ่ง แต่ดิฉันมีฉายาที่ดิฉันไม่ชอบเช่นกัน ดิฉันเป็นโสด มีปัญหาสุขภาพ และหลายครั้งดิฉันรู้สึกไม่ดีพอ ดิฉันยอมให้ฉายาที่ “อ่อนแอ” บางอย่างมีอำนาจเหนือดิฉันมากเกินควร และบางครั้ง แม้แต่ฉายาที่ดิฉันภาคภูมิใจก็สามารถบดบังอัตลักษณ์แท้จริงของดิฉันได้ แต่เมื่อดิฉันคิดใคร่ครวญว่าดิฉันเป็นใครและจดจำว่าดิฉันเป็นธิดาของพระผู้เป็นเจ้า นั่นเปลี่ยนทุกอย่าง ฉายาหนึ่งที่ให้ความหมายแก่ชีวิตอย่างแท้จริงคืออัตลักษณ์อันสูงส่งของเรา ดิฉันไม่รู้ว่าอนาคตของดิฉันจะเป็นอย่างไรหรือดิฉันจะมีหรือไม่มีฉายาใดในชีวิตนี้ แต่ดิฉันอบอุ่นใจที่สามารถพูดได้ว่า “ดิฉันเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้า” และรู้ว่าฉายานั้นมีความหมายมากกว่าอย่างอื่น ดิฉันไม่ต้องทำอะไรเพื่อให้ได้ฉายานั้นหรือความรักของพระองค์—ฉันได้ฉายานั้นมาเอง ดิฉันรู้ว่าถ้าดิฉันพยายามดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์ และถ้าดิฉันจำไว้เสมอว่าดิฉันเป็นใคร พระองค์จะทรงอวยพรดิฉัน (ดู คพ. 82:10) เมื่อฉายาอื่นทั้งหมดของดิฉันเชื่อมโยงกับฉายาที่มีความหมายอย่างแท้จริงดิฉันจะพบปีติที่แท้จริง ความเข้มแข็ง และความยิ่งใหญ่ในฉายาทั้งหมดนั้น