เมื่อข้อมูลต่อต้านมอรมอนสั่นคลอนศรัทธาของฉัน
ดิฉันพยายามปัดความกังวลออกไป แต่กลับกระวนกระวายมากขึ้นเมื่อความกังวลเหล่านั้นยังอยู่ ดิฉันจะรับใช้งานเผยแผ่ได้หรือถ้ายังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับพระกิตติคุณ
ไม่กี่เดือนก่อนไปเป็นผู้สอนศาสนา ดิฉันเห็นบทความต่อต้านมอรมอนโดยบังเอิญ บทความเหล่านั้นนำเสนอข้อมูลที่ตีความผิดเกี่ยวกับประวัติศาสนจักรและโจเซฟ สมิธซึ่งทำให้ประจักษ์พยานของดิฉันสั่นคลอน ดิฉันพยายามปัดความกังวลออกไป แต่กลับกระวนกระวายมากขึ้นเมื่อความกังวลเหล่านั้นยังอยู่ ข้อสงสัยปรากฏขึ้นลางๆ ในความคิด ดิฉันจะรับใช้งานเผยแผ่ได้หรือถ้ายังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับพระกิตติคุณ อยู่บ้านจะดีกว่าไหม ดิฉันสวดอ้อนวอนพระเจ้าด้วยศรัทธาแรงกล้า โดยทูลขอให้พระองค์ทรงช่วยตอบข้อสงสัยและเพิ่มพลังศรัทธาของดิฉัน แต่คำตอบไม่มาทันที
วันหนึ่งดิฉันหวนคิดถึงเรื่องของโจเซฟ สมิธได้รับฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน—เรื่องที่ตรึงใจดิฉันเสมอ ขณะโจเซฟแปลพระคัมภีร์มอรมอน ท่านสังเกตว่าพระคัมภีร์กล่าวถึงบัพติศมา ด้วยความที่อยากรู้เรื่องนี้ ท่านจึงเข้าไปในป่าพร้อมออลิเวอร์ คาวเดอรีผู้จดของท่าน และทูลถามพระบิดาบนสวรรค์เกี่ยวกับบัพติศมา พระบิดาบนสวรรค์ทรงตอบคำสวดอ้อนวอนของพวกท่านโดยทรงส่งทูตสวรรค์นามยอห์นผู้ถวายบัพติศมามาให้ฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนเพื่อพวกเขาจะได้รับบัพติศมาและมีสิทธิอำนาจให้บัพติศมาผู้อื่น
เรื่องนี้สอนหลักธรรมสำคัญ หลักธรรมที่กล่าวซ้ำบ่อยครั้งทั่วพระคัมภีร์และประวัติศาสนจักร นั่นคือ การอ่านและไตร่ตรองพระคัมภีร์จะช่วยให้เราอยู่บนเส้นทางสู่การฟื้นฟูและการเปิดเผยเพิ่มเติม พระคัมภีร์เสริมสร้างประจักษ์พยานและสอนหลักธรรมสำคัญของพระกิตติคุณเป็น “บรรทัดมาเติมบรรทัด” (2 นีไฟ 28:30) เพื่อให้เราพร้อมรับ
ดิฉันตระหนักว่าเพื่อฟื้นฟูศรัทธาของดิฉัน ดิฉันต้องหันไปหาคำตอบจากพระคัมภีร์ ดิฉันเริ่มอ่านพระคัมภีร์มอรมอน มองหาข้อที่จะนำดิฉันให้ได้รับการเปิดเผยที่ดิฉันต้องการอย่างยิ่ง และจากนั้นดิฉันพบข้อหนึ่งใน 1 นีไฟโดยบังเอิญ ในข้อนั้นนีไฟตอบคำถามของเทพโดยกล่าวว่า “ข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์ทรงรักลูกๆ ของพระองค์; กระนั้นก็ตาม, ข้าพเจ้าไม่รู้ความหมายของเรื่องทั้งหมด” (1 นีไฟ 11:17)
ขณะอ่านข้อนี้ ดิฉันตระหนักว่าดิฉันไม่จำเป็นต้องรู้ “ความหมายของเรื่องทั้งหมด”—และดิฉันจะไม่ได้รับคำตอบทั้งหมดในชีวิตนี้ แต่ดังที่นีไฟพึ่งพิงประจักษ์พยานของท่านเมื่อท่านพบเจอแนวคิดที่ไม่เข้าใจ ดิฉันสามารถพึ่งพาสิ่งที่ดิฉันรู้ อยู่แล้ว และดำเนินต่อไปด้วยศรัทธาเช่นกัน
เนื่องจากประสบการณ์นั้น ดิฉันจึงมักจะทำตามสิ่งที่ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์ ที่ปรึกษาที่สองในฝ่ายประธานสูงสุด สอน “เราจะพบคำตอบในพระคัมภีร์” (“A Discussion on Scripture Study,” Ensign, July 2005, 24) ดิฉันพึ่งพาความจริงนี้เสมอเมื่อดิฉันขาดความเข้าใจ พระคัมภีร์เตรียมโจเซฟกับออลิเวอร์ให้พร้อมรับศาสนพิธีแรกในศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูฉันใด พระคัมภีร์นำดิฉันอย่างต่อเนื่องไปบนเส้นทางสู่แสงสว่างและการเปิดเผยเพิ่มเติมฉันนั้น