2019
เมื่อความชั่วดูเหมือนความดีและความดีดูเหมือนความชั่ว
พฤษภาคม 2019


เมื่อความชั่วดูเหมือนความดี และความดีดูเหมือนความชั่ว

จากคำปราศรัยให้ข้อคิดทางวิญญาณเรื่อง “A Banquet of Consequences: The Cumulative Result of All Choices” ที่มหาวิทยาลัยบริคัม ยังก์ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 ดูบทความเต็มเป็นภาษาอังกฤษได้ที่ speeches.byu.edu

วิธีที่ปฏิปักษ์พยายามบิดเบือนลักษณะและบ่อนทำลายพรของการดำเนินชีวิตตามแผนของพระบิดา

มุมเจ้าเล่ห์ที่สุดมุมหนึ่งของปฏิปักษ์ในการพยายามขัดขวางแผนแห่งความสุขของพระบิดาในสวรรค์คือคำสอนปลิ้นปล้อนของเขาที่ว่าไม่มีอิทธิพลชั่วหรือมาร (ดู 2 นีไฟ 28:22) และการที่เขาพยายามเปลี่ยนนิยามความชั่วเป็นความดีและความดีเป็นความชั่ว ความมืดเป็นความสว่างและความสว่างเป็นความมืด ขมเป็นหวานและหวานเป็นขม (ดู 2 นีไฟ 15:20)

บางครั้งเรียกสิ่งนี้ว่าการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์—“เมื่อวิธีการคิดหรือการทำบางสิ่งที่ปรกติถูกแทนที่ด้วยวิธีใหม่และไม่เหมือนเดิม”1 ด้วยเหตุนี้จึงเห็นสิ่งต่างๆ ตรงกันข้ามกับที่เป็นจริง ในนวนิยายอมตะเรื่อง The Screwtape Letters ซี.เอส.ลิวอิสเขียนจากมุมมองของมารอาวุโส ลิวอิสสับเปลี่ยนค่านิยมดั้งเดิมโดยใช้ถ้อยคำประชดประชันเพื่อทำให้ความชั่วดูเหมือนความดีและความดีดูเหมือนความชั่ว2

เช่นเดียวกัน เมื่อไม่กี่เดือนก่อนข้าพเจ้ามีการพบปะพูดคุยที่ก่อให้เกิดประเด็นโต้แย้งกับผู้ชำนาญการโฆษณาคนหนึ่งที่นานาประเทศยกย่อง เราสนทนากันเรื่องอิทธิพลของความชั่วและผลของการเลือกที่ไม่ดี

เขานึกภาพเรื่องสมมติที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งซึ่งลูซิเฟอร์กำลังประชุมกับบริษัทตัวแทนโฆษณา ปฏิปักษ์บรรยายสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของตนว่า เขากับผู้ติดตามเขากบฏและไม่ยอมรับแผนของพระบิดา และเข้าใจว่าพวกเขาไม่สามารถชนะพระผู้เป็นเจ้าได้ ลูซิเฟอร์เข้าใจว่าขณะที่แผนของพระบิดาเกี่ยวข้องกับปีติและความสุข แต่แผนของเขาส่งผลให้เกิดความทุกข์และความเศร้าหมอง ลูซิเฟอร์อธิบายให้ผู้บริหารโฆษณาฟังว่า ปัญหาคือจะดึงดูดผู้ติดตามอย่างไร

เป็นอันว่าความหวังเดียวที่ลูซิเฟอร์จะประสบผลสำเร็จคือปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์หรือบิดเบือนค่านิยม—อีกนัยหนึ่งคือ ทำให้แผนของพระบิดาเกิดความทุกข์และความเศร้าหมอง และทำให้แผนของซาตานเกิดปีติและความสุข

การประชุมสมมติครั้งนี้มีจุดประสงค์ที่เป็นประโยชน์ ความจริงคือศัตรูผู้เป็นอริต่อแผนพระบิดาไม่เพียงพยายามบ่อนทำลายหลักคำสอนและหลักธรรมของแผนเท่านั้น แต่พวกเขาพยายามบิดเบือนลักษณะของพรที่มาจากแผนด้วย ความพยายามในเบื้องต้นของพวกเขาคือทำให้สิ่งที่ดี ชอบธรรม และเปี่ยมปีติดูเหมือนเศร้าหมอง

ข้าพเจ้าจะพูดถึงความพยายามบางอย่างของปฏิปักษ์เพื่อบิดเบือนลักษณะและบ่อนทำลายพรของการดำเนินชีวิตตามแผนของพระบิดา

พระคำแห่งปัญญา

family walking near a harbor

ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเห็นชีวิตเพื่อนหลายคนของข้าพเจ้าตกอับและบางครั้งถูกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำลาย การใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เพียงเกี่ยวกับหลักคำสอนของศาสนจักรเท่านั้น แต่เกี่ยวกับสุขภาพและความสุขของทุกคนด้วย วิสุทธิชนยุคสุดท้ายสามารถเป็นเสียงสำคัญในการให้ความรู้แก่สังคมเกี่ยวกับผลของปัญหานี้

ในแผนของพระบิดา พระคำแห่งปัญญา—ที่ประทานให้เพราะ “ความชั่วและแผน … [ของ] คนช่างคบคิด”—ให้หลักธรรมด้านสุขภาพ “ปรับให้เข้ากับความสามารถของคนอ่อนแอและคนอ่อนแอที่สุดจากวิสุทธิชนทั้งปวง” อีกทั้งอรรถาธิบายรายละเอียด รวมทั้งบอกว่า “เหล้าองุ่นหรือเครื่องดื่มแรง [เครื่องดื่มแอลกอฮอล์] … ไม่ดี” ยาสูบและเครื่องดื่มร้อน (ชาและกาแฟ) “มิใช่สำหรับร่างกาย” (คพ. 89:4, 3, 5, 8–9)

การเปิดเผยนี้สนับสนุนหลักปฏิบัติที่ดีต่อสุขภาพพร้อมคำสัญญา ซึ่งสัญญาว่าคนที่ดำเนินอยู่ในการเชื่อฟังพระบัญชาดังกล่าว “จะได้รับพลานามัย … และจะพบปัญญาและขุมทรัพย์แห่งความรู้” (คพ. 89:18–19)3

ผู้สนับสนุนยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แสดงให้เห็นการบิดเบือนที่ปฏิปักษ์ใช้ประโยชน์อย่างชัดเจน

กระนั้นแม้แต่บริษัทโฆษณาที่สร้างเรื่องราวสมมติก็ยังทำให้การใช้ยาสูบเป็นเรื่องดีได้ยากในทุกวันนี้ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ (1805–1844) ได้รับพระคำแห่งปัญญาโดยการเปิดเผยในปี 1833 ในปี 1921 ประธานฮีเบอร์ เจ. แกรนท์ (1856–1945) ได้รับการดลใจจากพระเจ้าให้ขอร้องวิสุทธิชนทุกคนดำเนินชีวิตตามพระคำแห่งปัญญาอย่างครบถ้วนมากขึ้น4 เวลานั้น การตลาดรวมทั้งความมีเสน่ห์ชวนฝันในภาพยนตร์ทำให้การสูบบุหรี่ดูทันสมัย เจนโลก และสนุก จนกระทั่งในปี 1964 อีก 43 ปีต่อมา กรมการแพทย์ทหารของสหรัฐสรุปว่า “การสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและมีความสำคัญมากพอที่สหรัฐจะดำเนินการแก้ไขอย่างเหมาะสม”5

สถิติปัจจุบันเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ไม่มีใครโต้แย้ง คนสูบมีแนวโน้มเป็นโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลัน และมะเร็งปอดมากกว่าคนไม่สูบ ประมาณการว่าการสูบบุหรี่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น 25 เท่า6

ดังนั้นสิ่งที่ปฏิปักษ์แสดงให้เห็นว่าทันสมัย เจนโลก และสนุก แท้จริงแล้วส่งผลให้หลายล้านคนเกิดความทุกข์และสิ้นชีวิตในท้ายที่สุด

งานวิจัยชิ้นนี้มีข้อคิดสำคัญสามประการ หนึ่ง ความสุขของผู้ใหญ่สัมพันธ์กันมากกับความสุขวัยเด็กในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักและความอาทรจากพ่อแม่7 สองคือความสำคัญของชีวิตสมรสที่สมบูรณ์มั่นคงต่อความสุขชั่วชีวิต8 สามคือผลเสียของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อความสำเร็จและความสุขในชีวิตสมรสและชั่วชีวิต การใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อครอบครัวหนึ่งในสามของสหรัฐและเกี่ยวพันกับการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหนึ่งในสี่ ทั้งยังมีบทบาทค่อนข้างมากในการสิ้นชีวิต สุขภาพย่ำแย่ และความสำเร็จที่ลดน้อยลง9

บทความขึ้นปก Washington Post เมื่อเร็วๆ นี้ที่อ้างอิงกับข้อมูลสุขภาพของสำนักงานกลางสหรัฐรายงานว่า “สตรีในอเมริกาดื่มมากกว่าและบ่อยกว่ามารดาหรือย่ายายของพวกเธอ และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฆ่าพวกเธอมากเป็นประวัติการณ์” บทความสรุปว่า “วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ในปัจจุบันไม่สนับสนุนประโยชน์ที่อ้างว่าได้จากการดื่มพอเหมาะพอดี” และ “ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากมะเร็งดูเหมือนจะสูงตามระดับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์”10

ในสามสี่ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลกพยายามลดการใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะเชื่อมโยงกับพฤติกรรมต่อต้านสังคมขั้นรุนแรง รวมทั้งการล่วงละเมิดทางเพศและปัญหาสุขภาพร้ายแรง โดยเฉพาะจากการดื่มมากเกินไป เวลานี้ผลกระทบร้ายแรงของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อสมองเด็กมีหลักฐานทางการแพทย์ชัดเจน11

ขณะยกปัญหาด้านสุขภาพขึ้นกล่าว ข้าพเจ้าไม่ได้พยายามจำแนกผลร้ายแรงอื่นๆ ของการใช้แอลกอฮอล์ เช่น อุบัติเหตุขณะขับรถด้วยความมึนเมา ผู้ชายพยายามล่วงละเมิดทางร่างกายและทางเพศเพราะขาดสติเนื่องจากใช้แอลกอฮอล์ และผลต่อสมองของทารกในครรภ์เพราะสตรีใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์12

ปัจจุบันเราเห็นกลุ่มคนชั่วร้ายกำลังผลักดันการเสพกัญชาเพื่อความเพลิดเพลินให้เป็นเรื่องถูกกฎหมายประหนึ่งการสูบบุหรี่ การใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการระบาดของฝิ่น13 ยังไม่เป็นภัยต่อสังคมมากพอ

การเลือกในครอบครัว

family praying together

การเลือกในครอบครัวมีรูปแบบคล้ายกัน ในแผนของพระบิดาอธิบายบทบาทของครอบครัวไว้อย่างชัดเจน

ใน “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” เราอ่านได้ว่า “ครอบครัวได้รับแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้า การแต่งงานระหว่างชายและหญิงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อแผนนิรันดร์ของพระองค์ เด็กมีสิทธิ์ถือกำเนิดภายในพันธะของการสมรสและได้รับการเลี้ยงดูจากบิดามารดาที่รักษาคำปฏิญาณของการแต่งงานด้วยความซื่อสัตย์อย่างแท้จริง ความสุขในชีวิตครอบครัวส่วนมากจะสำเร็จได้เมื่อมีพื้นฐานบนคำสอนของพระเจ้าพระเยซูคริสต์”14

การป่าวประกาศทางเลือกที่ขัดกับแผนดังกล่าวโดยตรงและไม่เอื้อต่อชีวิตสมรสและครอบครัวถือเป็นเรื่องปรกติธรรมดามากในโลกทุกวันนี้ ในการปรับเปลี่ยนอีกกระบวนทัศน์หนึ่ง เช่น

• การให้ชายและหญิงเลือกให้การศึกษาและอาชีพมาก่อนการแต่งงานและครอบครัว

• การเจตนาเลือกไม่มีบุตรหรือมีบุตรน้อย15 หรือสิ้นสุดการตั้งครรภ์เมื่อไม่สะดวก

• การเลือกประพฤติผิดศีลธรรมแทนสถาบันศักดิ์สิทธิ์ของการแต่งงาน

เป้าหมายของปฏิปักษ์คือสตรีและป้ายสีว่าการเป็นมารดาเป็นทางตันของงานน่าเบื่อ ส่วนเป้าหมายที่มุ่งไปยังผู้ชาย เขาบอกว่าการเป็นบิดาไม่สำคัญและความซื่อสัตย์ภักดีเป็นเรื่อง “ล้าสมัย” ความหมางเมินและการปฏิบัติต่อผู้อื่นเสมือนวัตถุเพราะสื่อลามกเป็นเหตุคือตัวอย่างของการให้ความประพฤติผิดศีลธรรมเข้ามาแทนที่สถาบันศักดิ์สิทธิ์ของการแต่งงาน ทั้งหมดนี้ยืนยันการหันเหอันน่ากลัวไปจากความจริงและความชอบธรรมที่ปฏิปักษ์แสวงหา

ทางเลือกที่ไม่เหมาะสมถูกเบี่ยงเบนว่าเหมาะสมในการช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางโลกของเสรีภาพและความเท่าเทียมกัน ผลของการเลือกเช่นนั้น จำนวนเฉลี่ยของเด็กที่หญิงคนหนึ่งจะให้กำเนิดในช่วงชีวิตเธอจึงลดลงอย่างน่าใจหาย ประมาณกันว่า 46 เปอร์เซ็นต์ของมนุษย์โลกอยู่ในประเทศที่อัตราการเกิดต่ำกว่า 2.1—อัตราที่จำเป็นต่อการทำให้ประชากรคงที่ ประเทศส่วนใหญ่แถบยุโรปและเอเชียต่ำกว่าระดับนี้ อิตาลีและญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดประมาณ 1.3 คาดว่าประชากรญี่ปุ่นจะลดจาก 120 ล้านคนเหลือ 100 ล้านคนภายในปี 205016

บางคนเรียกจำนวนประชากรที่ลดลงทั่วโลกว่า “เหมันต์ด้านประชากรศาสตร์”17 หลายประเทศมีเด็กไม่พอทดแทนรุ่นที่ใกล้สิ้นชีวิต

ข้าพเจ้าขอแบ่งปันความเป็นจริงอีกประการหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องที่ข้าพเจ้ากังวลมาก ข้าพเจ้ามีประสบการณ์ที่จริงจังในเยรูซาเล็มปี 2016 ที่ Children’s Memorial (อนุสรณ์สถานของเด็ก) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ World Holocaust Remembrance Center (ศูนย์รำลึกการสังหารหมู่ของโลก) เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกับข้าพเจ้าพร้อมด้วยผู้นำชาวยิวอเมริกันสองคนวางพวงหรีดไว้อาลัย เชื่อกันว่าเด็กชาวยิวกว่าหนึ่งล้านคนเสียชีวิตระหว่างการสังหารหมู่18

ขณะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ข้าพเจ้ารู้สึกสะเทือนใจ ข้าพเจ้ายืนอยู่ด้านนอกเพื่อสงบจิตสงบใจขณะหวนนึกถึงความน่าสยดสยองของประสบการณ์ดังกล่าวและนึกขึ้นได้ทันทีว่าเฉพาะในสหรัฐมีการทำแท้งทุกสองปีมากเท่าจำนวนเด็กชาวยิวที่เสียชีวิตในการสังหารหมู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง19

เด็กชาวยิวถูกสังหารเพราะพวกเขาเป็นยิว และไม่มีการกระทำเยี่ยงนี้ในประวัติศาสตร์ทั้งหมด แต่ข้าพเจ้ารู้สึกเจ็บปวดมากกับการสูญเสียเด็ก การนำเด็กเข้ามาในโลกเป็นส่วนศักดิ์สิทธิ์ในแผนแห่งความสุขของพระบิดาในสวรรค์ของเรา เราด้านชาและเกรงกลัวอันสืบเนื่องจากการทำแท้งอย่างกว้างขวางจนพวกเราหลายคนไม่ยินดียินร้ายและไม่รับรู้ เห็นชัดว่าปฏิปักษ์กำลังโจมตีคุณค่าของเด็กในหลายระดับ

เราจำเป็นต้องจัดการเรื่องการทำแท้งอย่างระมัดระวัง นี่เป็นปัญหาที่การตัดสินลงโทษส่วนตัวหรือข้อกล่าวหาจากผู้พิพากษาไม่น่าจะแก้ไขได้ มีคนเตือนว่าอย่าตัดสินเรือ—หรือชายหรือหญิง—โดยไม่เข้าใจระยะทางเดินเรือและมรสุมที่เผชิญ20 ข้าพเจ้าขอเสริมว่า คนจำนวนมากผู้มีส่วนในความประพฤติอันน่ารันทดใจนี้ไม่มีประจักษ์พยานในพระผู้ช่วยให้รอดหรือความรู้เรื่องแผนของพระบิดา

แต่สำหรับคนที่เชื่อว่าเราต้องชี้แจงต่อพระผู้เป็นเจ้า—และแม้สำหรับหลายคนที่นับถือศาสนาต่างจากเรา—นี่เป็นเรื่องเศร้าเหลือเกิน เมื่อท่านรวมการทำแท้งเข้ากับเหมันต์ด้านประชากรศาสตร์ที่เราเพิ่งสำรวจ ทั้งหมดนี้เป็นมลทินทางศีลธรรมขั้นรุนแรงของสังคมเรา

ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ (1895–1985) สอนว่า “องค์ประกอบหลักที่ส่งผลมหาศาลต่อความสุขสูงสุดของชีวิตแต่งงาน—คือการให้กำเนิดและเลี้ยงดูบุตร … ศาสนจักรไม่สามารถเห็นชอบหรือไม่เอาผิด … มาตรการซึ่ง … จำกัดครอบครัวอย่างมาก”21

เกี่ยวกับจำนวนและระยะห่างของการมีบุตร พึงคำนึงถึงสุขภาพของมารดา และสามีภรรยาควรทำการตัดสินใจร่วมกับการสวดอ้อนวอน22 คนนอกไม่ควรตัดสินการตัดสินใจเช่นนั้น วิสุทธิชนที่ซื่อสัตย์บางคนไม่สามารถมีบุตรได้หรืออาจไม่มีโอกาสแต่งงาน พวกเขาจะได้รับพรทุกประการที่การพิพากษาครั้งสุดท้าย23

อย่างไรก็ตาม ลูซิเฟอร์สนับสนุนการทำแท้งและการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์อันน่ากลัวทำให้คนจำนวนมากเชื่อมั่นว่าเด็กทำให้เสียโอกาสและมีความทุกข์แทนที่จะมีปีติและความสุข

ในฐานะวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เราต้องอยู่แนวหน้าสุดของการเปลี่ยนแปลงจิตใจและความคิดในเรื่องความสำคัญของเด็ก การโจมตีครอบครัวที่ข้าพเจ้าเพิ่งพูดถึงสุดท้ายแล้วส่งผลให้เกิดความทุกข์โศกและความเศร้าหมอง

พระเจ้าทรงประกาศว่างานของพระองค์และรัศมีภาพของพระองค์คือ “ทำให้เกิดความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์ของมนุษย์” (โมเสส 1:39) แผนได้รับการสถาปนาผ่านครอบครัว สมาชิกครอบครัวทุกคนสำคัญ และบทบาทของพวกเขาสวยงาม มีเกียรติ และสมบูรณ์

ถ้อยแถลงเรื่องครอบครัวบอกชัดเจนเกี่ยวกับผลของการเลือกที่ไม่สอดคล้องกับแผนของพระบิดา อีกทั้งประกาศอย่างชัดเจนไม่คลุมเครือว่า “เราเตือนว่าการแตกสลายของครอบครัวจะนำภัยพิบัติมาสู่ตัวบุคคล ประชาคม และประชาชาติดังที่ศาสดาพยากรณ์ในสมัยโบราณและปัจจุบันพยากรณ์ไว้”24

อรรถาธิบายการพิพากษาครั้งสุดท้ายและผลสะสมของการเลือกที่ไม่สอดคล้องกับแผนแห่งความสุขของพระบิดาได้อย่างชัดเจน

ในชีวิตสมรสทั้งหมดและในการเลี้ยงดูบุตรธิดา มีความท้าทายและการเสียสละ แต่รางวัลทั้งในชีวิตนี้และในนิรันดรสวยงามอย่างน่าทึ่ง รางวัลเหล่านั้นมาจากพระบิดาในสวรรค์ผู้ทรงรักเรา

รุ่งเรืองในแผ่นดิน

ข้อพระคัมภีร์ที่คุ้นเคยทั่วพระคัมภีร์มอรมอนมีสองส่วน ส่วนแรกอ่านได้ว่า “ตราบเท่าที่ลูกจะรักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าลูกจะรุ่งเรืองอยู่ในแผ่นดิน” ส่วนที่สองอ่านได้ว่า “ตราบเท่าที่ลูกจะไม่รักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าลูกจะถูกตัดขาดจากที่ประทับของพระองค์” (ดูตัวอย่างใน แอลมา 36:30) เห็นชัดว่าการมีพรของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ผ่านการเชื่อฟังเป็นองค์ประกอบหลักของการรุ่งเรืองในแผ่นดิน

นอกจากนี้ คำสอนศักดิ์สิทธิ์ของศาสนจักรถือว่าการมีเพียงพอกับความต้องการของเราเป็นมาตรวัดความรุ่งเรืองทางโลกได้ดีที่สุด การเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ของลูซิเฟอร์ในเรื่องนี้คือยกระดับการแสวงหาความมั่งคั่งและการได้ของฟุ่มเฟือยที่มองเห็นได้ง่ายมาก ดูเหมือนบางคนหมกมุ่นกับการทำให้ตนมีวิถีชีวิตแบบคนมั่งคั่งและมีชื่อเสียง ความมั่งคั่งเกินเหตุไม่ได้สัญญากับสมาชิกที่ซื่อสัตย์ ทั้งไม่นำความสุขมาให้แต่อย่างใด

วิสุทธิชนยุคสุดท้ายเคยรุ่งเรืองมาแล้ว หลักการเงินที่ชาญฉลาดมีดังนี้

• แสวงหาอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าก่อน

• ทำงาน วางแผน และใช้จ่ายอย่างฉลาด

• วางแผนเผื่ออนาคต

• ใช้ความมั่งคั่งเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า

วัตถุประสงค์ของลูซิเฟอร์

woman on bus

นอกจากจะบอกว่าพรเป็นความเศร้าหมองแล้ว ลูซิเฟอร์ยังหมายมั่นทำลายแผนของพระบิดาอย่างลับๆ และทำลายศรัทธาในพระเยซูคริสต์และหลักคำสอนของพระองค์ด้วย ไม่เคยมีการประกาศโจมตีพระคัมภีร์ไบเบิลและความเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์ในชั่วชีวิตข้าพเจ้ามากเท่าปัจจุบัน ดังที่พระคัมภีร์ทำนายไว้ ลูซิเฟอร์กำลังใช้แผนสารพัดอย่างเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว

แผนหนึ่งคือปฏิปักษ์ชักนำให้เราหลงผิด อีกแผนหนึ่งคือเป็นทหารรับจ้างคนหนึ่งของเขา เอ็ลเดอร์นีล เอ. แม็กซ์เวลล์ (1926–2004) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวไว้อย่างจับใจว่า “น่าเศร้าเหลือเกินที่คนจำนวนมากเป็นทหารรับจ้างของปฏิปักษ์ … และ … ถูกซื้อตัวด้วยราคาต่ำมาก สถานภาพเล็กน้อย เงินนิดหน่อย คำเยินยอสักหน่อย ชื่อเสียงสักนิด พวกเขาก็เต็มใจทำตามคำสั่งของคนที่สามารถมอบ ‘รางวัล’ ชั่วแล่นทุกประเภทแต่ไม่มีเงินตราซีเลสเชียล”25

ไม่น่าจะมีตัวอย่างใดแสดงให้เห็นผลของการเป็นทหารรับจ้างได้ดีกว่านิมิตของลีไฮเกี่ยวกับต้นไม้แห่งชีวิตและอาคารใหญ่และกว้างในพระคัมภีร์มอรมอน คนในอาคารชี้นิ้วมาที่คนยึดราวเหล็กและแม้กระทั่งรับส่วนผลของต้นไม้นั้นแล้ว คนรับส่วน “มีความละอาย, อันเนื่องมาจากผู้ซึ่งกำลังเยาะเย้ยพวกเขาอยู่; และพวกเขาตกลงไปในทางที่ต้องห้ามและหายไป” (1 นีไฟ 8:27–28)

ด้วยเหตุนี้ การเลือกที่ไม่ดีจึงส่งผลขม เหม็นเน่า น่าสะอิดสะเอียน และน่าสังเวช

ลองเปรียบเทียบสิ่งนี้กับผลอันน่ายินดีที่สัญญาไว้กับท่านที่ซื่อสัตย์ ท่านจะ “เปี่ยมด้วยรัศมีภาพของพระเจ้า” และ “ถูกพระวิญญาณชำระให้บริสุทธิ์จนถึงการทำให้ร่างกาย [ของท่าน] ใหม่อีกครั้ง” และทั้งหมดที่พระบิดามีจะประทานแก่ท่าน (คพ. 84:32, 33; ดู ข้อ 34–38 ด้วย)

ในการพิพากษาครั้งสุดท้าย อาหารทางวิญญาณที่เราดื่มด่ำจะอร่อย มีรสชาติ หอมหวาน ชุ่มฉ่ำ บำรุงเลี้ยง อิ่มเอม และจะทำให้ใจเราชื่นชมยินดี เมื่อเรา “มาเฝ้าพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล, และดื่มด่ำสิ่งที่ไม่เสื่อมถอย, ทั้งเน่าเปื่อยไม่ได้” (2 นีไฟ 9:51) เราจะสามารถเดินไปตามทางแคบและวิถีคับแคบที่จะนำเราไปหาพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล “เพราะพระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าคือพระนามของพระองค์” (2 นีไฟ 9:41)

อ้างอิง

  1. Merriam-Webster’s Collegiate Dictionary, 11th ed. (2003), “paradigm shift,” merriam-webster.com.

  2. ดู ซี. เอส. ลูอิส, The Screwtape Letters (1942).

  3. ดู Jed Woodworth, “The Word of Wisdom,” in Revelations in Context: The Stories behind the Sections of the Doctrine and Covenants, Matthew McBride and James Goldberg, eds. (2016), 183–89; “The Word of Wisdom,” June 1, 2013, history.lds.org.

  4. ดู คำสอนของประธานศาสนาจักร: ฮีเบอร์ เจ. แกรนท์ (2002), 189–196.

  5. Smoking and Health: Report of the Advisory Committee to the Surgeon General of the Public Health Service, PHS publication no. 1103 (1964), 33; see also The Health Consequences of Smoking—50 Years of Progress: A Report of the Surgeon General (2014), surgeongeneral.gov.

  6. ดู “Health Effects of Cigarette Smoking,” Centers for Disease Control and Prevention, May 15, 2017, cdc.gov.

  7. ดู จอร์จ อี. เวลแลนท์, Triumphs of Experience: The Men of the Harvard Grant Study (2012), 108–9.

  8. ดู อัลวิน พาวเวลล์, “Decoding Keys to a Healthy Life,” Harvard Gazette, Feb. 2, 2012, news.harvard.edu.

  9. ดู เวลแลนท์, Triumphs of Experience, 292. เมื่อเทียบกันแล้ว งานวิจัยระยะยาวแยกต่างหากของสมาชิกศาสนจักรที่แข็งขันมีผลในทางที่ดี (ดู เจมส์ อี. เอนสตรอม และเลสเตอร์ เบรสโลว์, “Lifestyle and Reduced Mortality among Active California Mormons, 1980–2004,” Preventive Medicine vol. 46, no. 2 [Feb. 2008], 133–36).

  10. Kimberly Kindy and Dan Keating, “For Women, Heavy Drinking Has Been Normalized. That’s Dangerous,” Washington Post, Dec. 23, 2016, washingtonpost.com; the conclusion quotes Robert D. Brewer from the Centers for Disease Control and Prevention alcohol program.

  11. ดู “Fact Sheets—Underage Drinking,” Centers for Disease Control and Prevention, Oct. 20, 2016, cdc.gov.

  12. ดู Anne Schuchat, “The CDC’s Recommendations to Help Prevent Fetal Alcohol Spectrum Disorders,” American Family Physician, vol. 95, no. 1 (Jan. 1, 2017), 6–7, aafp.org.

  13. ดู “Inside a Killer Drug Epidemic: A Look at America’s Opioid Crisis,” New York Times, Jan. 6, 2017, nytimes.com.

  14. “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก,” เลียโฮนา, พ.ย. 2010, 165.

  15. “เปอร์เซ็นต์ของคนอายุ 25 ถึง 34 ปีที่ไม่มีบุตรอาศัยอยู่ด้วยเพิ่มขึ้นสองเท่าตั้งแต่ปี 1967” (Emily Schondelmyer, “No Kids in the House: A Historical Look at Adults Living without Children,” U.S. Census Bureau, Dec. 20, 2016, census.gov).

  16. ดู World Fertility Patterns 2015, United Nations, Department of Economic and Social Affairs, Population Division, 2015, 6, un.org; “Birth and Fertility of the Resident Population,” Istat (Italian National Institute of Statistics), Nov. 28, 2016, istat.it; “The Future of World Religions: Population Growth Projections, 2010–2050, Buddhists,” Pew Research Center, Apr. 2, 2015, 6–12, 102–111, pewresearch.org; Adam Taylor, “It’s Official: Japan’s Population Is Dramatically Shrinking,” Washington Post, Feb. 26, 2016, washingtonpost.com; and Ana Swanson, “Japan’s Birth Rate Problem Is Way Worse Than Anyone Imagined,” Washington Post, Jan. 7, 2015, washingtonpost.com.

  17. ดู The New Economic Reality: Demographic Winter, BYUtv, byutv.org.

  18. ดู “Plight of Jewish Children,” Holocaust Encyclopedia, United States Holocaust Memorial Museum, ushmm.org.

  19. ดู Reproductive Health: Data and Statistics: “Abortion,” Centers for Disease Control and Prevention, May 10, 2017, cdc.gov. ข้าพเจ้าทราบว่าจำนวนการทำแท้งลดลงในปีหลังๆ แต่จำนวนการทำแท้งก็ยังสูงมากอยู่ดี

  20. Sometimes attributed to Thomas Carlyle (1795–1881); see Handbook 1: Stake Presidents and Bishops (2010), 17.3.1. หมวดนี้บอกข้อยกเว้นให้ทำแท้งได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการข่มขืน การร่วมประเวณีกับญาติสนิท สุขภาพของมารดา และภาวะบกพร่องรุนแรงของทารก

  21. The Teachings of Spencer W. Kimball, ed. Edward L. Kimball (1982), 328–29; see also Eternal Marriage Student Manual (Church Educational System manual, 2003), 14–18, LDS.org.

  22. ดู กอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์, Cornerstones of a Happy Home (pamphlet, 1984), 6, LDS.org.

  23. ดู คู่มือเล่ม 2: การบริหารงานศาสนจักร (2010), 1.3.3.

  24. “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก,” 2.

  25. นีล เอ. แม็กซ์เวลล์, Things As They Really Are (1978), 42.