2019
ความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งของแผน
พฤศจิกายน 2019


ความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งของแผน

บทเรียนสี่บทที่เราสามารถเรียนรู้ได้จาก “ความล้มเหลว” ซึ่งเกิดขึ้นมากที่สุดในพระคัมภีร์

young adult woman

อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ดูเหมือนจะหนักไปทางประกาศ “มหากาพย์ความล้มเหลว”—ตั้งแต่ความล้มเหลวจากการลอกเลียนแบบ Pinterest ไปจนถึงวีดิทัศน์ของคนที่ตีลังกากลับหลังพลาด เราอาจปรารถนาจะรู้เท่านั้นว่าเราไม่โดดเดี่ยวเมื่อเราพยายามสุดความสามารถแล้วแต่ดูเหมือนไม่ดีพอ มีอีกวิธีหนึ่งที่จะรู้ว่าไม่โดดเดี่ยว

ถ้าท่านรู้สึกเหมือนวันของท่านเต็มไปด้วยความล้มเหลว ให้มองหากำลังใจจากพระคัมภีร์ พระคัมภีร์เต็มไปด้วยความพยายามที่ไม่สมบูรณ์แบบของคนที่ยอดเยี่ยมมากบางคน ต่อไปนี้เป็นบทเรียนบางบทของพวกเขาที่สามารถช่วยให้ท่านตระหนักว่าท่านอาจจะทำได้ดีกว่าที่ท่านคิด

1. ศรัทธาไม่ได้หยุดความล้มเหลว แต่ทำให้ความล้มเหลวมีความหมาย

นีไฟเปี่ยมด้วยศรัทธาเมื่อเขากับพี่ๆ กลับไปเอาแผ่นจารึกทองเหลือง แต่นั่นก็ไม่ได้ปกป้องพวกเขาจากตวามล้มเหลวอย่างน่าสังเวช—สองครั้ง (ดู 1 นีไฟ 3) แต่ศรัทธาของเขาขณะเผชิญความล้มเหลวช่วยเปลี่ยนความล้มเหลวเป็นการเตรียมรับความสำเร็จ ความล้มเหลวขณะเผชิญหน้ากับเลบันก่อนหน้านั้นช่วยเตรียมนีไฟให้จำเลบันได้ ปลอมตัวเป็นเขา พบบ้านของเขา และเอาบันทึกศักดิ์สิทธิ์มาได้หรือไม่ เราไม่รู้แน่ชัด แต่เรารู้ว่าความสำเร็จในอนาคตของเรามักจะเป็นผลของสิ่งที่เราเรียนรู้จากความล้มเหลวในอดีต

2. พระผู้เป็นเจ้าทรงคาดว่าเราจะล้มเหลวและทรงวางแผนล่วงหน้า

หลังจากโจเซฟ สมิธทราบว่าต้นฉบับพระคัมภีร์มอรมอนหายไป 116 หน้า เขาร้องว่า “หายไปหมดแล้ว!”1 เขารู้ว่าเขาผิดพลาด เขารู้ว่าเขาจะถูกตำหนิและแม้กระทั่งถูกขับออก แต่ไม่ได้หายไปหมด พระผู้เป็นเจ้าทรงคาดไว้แล้วราว 2,000 ปีก่อนว่าโจเซฟจะล้มเหลวและทรงเตรียมรับสิ่งนี้

ในทำนองเดียวกัน พระผู้เป็นเจ้าทรงคาดไว้นานแล้วก่อนสร้างโลกว่าเราจะล้มเหลว2 แต่พระองค์ทรงสามารถเปลี่ยนความผิดพลาดของเราเป็นพร (ดู โรม 8:28) พระองค์ทรงจัดเตรียมพระผู้ช่วยให้รอดทั้งนี้เมื่อความล้มเหลวของเราเกี่ยวข้องกับบาป เราสามารถกลับใจ โดยยอมให้เรา “เรียนรู้จากประสบการณ์ [ของเรา] โดยไม่ถูกกล่าวโทษ”3

3. อย่ายอมแพ้ เรามองไม่เห็นความสำเร็จของเราเสมอไป

อบินาไดได้รับเรียกให้สั่งสอนการกลับใจแก่ผู้คน หากอบินาไดวัดความสำเร็จของตนจากจำนวนคนที่กลับใจ เขาอาจเชื่อไปจนตายว่าเขาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ครั้งแรกที่เขาเตือนผู้คนของกษัตริย์โนอาห์ให้กลับใจ เขาถูกปฏิเสธและหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด (ดู โมไซยาห์ 11:20–29) แทนที่จะยอมแพ้ เขาพยายามอีกครั้ง โดยรู้ว่าเขาอาจจะถูกสังหารได้—และเขาก็ถูกสังหาร

แต่เพราะเขาไม่ยอมแพ้ ผู้คนจึงกลับใจในที่สุด (ดู โมไซยาห์ 21:33) นอกจากนี้แอลมายังได้เปลี่ยนใจเลื่อมใส สอนและให้บัพติศมาคนจำนวนมาก และจัดตั้งศาสนจักรในหมู่ชาวนีไฟด้วย ลูกหลานของแอลมานำศาสนจักร และบางครั้งนำประเทศชาติ จนถึงการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ โดยทำให้หลายพันคนเปลี่ยนใจเลื่อมใส รวมทั้งชาวเลมันส่วนใหญ่ด้วย (ดู ฮีลามัน 5:50) คนๆ หนึ่งที่ไม่ยอมแพ้ขณะเผชิญความล้มเหลวสามารถทำให้เกิดผลดีเหลือเชื่อ

4. บางครั้งการแก้ปัญหาสำคัญน้อยกว่าการเรียนรู้จากปัญหา

ออลิเวอร์ เกรนเจอร์เคยชินกับการมีอำนาจสั่งการให้ทำสิ่งต่างๆ ก่อนเข้ารวมศาสนจักรในทศวรรษ 1830 เขาเป็นนายอำเภอ ผู้พันของกลุ่มทหารอาสา และนักเทศน์ที่มีใบอนุญาตในศาสนจักรของเขา หลังจากเข้าร่วมศาสนจักร เขารับใช้งานเผยแผ่สองครั้งและเป็นสมาชิกของสภาสูงเคิร์ทแลนด์ แต่จากนั้นโจเซฟมอบงานที่แทบไม่มีทางทำได้ให้ออลิเวอร์จัดการเรื่องธุรกิจของผู้นำศาสนจักรที่ถูกขับไล่ออกจากเคิร์ทแลนด์4

ออลิเวอร์รู้สึกเหมือนล้มเหลว เขาจึงไปหาโจเซฟและได้ยินพระเจ้าตรัสว่า “เรานึกถึงผู้รับใช้ของเรา ออลิเวอร์ เกรนเจอร์; … และเมื่อเขาตกเขาจะลุกขึ้นอีก, เพราะการเสียสละของเขาจะศักดิ์สิทธิ์ต่อเรายิ่งกว่าการเพิ่มพูนของเขา” (คพ. 117:12–13) เราเรียนรู้จากออลิเวอร์ว่าผลที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมองหาไม่ใช่เพื่อให้เรามาพบทางออกที่เหมาะกับความท้าทายของเราเสมอไป แต่เพื่อให้เราเติบโตจากการเผชิญความท้าทาย

ความก้าวหน้าอาจเกิดขึ้นยาก

เราอยู่ที่นี่เพื่อเรียนรู้และเติบโต แต่การเติบโตไม่เกิดขึ้นหากปราศจากการตรงกันข้าม เราทุกคนล้วนทำผิดพลาด ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟที่ปรึกษาที่สองในฝ่ายประธานสูงสุดกล่าว แต่ “จุดหมายของเราไม่ได้ตัดสินจากจำนวนครั้งที่เราสะดุดล้ม แต่จากจำนวนครั้งที่เราลุกขึ้น ปัดฝุ่นออก และเดินต่อ ”5

อ้างอิง

  1. ดู “Lucy Mack Smith, History, 1844–1845,” book 7, pages 5–6. ดูบทเรียนเพิ่มเติมจากประสบการณ์นี้ได้จาก Keith W. Perkins, “Thou Art Still Chosen,” Ensign, Jan. 1993, 14–19.

  2. โจเซฟสอนในเวลาต่อมาว่า “พระเยโฮวาห์ผู้ยิ่งใหญ่ทรงพิจารณาเหตุการณ์ทั้งหมดเกี่ยวกับแผ่นดินโลก เกี่ยวกับแผนแห่งความรอด ก่อนที่โลกจะดำรงอยู่ … พระองค์ทรงทราบสถานการณ์ของทั้งคนเป็นและคนตาย และทรงเตรียมการเต็มที่เพื่อไถ่พวกเขา” (ใน คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], 438)

  3. บรูซ ซี. ฮาเฟน, “การชดใช้: ทั้งหมดเพื่อทั้งหมด,” เลียโฮนา, พ.ค. 2004, 119.

  4. ดู บอยด์ เค. แพคเกอร์, “คนต่ำต้อย,” เลียโฮนา, พ.ย. 2004, 106–110; ดู The Joseph Smith Papers, History, 1838–1856, volume B–1 [1 September 1834–2 November 1838], 837 ด้วย.

  5. ดีเทอร์ เอฟ. อุคดอร์ฟ, “ท่านสามารถทำได้!” เลียโฮนา, พ.ย. 2013, 55.