2021
คณิตศาสตร์ง่ายๆ สำหรับการเข้าใกล้พระเจ้า
สิงหาคม 2021


อย่าพลาดการให้ข้อคิดทางวิญญาณครั้งนี้

คณิตศาสตร์ง่ายๆ สำหรับการเข้าใกล้พระเจ้า

จากคำปราศรัยกับนักศึกษาที่ Ensign College ในซอลท์เลคซิตี้ ยูทาห์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2020 อ่าน บทความเต็ม ที่ ensign.edu

การสร้างความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องซับซ้อน

ภาพ
เยาวชนหญิงกำลังสวดอ้อนวอนอยู่ที่โต๊ะ

ปีที่ผ่านมานั้นมีทั้งช่วงเวลาที่ดีและไม่ดีและมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งนับว่าเป็นการฉลาดที่เราจะประเมินว่าเรากำลังเรียนรู้บทเรียนที่เราควรเรียนรู้และสามารถเรียนรู้ได้จากการระบาดใหญ่นี้และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดอื่นๆ หรือไม่ เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองได้โพสต์ความคิดนี้ขณะไตร่ตรองถึงสิ่งที่ท่านเรียนรู้ในช่วงเวลาที่ไม่ปกตินี้

“ข้าพเจ้าหวังว่าเมื่อสิ่งต่างๆ กลับสู่สภาวะปกติ ไม่ว่าความปกตินั้นจะเป็นอย่างไร ข้าพเจ้าจะไม่ลืมความรู้สึกและประสบการณ์ที่ข้าพเจ้าได้พบเจอในช่วงหลายเดือนของการไตร่ตรองและการอยู่อย่างสันโดษ …

“… เราคงเป็นคนโง่หากพลาดโอกาสอันศักดิ์สิทธิ์นี้ในการค้นหาจิตวิญญาณของเรา ลองกลับใจสักเล็กน้อย และมองหาวิธีที่เราจะเป็นคนที่ดีขึ้นและมีเมตตามากขึ้น”1

โดยมีข้อคิดนั้นเป็นพื้นฐาน เรามาเรียนบทเรียนคณิตศาสตร์กันสักหน่อย ดิฉันชอบคณิตศาสตร์เนื่องจากคณิตศาสตร์มีตรรกะ ความแม่นยำ และสามารถคาดเดาได้ แต่เราจะทำให้มันง่ายเข้าไว้ เพราะคณิตศาสตร์ง่ายๆ คือสิ่งเดียวที่ดิฉันสามารถทำได้ทุกวันนี้! เราจะมาบวก ลบ คูณ และหารกัน

บวก

ด้วยเสียงก้องกังวานรอบตัวเรา เสียงต่างๆ ที่เรียกร้องความสนใจและความภักดีของเรากับโทรศัพท์ บนหน้าจอ และแม้แต่ในบ้านเราเอง ทำให้เราต้องบวกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มให้กับชีวิตเรา นึกถึงสถานที่ซึ่งท่านอาศัยอยู่ นึกภาพสถานที่นั้นในความคิด

ท่านอยู่ในอะพาร์ตเมนต์หรือไม่?

ท่านอยู่ที่บ้านกับครอบครัวหรือไม่?

ท่านอยู่ที่ชั้นใต้ดินหรือไม่?

ท่านมีเพื่อนร่วมห้องหรือไม่?

ท่านไปอยู่ที่ไหนเพื่อให้เกิดความสงบ เพื่อสวดอ้อนวอน และเพื่อติดต่อกับพระผู้เป็นเจ้า? แล้วสถานที่นั้นทำให้ท่านได้รับสิ่งข้างต้นหรือไม่?

ไม่ว่าสถานการณ์ในชีวิตท่านจะเป็นเช่นไร ท่านสามารถบวกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มเข้าไปได้ เป็นพื้นที่ซึ่งท่านจะได้พบความสงบเพื่อจะได้ยินสุรเสียงของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อ “ฟังพระองค์” ตามที่ศาสดาพยากรณ์ของเราแนะนำให้เราทำ2 เพื่อสื่อสารและค้นหาคำแนะนำตลอดจนการนำทางสำหรับชีวิตท่าน

ในที่ซึ่งท่านอยู่ ท่านสามารถบวกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เข้าไปได้หรือไม่? พยายามหาจุดบางจุดหรือของตกแต่งที่สามารถเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของท่าน บางทีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อาจเป็นผ้าห่มในห้องนอนของท่านเมื่อเพื่อนร่วมห้องของท่านออกไปข้างนอกสักหนึ่งวัน หรืออาจเป็นเก้าอี้บางตัวข้างช่องระบายความร้อนซึ่งมีอากาศอุ่นๆ พ่นออกมาในช่วงฤดูหนาว อาจเป็นพรมเนื้อนุ่มที่ท่านพบทางออนไลน์และวางไว้ข้างเตียงเพื่อคุกเข่าลง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวสามารถเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์สำหรับท่านได้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง และดิฉันพูดจากประสบการณ์ส่วนตัว ความเข้มแข็งและความสบายใจอาจบังเกิดต่อท่านได้จากการรู้ว่าผ้าห่ม เก้าอี้ พรมนุ่มๆ ของท่าน หรืออะไรก็ตาม แสดงถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านจะได้สัมผัสถึงพระวิญญาณและสื่อสารกับพระผู้เป็นเจ้าโดยเฉพาะและเป็นสถานที่ซึ่งเกิดความศักดิ์สิทธิ์ ปิดเสียงวุ่นวาย ตั้งใจทำให้เกิดความสงบเพื่อได้ยินพระองค์! พระเยซูทรงสอนว่า “เนื้อหนังทั้งปวงอยู่ในมือเรา; จงนิ่งเถิดและรู้ว่าเราคือพระผู้เป็นเจ้า”(หลักคำสอนและพันธสัญญา 101:16)

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านทำอะพาร์ตเมนต์ หอพัก บ้าน หรือห้องนอนของท่านให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อท่านจะสามารถปลีกตัวจากสิ่งรบกวนของโลกได้อย่างปลอดภัย”3

ลบ

ถัดมาคือการลบ ลองคิดดูว่าท่านใช้เวลา 24 ชั่วโมงที่มีในแต่ละวันอย่างไร เวลาหลายชั่วโมงใช้ไปกับการนอนหลับ (อาจจะไม่มากเท่าที่ท่านต้องการ!) และเวลาหลายชั่วโมงใช้ไปในห้องเรียนและการศึกษา เวลาหลายชั่วโมงใช้ไปกับการทำงานและหาเงินเพื่อดำรงชีวิต ชั่วโมง (หรือนาที!) ที่เหลือให้หลังจากที่ท่านเสร็จจากโรงเรียน ที่ทำงาน และครอบครัว ท่านอาจเรียกเวลานี้ว่า “เวลาใช้แล้วทิ้ง” นี่คือช่วงเวลาที่ท่านมีอำนาจในการตัดสินใจอย่างเต็มที่ ท่านตัดสินใจที่จะใช้เวลานั้นอย่างไร?

ลองลำดับเป็นข้อๆ ในความคิดว่าท่านใช้เวลาใช้แล้วทิ้งไปอย่างไรในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา จากนั้นนึกถึงสิ่งที่ต้องลบออกจากสิ่งที่ท่านทำในช่วงเวลาใช้แล้วทิ้ง มีงานอดิเรก สื่อ หรือสิ่งที่ทำให้เสียเวลาเปล่าซึ่งดีกว่าถ้าจะตัดทิ้งไปโดยสิ้นเชิงหรือจำกัดเวลาลงหรือไม่? อะไรคือสิ่งที่ต้องลบออกจากชีวิตท่าน? นั่นอาจเป็นคำถามที่ให้ท่านนึกไตร่ตรองและทูลถามพระบิดาบนสวรรค์ในเวลาที่ท่านอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านบวกเพิ่มเข้าไป!

ให้เราลบสิ่งใดก็ตามออกจากชีวิตเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งลบออกจากช่วงเวลาใช้แล้วทิ้ง สิ่งที่ทำให้พระวิญญาณทรงขุ่นเคือง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม พฤติกรรม หรือนิสัยที่แท้จริง หรือไม่ว่าจะเป็นความคิด เจตคติ หรือภาษาที่เราใช้ในบางครั้ง ถ้าสิ่งนั้นทำให้พระวิญญาณทรงขุ่นเคือง ให้ลบออก ปล่อยทิ้งไป ลบสิ่งนั้นออกจากชีวิตท่าน แล้วบวกความบริสุทธิ์เข้าไปแทน

คูณ

เรามาคูณกันต่อ เราอยากจะคูณอะไรเข้าไปในชีวิตเรา? อะไรในชีวิตท่านที่ท่านอยากได้เพิ่มมากกว่านี้ และฉันหมายถึงเพิ่มอีกมาก? แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ท่านนึกถึงคือเงิน! จะเป็นเรื่องดีหรือไม่ที่จะคูณยอดเงินในบัญชีธนาคารของท่านหรือเช็คเงินเดือนที่ท่านได้รับ แม้ว่าจะเพียงแค่สองหรือสามเท่า?

แต่ลองคิดดูดีๆ ท่านต้องการคูณอะไรเข้าไปในชีวิตท่าน? ความรักและความสัมพันธ์ที่ท่านรักหรือเปล่า? ความรู้สึกสันติและปีติหรือเปล่า? แล้วการให้อภัยและการเยียวยาล่ะ? เราทุกคนไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้มากกว่านี้หรือ? เราสามารถรวมทั้งหมดนี้ภายใต้หัวข้อ “พร” เราไม่ต้องการคูณพรซึ่งเป็นสิ่งดีๆ ทั้งหมดในชีวิตของเราหรือ?

เราเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ พระผู้เป็นเจ้าแห่งความสามารถและทรัพยากรอันเป็นนิรันดร์และไร้ขอบเขต ซึ่งได้แก่ความรัก สติปัญญา และความดีงาม พระองค์ไม่ทรงต้องการอะไรมากไปกว่าการคูณพรของเราเข้าไปเพิ่มอย่างมีเมตตา แต่เราต้องเข้าใกล้พระองค์ผ่านวิถีชีวิตแห่งการกลับใจและรักษาพระบัญญัติของพระองค์ เมื่อเราคูณการแสวงหาความสว่าง การรับใช้ และพระคุณลักษณะของพระเยซูคริสต์ในชีวิตเราอย่างแข็งขัน เมื่อเราคูณการแสวงหาการกลับใจและการเชื่อฟัง จากนั้นพระบิดาของเราจะคูณพรของเราอย่างปาฏิหาริย์ นั่นเป็นสมการง่ายๆ

และพรเหล่านี้จะทวีคูณอีกครั้งเมื่อเราแบ่งปันปีติ ศรัทธา และสันติสุขกับผู้อื่น เราช่วยทวีคูณพร ของพวกเขา และความดีในชีวิต ของพวกเขา เมื่อเราให้ความรักและความปรารถนาที่จะทำความดี หนุนใจผู้อื่น และบรรเทาทุกข์ ทั้งหมดนี้ทวีคูณขึ้นอีกครั้งเมื่อเรารวมพลังกับผู้อื่นที่มีเป้าหมายเหมือนกับเรา และเราจะทวีคูณพรต่อไปเรื่อยๆ

หาร

ตอนนี้ถึงเวลาสำหรับการหารแล้ว แต่เดี๋ยวก่อน เราต้องใช้การหารในชีวิตของเราด้วยหรือ? พระเยซูทรงสอนเราอย่างชัดเจนว่าถ้าเราไม่เป็น น้ำหนึ่งใจเดียวกัน เราก็มิใช่พระองค์ พระองค์ทรงต้องการให้เราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อสร้างความสามัคคีอันทรงพลังจากความหลากหลายที่สวยงามของเรา เพื่อที่เราจะสามารถเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ได้ เราต้องหารบางสิ่งออกไปบ้างเพื่อให้บรรลุความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความเป็นหนึ่งเดียวกัน

พระเยซูทรงสอนว่า “คนที่มีวิญญาณของความขัดแย้งย่อมไม่เป็นของเรา, แต่เป็นของมาร, … และเขายั่วยุใจมนุษย์ให้ขัดแย้งด้วยความโกรธ, ต่อกัน” (3 นีไฟ 11:29) ดังนั้นเราต้องแยกตัวออกจากการทะเลาะวิวาท จากการถูกยั่วยุให้โกรธคนรอบข้าง

พระเยซูยังทรงสอนอีกว่า “จงรักศัตรูของเจ้า, จงอวยพรคนที่สาปแช่งเจ้า, จงทำดีต่อคนที่เกลียดเจ้า, และสวดอ้อนวอนให้คนที่ใช้เจ้าอย่างดูหมิ่นและข่มเหงเจ้า” (3 นีไฟ 12:44) เพื่อเริ่มทำตามพระบัญญัติเหมือนพระคริสต์ เราต้องแยกตัวเราออกจากความจองหอง จากความเห็นแก่ตัว จากอคติ จากความเป็นปฏิปักษ์ต่อกลุ่มที่แตกต่างจากเรา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเหยียดเชื้อชาติทุกรูปแบบ ฉันมั่นใจว่าเราทุกคนจำความรู้สึกที่ได้ยินประธานเนลสันกล่าว “ข้าพเจ้าเศร้าโศกที่พี่น้องชายหญิงผิวดำของเราทั่วโลกกำลังอดทนต่อความเจ็บปวดของการเหยียดเชื้อชาติและอคติ วันนี้ข้าพเจ้าขอให้สมาชิกของเราทุกหนแห่งออกมานำในการทิ้งเจตคติและการกระทำที่เป็นอคติ”4 ดังนั้นเราต้องแยกตนเองออกจากความขัดแย้ง ความจองหอง และการเหยียดเชื้อชาติ

การผกผัน

มีการคำนวณทางคณิตศาสตร์อีกอย่างหนึ่งที่ฉันต้องการสำรวจ นั่นคือ การผกผัน ตัวอย่างเช่น ถ้าท่านใช้เลข 5 ซึ่งก็คือ 5/1 การผกผันคือ 1/5 ท่านจำได้ไหม? มันเป็นสิ่งตรงกันข้าม ท่านแค่กลับตัวเลขเท่านั้น ดังนั้นเมื่อท่านกำลังเผชิญกับความทุกข์ยากซึ่งมีอยู่เกือบตลอดเวลาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ให้ใช้การผกผัน แล้วพลิกมุมมองของความทุกข์ยากนั้นในสมองของท่าน! แทนที่จะถามว่า “ทำไมต้องเป็นฉัน? ทำไมเรื่องยากๆ นี้จึงเกิดขึ้นกับฉัน?” ให้ลองถามว่า “ทำไมจึง ไม่ เป็นฉัน? ฉันจะเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ได้บ้าง? ฉันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง? ฉันจะเติบโตผ่านศรัทธาในพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร?” ช่างเป็นสิ่งที่มีพลังจริงๆ

เมื่อท่านกำลังเผชิญกับปัญหาที่ทำให้ท่านสงสัยในศรัทธาของท่าน ให้ท่านใช้การผกผัน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จงสำรวจคำถามที่ท่านมีอย่างเต็มที่ แต่ให้กลับความเห็นถากถางดูถูกให้กลายเป็นแง่ดีโดยพิจารณาคำถามด้วยมุมมองของศรัทธา จากมุมมองนิรันดร์ จากการยอมรับว่าวิถีของพระผู้เป็นเจ้าสูงกว่าทางของท่าน และพระดำริของพระองค์สูงกว่าความคิดของท่าน หรือความคิดของใครก็ตาม (ดู อิสยาห์ 55:8–9)

ท่านจะสามารถระบุวิธีอื่นๆ ที่ท่านสามารถประยุกต์ใช้การผกผันและเปลี่ยนมุมมองที่มีศรัทธาน้อยกว่าในสมองได้อย่างแน่นอน!

ให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัย

เราทุกคนต่างจดจำคำเชื้อเชิญของประธานเนลสันที่ให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัยในชีวิตเราได้ ท่านถามคำถามหลายชุด ได้แก่ “ท่าน เต็มใจให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัยในชีวิตท่านหรือไม่? ท่าน เต็มใจให้พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นอิทธิพลสำคัญที่สุดในชีวิตท่านหรือไม่? ท่านจะยอมให้พระวจนะ พระบัญญัติ และพันธสัญญาของพระองค์มีอิทธิพลต่อสิ่งที่ท่านทำในแต่ละวันหรือไม่? ท่านจะยอมให้สุรเสียงของพระองค์มาก่อนเสียงอื่นหรือไม่? ท่าน เต็มใจ ให้สิ่งใดที่พระองค์ทรงประสงค์ให้ท่านทำสำคัญกว่าความทะเยอทะยานอื่นทั้งหมดหรือไม่? ท่าน เต็มใจ ให้ความประสงค์ของท่านถูกกลืนเข้าไปในพระประสงค์ของพระองค์หรือไม่?”5

การให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัยในชีวิตของเราคือการนำสิ่งที่ตรงกันข้ามมาปรับใช้เมื่อเราเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากและความไม่แน่นอน และพลิกมุมมองเหล่านั้นไปอย่างสิ้นเชิง!

ดังนั้นเพื่อเป็นการทบทวน บทเรียนคณิตศาสตร์นี้สอนให้เรา

  • บวกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มแล้วฟังพระองค์

  • ลบสิ่งใดก็ตามที่ทำให้พระวิญญาณขุ่นเคือง

  • คูณพรของเราโดยการเข้าใกล้พระเจ้าผ่านการกลับใจและการเชื่อฟัง

  • หารตัวเราแยกออกจากความขัดแย้ง ความจองหอง ความเห็นแก่ตัว อคติ และการเหยียดเชื้อชาติ และ

  • ใช้การผกผันและให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัย

พระเยซู ผู้เป็นปรมาจารย์ด้านคณิตศาสตร์ ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและกษัตริย์ของเรา ความรักที่สมบูรณ์แบบที่พระองค์ทรงมีต่อท่านคือเรื่องจริง เปลี่ยนชีวิต และช่วยชีวิตท่าน ให้พระองค์ทรงมีชัยในชีวิตท่าน แล้วท่านจะพบปีติที่เกินคำบรรยาย

อ้างอิง

  1. เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, โพสต์บน Facebook, 2 ส.ค. 2020.

  2. ดู รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ฟังพระองค์,” เลียโฮนา, พ.ค. 2020, 88–92.

  3. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “เป็นตัวแทนชาวมิลเลเนียมตัวจริง,” เลียโฮนา, ต.ค. 2016, 29.

  4. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัย,” เลียโฮนา, พ.ย. 2020, 94.

  5. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัย,” 94.

พิมพ์