ดิจิทัลเท่านั้น: คนหนุ่มสาว
วิธีที่พระวิหารเป็น “บ้านแห่งการเรียนรู้” สำหรับท่าน
เรามักได้รับคำแนะนำให้เรียนรู้ในพระวิหาร แต่เราจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร?
“คุณจะไม่เข้าใจทุกอย่างในครั้งแรก แต่ให้กลับไปที่พระวิหารอยู่เสมอและเรียนรู้มากขึ้นตลอดชีวิตของคุณ”
อธิการให้คำแนะนำนี้กับฉันก่อนได้รับเอ็นดาวเม้นท์ และเขาพูดถูก! ฉันจะไม่มีวันลืมพระวิญญาณและความรักที่รู้สึกได้ในพระวิหาร แต่หลังจากนั้น ฉันก็หลงลืมหลายสิ่งไปอย่างรวดเร็ว และไม่แน่ใจว่าจะประยุกต์ใช้ทุกสิ่งที่ฉันเรียนรู้ได้อย่างไร
นี่ทำให้ฉันต้องการกลับไปเรื่อยๆ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
เอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์ (1932–2017) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า “พระวิหารเป็นมหาวิทยาลัยแห่งใหญ่ที่สุดของการเรียนรู้สำหรับมนุษย์”1
แต่เราจะ สามารถ เรียนรู้ในพระวิหารได้อย่างไร?
เราทุกคนเรียนรู้ต่างกัน ดังนั้นเมื่อเราแสวงหาการเปิดเผย พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสามารถสอนเราแต่ละคนและทำให้พระวิหารเป็น “บ้านแห่งการเรียนรู้” สำหรับเราแต่ละคนได้ (หลักคำสอนและพันธสัญญา 109:8)
ต่อไปนี้เป็นประสบการณ์สองสามอย่างที่แสดงให้ฉันเห็นว่าการเรียนรู้ส่วนบุคคลในพระนิเวศน์ของพระเจ้าเป็นอย่างไร
เราเตรียมเรียนรู้ล่วงหน้าได้
การเตรียมเข้าพระวิหารไม่ได้เป็นเพียงชั้นเรียนที่เราเข้าก่อนได้รับเอ็นดาวเม้นท์ เราสามารถเตรียมตนเองให้พร้อมเรียนรู้ก่อนไปพระวิหารทุกครั้งได้ เสมอ
พระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้เราเรียนรู้และแสวงหาคำตอบ เราสามารถสวดอ้อนวอนทูลขอความช่วยเหลือ ค้นคว้าพระคัมภีร์ และเรายังสามารถอดอาหารหรือทำงานประวัติครอบครัวก่อนไปพระวิหารเพื่อเปิดใจได้ดีขึ้นต่อความรู้ที่มีอยู่ในนั้น ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า “สมาชิกอาจจะ … อ่านพันธสัญญาเดิม หนังสือของโมเสสและอับราฮัมในพระคัมภีร์ไข่มุกอันล้ำค่า การอ่านพระคัมภีร์สมัยโบราณจะช่วยให้มีความเข้าใจมากขึ้น หลังจาก บุคคลนั้นคุ้นเคยกับเอ็นดาวเม้นท์พระวิหาร”2
ก่อนไปพระวิหารทุกครั้ง ฉันพยายามตั้งคำถามในใจเกี่ยวกับพระกิตติคุณ เกี่ยวกับชีวิตฉัน หรือเกี่ยวกับศาสนพิธี และขอให้พระบิดาบนสวรรค์ทรงช่วยให้ฉันตระหนักได้ถึงสุรเสียงของพระวิญญาณเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่พระองค์ทรงต้องการจะสอนฉัน การเตรียมตัวล่วงหน้าช่วยให้ฉันเชื้อเชิญวิญญาณแห่งการเรียนรู้ในพระวิหารได้เสมอ และเมื่อเราละทิ้งเรื่องทางโลกภายในพระวิหารและแสวงหาที่จะฟังพระองค์ เราสามารถเปิดใจต่อพระวิญญาณและเรียนรู้ในวิธีใดก็ตามที่พระองค์ทรงต้องการสอนเรา
เราสามารถพบคำตอบส่วนตัวได้
เมื่อแต่งงาน ฉันรู้สึกกังวล ครอบครัวของฉันยังคงขำกับวิธีที่ฉันเอานิ้วเคาะที่เข่า (อาการวิตกกังวลของฉัน) ขณะเจ้าหน้าที่ผนึกในพระวิหารพูดกับเรา ฉันไม่ได้กลัวที่จะแต่งงานกับสามี—ฉันรักเขา! แต่ฉันกังวลเกี่ยวกับอนาคตเพราะฉันกำลังทำพันธสัญญาที่สำคัญมากเช่นนี้ ฉันสวดอ้อนวอนในใจเมื่อเข้าไปในพระวิหารเพื่อให้รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้างเพื่อรักษาชีวิตแต่งงานของเราให้มั่นคงในโลกที่วุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆ
ครู่ต่อมา เจ้าหน้าที่ผนึกในพระวิหารบอกให้สามีและฉันจำไว้ว่าทุกศาสนพิธีในพระวิหารชี้ทางให้เราไปหาพระเยซูคริสต์ พระวิญญาณช่วยให้ฉันตระหนักได้ว่าข่าวสารนี้เป็นคำตอบจากพระบิดาบนสวรรค์ และถ้อยคำของเจ้าหน้าที่ผนึกในพระวิหารทำให้ประจักษ์พยานของฉันลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่าเมื่อฉันกับสามีหันไปหาพระผู้ช่วยให้รอดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านงานพระวิหาร เราจะสามารถทำให้ชีวิตแต่งงานของเรามั่นคงไปจนถึงนิรันดร์ได้
ประสบการณ์นี้ย้ำเตือนฉันว่าพระบิดาบนสวรรค์ใส่พระทัยคำถามในใจเราและจะประทานปัญญาที่ปลอบโยนเราในพระวิหารในวิธีที่เป็นส่วนตัว ดังที่ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน (1899–1994) สอนว่า “เมื่อปัญหาหรือความยุ่งยากทำให้ท้อถอย ข้าพเจ้าจะไปยังพระนิเวศน์ของพระเจ้าพร้อมด้วยการสวดอ้อนวอนในใจเพื่อขอคำตอบ คำตอบเหล่านี้มาในรูปแบบที่ชัดเจนและไม่มีผิดเพี้ยน”3
เราสามารถเรียนรู้ได้หลายทาง
มีครั้งหนึ่งที่ไปพระวิหารในช่วงเวลาที่ชีวิตวุ่นวายมากเป็นพิเศษ ความคิดของฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ฉันเร่งรีบที่จะทำศาสนพิธีและเดินทางไปต่อ แต่เจ้าหน้าที่พระวิหารผู้ใจดีคนหนึ่งแนะนำเบาๆ ว่าเมื่อเราชะลอตัวลงและพินิจถึงงานศักดิ์สิทธิ์ที่เรากำลังทำ เราจะสัมผัสได้ถึงพระวิญญาณที่ลึกซึ้งซึ่งพำนักอยู่เพียงในพระนิเวศน์ของพระเจ้าเท่านั้น ฉันเชื่อว่าเจ้าหน้าที่พระวิหารคนนั้นได้รับการกระตุ้นเตือนให้ช่วยฉันเข้าใจความจริง และฉันก็นึกถึงวิธีที่เราสามารถได้รับความรู้จากแหล่งต่างๆ มากมายในพระวิหาร ฉันได้รับการเปิดเผยในพระวิหารโดยสวดอ้อนวอนในใจ ค้นคว้าพระคัมภีร์ในบริเวณนั่งรอ ไตร่ตรองคำของศาสนพิธี และใช่ แม้กระทั่งพูดคุยกับเจ้าหน้าที่พระวิหารที่ได้รับการดลใจ
เมื่อเราเรียนรู้ในพระวิหาร เราอาจได้รับความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับศาสนพิธีและพันธสัญญา ประจักษ์พยานที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การกระตุ้นเตือน ความรู้สึกสบายใจ และอื่นๆ พระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้เรามีประสบการณ์การเรียนรู้ส่วนตัวในพระวิหารและเปิดใจให้กับหลายวิธีที่เราจะรับความรู้ได้ในพระนิเวศน์ของพระองค์
เราจะได้รับพรเมื่อให้พระวิหารสำคัญเป็นอันดับแรก
ฉันยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับศาสนพิธีพระวิหารและพลังอำนาจที่มาจากการรักษาพันธสัญญาของฉัน แต่ฉันรู้สึกซาบซึ้งมากที่สามารถเรียนรู้ต่อไปได้ตลอดชีวิต
เมื่อเราให้ความสำคัญกับช่วงเวลาในพระวิหารและจัดสรรเวลาเพื่อไตร่ตรองพันธสัญญา เราจะเปิดประตูสู่ความรู้ที่จะช่วยให้เราอยู่บนเส้นทางสู่พระคริสต์ นั่นเป็นจริงสำหรับฉันเมื่อฉันกลับไปครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเรียนรู้ในวิธีของพระเจ้าในพระนิเวศน์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์