2022
เอาชนะความกลัวที่จะเป็นบิดามารดา
ตุลาคม 2022


ดิจิทัลเท่านั้น : พ่อในยุคสุดท้าย

เอาชนะความกลัวที่จะเป็นบิดามารดา

พรยิ่งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อผมเลือกจดจ่อกับปีติของการเป็นบิดา

ผู้เขียนอาศัยอยู่ในไอดาโฮ สหรัฐอเมริกา

ผู้ชายกำลังยิ้มและอุ้มเด็ก

ในช่วงเย็นวันหนึ่ง ผมไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อซูซี่ ภรรยาของผม เรียกให้ผมไปที่ห้องน้ำอย่างกระวนกระวาย เราเพิ่งแต่งงานกันไม่นาน เราอาศัยอยู่ที่บ้านแม่ยายของผมโดยไม่เสียค่าเช่า และเราทั้งคู่กำลังทำงานเก็บเงินเพื่อไปเรียนวิทยาลัย

ดังนั้นเมื่อภรรยาบอกผมว่าเธอท้อง ผมตกใจมาก การมีลูกดูเหมือนจะเร็วเกินไป เพราะเรารู้สึกไม่พร้อมเลย ในช่วงเวลานั้น ผมรู้ว่าตัวเองต้องช่วยภรรยาเตรียมตัวเลี้ยงลูก ดังนั้นผมจึงจดจ่ออยู่กับความรู้สึกที่เป็นบวกมากที่สุดในขณะนั้น นั่นคือความตื่นเต้นกับความคิดที่จะเป็นบิดา

มุมมองที่เปลี่ยนไป

ความเป็นบิดา—และความเป็นบิดามารดาโดยทั่วไป—ที่นำเสนอในสื่อมักจะทำให้ผมรู้สึกกระวนกระวาย ดูเหมือนว่าผู้เป็นบิดาจะไม่รู้ถึงความต้องการและความรู้สึกของคู่สมรสและลูกเลย ความเป็นบิดามักถูกนำเสนอในแง่ที่ว่าไม่สามารถดูแลผู้อื่นและแม้แต่ตนเองได้ นอกจากนี้ ในสื่อและในชีวิตจริงยังอธิบายความเป็นบิดามารดาว่าเป็นจุดสิ้นสุดของช่วง “สนุก” ของการแต่งงานอีกด้วย ผมมักจะได้ยินว่าชีวิตยากขึ้น ท่านจะนอนไม่เพียงพอ ไม่มีเวลาให้ตัวเอง ฯลฯ

ตอนนี้ผมตระหนักดีว่าสิ่งที่นำเสนอเหล่านี้เป็นเครื่องมืออันทรงพลังของซาตานที่จะกีดกันเราไม่ให้มีการสร้างครอบครัว แม้ว่าจะมีความท้าทายหลังจากมีลูก แต่ยังมีปีติและการเติมเต็มที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้

ผมตัดสินใจปฏิเสธทุกเรื่องที่แย่ๆ ที่ผมได้รับรู้มาเกี่ยวกับความเป็นบิดา แต่ยอมรับสิ่งดีๆ ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้และมุ่งมั่นที่จะพยายามก้าวผ่านส่วนที่ยากลำบากไปให้ได้ การเป็นบิดามารดาไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับหลายๆ คน และผมบอกได้ว่านั่นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผมเหมือนกัน ลักษณะบางอย่างของความเป็นบิดาไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ก่อนที่ลูกของเราจะเกิดมา ผมทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเตรียมตัวและช่วยภรรยาเตรียมตัวเมื่อเราก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ในฐานะบิดามารดา

ผมค้นคว้าพระคัมภีร์เพื่อรู้วิธีเตรียมตัว อ่านหนังสืออื่นๆ เกี่ยวกับการเป็นบิดา เรียนรู้วิธีเปลี่ยนผ้าอ้อม ผมพยายามทุกวิถีทางที่จะเข้าใจและเห็นอกเห็นใจความเจ็บปวดที่ภรรยาต้องเผชิญ และผมพยายามเต็มที่ในการมองโลกในแง่ดี การพึ่งพาพระบิดาบนสวรรค์ในการสวดอ้อนวอนช่วยให้ผมรู้สึกถึงความสงบที่ตัวเองต้องการเพื่อก้าวผ่านความกลัวที่จะเป็นบิดามารดา

ความรักที่มาสู่ครอบครัว

ผมไม่คิดว่าตนเองเป็นคนอารมณ์อ่อนไหว แต่เมื่อมองดูภรรยาอุ้มลูกสาวในวันที่เธอเกิดแล้ว ผมร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ ในช่วงเวลานั้น ผมตระหนักว่าเด็กทารกคนนี้จะอยู่กับเราตลอดไป และผมขอบพระทัยพระบิดาบนสวรรค์ที่เธออยู่กับเราอย่างปลอดภัย

เมื่อมองย้อนกลับไปในประสบการณ์นั้น ผมนึกถึงวีดิทัศน์เกี่ยวกับครอบครัวที่ผมเคยแบ่งปันอยู่บ่อยๆ ในช่วงที่เป็นผู้สอนศาสนา วีดิทัศน์เรื่อง “Earthly Father, Heavenly Father (บิดาบนแผ่นดินโลก พระบิดาบนสวรรค์)” แสดงเรื่องราวถึงบิดาคนหนึ่งกำลังดำเนินกิจวัตรประจำวันของเขา สิ่งที่ทำให้วีดิทัศน์นี้เข้าไปในวิญญาณของผมคือวิธีที่กิจวัตรประจำวันของครอบครัวกับความสัมพันธ์ที่เรามีกับพระบิดาบนสวรรค์ของเรา วีดิทัศน์ดังกล่าวมีการปิดท้ายด้วยข้อความนี้: “ในบรรดาพระนามทั้งหมดที่บ่งบอกถึงความเคารพ การยกย่อง และความชื่นชมที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงขอให้เราเรียกพระองค์ว่า พระบิดา”1

คำพูดนั้นยิ่งมีความหมายกับผมเมื่อผมเป็นบิดาจริงๆ ก่อนหน้านี้ ผมคิดว่าการที่พระองค์ทรงห่วงใยและนำทางผมทุกวันในฐานะพระบิดาบนสวรรค์เป็นความสัมพันธ์ระหว่างพระผู้เป็นเจ้ากับผม แต่การที่ผมเป็นบิดาและรู้สึกถึงความรักที่อธิบายไม่ได้ที่ผมมีต่อลูกสาวทำให้ผมตระหนักมากขึ้นว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงมีความรักต่อผมมากเพียงใด พระกิตติคุณเป็นแบบอย่างสำหรับครอบครัว และเมื่อเรามีครอบครัวของเราเอง เราจะเข้าใจความรักที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงมีต่อเราในชีวิตเรามากขึ้น

รุดหน้าต่อไป

วันนี้ลูกสาวของผมอายุมากกว่าหนึ่งขวบแล้วและโตเร็ว การเป็นบิดาทำให้ผมเติบโตขึ้นในแบบที่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเป็นไปได้ การเป็นบิดาทำให้ผมมีความสุขมากกว่าการมีเวลาว่างและการนอนหลับเสียอีก แม้ผมจะรู้สึกไม่พร้อมสำหรับการเป็นบิดา แต่ความรักของพระบิดาบนสวรรค์กระตุ้นให้ผมเตรียมตัวให้มากที่สุด ความรักนั้นทำให้ผมก้าวต่อไปได้ ตามที่กล่าวไว้ใน ลูกา 12:31 ว่า “จงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า; แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งเหล่านี้ให้” อันดับแรก ผมพยายามทำทุกอย่างที่จะเตรียมตนเองให้พร้อมเป็นบิดา จากนั้นผมได้รับสันติสุขและปีติที่มาพร้อมกับการเป็นบิดา สิ่งดีๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทบาทอันศักดิ์สิทธิ์ของการเป็นบิดามารดานั้นยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่ไม่ดี ความเป็นบิดามีไว้เพื่อให้น้อมรับและมีความสุข นั่นเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมได้รับและจะเรียนรู้ต่อไปในบทบาทของการเป็นบิดา

อ้างอิง

  1. Quorum of the Twelve Apostles, “A Message from The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints,” pamphlet, Dec. 1973; ดู “บิดา จงพิจารณาความเป็นอยู่ของท่าน,” Ensign, มิ.ย. 2002, 12 ด้วย.