งานประวัติครอบครัว : บ่อเกิดของพลัง
มีพลังมากมายที่เราได้รับจากการเรียนรู้เกี่ยวกับบรรพชนของเรา
ยายของฉันอาศัยอยู่ในห้องรับแขกในบ้านตลอดช่วงเวลาหลายเดือนสุดท้ายของชีวิตเธอ 18 ปีหลังจากคุณยายสิ้นชีวิตจนถึงวันนี้ เราเรียกห้องนั้นว่า “ห้องคุณยาย”
ฉันมีความฝันที่แจ่มชัดมากเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน ฝันว่าฉันเดินผ่านห้องของคุณยายและคุณยายของฉันอยู่ที่นั่น คุณยายเดินออกมากอดฉันแน่น น้ำตาคุณยายคลอเบ้า คุณยายยิ้มแล้วพูดกับฉันว่า “ขอบใจที่รักบรรพชนของหลานนะ ยายบอกหลานไม่ได้เลยว่าสิ่งนั้นสำคัญกับเราแค่ไหน”
ตั้งแต่ฉันฝันแบบนี้ ตัวฉันไม่เคยเป็นเหมือนเดิมอีกเลย
เพราะเหตุใดเราจึงต้องรู้จักเรื่องราวบรรพชนของเรา?
ในการให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับคนหนุ่มสาวทั่วโลกของประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2022 ท่านกล่าวไว้ดังนี้
“การเลือกที่ชอบธรรมทุกครั้งที่นี่จะจ่ายปันผลก้อนโตเวลานี้ แต่การเลือกที่ชอบธรรมในชีวิตมรรตัยจะจ่ายปันผลที่ไม่อาจจินตนาการได้ชั่วนิรันดร์ หากท่านเลือกทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าและซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาเหล่านั้น ท่านได้รับสัญญาว่าจะมี ‘รัศมีภาพเพิ่มเติมบนศีรษะ [ของท่าน] ตลอดกาลและตลอดไป’ [อับราฮัม 3:26]
“ความจริงเหล่านี้ควรปลุกสำนึกสูงสุดของท่านในเรื่อง FOMO (โฟโม) หรือโรคกลัวตกกระแส ท่านมีศักยภาพที่จะไปถึงอาณาจักรซีเลสเชียล โฟโมสูงสุดคงจะเป็นการพลาดอาณาจักรซีเลสเชียล ด้วยการยอมรับอาณาจักรที่ต่ำกว่า เพราะบนโลกนี้ ท่านเลือกดำเนินชีวิตตามกฎของอาณาจักรที่ต่ำกว่าเท่านั้น”1
ลองจินตนาการถึงความรู้สึกของบรรพชนของคุณซึ่งเป็นที่จดจำในพระนิเวศน์ของพระเจ้าเมื่อลูกหลานของพวกเขาทำหน้าที่เป็นตัวแทนส่งมอบคำมั่นสัญญาของความรุ่งโรจน์และเสรีภาพจากโฟโม ตามที่ประธานเนลสันบรรยายไว้ เราจะกลายเป็นพวกกู้ชาติบนภูเขาไซอันเมื่อเราประกอบศาสนพิธีแทนคนตายสำหรับบรรพชนผู้ล่วงลับของเรา (ดู โอบาดีห์ 1:21; ดูหลักคำสอนและพันธสัญญา 103:9) ด้วย
ข้าพเจ้าขอเสนออีกวิธีหนึ่งว่าบรรพชนของเราช่วยชีวิตเราไว้ บรรพชนของเรากับพระผู้เป็นเจ้าได้ช่วยมอบชีวิตที่เราดำรงอยู่ทุกวันนี้
คุณรู้ไหมว่าการเสียสละของบรรพชนส่งผลต่อที่ซึ่งคุณอยู่ในทุกวันนี้? คุณใช้เวลาทำความรู้จักบรรพชนของคุณบ้างหรือไม่? คุณรู้หรือไม่ว่าคุณมีบุคลิกหรือประสบการณ์ใดที่เหมือนกับพวกเขาบ้าง? การทราบข้อมูลเหล่านี้ส่งผลต่อชีวิตคุณอย่างไร?
จากประสบการณ์ของฉัน การเรียนรู้เรื่องคุณยายทวดคนที่สามของฉัน แมรี่ เจน คัทคลิฟฟ์ แสดงให้ฉันเห็นว่าบรรพชนของเรามีอิทธิพลต่อชีวิตเรามากเพียงใด แมรี่ เจน เป็นหนึ่งในบรรพชนคนแรกๆ ของฉันที่รับบัพติศมาเข้ามาในศาสนจักรเมื่อปี 1857 ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เธอเข้าร่วมศาสนจักรหลังจากรับประสบการณ์ทางวิญญาณที่ลึกซึ้ง การเรียนรู้เกี่ยวกับศรัทธาอันเหลือล้นของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันกระทำด้วยศรัทธา และวางใจในความจริงที่พระวิญญาณทรงเปิดเผยต่อฉัน
อีกตัวอย่างหนึ่งของเรื่องราวบรรพชนที่ทรงพลังคือแม่ทัพโมโรไน ผู้ฉีกเสื้อคลุมและใช้เป็นธงแห่งเสรีภาพของเขา (ดู แอลมา 46:11–25) เศษเสื้อคลุมนี้เป็นสัญลักษณ์ของบรรพชนที่มีร่วมกันของพวกเขา โยเซฟ “ผู้ซึ่งเสื้อคลุมของเขาถูกพี่ๆ ของเขาฉีกเป็นชิ้นๆ” (แอลมา 46:23) เมื่อเขาถูกขายไปในอียิปต์และเอาชนะความท้าทายต่างๆ อันเป็นตำนานมาได้
แม่ทัพโมโรไนไม่เพียงทราบเรื่องราวอันทรงพลังของบรรพชนเท่านั้น แต่เขายังสามารถนำไปใช้ในชีวิตของเขาและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นจดจำเรื่องราวของโยเซฟ โดยมีศรัทธาและความหวังที่จะเอาชนะความท้าทายของพวกเขาเองอีกด้วย การรู้จักเรื่องราวบรรพชนของเราสามารถช่วยให้เราทำสิ่งเดียวกันนี้ได้
พลังแห่งประวัติครอบครัว
เมื่อไม่นานมานี้เอ็ลเดอร์ราฟาเอล อี. พิโน แห่งสาวกเจ็ดสิบ กล่าวว่า “มีส่วนร่วมเป็นประจำในงานพระวิหารและประวัติครอบครัว … เป็นวิธีรวมครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันและผนึกครอบครัวชั่วนิรันดร์ [ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 128:15]”2 บรรพชนของเราสามารถเป็นแบบอย่างให้เราปฏิบัติตามและเพิ่มความปรารถนาที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันกับครอบครัวของเราตลอดไป
ฉันพูดว่าตั้งแต่ฉันฝันเห็นคุณยาย ตัวฉันไม่เคยเป็นเหมือนเดิมอีกเลย และคำพูดนั้นเป็นความจริง นับตั้งแต่การได้ดำลึกลงสู่งานประวัติครอบครัว มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในใจฉัน ฉันขยันมากขึ้นในการทำความรู้จักกับสมาชิกในครอบครัวของฉันทั้งสองด้านของม่าน
ประธานเนลสันกล่าวว่าโฟโมขั้นสูงสุดจะขาดหายไปในอาณาจักรซีเลสเชียล ความรักที่ฉันมีต่อพระผู้เป็นเจ้าเป็นแรงกระตุ้นให้ฉันเสมอในการกลับไปอยู่กับพระองค์ในอาณาจักรซีเลสเชียล และแรงจูงใจของฉันเพิ่มขึ้นด้วยความรักที่ฉันมีมากขึ้นต่อบรรพขน ฉันรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงรักบุตรธิดาแต่ละคนของพระองค์ พระองค์ไม่ทรงต้องการให้พวกเราคนใดพลาดการมีครอบครัวนิรันดร์และปีติแห่งรัศมีภาพซีเลสเชียล ฉันสำนึกคุณต่อแผนของพระองค์ที่ช่วยให้ฉันกลับไปหาพระองค์และครอบครัว
ตอนนี้ ฉันไม่สามารถเข้าใจทุกสิ่งที่ความรักหรืองานประวัติครอบครัวของฉันมีความหมายต่อบรรพชน (ตามที่คุณยายพูดถึงในความฝัน) แต่ฉันรู้ว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นนิรันดร์และเรามีความรักให้กัน ม่านนั้นจะบางลง และสักวันหนึ่งม่านนั้นจะไม่แยกเราจากคนที่เรารักอีกต่อไป ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะพบพวกเขาอีกครั้งในวันนั้น