เรียนรู้เพื่อเชื่อว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงสามารถรักษาฉัน

โดย แม็กกี้ คจาร์

ฉันรู้ว่าพระเยซูคริสต์ทรงรักษาทุกคนได้ แต่การดึงเอาพลังแห่งการรักษาของพระองค์มาใช้ในช่วงเวลาที่ฉันต้องการนั้นท้าทายกว่าที่ฉันคาดไว้

ผู้หญิงกำลังประกอบตัวเธอเองด้วยชิ้นส่วนจิ๊กซอว์

ในช่วงเวลาหนึ่งของงานเผยแผ่ ฉันกำลังต่อสู้กับปัญหาที่ฉันเคยเชื่อว่าไม่มีทางออก ฉันบอกเพื่อนสนิทถึงสถานการณ์นี้ด้วยความเหลืออดและความคับข้องใจ หลังจากปล่อยให้ฉันระบาย เพื่อนคนนี้—ผู้มักจะใกล้ชิดกับพระวิญญาณเสมอ—ตอบอย่างเรียบง่ายว่า “เธอลองสวดอ้อนวอนเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วหรือยัง?”

คำตอบคือทำนองว่าใช่ ใช่ ฉันเคยลองสวดอ้อนวอนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่ไม่ได้ทำอย่างสุดหัวใจ ฉันไม่ได้สวดอ้อนวอนด้วยศรัทธาว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงสามารถรักษาบาดแผลทั้งหมดได้ นั่นเป็นความจริงที่ฉันเชื่อสำหรับคนอื่นแต่ไม่ใช่สำหรับตัวฉันเอง

ในฐานะผู้สอนศาสนา ฉันสอนผู้คนเป็นประจำว่าพวกเขาสามารถพบการรักษาในพระเยซูคริสต์ แต่ไม่ว่าฉันจะลองโน้มน้าวตนเองแค่ไหนให้เชื่อว่าพลังแห่งการรักษาของพระองค์นำมาใช้กับตัวฉันเองได้ด้วย ฉันก็ไม่เคยเชื่อเลย

วันหนึ่งฉันรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการต่อสู้ที่ฉันกำลังเผชิญอยู่ สิ่งที่ฉันมักพบว่าทำให้รู้สึกสบายใจล้วนแต่ไม่ได้ผล ฉันต้องการอะไรมากกว่านี้—ฉันต้องการพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงสามารถรักษาบาดแผลทั้งหมด ฉันสวดอ้อนวอนอย่างแรงกล้ากว่าที่เคยทำ และเป็นครั้งแรกที่ฉันขอให้พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยให้ฉันเชื่อในพลังแห่งการรักษาที่เกิดจากการชดใช้ของพระเยซูคริสต์

ขณะที่ฉันศึกษาเรื่องการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอด และทำทุกอย่างด้วยกำลังของตนเองที่จะเชื่อ ความคิดของฉันก็เริ่มเปลี่ยน ฉัน “เปี่ยมไปด้วยความปีติสุข สันติสุข และความอบอุ่นใจ”¹ และฉันได้เรียนรู้ด้วยตนเองว่า “ความอยุติธรรมทั้งหลายในชีวิตจะได้รับการแก้ไขผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์”²

การรักษาของฉันเกิดขึ้นผ่านสิ่งอัศจรรย์ทางกายภาพเหมือนที่เราได้ยินในพันธสัญญาใหม่หรือไม่? มีสิ่งอัศจรรย์ที่ไม่อาจเข้าใจได้ เช่น น้ำกลายเป็นเหล้าองุ่นหรือชายคนหนึ่งฟื้นขึ้นมาจากความตายหรือไม่?

ไม่เลย

แต่พลังแห่งการรักษาที่ฉันเห็นในชีวิตเกิดจากการปลอบโยนและสันติสุขที่ฉันได้รับทุกวัน มาจากการมองโลกในแง่ดีที่ไม่สามารถอธิบายได้ ซึ่งฉันรู้สึกลึกลงไปในจิตวิญญาณของฉัน สิ่งเหล่านั้นทำให้ฉันมีความเข้มแข็งที่ฉันต้องการเพื่อช่วยให้ฉันฟันฝ่าไปได้อีกวันหนึ่ง อีกสัปดาห์หนึ่ง และอีกเดือนหนึ่ง ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

ที่จริงแล้ว ฉันไม่ได้ตระหนักเลยว่าพลังแห่งการรักษาของพระผู้ช่วยให้รอดกำลังมีผลในชีวิตของฉัน จนกระทั่งเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งฉันรู้สึกว่าทนต่อบททดสอบได้ง่ายขึ้นมาก ตอนที่ฉันใคร่ครวญถึงสิ่งที่ฉันรู้สึกเมื่อหลายเดือนก่อน ก่อนที่ฉันจะขอความช่วยเหลือจากพระผู้ช่วยให้รอด ฉันตระหนักว่าฉันประสบกับสิ่งอัศจรรย์มาแล้ว ฉันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่มีทางที่ฉันจะเอาชนะความยากลำบากที่ฉันกำลังเผชิญอยู่หากปราศจากพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักที่ทรงยื่นพระหัตถ์แห่งพระเมตตาและการรักษามาให้ฉัน

ฉันคิดว่าความจริงคือพลังแห่งการรักษาของพระคริสต์มักแสดงให้เห็นผ่านสิ่งอัศจรรย์เล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน และฉันก็พลาดความจริงที่ว่านี้มาโดยตลอด ใช่ เราได้ยินเรื่องสิ่งอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ที่เป็นรูปธรรมในพระคัมภีร์ไบเบิลและพระคัมภีร์มอรมอน แต่ฉันชอบคิดว่าสิ่งอัศจรรย์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเมื่อพระคริสต์ประทับอยู่บนโลกนี้อาจแสดงให้เห็นผ่านการกระทำจากพระเมตตาอันเรียบง่ายและไม่ได้มีบันทึกไว้ซึ่งฉันแน่ใจว่าพระองค์ทรงทำทุกวัน

ไม่ว่าจะผ่านการสนทนาที่พระองค์ทรงมีพระดำรัสกับใครบางคนที่เดินผ่านบนถนนที่ทำให้พวกเขารู้สึกมีความหวังหรือเพียงรอยแย้มพระสรวลเรียบง่ายที่พระองค์ทรงมอบให้ผู้ที่ถูกขับไล่ออกจากสังคม ฉันมั่นใจว่าเช่นเดียวกับฉัน พระองค์มักจะทรงรักษาคนเหล่านี้ให้หายทั้งด้วยวิธีเล็กน้อยและวิธียิ่งใหญ่

พระคริสต์ทรงรักษาบาดแผลทั้งหมดได้ พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์แห่งการรักษามาให้ฉันด้วยวิธีที่ฉันเกือบมองข้ามไปและไม่ได้ขอบพระทัยพระองค์ ฉันเชื่อว่าพระองค์ทรงสามารถทำแบบเดียวกันนี้กับเราทุกคน อย่างที่ซิสเตอร์ เอมี่ เอ. ไรท์ ที่ปรึกษาที่หนึ่งในฝ่ายประธานปฐมวัยสามัญสอนว่า “เราล้วนมีบางสิ่งแตกหักในชีวิตซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ซ่อมแซม หรือรักษา เมื่อเราหันไปหาพระผู้ช่วยให้รอด เมื่อเราทำให้ใจและความคิดของเราสอดคล้องกับพระองค์ เมื่อเรากลับใจ พระองค์จะเสด็จมาหาเรา ‘ด้วยปีกของพระองค์ที่รักษาหาย’ [2 นีไฟ 25:13]”³

หากคุณไม่เชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงสามารถรักษาคุณได้ ฉันขอสนับสนุนให้คุณสวดอ้อนวอนเพื่อขอศรัทธาที่จะเชื่อ สวดอ้อนวอนเพื่อให้ดวงตาของคุณเปิดเพื่อเห็นสิ่งอัศจรรย์เล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันเพราะพระองค์ แสวงหาพระองค์ ฉันสัญญาว่าจะไม่มีความปวดร้าวใจใดใหญ่เกินไปหรือความท้าทายใดใหญ่หลวงเกินกว่าที่พระองค์จะทรงรักษาได้—ในเวลาและในวิธีของพระองค์เอง ไม่มีใครถูกกีดกันออกไปจากความรักของพระผู้ช่วยให้รอด และนั่นรวมถึงคุณด้วย หากคุณยินยอม พระองค์จะทรงช่วยคุณค้นหาการรักษาจากบาดแผลด้วยวิธีที่สมบูรณ์แบบของพระองค์ พระองค์ทรงทำเช่นนั้นเพื่อฉัน

แม็กกี้ คจาร์ เกิดและเติบโตในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เธอเพิ่งกลับบ้านจากการรับใช้ในคณะเผยแผ่โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก และรักคนที่เธอมีโอกาสรับใช้ เธอชอบเล่นกีตาร์และใช้เวลาอยู่กับคนที่เธอรัก เธอมีประจักษ์พยานที่มั่นคงถึงพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์ เธอรู้ว่าพระหัตถ์ของพระองค์จะทรงยื่นมาเสมอ รอให้เราคว้าไว้