การประชุมนักการศึกษาศาสนา ซีอีเอส
การเข้าถึงและผลกระทบของเซมินารีและสถาบัน


20:53

การเข้าถึงและผลกระทบของเซมินารีและสถาบัน

การประชุมนักการศึกษาทางศาสนา มิถุนายน 2024

ข้าพเจ้ายินดีที่จะแบ่งปันกับท่านในวันนี้เกี่ยวกับความพยายามของเซมินารีและสถาบันในการเพิ่มการเข้าถึงและผลกระทบของเรา และสิ่งที่เกิดขึ้นกับเยาวชนและคนหนุ่มสาวทั่วโลก บางท่านอาจเคยเห็นหรือได้ยินส่วนต่างๆ ของการนำเสนอนี้แล้วในที่อื่นๆ แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่ามีประโยชน์ที่ได้เห็นว่าชิ้นส่วนทั้งหมดประกอบเข้าด้วยกันได้อย่างไรและไตร่ตรองว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป

สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำงานใน S&I ข้าพเจ้าหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับท่านเช่นกัน

เราทุกคนที่ทำงานด้านการศึกษาของศาสนจักรคิดอยู่ตลอดเวลาว่าเราจะสร้างศรัทธาในพระผู้ช่วยให้รอดและสนับสนุนนักเรียนได้ดีขึ้นอย่างไรในการพยายามดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ ประมาณห้าหรือหกปีที่แล้ว เมื่อเราทราบว่าการลงทะเบียนเรียนสถาบันลดลงมาหลายปีแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุให้เรากังวลมาก เรายังทราบด้วยว่าคนหนุ่มสาวจำนวนมากเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากต่อศรัทธาของพวกเขา—เราจึงต้องการช่วยเพราะเรารู้ว่าสถาบันสามารถเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมเพื่อให้พวกเขาได้รับการสนับสนุนที่ต้องการ เราอยากรู้ว่าเราสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง ไม่เพียงเพื่อกระตุ้นให้เข้าชั้นเรียนมากขึ้น แต่อยากรู้ด้วยว่าเราจะส่งผลมากขึ้นต่อชีวิตของพวกเขาได้อย่างไร เราคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องหาวิธีรับฟังพวกเขาจริงๆ เข้าใจความท้าทายของพวกเขา และค้นหาว่าสถาบันสามารถช่วยอะไรได้บ้าง เราจึงสร้างทีมภายในเซมินารีและสถาบันซึ่งเดิมเราเรียกว่าคณะกรรมการสร้างสรรค์สถาบัน

อย่างแรกคณะกรรมการชุดนี้ทำงานร่วมกับการวิจัยสหสัมพันธ์ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับคนหนุ่มสาวในศาสนจักร จากนั้นพวกเขาทำงานร่วมกับ BYU AdLab เพื่อดูว่าเราจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างเพื่อช่วยเหลือคนหนุ่มสาวตามความต้องการของพวกเขา

ประสบการณ์เหล่านี้มีประโยชน์มาก แต่ทำให้เราอยากทำอะไรมากกว่านี้ด้วยเพื่อรวบรวมแนวคิดเพื่อหาโอกาสขยายขอบเขตการเข้าถึงของสถาบันและอิทธิพลของเรา ดังนั้นเราจึงเซ็นสัญญากับ Bonneville Communications เพื่อทำการวิเคราะห์ที่เข้มงวดมากขึ้น

พวกเขาจัดสนทนากลุ่มและสำรวจคนหนุ่มสาวมากกว่า 5,000 คน รวมถึงหลายคนที่ปัจจุบันไม่ได้เข้าเรียนสถาบันหรือมาโบสถ์ การศึกษานี้ทำใน 5 ทวีปและให้ข้อมูลอันมีค่ายิ่ง

ใจความสำคัญของสิ่งที่คนหนุ่มสาวบอกเราคือพวกเขาต้องการและจำเป็นต้องมี 4 สิ่ง:

พวกเขาต้องการให้สถาบันมีความเกี่ยวข้องมากขึ้นในการตอบสนองความต้องการและตอบคำถามของพวกเขา

พวกเขาต้องการรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง—เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่ช่วยให้พวกเขาดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ และเป็นส่วนหนึ่งของอุดมการณ์ เพื่อรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่งที่สำคัญ

พวกเขาขอให้เราทำให้สถาบันเข้าถึงได้ง่ายขึ้นเพื่อจะมีส่วนร่วมได้แม้ตารางจะแน่น และมีสิ่งอื่นเรียกร้องเวลาและความสนใจของพวกเขา

คำตอบที่พบบ่อยที่สุดคือพวกเขาต้องการรู้สึกถึงความรักของพระบิดาบนสวรรค์และรู้สึกใกล้ชิดพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น คำตอบนี้เราเรียกว่าการเปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่พระเยซูคริสต์ เอ็ลเดอร์กิลเบิร์ตช่วยให้เราตระหนักว่าอันนี้แตกต่างไปจากอันอื่นโดยเนื้อแท้

จุดประสงค์ของสถาบันคือทำให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่พระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระองค์ลึกซึ้งยิ่งขึ้น คำตอบอื่นๆ เป็นหนทางบรรลุเป้าหมายนั้น คำตอบเหล่านั้นจะต้องเชื่อมโยงกับเป้าหมายของการเปลี่ยนใจเลื่อมใส ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ได้เป็นประโยชน์ที่ยั่งยืนแก่คนหนุ่มสาวจริงๆ ท่านสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ไม่นำไปสู่การเปลี่ยนใจเลื่อมใสได้ เช่นการสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในสโมสรหรือทีมกีฬา แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เราต้องการช่วยให้พวกเขาเห็นวิธีที่พระกิตติคุณตอบคำถามของจิตวิญญาณพวกเขาและช่วยพวกเขารับมือกับความท้าทายในชีวิตประจำวัน และเราจำเป็นต้องสร้างความเป็นส่วนหนึ่งในพันธสัญญา ทุกสิ่งที่เราทำจะต้องนำไปสู่การเปลี่ยนใจเลื่อมใส

เราจึงติดตามผลกับคนหนุ่มสาวเพื่อถามพวกเขาว่า “จะเป็นอย่างไรหากสถาบันจะมีความเกี่ยวข้องมากขึ้น สร้างความเป็นส่วนหนึ่ง และเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในรูปแบบที่จะทำให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสลึกซึ้งยิ่งขึ้น”

ผลลัพธ์ที่ได้คือการสร้างความคิดริเริ่มหลายประการที่นำไปใช้ในโปรแกรมที่ถูกเลือกในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง

เพื่อให้สถาบันมีความเกี่ยวข้องมากขึ้น เราได้สร้างเวิร์กช็อป เวิร์กช็อปคือสัมมนาสองถึงห้าสัปดาห์ตามความต้องการที่คนหนุ่มสาวระบุโดยเฉพาะ ดังนั้นนอกเหนือจากชั้นเรียนแบบเป็นเทอมแล้ว พวกเขาสามารถมาเรียนและจัดการกับสิ่งที่อยู่ในใจได้โดยตรงในเวลาอันสั้น เวิร์กช็อปเหล่านี้ยังคงมีพื้นฐานมาจากพระคัมภีร์และคำสอนของศาสดาพยากรณ์ยุคปัจจุบัน และผู้นำศาสนจักรคนอื่นๆ

เรายังเพิ่มชั้นเรียนใหม่อีกด้วย ตัวอย่างเช่น เราสร้างชั้นเรียนจากหนังสือ The Divine Gift of Forgiveness (ของประทานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งการให้อภัย) ของเอ็ลเดอร์แอนเดอร์สัน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างน่าทึ่ง

เรารู้สึกขอบคุณเอ็ลเดอร์อุคท์ดอร์ฟด้วย ผู้ที่แนะนำ การสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด แก่ครูทุกคนของเรา นั่นเป็นรากฐานสำหรับการฝึกอบรมของเรา รวมถึงวิธีทำให้ชั้นเรียนของเรามีความเกี่ยวข้องมากขึ้น

ในความพยายามที่จะเพิ่มความเป็นส่วนหนึ่ง เราได้เน้นแนวคิดของประธานเนลสันที่ว่าเมื่อใดก็ตามที่ท่านทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ใครก็ตามมาหาพระเยซูคริสต์และทำและรักษาพันธสัญญา ท่านกำลังรวบรวมอิสราเอล ขอขอบคุณที่ทำงานอย่างหนักเพื่อส่งคำเชิญและให้กำลังใจผู้มีโอกาสเป็นนักเรียนทุกคน

ตัวอย่างเช่น ปีที่แล้วเพียงปีเดียวในอเมริกากลาง ครูของเราเชื้อเชิญเยาวชนและคนหนุ่มสาวมากกว่า 25,000 คนเป็นการส่วนตัวให้มาเข้าร่วมชั้นเรียน เรายังขอให้นักเรียนเชิญเพื่อนของพวกเขาด้วย ผลที่ตามมาคือมีเพื่อนจากศาสนาอื่นเข้าร่วมมากกว่า 30,000 คน ซึ่งส่งผลให้มีบัพติศมามากกว่า 9,000 คน สำหรับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เราทำ ข้าพเจ้าคิดว่าเหตุผลสำคัญที่สุดที่การลงทะเบียนเรียนเซมินารีและสถาบันเพิ่มขึ้นคือเพราะหลายท่านยึดถือวิสัยทัศน์ที่ประธานเนลสันสอนเพื่อรวบรวมเยาวชนและคนหนุ่มสาว ขอบคุณที่มีใจเป็นผู้รวบรวมและนำคนหนุ่มสาวมากมายมาหาพระเยซูคริสต์ ยิ่งเราสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของศาสดาพยากรณ์มากเท่าไร เราก็จะมีพลังมากขึ้นในงานนี้

เราได้ทำอย่างอื่น เช่น การปรับปรุงห้องเรียนและเน้นการตอบสนองความต้องการของนักเรียนมากกว่าแค่ครอบคลุมเนื้อหา เรายังให้นักเรียนมีส่วนเลือกว่าต้องการใช้เวลามากขึ้นหรือน้อยลงกับส่วนใดของหลักสูตรด้วย

ในส่วนของการเข้าถึงนั้น การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือสถาบันออนไลน์ การลงทะเบียนออนไลน์ประจำปีเพิ่มขึ้น—มากกว่า 25,000 คน เพิ่มขึ้นจาก 9,000 เมื่อสองปีที่แล้ว สาเหตุหลักมาจากความร่วมมือกันกับ BYU–Pathway Worldwide และจะเป็นเหตุผลสำคัญของการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

เรายังให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นในเรื่องเวลาและสถานที่สำหรับชั้นเรียนเพื่อให้นักเรียนเข้าเรียนได้ง่ายขึ้น

เราได้นำกิจกรรมและทรัพยากรอื่นๆ มาที่อาคารของสถาบัน ซึ่งได้นำพลังและความตื่นเต้นมามากมาย และมีคนหนุ่มสาวเข้ามามีส่วนร่วมในสถาบันมากขึ้น เรายังร่วมมือกับหน่วยต่างๆ ของศาสนจักรเพื่อจัดให้มีสถาบันในสถานที่รวมตัวที่ได้รับอนุมัติใหม่

เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมมากขึ้น ประธานเนลสันได้ทำวิดีโอเชื้อเชิญ เรายังรวบรวมความคิดเห็นจากนักเรียนเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขาเกี่ยวกับสถาบันด้วย เราตั้งชื่อวิดีโอนั้นว่า “I Love Institute (ฉันรักสถาบัน)” นี่คือวีดีโอที่รวมทั้งสองคลิปเข้าด้วยกัน

[วิดีโอ]

โคฟี: สถาบันช่วยให้ผมรู้จักพระผู้ช่วยให้รอดจริงๆ และไม่ใช่เพียงแต่รู้จักเท่านั้น แต่เรียนรู้เกี่ยวกับพระองค์ และรู้ว่าผมจะพัฒนาด้านใดในชีวิตเพื่อเป็นเหมือนพระองค์

ลิลลี่: ฉันรักสถาบันเพราะฉันรักพระเยซูคริสต์และสถาบันเป็นที่ที่ฉันจะพูดเกี่ยวกับพระองค์ได้ และเมื่อพูดเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ มันมีพลัง ฉันรู้สึกถึงพลังนั้นในชีวิต

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน: พี่น้องที่รัก ข้าพเจ้ารักท่าน ข้าพเจ้านึกถึงท่านและสวดอ้อนวอนให้ท่านบ่อยๆ ท่านอยู่ในยุคที่ต่างจากยุคอื่นๆ ท่านอยู่ในวัยที่กําลังตัดสินใจครั้งสําคัญ—การตัดสินใจที่จะส่งผลต่อชีวิตมรรตัยที่เหลือและชีวิตนิรันดร์ของท่าน การตัดสินใจนี้อาจดูเหมือนหนักหนาหรือน่าหวาดหวั่นในบางครั้ง แต่น่าตื่นเต้นเช่นกันเพราะเรามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาสำคัญยิ่ง

ข้าพเจ้าขอเชื้อเชิญได้ไหม ให้ท่านทําบางสิ่งที่จะช่วยท่านในวิธีที่มีไม่กี่อย่างที่สามารถช่วยได้? : เข้าเรียนสถาบัน ตอนนี้ข้าพเจ้าเฝ้าดูลูกหลาน และเหลนหลายคนเข้าเรียนสถาบันแล้ว การเข้าเรียนสถาบันทำให้ชีวิตพวกเขาเปลี่ยนไป สถาบันได้ช่วยพวกเขา และจะช่วยท่านทําให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเยซูคริสต์ลึกซึ้งขึ้น การเข้าเรียนสถาบันจะช่วยให้ท่านรู้สึกถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงมีต่อท่านมากขึ้น

สถาบันจะให้คําแนะนําที่สร้างแรงบันดาลใจ เพื่อนที่ซื่อสัตย์ และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งแก่ท่าน จะช่วยให้ท่านเห็นว่าเหตุใดการดําเนินชีวิตตามพระกิตติคุณจึงนําไปสู่ความสุขอันไม่รู้จบ การเข้าเรียนสถาบันจะช่วยให้ท่านดําเนินชีวิตตามพระกิตติคุณและรู้สึกปีติมากขึ้น—ตอนนี้

หากท่านต้องการรู้ความจริงว่าจริงๆ แล้วท่านเป็นใคร ให้เข้าเรียนสถาบัน หากท่านต้องการรู้จุดประสงค์ของชีวิต ให้เข้าเรียนสถาบัน หากท่านต้องการอยู่บนเส้นทางพันธสัญญา ให้เข้าเรียนสถาบัน หากท่านต้องการเรียนรู้วิธีให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัยในชีวิตท่าน ให้เข้าเรียนสถาบัน หากท่านต้องการเป็นผู้สร้างสันติ ให้เข้าเรียนสถาบัน

ข้าพเจ้าสัญญาพรเหล่านี้และแสดงความรักของข้าพเจ้าแก่ท่าน ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน

[จบวิดีโอ]

วิดีโอเหล่านี้มีอยู่บนเว็บไซต์ของศาสนจักร มีการใช้วิดีโอเหล่านั้นบนโซเชียลมีเดีย ในห้องเรียน กับผู้นำฐานะปุโรหิต และหลายท่านใช้วิดีโอเหล่านั้นในการให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับคนหนุ่มสาว ขอบคุณที่ใช้สื่อเหล่านี้เพื่อขยายคำเชื้อเชิญและคำสัญญาของศาสดาพยากรณ์

ข้าพเจ้าชอบวิดีโอของนักเรียน พวกเขาไม่มีสคริปต์ และหลายคนพูดถึงผลอิธิพลที่ชั้นเรียนมีในการช่วยให้พวกเขารู้จักพระผู้ช่วยให้รอดและติดตามพระองค์ ดังนั้นขอขอบคุณสำหรับสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่ ข้าพเจ้าชอบที่จะฟังประจักษ์พยานของพวกเขา และแน่นอน เรารู้สึกขอบคุณประธานเนลสันมากสำหรับข่าวสารของท่าน ซึ่งโดนใจคนหนุ่มสาวหลายคนเลยจริงๆ

เมื่อข้าพเจ้าอยู่ในแซนดีเอโกกับเอ็ลเดอร์สตีเวนสัน เยาวชนหญิงคนหนึ่งมาหาข้าพเจ้าหลังการให้ข้อคิดทางวิญญาณและบอกว่าเธอเคยคิดที่จะเลิกเรียนสถาบันแล้วหลังจากเธอเรียนจบ แต่เมื่อได้ยินศาสดาพยากรณ์แบ่งปันคำสัญญาเหล่านั้น เธอก็สมัครชั้นเรียนอีกครั้งทันที และมันเป็นพรอย่างยิ่งของเธอ

ผลลัพธ์ของความพยายามทั้งหมดนี้คือ สถาบันกำลังเติบโตขึ้น

หลังจากตกต่ำมาห้าปี เราได้มีนักเรียนเพิ่มขึ้นอีก 57,000 คนในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ และเรารู้ว่ายังมีนักเรียนจำนวนมากที่เข้าร่วมซึ่งไม่ได้ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ นับเป็นจำนวนที่มากที่สุดในรอบแปดปี และเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นการเติบโตติดต่อกันหลายปี

การเพิ่มขึ้นของยอดลงทะเบียนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ ทุกที่ที่ข้าพเจ้าไป ข้าพเจ้าได้ยินเรื่องราวชีวิตของผู้คนที่ถูกเปลี่ยนไป เมื่อเยาวชนเริ่มศึกษาพระคัมภีร์อย่างจริงจัง พวกเขาได้รับพรและได้รับการดลใจและความหวัง และสิ่งนั้นเกิดขึ้นในชั้นเรียนของเราทุกวัน

นอกจากการลงทะเบียนรายปีเหล่านี้แล้ว เรารู้ว่าประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ของหนุ่มสาวโสดที่แข็งขันเข้าเรียนสถาบันในช่วงวัยรุ่น โดยส่วนใหญ่อายุระหว่าง 18 ถึง 24 ปี แต่เรายังไม่พอใจ เรากำลังทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเข้าถึงคนหนุ่มสาวทุกคน (ที่แข็งขันและแข็งขันน้อย) ดังนั้นความหวังคือเปอร์เซ็นต์จะสูงกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่แข็งขันเนื่องจากสถาบันสามารถเข้าถึงหนุ่มสาวโสดทั้งหมดในโบสถ์และอีกหลายคนที่ไม่ได้เข้าร่วมเพื่อช่วยให้พวกเขากลับมาแข็งขันอีกครั้ง

ปีนี้ เรากำลังดำเนินไปตามแผนเพื่อเพิ่มนักศึกษาสถาบันอีก 20,000 คน นั่นหมายความว่าเราจะเพิ่มนักศึกษาสถาบันมากกว่า 77,000 คนในช่วงสามปีที่ผ่านมา โดยในเซมินารีและสถาบันรวมกันมากกว่า 100,000 คน ขอพูดอีกครั้งได้ไหมครับ? จะมีนักเรียนเพิ่มขึ้นมากกว่า 100,000 คนในสามปี—เพราะความพยายามของท่าน!

นั่นหมายถึงผู้คนอีก 100,000 คนที่มีโอกาสเห็นความเกี่ยวข้องของพระกิตติคุณในชีวิต รู้สึกถึงความเป็นส่วนหนึ่ง และทำให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสต่อพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระองค์ลึกซึ้งขึ้น ขอบคุณครับ!

แล้วสถาบันจะเป็นอย่างไรต่อไป?

เราต้องมุ่งเน้นและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเซมินารีและสถาบันของเราเสมอ เราไม่เพียงแต่สร้างสรรค์ปรับปรุงเพื่อประโยชน์ของการสร้างสรรค์เท่านั้น เรากำลังสร้างสรรค์ปรับปรุงเพื่อขยายการเข้าถึงและเพิ่มผลกระทบของเรา

เพื่อช่วยทำเช่นนั้น เรากำลังให้คำแนะนำเพิ่มเติมและกระบวนการสำหรับการสร้างสรรค์ปรับปรุงในอนาคต กระบวนการนี้เริ่มด้วยการฟังเพื่อช่วยให้คนหนุ่มสาวรู้สึกรักและถูกรับฟัง พยายามเข้าใจความต้องการของพวกเขา เชื้อเชิญพวกเขาให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างสรรค์ปรับปรุง

ถัดไป หารือร่วมกันและสำรวจแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้พร้อมทั้งพิจารณานโยบายและทรัพยากรที่มีอยู่

จากนั้นขออนุมัติเพื่อนำแนวทางแก้ไขเหล่านั้นไปใช้และวัดผลลัพธ์ ประเมินผลลัพธ์ให้มีประสิทธิผล และรับฟังผู้คนอีกครั้ง

ตลอดกระบวนการที่กำลังดำเนินอยู่และทำซ้ำนี้ ขอให้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้อำนวยการภูมิภาคหรือพื้นที่ของท่าน พวกเขาจะให้คำแนะนำและการชี้นำที่มีความหมาย

ดังที่เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นกล่าวไว้เมื่อเร็วๆ นี้ว่า

“เราทุกคนล้วนเป็นผู้ริเริ่ม เป็นเพียงเรื่องของการรักษาวิญญาณนั้นไว้ในความคิดเราและตระหนักว่าศาสนจักรนี้เป็นศาสนจักรที่สร้างสรรค์ เราคือศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ ดังนั้นหลักธรรมเหล่านั้นจึงเก่าแก่ตราบชั่วนิรันดร์ แต่เรามีความคิดสร้างสรรค์เพราะเราปรับตัวอยู่เสมอ เราเติบโตอยู่เสมอ เราทำบางสิ่งให้ดีขึ้นเล็กน้อยอยู่เสมอ แต่ข้าพเจ้าคาดหวังว่าในขณะเดียวกัน เราจะเป็นผู้ตามที่ดี … ทุกคนเป็นผู้ริเริ่ม”

ข้าพเจ้าชอบเจตคติของสิ่งที่เอ็ลเดอร์แอนเดอร์เซ็นสอน บางสิ่งจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับหลักธรรมนิรันดร์ของพระกิตติคุณ แต่เราปรับโปรแกรมของศาสนจักรให้สนองความต้องการของสมาชิกได้ดีขึ้น

แก่นแท้ของสิ่งที่เราจะทำเสมอคือการสอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ตามที่พบในพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าด้วยวิญญาณของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ในความพยายามของเราที่จะทำสิ่งนี้ในลักษณะที่ผู้เรียนมุ่งเน้น เราขอแนะนำให้ท่านมีส่วนร่วมในกระบวนการฟังและตอบสนองต่อนักเรียนนี้

และโปรดจำไว้ว่า ทุกสิ่งที่เราทำในการสร้างสรรค์ปรับปรุงสถาบันต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์และช่วยให้คนหนุ่มสาวเปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่พระเยซูคริสต์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

แล้วเซนารีล่ะ? ดังที่ผมกล่าวไปแล้ว เซมินารีมีประสบการณ์การเติบโตเช่นกัน ไม่น่าทึ่งเท่าสถาบัน แต่เราเติบโตขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสองปีที่ผ่านมาในเซมินารี นี่เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญ แม้ว่าเซมินารีจะมีศักยภาพที่จะลดลง 50,000 คนนับตั้งแต่ปี 2018 แต่เราก็ยังคงเติบโต ปีที่แล้วเรามีผู้มีโอกาสลงทะเบียนเรียนเซมินารีถึง 54.4 เปอร์เซ็นต์ เป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดที่เราเคยรายงาน และเพิ่มขึ้นจาก 49 เปอร์เซ็นต์เมื่อห้าปีที่แล้ว ในปีนี้ เรากำลังติดตามเพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์นั้นอีกครั้งเป็น 56 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มนักเรียนอีก 3,000 คน

เราตื่นเต้นกับสิ่งนี้ เราเคยมีผู้อำนวยการฝ่ายท่านหนึ่ง ที่อยู่ในอาคารสำนักงานของศาสนจักรซึ่งเมื่อทีมของเขาทำสิ่งใดสำเร็จ เขาจะตะโกนออกมาว่า “เลี้ยงไอศกรีมสำหรับทุกคน! ข้าพเจ้าอยากจะพูดแบบนั้นให้คนทั้งโลกฟังเลย ใช่ไหม?” งานที่น่าทึ่งทั้งหมดนี้ที่ท่านทำเพื่อเพิ่มการลงทะเบียนและผลกระทบที่ท่านได้รับ —ทุกคนไปกินไอศกรีมเถอะ และฉลองกัน! นี่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่กำลังเกิดขึ้น ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ แม้ว่าในวิญญาณของการมีความสุขแต่ไม่พอใจ เรายังคงถามตนเองต่อไปว่า “เราจะทำอะไรได้อีกเพื่อเป็นพรแก่เยาวชนในเซมินารี”

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าแบ่งปันว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้ในการสร้างสรรค์ปรับปรุงเซมินารีคือนำผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนไปใช้ต่อ ยิ่งเราสามารถนำผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนมาใช้ในวิธีที่ตั้งใจไว้ได้มากเท่าใด ก็จะเป็นพรแก่เยาวชนของศาสนจักรมากขึ้นเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนจะเชื้อเชิญประสบการณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นของการเปลี่ยนใจเลื่อมใส การเกี่ยวข้อง และการเป็นส่วนหนึ่งของนักเรียนเซมินารี

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เราได้รวมความคิดริเริ่มที่สำคัญอีกประการหนึ่งเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ทั่วทั่งโลกเราจะแนะนำบทเรียนการเตรียมชีวิตเพื่อตอบสนองความต้องการในปัจจุบันที่เยาวชนและผู้นำของเราระบุ

บทเรียนที่ได้รับการดลใจเหล่านี้กล่าวถึงหัวข้อต่างๆ เช่น การเตรียมเป็นผู้สอนศาสนาและพระวิหาร การศึกษา สุขภาพร่างกายและอารมณ์ คำสอนของศาสดาพยากรณ์ยุคปัจจุบัน และอื่นๆ บทเรียนจะช่วยเสริมการสอนพระคัมภีร์ตามลำดับที่กำลังดำเนินอยู่และผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

ในการพูดกับเยาวชน เอ็ลเดอร์คลาร์ก จี. กิลเบิร์ตกรรมาธิการของเรากล่าวว่า “บทเรียนการเตรียมชีวิตเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ท่านกระชับความสัมพันธ์กับพระผู้เป็นเจ้าและรับความช่วยเหลือจากพระองค์!”

เขากล่าวต่อไปว่า “ประธานเนลสันสัญญาว่าโดยการเข้าร่วมเซมินารี ‘[เยาวชน] จะได้รับคำตอบของคำถามที่ยากที่สุดบางข้อ [ของพวกเขา] [พวกเขา] จะพบกับเพื่อนที่ [พวกเขา] ไว้ใจได้ [พวกเขา] จะเป็นสานุศิษย์ที่แท้จริงของพระเจ้าพระเยซูคริสต์’

ดังนั้น หากท่านสงสัยเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ปรับปรุงเซมินารีในตอนนี้ ให้เน้นที่การสอนพระคัมภีร์ตามลำดับอย่างมีพลัง การนำผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนมาใช้อย่างเต็มที่ และการนำบทเรียนการเตรียมชีวิตมาใช้อย่างมีประสิทธิผล นั่นคือสิ่งที่ข้าพเจ้าเชื่อว่าเราจะสนองความต้องการของเยาวชนของศาสนจักรได้ดีที่สุดในเวลานี้

ขอขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ท่านทำเพื่อสนับสนุนเยาวชนและคนหนุ่มสาวทุกที่ ความพยายามของท่านกำลังขยายขอบเขตและทำให้ผลกระทบของเซมินารีและสถาบันลึกซึ้งยิ่งขึ้นในวิธีที่สำคัญ

ข้าพเจ้าไม่สามารถตื่นเต้นไปมากกว่านี้อีกแล้วกับความคิดที่จะมีนักเรียนเพิ่มขึ้น 100,000 คนในชั้นเรียนของเราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา—และการเพิ่มความเกี่ยวข้อง การเป็นส่วนหนึ่ง และการเข้าถึงที่นำไปสู่การเปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่พระเยซูคริสต์

ขอให้โมเมนตัมอันยอดเยี่ยมนี้ดำเนินต่อไปในปีต่อๆ ไปเพื่อเป็นพรแก่บุตรธิดาของพระบิดาบนสวรรค์มากขึ้นเรื่อยๆ

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระเจ้าทรงกำลังเร่งงานของพระองค์ ช่างเป็นสิทธิพิเศษอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ และข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระเยซูคือพระคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอดของโลก พระบิดาบนสวรรค์ทรงมีแผนอันสมบูรณ์แบบสำหรับบุตรธิดาของพระองค์ พระเยซูคริสต์ทรงเป็นบุคคลสำคัญในแผนอันสมบูรณ์แบบนั้นเพื่อช่วยและทำให้บุตรธิดาของพระบิดาบนสวรรค์สูงส่ง นี่คืออาณาจักรของพระองค์บนแผ่นดินโลก และถือเป็นสิทธิพิเศษที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรนี้ไม่ว่าในทางใดก็ตาม การถลุงชีวิตของเราเพื่อแสดงประจักษ์พยานถึงพระเยซูคริสต์ถือเป็นสิทธิพิเศษ ข้าพเจ้าสำนึกคุณอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้นและเป็นประจักษ์พยานถึงพระเยซูคริสต์และศาสนจักรที่แท้จริงของพระองค์บนแผ่นดินโลก ถึงศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต ถึงพระคัมภีร์มอรมอน ถึงพรทั้งหมดที่เราได้รับเพราะพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์บนแผ่นดินโลก ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน