พลังแห่ง มิตรภาพ และ ประจักษ์พยาน

โดย เอ็ลเดอร์ทากาชิ วาดะ

แห่งสาวกเจ็ดสิบ

ทากาชิ วาดะ

เปิดใจให้เพื่อนๆ และแบ่งปันสิ่งที่ท่านรู้ว่าเป็นความจริง

ภาพที่แสดงถึงความรักและมิตรภาพ

ภาพประกอบโดย แอนดรูว์ โรเบิร์ตส์

วันที่หนาวเย็นวันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ผู้สอนศาสนาสองคนใช้เวลาหลายชั่วโมงพบปะกับผู้คนตามท้องถนนในเมืองนะงะโนะ ประเทศญี่ปุ่น พวกเขาพูดคุยกับคนไม่กี่คน ทำนัดสอนน้อยยิ่งกว่า และเห็นว่าการนัดหมายทั้งหมดนั้นล้มเหลว

เมื่อสิ้นสุดวันที่ยากลําบากนี้ ผู้สอนศาสนาพบเด็กหนุ่มคนหนึ่ง อายุเพียง 15 ปีผู้สนใจจะเรียนรู้เกี่ยวกับศาสนจักร

เด็กหนุ่มคนนั้นคือ ข้าพเจ้า

ค้นหามิตรภาพ

วันนั้นข้าพเจ้าพบผู้สอนศาสนาคนหนึ่งระหว่างเดินทางกลับจากโรงเรียน เขาสอนข้าพเจ้าเกี่ยวกับนิมิตแรกและเป็นพยานว่านั่นเป็นความจริง ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่เข้าใจทุกอย่าง แต่ข้าพเจ้าอยากเรียนรู้เพิ่มเติม

สองสัปดาห์ต่อมา ผู้สอนศาสนาเชื้อเชิญข้าพเจ้าให้ไปงานเลี้ยงคริสต์มาสที่โบสถ์ เมื่อข้าพเจ้าไปถึง ทุกคนเป็นกันเองมาก! พวกเขาทักทายข้าพเจ้าด้วยรอยยิ้มและการจับมือ แล้วเรียกข้าพเจ้าว่าบราเดอร์วาดะ ข้าพเจ้าสงสัยว่าพวกเขารู้จักชื่อข้าพเจ้าได้อย่างไร และทำไมพวกเขาถึงเรียกข้าพเจ้าว่าบราเดอร์ มารู้ภายหลังว่าผู้สอนศาสนาบอกทุกคนว่าข้าพเจ้าจะมา ข้าพเจ้ารู้สึกได้รับการต้อนรับและเป็นที่ต้องการ

เมื่อทุกคนเริ่มร้องเพลงสวดคริสต์มาส พวกเขาขอให้ข้าพเจ้าร่วมร้องด้วย ขณะที่เราร้องเพลง “โลกจงสุขี” (เพลงสวด, บทเพลงที่ 94)—เพลงสวดเพลงใหม่สําหรับข้าพเจ้า—สมาชิกในสาขานะงะโนะทําให้ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่ง ไม่นานพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีของข้าพเจ้า

เมื่อท่านออกไปสู่โลกกว้าง จงเข้าถึงผู้อื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิ่งนี้นำไปสู่ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งซึ่งมักจะเติบโตไปเป็นมิตรภาพ มิตรภาพที่แท้จริง มีพื้นฐานจากการแบ่งปันความรักของพระผู้เป็นเจ้าและการพยายามรักผู้อื่นเหมือนที่พระองค์ทรงรัก นั่นจะเป็นพรแก่ชีวิตท่านตลอดไป

การมารู้จักความจริง

ผู้สอนศาสนาสอนข้าพเจ้านานกว่าหนึ่งปี ข้าพเจ้าไปโบสถ์และยังคงมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิก เราเล่นเกมด้วยกันและพูดคุยกันหลายเรื่อง ข้าพเจ้าได้รับการสนับสนุนให้ติดตามพระผู้ช่วยให้รอดและรับบัพติศมา แต่ข้าพเจ้ากังวล

บิดามารดาของข้าพเจ้านับถือศาสนาพุทธและไม่เห็นด้วยกับการเรียนรู้ของข้าพเจ้าเกี่ยวกับศาสนจักร เพราะข้าพเจ้าต้องการทำตามความคาดหวังของครอบครัว ข้าพเจ้าจึงบอกผู้สอนศาสนาว่าข้าพเจ้าไม่สามารถรับบัพติศมาได้ แต่ความจริงของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์กระตุ้นให้ข้าพเจ้าเดินไปในเส้นทางที่แตกต่างจากเส้นทางที่คนส่วนใหญ่รอบตัวข้าพเจ้าเดิน ข้าพเจ้าต้องตัดสินใจด้วยตนเองว่าจะเลือกเส้นทางใด

ยิ่งคิดเรื่องนี้ ข้าพเจ้าก็ยิ่งรู้สึกว่าควรสวดอ้อนวอน ข้าพเจ้าคุกเข่าข้างเตียงและสวดอ้อนวอนออกเสียงเป็นครั้งแรกในชีวิต ก่อนสวดอ้อนวอนเสร็จเสียด้วยซ้ำ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงแสดงให้ข้าพเจ้าเห็นชัดเจนว่าข้าพเจ้าพบความจริงแล้ว แต่บิดามารดาของข้าพเจ้าจะคิดอย่างไร?

เมื่อบิดามารดารู้ว่าข้าพเจ้าอยากรับบัพติศมา พวกท่านทำให้ข้าพเจ้าประหลาดใจโดยตกลงให้ผู้สอนศาสนามาเยี่ยม เมื่อผู้สอนศาสนามาถึงบ้านของเรา บิดามารดาของข้าพเจ้ารู้สึกดี หลังจากพูดคุยกันครู่หนึ่ง ผู้สอนศาสนาเชื้อเชิญให้เราร้องเพลงสวด “รักที่บ้าน” (เพลงสวด, บทเพลงที่ 144) ขณะที่เราร้องเพลงด้วยกัน มารดาข้าพเจ้าน้ำตาไหล ทุกคนปลาบปลื้ม

ประสบการณ์นี้ทำให้ใจบิดามารดาข้าพเจ้าอ่อนลง และหนึ่งปีกับอีกแปดเดือนหลังจากพบผู้สอนศาสนาครั้งแรก ข้าพเจ้าก็รับบัพติศมา ต่อมาข้าพเจ้ารับใช้งานเผยแผ่ในยูทาห์และมีโอกาสที่ยอดเยี่ยมมากมายในศาสนจักร

รักและแบ่งปัน

ท่านเคยฉุกคิดบ้างหรือไม่ว่าพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์เป็นพรแก่ชีวิตท่านอย่างไร? เมื่อทำเช่นนั้น ท่านจะเปี่ยมด้วยความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าและเข้าใจดีขึ้นว่าพระองค์ทรงรักท่านมากจนพระองค์ทรงส่งพระบุตรองค์เดียวที่ถือกำเนิดและล้ำค่ามากของพระองค์ พระเยซูคริสต์ มาในโลกเพื่อเสริมสร้างและหนุนใจท่านเมื่อท่านมาหาพระองค์

เมื่อท่านรู้สึกถึงความรักนี้ ข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะตอบรับโดยเปิดใจให้กับคนที่ท่านรักและคนอื่นๆ และแบ่งปันสิ่งที่ท่านรู้ว่าเป็นความจริง ชีวิตข้าพเจ้าได้รับพรเพราะเพื่อนๆ ที่เอื้อมมือมาหาข้าพเจ้าและแบ่งปันความรักของพระผู้ช่วยให้รอดและพระกิตติคุณของพระองค์กับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้รับพรเช่นกันเมื่อข้าพเจ้ายังคงเสริมสร้างประจักษ์พยานของข้าพเจ้าผ่านการสวดอ้อนวอน ศึกษาพระชนม์ชีพและคำสอนของพระเยซูคริสต์ และเลือกเป็นสานุศิษย์ของพระองค์ ท่านก็ทำได้เช่นเดียวกัน!

เมื่อท่านพยายามจดจำคำสัญญาที่ท่านทำเมื่อท่านรับบัพติศมาและรับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญากับท่านว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะ “ทรงแสดงแก่ท่านถึงสิ่งทั้งปวงที่ท่านควรทำ” (2 นีไฟ 32:5) โปรดมีศรัทธาในคําสัญญาของพระองค์ ท่านสามารถได้รับการนําทางในทิศทางที่ถูกต้องในทุกสิ่งที่ท่านทําและพูด ท่านสามารถยื่นมือออกไปช่วยเหลือด้วยมิตรภาพและเชื้อเชิญให้ผู้อื่นฟังประจักษ์พยานของท่าน ข้าพเจ้ารู้ว่าสิ่งนี้จะทำให้ท่านมีความสุขมากกว่าสิ่งอื่นใดที่เคยทำ