การประชุมใหญ่สามัญ
ซื่อสัตย์จนวาระสุดท้าย
การประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2024


11:25

ซื่อสัตย์จนวาระสุดท้าย

ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ ท่านจะสามารถเอาชนะโกลิอัททุกตนที่ปรากฏในชีวิตท่าน

มิตรสหายที่รัก วันนี้ดิฉันประสงค์จะพูดกับท่านโดยตรง—เยาวชนของศาสนจักร

เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่ฝ่ายประธานเยาวชนหญิงสามัญได้รับเรียก สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในปีที่ผ่านมา!

เราได้พบท่านหลายคนและได้ศึกษาคำสอนของพระคริสต์ด้วยกัน เราได้ร้องเพลง ผูกมิตร และรับใช้กับท่านในชุมชนของเรา เราได้รับการเสริมพลังจากการฟังประจักษ์พยานของท่านในการประชุมเยาวชนและงานต่างๆ ระดับโลก และเราได้นมัสการด้วยกันในพระนิเวศน์ของพระเจ้า

แต่ละครั้ง เราได้แบ่งปันข่าวสารจากพระเจ้าพระเยซูคริสต์ คืนนี้จะไม่ต่างออกไป ดิฉันมีข่าวสารสำหรับท่าน เยาวชนของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์

คําถามสําคัญ

ท่านเคยสงสัยหรือไม่ว่าท่านจะซื่อสัตย์ต่อพระผู้เป็นเจ้าเมื่ออยู่ในโลกแห่งบาปได้อย่างไร? จะหาความเข้มแข็งจากที่ใดเพื่อก้าวต่อไปและทำดีต่อไป? ท่านจะสัมผัสถึงปีติที่แท้จริงได้อย่างไร?

ดิฉันคิดว่าประสบการณ์ของดาวิดกับโกลิอัทช่วยได้

ดาวิดกับโกลิอัท

ในพันธสัญญาเดิม กองทัพของชาวฟีลิสเตียต่อสู้กับชาวอิสราเอล และในทุกวันตอนเช้าและตอนเย็น ชาวฟีลิสเตียร่างยักษ์ชื่อโกลิอัทจะท้าทายชาวอิสราเอลให้ต่อสู้กับเขา

ดาวิดกับโกลิอัท

ดาวิดเป็นชนชาติอิสราเอล เขาเป็นคนเลี้ยงแกะอายุน้อยและตัวเล็กกว่าโกลิอัทมาก แต่มีศรัทธาขนาดยักษ์ในพระเยซูคริสต์! ดาวิดอาสาต่อสู้ แม้กษัตริย์พยายามห้ามเขา แต่ดาวิดเลือกที่จะวางใจในพระเยซูคริสต์

ก่อนหน้านี้ ดาวิดเคยต่อสู้กับสิงโตและหมี จากประสบการณ์ส่วนตัว เขารู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงปกป้องเขาและทำให้เขาได้รับชัยชนะ สำหรับดาวิด จุดประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าสำคัญที่สุด ด้วยศรัทธาเต็มเปี่ยมในพระผู้เป็นเจ้าผู้จะไม่ทอดทิ้งเขา เขาจึงรวบรวมหินเกลี้ยงห้าก้อน หยิบสลิงขึ้นมา และเผชิญหน้ากับยักษ์

หินห้าก้อนของดาวิด

พระคัมภีร์บอกเราว่าหินก้อนแรกที่ดาวิดขว้างโดนหน้าผากของโกลิอัททำให้เขาสิ้นชีวิต

ค้นหาคำตอบ

ขณะที่ดาวิดใช้หินเพียงก้อนเดียวเพื่อฆ่าโกลิอัท แต่เขาเตรียมไว้ห้าก้อน ห้าก้อน! นี่ทำให้ดิฉันคิดว่าดิฉันจะเตรียมตัวเผชิญกับโลกได้อย่างไร

จะเป็นอย่างไรถ้าหินแต่ละก้อนของดาวิดแสดงถึงความเข้มแข็งที่เราต้องมีเพื่อได้รับชัยชนะในชีวิต? หินห้าก้อนนั้นเป็นอะไรได้บ้าง? ดิฉันนึกถึงความเป็นไปได้เหล่านี้:

  1. หินแห่ง ความรักของฉันต่อพระผู้เป็นเจ้า

  2. หินแห่ง ศรัทธาของฉันในพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์

  3. หินแห่ง ความรู้ถึงอัตลักษณ์ที่แท้จริงของฉัน

  4. หินแห่ง การกลับใจทุกวันของฉัน

  5. หินแห่ง การเข้าถึงพลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า

เรามาพูดถึงวิธีที่เราได้รับพรจากความเข้มแข็งเหล่านี้

วิธีแรก หินแห่ง ความรักของฉันต่อพระผู้เป็นเจ้า การรักพระผู้เป็นเจ้าเป็นพระบัญญัติสําคัญข้อแรก คู่มือ เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน สอนเราว่า: “พระผู้เป็นเจ้าทรงรักท่าน พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของท่าน ความรักที่สมบูรณ์แบบของพระองค์สามารถดลใจให้ท่านรักพระองค์ เมื่อความรักที่ท่านมีต่อพระบิดาบนสวรรค์เป็นอิทธิพลที่สำคัญที่สุดในชีวิตท่าน การตัดสินใจหลายอย่างจะง่ายขึ้น”

ความรักที่เรามีต่อพระผู้เป็นเจ้าและความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระองค์ให้ความเข้มแข็งที่จำเป็นแก่เราในการเปลี่ยนแปลงใจและเอาชนะความท้าทายได้ง่ายขึ้น

วิธีที่สอง หินแห่ง ศรัทธาของฉันในพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์ เมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จมาบนแผ่นดินโลก พระองค์ทรงทนทุกข์เพื่อบาปของเรา และทรงรับเอาความโศกเศร้า ความเจ็บปวด ความอ่อนแอ ความเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจของเราไว้ นั่นเป็นสาเหตุที่ทรงรู้วิธีช่วยเรา การมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์หมายถึงการวางใจในพระปรีชาญาณ เวลา ความรัก และพลังอำนาจของพระองค์ที่ไถ่บาปเรา หินแห่งศรัทธาในพระเยซูคริสต์จะเอาชนะ “ยักษ์” ในชีวิตเรา เราสามารถเอาชนะโลกที่ตกนี้เพราะทรงชนะโลกแล้ว

วิธีที่สาม หินแห่ง ความรู้ถึงอัตลักษณ์ที่แท้จริงของฉัน ศาสดาพยากรณ์ที่รักของเรา ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนเราว่า อัตลักษณ์สำคัญที่สุดของเราคือการเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้า บุตรแห่งพันธสัญญา และสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์

ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อดิฉันรู้ว่าแท้จริงแล้วดิฉันเป็นใคร เมื่อดิฉันสงสัยในความสามารถของตน ดิฉันมักจะย้ำกับตนเองในใจหรือพูดออกมาว่า “ฉันเป็นธิดาของพระผู้เป็นเจ้า ฉันเป็นธิดาของพระผู้เป็นเจ้า” บ่อยเท่าที่ต้องการจนกว่าจะรู้สึกมั่นใจอีกครั้งที่จะเดินหน้าต่อไป

วิธีที่สี่ หินแห่ง การกลับใจทุกวันของฉัน ในคู่มือ เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน เราอ่านว่า: “การกลับใจไม่ใช่การลงโทษเพราะบาป แต่เป็นวิธีที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงปลดปล่อยเราจากบาป การกลับใจหมายถึงการเปลี่ยนแปลง—หันหลังให้บาปและหันมาหาพระผู้เป็นเจ้า หมายถึงการปรับปรุงและรับการให้อภัย การเปลี่ยนแปลงรูปแบบนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่อง”

ไม่มีอะไรโล่งใจมากไปกว่าการรู้สึกถึงการให้อภัยจากพระผู้เป็นเจ้าและรู้ว่าเราสะอาดและได้คืนดีกับพระองค์ การให้อภัยเป็นไปได้สำหรับทุกคน

วิธีที่ห้า หินแห่ง การเข้าถึงพลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า พันธสัญญาที่เราทำกับพระองค์ เช่น พันธสัญญาที่เราทำในศาสนพิธีบัพติศมาทำให้เราเข้าถึงพลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า พลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าเป็นพลังที่แท้จริงที่ช่วยให้เราเผชิญความท้าทาย ตัดสินใจได้ดี และเพิ่มความสามารถในการอดทนต่อสถานการณ์ที่ยากลำบาก นั่นเป็นพลังที่เราสามารถเติบโตในความสามารถเฉพาะที่เราจำเป็นต้องมี

คู่มือ เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน อธิบายว่า: “พันธสัญญา เชื่อมโยง ท่านกับพระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอด ซึ่ง เพิ่มพลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า ในชีวิตท่าน”

เรามาพูดถึงการเชื่อมโยงนั้น ท่านจำสิ่งที่พระคริสต์ทรงสอนความแตกต่างระหว่างบ้านที่สร้างบนศิลาและบ้านที่สร้างบนทรายได้ไหม? เอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟอธิบายว่า: “บ้านไม่ได้รอดจากพายุเพราะบ้านแข็งแรง และไม่ได้รอดมาเพียงเพราะศิลานั้นแข็งแกร่ง บ้านรอดจากพายุได้เพราะว่าบ้านติดยึดกับศิลาที่แข็งแกร่งนั้นอย่างแน่นหนา ความแข็งแรงของ การเชื่อมโยง กับศิลานั่นเองที่สําคัญ”

บ้านที่สร้างบนศิลา

ความเชื่อมโยงส่วนตัวของเรากับพระเยซูคริสต์จะทำให้เรามีความกล้าหาญและมั่นใจในการก้าวไปข้างหน้าท่ามกลางผู้คนที่ไม่เคารพความเชื่อของเราหรือรังแกเรา พระคริสต์ทรงเชื้อเชิญให้เรานึกถึงพระองค์ตลอดเวลา พระองค์ตรัสว่า “จงดูที่เราในความนึกคิด ทุกอย่าง การนึกถึงพระผู้ช่วยให้รอดทำให้เรามีความคิดกระจ่างในการตัดสินใจ กระทำโดยไม่กลัว และปฏิเสธสิ่งที่ขัดกับคำสอนของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อมีวันที่ยากลำบากและรู้สึกเหมือนทนไม่ไหวอีกต่อไป การนึกถึงพระคริสต์ทําให้ดิฉันมีสันติสุขและมีความหวัง

เราจะดึงพลังอำนาจนี้ของพระเยซูคริสต์มาใช้ได้อย่างไร? การเชื่อฟังพันธสัญญาของเราและเพิ่มศรัทธาในพระเยซูคริสต์เป็นกุญแจสำคัญ

ดิฉันหวังว่าดาวิดจะมีหินเพิ่มอีกก้อนหนึ่ง นั่นคือหินแห่ง ประจักษ์พยานของฉัน ประจักษ์พยานของเราสร้างขึ้นจากประสบการณ์ทางวิญญาณส่วนตัวซึ่งเรารับรู้ถึงอิทธิพลแห่งสวรรค์ในชีวิตเรา ไม่มีใครเอาความรู้นั้นไปจากเราได้ การรู้สิ่งที่เรารู้จากการดำเนินชีวิตตามประสบการณ์ทางวิญญาณนั้นมีค่าเกินประมาณ การแน่วแน่ต่อความรู้นั้นให้อิสระแก่เรา และให้ปีติแก่เรา! ถ้าเรารักความจริง เราจะแสวงหา และเมื่อเราพบความจริงแล้ว เราจะปกป้อง

คำเชื้อเชิญ

เช่นเดียวกับที่ดิฉันเลือกหินก้อนที่หก ดิฉันเชื้อเชิญให้ท่านเข้าชั้นเรียน โควรัม หรือครอบครัวท่าน และนึกถึงความเข้มแข็งอื่นๆ ที่ท่านต้องมีเพื่อที่จะยังคงซื่อสัตย์ต่อพระผู้เป็นเจ้าและชนะโลก

คำสัญญา

เพื่อนที่รัก พระคริสต์ทรงปรารถนาที่จะอยู่กับเราในการเดินทางแห่งชีวิตของเรา ดิฉันสัญญากับท่าน เมื่อท่านยึดราวเหล็ก ท่านจะเดินเคียงข้างพระเยซูคริสต์ พระองค์ จะทรงเป็นผู้นำทางท่านและ พระองค์ จะทรงสอนท่าน ด้วยพระหัตถ์ ของพระองค์ ท่านจะสามารถเอาชนะโกลิอัททุกตนที่ปรากฏในชีวิตท่าน

ประจักษ์พยาน

ดิฉันเป็นพยานว่ามีปีติในการสวดอ้อนวอนทุกวัน อ่านพระคัมภีร์มอรมอนทุกวัน รับส่วนศีลระลึกทุกวันอาทิตย์ และในการไปเซมินารี—แม้ในตอนเช้าตรู่! มีปีติในการทำความดี

มีปีติในการซื่อสัตย์ต่อพระผู้เป็นเจ้าแห่งจักรวาล พระผู้ช่วยให้รอดของโลก พระมหากษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย มีปีติในการเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์

พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระบิดาของเรา ทรงทราบความปรารถนาของใจและความเป็นไปได้ของท่าน และพระองค์ทรงวางใจท่าน

เยาวชนที่รัก พระเยซูคริสต์จะทรงช่วยให้ท่านซื่อสัตย์จนวาระสุดท้าย ดิฉันแสดงประจักษ์พยานถึงความจริงเหล่านี้ ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน