พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าคือพาท่านกลับบ้าน
ทุกอย่างเกี่ยวกับแผนของพระบิดาสำหรับลูกๆ ที่รักของพระองค์ออกแบบมาเพื่อพาทุกคนกลับบ้าน
ข้าพเจ้าอยากแสดงความขอบคุณสำหรับการสวดอ้อนวอนของท่านขณะข้าพเจ้าเริ่มกระบวนการปรับตัวกับการเรียกที่ได้รับผ่านประธานเนลสันเพื่อรับใช้เป็นอัครสาวกของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ ท่านคงจะนึกภาพออกว่าสิ่งนี้ทำให้รู้สึกถ่อมใจเพียงใด และมันเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ธรรมดาและการพินิจพิเคราะห์ตนเองอย่างมีสติ แต่แน่นอนว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้พระผู้ช่วยให้รอดไม่ว่าด้านใด และที่ได้มีส่วนร่วมกับท่านในการแบ่งปันข่าวดีเกี่ยวกับพระกิตติคุณแห่งความหวังของพระองค์
ยิ่งไปกว่านั้น มีการกล่าวกันว่าเบื้องหลังอัครสาวกใหม่ทุกคนมีแม่ยายที่ประหลาดใจอยู่ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่ามีการกล่าวเช่นนี้จริงๆ หรือไม่ แต่ในกรณีนี้ อาจเป็นได้แน่นอน และข้าพเจ้าคาดว่าการที่แม่ยายของข้าพเจ้าไม่อยู่กับเราแล้วก็ไม่ได้ช่วยคลายความประหลาดใจของเธอได้เลย
หลายเดือนก่อน เมื่อข้าพเจ้ากับภรรยาไปต่างประเทศเพื่อทำงานมอบหมายต่างๆ ของศาสนจักร ข้าพเจ้าตื่นแต่เช้าและมองออกไปนอกหน้าต่างโรงแรมอย่างไร้จุดหมาย ด้านล่างของถนนที่พลุกพล่าน ข้าพเจ้าเห็นว่ามีการตั้งเครื่องกีดขวางบนถนน โดยมีตำรวจประจำการอยู่ใกล้ๆ เพื่อให้เลี้ยวรถกลับเมื่อไปถึงแผงกั้น ในตอนแรกมีรถวิ่งไปตามถนนเพียงไม่กี่คันก็ต้องเลี้ยวกลับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปและการจราจรเพิ่มมากขึ้น การต่อแถวของรถยนต์ก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น
จากหน้าต่างด้านบน ข้าพเจ้าเฝ้าดูขณะที่ตำรวจดูเหมือนจะพอใจในอำนาจในการปิดกั้นการจราจรและให้ผู้คนออกไป จริงๆ แล้วดูเหมือนว่าเขากำลังมีเท้าติดสปริงราวกับจะเริ่มเต้นเป็นจังหวะขณะที่รถแต่ละคันเข้าใกล้แผงกั้น หากคนขับหงุดหงิดกับสิ่งกีดขวางบนถนน ตำรวจคนนั้นก็ดูไม่ช่วยเหลือหรือเห็นใจเลย เขาแค่ส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำอีกและชี้ไปในทิศทางตรงกันข้าม
มิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสานุศิษย์บนถนนแห่งชีวิตมรรตัย แผนอันสวยงามของพระบิดา แม้แผนอัน “น่าเหลือเชื่อ”นี้ ออกแบบมาเพื่อพาท่านกลับบ้าน ไม่ใช่ เพื่อกันท่านออกไป ไม่มีใครสร้างสิ่งกีดขวางบนถนนและส่งคนไปประจำการที่นั่นเพื่อให้ท่านหันกลับและส่งท่านออกไป จริงๆ แล้วกลับตรงกันข้าม พระผู้เป็นเจ้าทรงกำลังแสวงหาท่านอย่างไม่หยุดยั้ง “ทรงต้องการให้บุตรธิดาทุกคนของพระองค์เลือกกลับไปหาพระองค์” และทรงใช้ทุกมาตรการที่เป็นไปได้เพื่อนำท่านกลับมา
พระบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรักของเราทรงดูแลการสร้างโลกนี้โดยมีจุดประสงค์ชัดเจนในการให้โอกาสท่านและข้าพเจ้ามีประสบการณ์ของความเป็นมรรตัยที่ขยายขอบเขตและช่วยขัดเกลา มีโอกาสใช้สิทธิ์เสรีทางศีลธรรมที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้เราเลือกพระองค์ เพื่อเรียนรู้ เติบโต ทำผิดพลาด กลับใจ รักพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อนบ้านของเรา และวันหนึ่งจะได้กลับบ้านไปหาพระองค์
พระองค์ทรงส่งพระบุตรที่รักและล้ำค่ายิ่งมายังโลกที่ตกแล้วใบนี้เพื่อดำเนินชีวิตตามประสบการณ์ของมนุษย์อย่างครบถ้วน เพื่อเป็นแบบอย่างให้ลูกๆ ที่เหลือของพระองค์ติดตาม ตลอดจนชดใช้และไถ่ ของประทานแห่งการชดใช้อันยิ่งใหญ่ของพระคริสต์ขจัดอุปสรรคทุกอย่างของความตายทางร่างกายและวิญญาณที่จะแยกเราจากบ้านนิรันดร์ของเรา
ทุกอย่างเกี่ยวกับแผนของพระบิดาสำหรับลูกๆ ที่รักของพระองค์ออกแบบมาเพื่อพาทุกคนกลับบ้าน
ผู้ส่งสารของพระผู้เป็นเจ้า ศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ เรียกแผนนี้ในพระคัมภีร์ยุคการฟื้นฟูว่าอย่างไร? พวกเขาเรียกว่าแผนแห่งการไถ่ แผนแห่งความเมตตา แผนอันสำคัญยิ่งแห่งความสุข และแผนแห่งความรอด ซึ่งมีให้แก่ทุกคน “โดยทางพระโลหิตของพระองค์เดียวที่ถือกำเนิดของเรา”
จุดประสงค์ของแผนอันสำคัญยิ่งแห่งความสุขของพระบิดาคือ ความสุข ของท่าน ที่นี่ เวลานี้ และในนิรันดร ไม่ใช่ปิดกั้นความสุขของท่านและทำให้ท่านกังวลและหวาดกลัว
จุดประสงค์ของแผนแห่งการไถ่ของพระบิดาแท้จริงแล้วคือ การไถ่ การได้รับความช่วยเหลือผ่านทุกขเวทนาและการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ การปลดปล่อยจากการเป็นเชลยของบาปและความตายของท่าน ไม่ใช่การทิ้งท่านไว้อย่างที่ท่านเป็น
จุดประสงค์ของแผนแห่งความเมตตาของพระบิดาคือ ประทานพระเมตตา เมื่อเราหันกลับมาหาพระองค์และให้เกียรติพันธสัญญาแห่งความซื่อสัตย์ต่อพระองค์ ไม่ใช่เพื่อปฏิเสธความเมตตาและสร้างความเจ็บปวดและความโศกเศร้า
จุดประสงค์ของแผนแห่งความรอดของพระบิดาคือ ความรอด ของท่านในอาณาจักรแห่งรัศมีภาพซีเลสเชียลเมื่อท่านรับ “ประจักษ์พยานถึงพระเยซู” และถวายทั้งจิตวิญญาณของเราแด่พระองค์ ไม่ใช่เพื่อกันท่านออกไป
นี่หมายความว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นตามการใช้ชีวิตของเราหรือไม่? วิธีที่เราเลือกใช้สิทธิ์เสรีของเราไม่สำคัญใช่ไหม? เราสามารถเลือกรับหรือละทิ้งพระบัญญัติของพระเจ้าก็ได้ใช่ไหม? แน่นอนว่าไม่ใช่ แน่นอนว่าคำเชื้อเชิญและคำวิงวอนสม่ำเสมอที่สุดของพระเยซูระหว่างการปฏิบัติศาสนกิจขณะทรงเป็นมรรตัยคือให้เราเปลี่ยน กลับใจ และมาหาพระองค์ โดยพื้นฐานแล้วในคำสอนทั้งหมดของพระองค์ที่ให้ดำเนินชีวิตบนระดับความประพฤติทางศีลธรรมที่สูงขึ้น เป็นการเรียกร้องให้มีความก้าวหน้าส่วนบุคคล มีศรัทธาที่เปลี่ยนแปลงได้ในพระคริสต์ มีการเปลี่ยนแปลงอันลึกล้ำของใจ
พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้เราปรับเปลี่ยนนิสัยที่เห็นแก่ตัวและจองหองของเรา กำจัดความเป็นมนุษย์ปุถุชนอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้เรา “ไปและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก”
ถ้าเราเชื่อว่าจุดประสงค์ของแผนของพระบิดาที่ออกแบบมาเพื่อทุกคนคือเพื่อช่วยเรา ไถ่เรา ประทานพระเมตตาแก่เรา และนำความสุขมาให้เรา อะไรคือพระประสงค์ของพระบุตรผู้ทรงทำให้แผนอันยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้น?
พระบุตรทรงบอกเราเองว่า “เพราะว่าเราลงมาจากสวรรค์ ไม่ใช่เพื่อทำตามความประสงค์ของเราเอง แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของผู้ทรงใช้เรามา”
พระประสงค์ของพระเยซูคือพระประสงค์ของพระบิดาผู้เมตตา! พระองค์ทรงต้องการทำให้ลูกๆ ของพระบิดาทุกคนได้รับเป้าหมายสูงสุดของแผน—ชีวิตนิรันดร์กับพระองค์ ไม่มีใครถูกแยกออกจากศักยภาพอันสูงส่งนี้
ถ้าท่านกังวลว่าท่านจะไม่มีวันเทียบเท่าได้ หรือว่ารัศมีความรักของการชดใช้อันไร้ขอบเขตของพระคริสต์ครอบคลุมคนอื่นทุกคนด้วยความเมตตายกเว้นท่าน ท่านก็เข้าใจผิดแล้ว ไม่มีขอบเขต หมายถึงไม่มีขอบเขต ไม่มีขอบเขต ครอบคลุมท่านและคนที่ท่านรัก
นีไฟอธิบายความจริงอันสวยงามนี้ว่า “พระองค์ย่อมไม่ทรงกระทำสิ่งใดเว้นแต่จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของโลก; เพราะพระองค์ทรงรักโลก, จนพระองค์ทรงยอมพลีพระชนม์ชีพของพระองค์เองเพื่อจะทรงจูงใจมนุษย์ทั้งปวงมาหาพระองค์. ดังนั้น, พระองค์ไม่ทรงบัญชาผู้ใดไม่ให้รับส่วนความรอดของพระองค์”
พระผู้ช่วยให้รอด พระเมษบาลผู้ประเสริฐ ทรงออกตามหาแกะที่หลงหายของพระองค์จนกว่าจะพบพวกเขา พระองค์ “ไม่ทรงประสงค์ให้ใครพินาศ”
“แขนแห่งความเมตตาของเรายื่นมายังเจ้า, และผู้ใดก็ตามที่จะมา, ผู้นั้นเราจะรับ”
“เจ้ามีผู้ใดที่เจ็บป่วยในบรรดาพวกเจ้าไหม? จงนำเขามาที่นี่ พวกเจ้ามีคนใดที่เป็นง่อย, หรือตาบอด, หรือขาเสีย, หรือพิการ, หรือเป็นโรคเรื้อน, หรือที่ผอมแห้ง หรือที่หูหนวก, หรือที่รับทุกข์ด้วยประการใดๆ ไหม? จงนำพวกเขามาที่นี่และเราจะรักษาพวกเขา, เพราะเรามีความสงสารเจ้า”
พระองค์ไม่ทรงทิ้งหญิงที่เป็นโรคโลหิตตก ไม่ทรงถอยกลับจากคนโรคเรื้อน ไม่ทรงปฏิเสธหญิงที่ถูกจับฐานล่วงประเวณี ไม่ทรงปฏิเสธผู้สำนึกผิด ไม่ว่าพวกเขาจะทำบาปอะไรก็ตาม และจะไม่ทรงปฏิเสธท่านหรือคนที่ท่านรักเมื่อท่านนำใจที่ชอกช้ำและวิญญาณที่สำนึกผิดมาหาพระองค์ นั่น ไม่ใช่ เจตนาหรือการออกแบบ ทั้งไม่ใช่แผน จุดประสงค์ ความปรารถนา หรือความหวังของพระองค์
ไม่ พระองค์ไม่ได้ทรงสร้างสิ่งกีดขวางและอุปสรรค พระองค์ทรงนำออกไป พระองค์ไม่ได้ทรงกันท่านออกไป แต่ทรงต้อนรับท่านเข้ามา พระพันธกิจทั้งหมดของพระองค์คือการประกาศพระประสงค์นี้
แน่นอนว่ามีการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระองค์ ซึ่งยากสำหรับเราและเกินกว่าความสามารถมรรตัยที่จะเข้าใจ แต่ และนี่คือ “แต่” ที่สำคัญ เราเข้าใจ สามารถเข้าใจ จุดประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์แห่งความรอดของการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระองค์
ม่านในพระวิหารฉีกออกเป็นสองเมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์บนกางเขน เป็นสัญลักษณ์ว่าการเข้าถึงที่ประทับของพระบิดาได้เปิดออกกว้าง—สำหรับทุกคนที่จะหันมาหาพระองค์ วางใจพระองค์ มอบภาระไว้กับพระองค์ และเอาแอกของพระองค์แบกไว้ในการผูดมัดทางพันธสัญญา
กล่าวอีกนัยหนึ่ง แผนของพระบิดาไม่เกี่ยวกับสิ่งกีดขวาง ไม่เคยเป็นเช่นนั้น จะไม่มีวันเป็น มีสิ่งที่เราต้องทำ พระบัญญัติที่ต้องรักษา ลักษณะต่างๆ ของนิสัยพื้นฐานของเราที่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือไม่? มี แต่ด้วยพระคุณของพระองค์ สิ่งเหล่านั้นจึงอยู่ในขอบเขตของเรา ไม่เกินความสามารถของเรา
นี่เป็นข่าวดี! ข้าพเจ้ารู้สึกขอบคุณอย่างสุดจะพรรณนาสำหรับความจริงอันเรียบง่ายเหล่านี้ การออกแบบของพระบิดา แผน จุดประสงค์ เจตนา ความปรารถนา และความหวังของพระองค์ล้วนเพื่อเยียวยาท่าน ล้วนเพื่อให้ท่านมีสันติสุข ล้วนเพื่อนำท่านและคนที่ท่านรักกลับบ้าน ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงเรื่องนี้ในพระนามของพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์ เอเมน