2021
สิ่งที่เราเรียนรู้และจะไม่มีวันลืม
พฤษภาคม 2021


16:22

สิ่งที่เราเรียนรู้และจะไม่มีวันลืม

ถ้าท่านมองชีวิตตนเองร่วมกับการสวดอ้อนวอน ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านจะเห็นหลายวิธีที่พระเจ้าทรงนำทางท่านผ่านช่วงเวลายากลำบากนี้

พี่น้องชายที่รัก ข้าพเจ้าเฝ้ารอที่จะได้ประชุมทางออนไลน์กับท่านในครั้งนี้ ครั้งสุดท้ายที่เราจัดการประชุมใหญ่สามัญภาคฐานะปุโรหิตคือในเดือนเมษายนปี 2019 สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมายช่วงสองปีที่ผ่านมา! ท่านบางคนสูญเสียคนรัก บางคนสูญเสียอาชีพการงาน การดำรงชีพ หรือสุขภาพ หลายคนสูญเสียความรู้สึกสันติสุขหรือความหวังสำหรับอนาคต ข้าพเจ้าเห็นใจพวกท่านแต่ละคนที่ทนทุกข์กับสิ่งเหล่านี้หรือการสูญเสียอื่นๆ ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนตลอดเวลาว่าพระเจ้าจะทรงปลอบโยนท่าน เมื่อท่านให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัยเหนือชีวิตท่านต่อไป ข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์ยังทรงคาดหวังสิ่งดีๆ เกี่ยวกับอนาคตของท่านเหมือนเคย

ท่ามกลาง การสูญเสีย ที่เราประสบ มีบางสิ่งที่เรา พบ เช่นกัน บางคนพบศรัทธาที่ลึกซึ้งขึ้นในพระบิดาบนสวรรค์ของเราและพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ หลายคนพบมุมมองใหม่เกี่ยวกับชีวิต—แม้มุมมองนิรันดร์ ท่านอาจพบความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นขึ้นกับคนที่ท่านรักและกับพระเจ้า ข้าพเจ้าหวังว่าท่านพบความสามารถที่เพิ่มขึ้นในการ ฟังพระองค์ และรับการเปิดเผยส่วนตัว การทดลองยากๆ มักให้โอกาสในการเติบโตซึ่งจะไม่เกิดขึ้นในวิธีอื่น

ลองหวนคิดดูถึงสองปีที่ผ่านมา ท่านเติบโตขึ้นอย่างไรบ้าง? ท่านเรียนรู้อะไร? ทีแรกท่านอาจอยากจะย้อนกลับไปอยู่ในปี 2019 เลยก็ได้! แต่ถ้าท่านมองชีวิตตนเองร่วมกับการสวดอ้อนวอน ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านจะเห็นหลายวิธีที่พระเจ้าทรงนำทางท่านผ่านช่วงเวลายากลำบากนี้ ช่วยให้ท่านเป็นคนที่อุทิศตนมากขึ้น เปลี่ยนใจเลื่อมใสมากขึ้น—เป็นบุรุษผู้ซื่อตรงของพระผู้เป็นเจ้า

ข้าพเจ้ารู้ว่าพระเจ้าทรงมีแผนสำคัญและน่าอัศจรรย์ยิ่งสำหรับเรา—ทั้งเป็นรายบุคคลและโดยรวม ด้วยความสงสารและความอดทน พระองค์ตรัสว่า:

“เจ้าเป็นเด็กน้อย, และเจ้ายังไม่เข้าใจว่าพระบิดาทรงมีพรสำคัญยิ่งเพียงใด … เตรียมไว้ให้เจ้า;

“และเจ้าไม่อาจทนทุกสิ่งได้ขณะนี้; กระนั้นก็ตาม, จงรื่นเริงเถิด, เพราะเราจะนำทางเจ้าไป”1

พี่น้องชายที่รัก ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระองค์ได้ทรงนำทางเรา และ กำลัง นำทางเราจริงๆ เมื่อเราหมายมั่นจะฟังพระองค์ พระองค์ทรงต้องการให้เราเติบโตและเรียนรู้ แม้จะต้องผ่าน—หรือบางที ยิ่งต้องผ่าน—ความยากลำบาก

ความยากลำบากเป็นครูที่ดี มีสิ่งใดที่ ท่าน เรียนรู้ช่วงสองปีที่ผ่านมาที่ท่านอยากจดจำไว้เสมอ? คำตอบของท่านจะแตกต่างกันไป แต่ข้าพเจ้าขอแนะนำบทเรียนสี่บทที่ข้าพเจ้าหวังว่าเราทุกคนได้เรียนรู้และจะไม่มีวันลืม

บทเรียนที่ 1: บ้านคือศูนย์กลางแห่งศรัทธาและการนมัสการ

บ่อยครั้งเมื่อพระเจ้าทรงเตือนเราเกี่ยวกับภยันตรายของยุคสุดท้าย ทรงแนะนำดังนี้: “จงยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์, และไม่หวั่นไหว”2 “สถานที่ศักดิ์สิทธิ์” เหล่านี้รวมถึงพระวิหารของพระเจ้าและอาคารประชุมอย่างแน่นอน แต่เมื่อความสามารถในการมาชุมนุมกันในสถานที่เหล่านี้ถูกจำกัดในหลายระดับ เราเรียนรู้ว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งบนแผ่นดินโลกคือบ้าน—ใช่แล้ว แม้บ้าน ของท่าน

พี่น้องชาย ท่านดำรงฐานะปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้า! “สิทธิของฐานะปุโรหิตเกี่ยวข้องกับอำนาจแห่งสวรรค์อย่างแยกจากกันไม่ได้”3 ท่านกับครอบครัวได้รับศาสนพิธีฐานะปุโรหิต “ในศาสนพิธี [ของฐานะปุโรหิตนั่นเองที่] พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าจึงแสดงให้ประจักษ์”4 พลังอำนาจนั้นมีให้ท่านและครอบครัว ในบ้านของท่านเอง เมื่อท่านรักษาพันธสัญญาที่ท่านทำไว้5

เมื่อ 185 ปีที่แล้ว วันนี้เอง วันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1836 เอลียาห์ฟื้นฟูกุญแจฐานะปุโรหิตซึ่งช่วยให้ครอบครัวผนึกด้วยกันชั่วนิรันดร์ได้ นั่นคือเหตุผลที่เรารู้สึกดีเหลือเกินที่ได้ปฏิบัติศีลระลึกในบ้านตัวเอง ท่านคิดว่าสิ่งนี้ส่งผลต่อสมาชิกครอบครัวท่านอย่างไรที่ได้เห็นท่านผู้เป็นบิดา ปู่ ตา สามี บุตรชาย พี่ชายหรือน้องชาย ปฏิบัติศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์นี้? ท่านจะทำอะไรเพื่อรักษาความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์นั้นไว้ในครอบครัว?

ท่านอาจรู้สึกว่ายังมีอีกมากที่ท่านต้องทำเพื่อให้บ้านของท่านเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งศรัทธาอย่างแท้จริง หากเป็นเช่นนั้น โปรดลงมือทำ! ถ้าท่านแต่งงานแล้ว จงปรึกษากับภรรยาในฐานะหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกันในงานสำคัญยิ่งนี้ มีเพียงไม่กี่สิ่งที่สำคัญกว่าเรื่องนี้ ช่วงระหว่างเวลานี้กับเวลาที่พระเจ้าเสด็จมาอีกครั้ง เราทุกคนต้องการให้บ้านเป็นสถานที่แห่งความสงบและความปลอดภัย6

เจตคติและการกระทำที่อัญเชิญพระวิญญาณจะเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ให้บ้านของท่าน สิ่งที่แน่นอนพอๆ กันคือความจริงที่ว่า ความศักดิ์สิทธิ์จะหายไป หากมีสิ่งใดก็ตามในพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อมของท่านที่ทำให้พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขุ่นเคือง เมื่อนั้น “สวรรค์ย่อมถอนตัว”7

ท่านเคยสงสัยไหมว่าเหตุใดพระเจ้าจึงทรงต้องการให้บ้านของเราเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้และการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ? ไม่ใช่เพียงเพื่อเตรียมเราและช่วยให้เราผ่านพ้นการระบาดเท่านั้น ข้อจำกัดเรื่องการชุมนุมในปัจจุบันจะจบลงในที่สุด แต่คำมั่นสัญญาของท่านที่จะทำให้บ้านเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งศรัทธา อันดับหนึ่ง ควร ไม่มีวัน จบลง ขณะที่ศรัทธาและความศักดิ์สิทธิ์ลดลงในโลกที่ตกใบนี้ ความต้องการสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของท่านจะเพิ่มขึ้น ข้าพเจ้ากระตุ้นให้ท่านทำให้บ้านเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงต่อไป “และ ไม่หวั่นไหว8 จากเป้าหมายสำคัญนั้น

บทเรียนที่ 2: เราต้องการกันและกัน

พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้เราทำงานด้วยกันและช่วยเหลือกัน นั่นคือเหตุผลที่พระองค์ทรงส่งเรามาแผ่นดินโลกในครอบครัวและจัดเราอยู่ในวอร์ดและสเตค นั่นคือเหตุผลที่ทรงขอให้เรารับใช้และปฏิบัติศาสนกิจต่อกัน นั่นคือเหตุผลที่ทรงขอให้เราอาศัยอยู่ ใน โลกแต่ไม่เป็น ของ โลก9 เราสามารถประสบความสำเร็จด้วยกันได้มากมายยิ่งกว่าที่เราจะทำได้คนเดียว10 แผนแห่งความสุขของพระผู้เป็นเจ้าจะไม่สำเร็จถ้าลูกๆ ของพระองค์ยังคงแยกจากกัน

การระบาดที่ผ่านมานี้มีลักษณะพิเศษที่ว่ามันส่งผลต่อทุกคนในโลกพร้อมๆ กัน แม้ว่าบางคนประสบความทุกข์มากกว่าคนอื่น แต่เราทุกคนต่างได้รับความท้าทายทางใดทางหนึ่ง เพราะเหตุนี้ การเผชิญความยากลำบากร่วมกันจึงมีศักยภาพที่จะช่วยให้ลูกๆ ของพระผู้เป็นเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ดังนั้น ข้าพเจ้าขอถามว่า การเผชิญความยากลำบากร่วมกันนี้นำท่านเข้าใกล้เพื่อนบ้าน—เพื่อนพี่น้องบ้านฝั่งตรงข้ามและทั่วโลกมากขึ้นหรือไม่?

ในเรื่องนี้ พระบัญญัติสำคัญสองข้อนำทางเราได้: ข้อแรก รักพระผู้เป็นเจ้า และข้อสอง รักเพื่อนบ้านของเรา11 เราแสดงความรักโดยการรับใช้

ถ้าท่านรู้จักใครที่โดดเดี่ยว จงเอื้อมออกไปหา—แม้ว่าท่านก็รู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนกัน! ท่านไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลหรือข้อความหรือธุระที่จะติดต่อ เพียงกล่าวทักทายและแสดงความรักของท่าน เทคโนโลยีช่วยท่านได้ ไม่ว่ามีการระบาดหรือไม่ ลูกๆ ผู้ล้ำค่าแต่ละคนของพระผู้เป็นเจ้าต้องการรู้ว่าเขาหรือเธอไม่โดดเดี่ยว!

บทเรียนที่ 3: โควรัมฐานะปุโรหิตของท่านไม่ได้มีไว้เพื่อประชุมกันเท่านั้น

ระหว่างการระบาด การประชุมโควรัมวันอาทิตย์ถูกยกเลิกระยะหนึ่ง ตอนนี้บางโควรัมสามารถประชุมกันทางออนไลน์ กระนั้นก็ตาม งานที่พระเจ้าประทานแก่โควรัมฐานะปุโรหิตไม่ได้มีไว้เพื่อจำกัดอยู่แต่ในการประชุม การประชุมเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในจุดประสงค์ของโควรัมและสิ่งที่โควรัมทำได้

พี่น้องชายของข้าพเจ้าในโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนและโควรัมเอ็ลเดอร์ จงขยายวิสัยทัศน์ของท่านถึงเหตุผลที่เรามีโควรัม พระเจ้าทรงประสงค์ให้ท่านใช้โควรัมเพื่อทำงานของพระองค์ให้สำเร็จอย่างไร—เวลานี้? จงแสวงหาการเปิดเผยจากพระเจ้า จงนอบน้อมถ่อมตน! จงขอ! จงฟัง! ถ้าท่านได้รับเรียกให้นำ จงปรึกษากันในฝ่ายประธานและกับสมาชิกโควรัม ไม่ว่าท่านจะมีตำแหน่งฐานะปุโรหิตหรือการเรียกใด จงให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัยในคำมั่นสัญญาของท่านในฐานะสมาชิกโควรัมและในการรับใช้ของท่าน ประสบกับปีติจากความชอบธรรมที่ท่านจะทำให้เกิดขึ้นเมื่อท่าน “ทำงานอย่างทุ่มเทในอุดมการณ์ดี”12 โควรัมอยู่ในตำแหน่งพิเศษในการเร่งการรวบรวมอิสราเอลจากทั้งสองด้านของม่าน

บทเรียนที่ 4: เราฟังพระเยซูคริสต์ได้ดีขึ้นเมื่อเราสงบนิ่ง

เราอาศัยอยู่ในช่วงเวลาที่พยากรณ์ไว้นานมาแล้ว เมื่อ “สิ่งทั้งปวงจะอยู่ในความโกลาหล; และแน่นอน, ใจมนุษย์จะท้อแท้; เพราะความกลัวจะมาสู่ผู้คนทั้งปวง”13 นั่นเป็นความจริงก่อนการระบาด และจะเป็นจริงหลังจากนั้น ความโกลาหลในโลกจะเพิ่มขึ้นต่อไปอีก ในทางตรงกันข้าม สุรเสียงของพระเจ้าไม่ใช่ “เสียงดังกึกก้อง, แต่ … เป็นเสียงสงบแห่งความนุ่มนวลอย่างสมบูรณ์, ราวกับว่าเป็นเสียงกระซิบ, และเสียงนั้นเสียดแทงแม้จนถึงจิตวิญญาณทีเดียว”14 เพื่อให้ได้ยินเสียงสงบนี้ ท่านต้องสงบนิ่งด้วย!15

เป็นระยะหนึ่งที่การระบาดได้ยกเลิกกิจกรรมต่างๆ ที่ปกติเข้ามาเติมชีวิตเรา อีกไม่นานเราจะสามารถเลือกเติมเวลานั้นได้อีกครั้งด้วยเสียงและความโกลาหลของโลก หรือเราสามารถใช้เวลาของเราเพื่อฟังสุรเสียงของพระเจ้ากระซิบการนำทาง การปลอบโยน และสันติสุขของพระองค์ ช่วงเวลาเงียบสงบคือเวลาศักดิ์สิทธิ์—เวลาที่จะก่อให้เกิดการเปิดเผยส่วนตัวและปลูกฝังสันติสุข

จงจัดระเบียบวินัยตนเองให้มีเวลาอยู่กับตนเองและกับคนที่ท่านรัก เปิดใจของท่านต่อพระผู้เป็นเจ้าในคำสวดอ้อนวอน ใช้เวลาใฝ่ใจศึกษาพระคัมภีร์และนมัสการในพระวิหาร

พี่น้องชายที่รัก มีหลายสิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการให้เราเรียนรู้จากประสบการณ์ของเราระหว่างการระบาดนี้ ข้าพเจ้าระบุไว้เพียงสี่อย่าง ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านทำรายการของตนเอง พิจารณาอย่างรอบคอบ และแบ่งปันกับคนที่ท่านรัก

อนาคตสดใสสำหรับผู้คนที่รักษาพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า16 พระเจ้าจะทรงทวีการเรียกผู้รับใช้ของพระองค์ที่ดำรงฐานะปุโรหิตอย่างมีค่าควรเพื่อไปให้พร ปลอบโยน และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้มนุษยชาติ ตลอดจนช่วยเตรียมโลกและผู้คนสำหรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ จำเป็นที่เราแต่ละคนต้องดีเทียบเท่ากับการแต่งตั้งอันศักดิ์สิทธิ์ที่เราได้รับ เราทำสิ่งนี้ได้! ข้าพเจ้าเป็นพยานดังนี้ พร้อมกับแสดงความรักต่อท่าน พี่น้องชายที่รัก ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน