คนหนุ่มสาว
แม้สงสัย ให้ไว้ใจศรัทธา
เมื่อเรามีคำถามที่ไม่มีคำตอบ เราสามารถเลือกศรัทธา
ภาพถ่ายโดย จูดิธ แอน เบ็ค
สองสามปีก่อน ฉันคุกเข่าสวดอ้อนวอนเป็นครั้งแรกในชีวิต ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ฉันพบกับผู้สอนศาสนาเป็นครั้งแรก พวกเขาแบ่งปันข่าวสารเกี่ยวกับการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์และมอบพระคัมภีร์มอรมอนให้ฉันเป็นของขวัญ
เมื่อฉันได้รับโอกาสแรกที่จะถามคำถามใดก็ตามกับพระบิดาบนสวรรค์ ฉันไม่ได้ถามว่าสิ่งใดที่ฉันเคยได้ยินหรือเคยอ่านมาเป็นจริงหรือไม่ ฉันไม่ได้ถามพระองค์เกี่ยวกับข่าวลือที่น่าสับสนและกังวลใจที่ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับศาสนจักรจากวัฒนธรรมสมัยนิยมเช่นกัน
แต่ฉันกลับวิงวอนพระบิดาบนสวรรค์ให้ประทานพรฉันด้วย ความปรารถนาที่จะรู้ ว่าสิ่งที่ผู้สอนศาสนาบอกฉันเป็นความจริง
และผ่านคำสวดอ้อนวอนนั้น ฉันได้รับการนำทางไปสู่ความจริงว่า พระกิตติคุณและศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ ได้รับการฟื้นฟู มาสู่โลกอีกครั้งแล้ว
การทำให้ศรัทธาหยั่งรากลึกยิ่งขึ้น
ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันอธิบายศรัทธาว่าคือ “อานุภาพสูงสุด ที่มีให้เราในชีวิตนี้ 1 ไม่ว่าเราจะเข้าร่วมกับศาสนจักรของพระเยซูคริสต์เมื่อใดก็ตาม เรามีแนวโน้มที่จะมีคำถามหรือข้อสงสัยซึ่งรบกวนความสามารถของเราในการเข้าถึงพลังแห่งศรัทธาที่ประธานเนลสันอธิบายไว้
แต่คำถามต่างๆ ไม่จำเป็นต้องจำกัดศรัทธาของเรา คำถามอาจกลายเป็นองค์ประกอบทางวิญญาณที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างประจักษ์พยานของเราหากเราน้อมรับคำถามเหล่านั้นในฐานะโอกาสที่จะใช้ศรัทธาและทำให้ศรัทธาหยั่งรากลึกยิ่งขึ้น
ต่อไปนี้คือห้าขั้นตอนที่ช่วยให้ฉันไว้ใจในศรัทธา แม้สงสัยเมื่อต้องเผชิญกับคำถาม:
1. เริ่มต้นด้วยความปรารถนา
การสวดอ้อนวอนของฉันหลังจากนัดพบกับผู้สอนศาสนาถือเป็นการสวดอ้อนวอนครั้งแรก แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของฉัน คำถามที่ฉันถามสร้างความแตกต่างทั้งหมดให้แก่การแสวงหาศรัทธาของฉัน เพราะมันเริ่มต้นจากความปรารถนาอันเรียบง่ายของฉันที่จะเชื่อ การที่เราสวดอ้อนวอนให้มีความปรารถนาที่จะเชื่อ ช่วยเพิ่มศรัทธาของเราว่าคำถามของเราสามารถตอบได้และจะได้รับคำตอบ (ดู แอลมา 32:27)
2. ทำความเข้าใจอัตลักษณ์ของท่าน
ความจริงที่สำคัญที่สุดที่ควรรู้เมื่อเรากำลังค้นหาคำตอบและศรัทธาที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือ เราเป็นบุตรธิดาที่ได้รับความรักอย่างลึกซึ้งจากพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์ของเรา พระผู้เป็นเจ้าทรงมีประโยชน์สูงสุดของเราอยู่ในพระหทัยของพระองค์ พระองค์ทรงประสงค์ที่จะนำทางเรา การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ของเรากับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ช่วยให้เราต้องการรวมความประสงค์ของเรากับพระประสงค์ของพระองค์ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และรู้ว่าจะถามคำถามใด
3. จงอดทน
ฉันถามคำถามมากมายผ่านการสวดอ้อนวอน และฉันได้รับคำตอบสำหรับคำถามเหล่านั้นทุกข้อ แม้ว่าคำตอบจะเป็นเพียงข้อความง่ายๆ ที่ปลอบโยนจากพระวิญญาณที่ตรัสให้ฉันมีความอดทน เราอาจไม่ได้รับคำตอบโดยตรงในทันทีหรือแม้แต่ในชีวิตนี้ บางครั้งเราอาจต้องการเวลาในการเติบโตก่อนที่เราจะพร้อมรับฟังคำตอบ แต่ “เราไม่ต้องมีคำตอบให้กับคำถามทุกข้อจึงจะได้รับประจักษ์พยานและยืนเป็นพยานถึงความจริง” 2 พระบิดาบนสวรรค์จะประทานคำตอบในจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบของพระองค์
4. ให้พลังอำนาจแก่ศรัทธา ไม่ใช่ความสงสัย
หลายเดือนต่อมาหลังจากที่ฉันพบผู้สอนศาสนาครั้งแรก ฉันเผชิญกับการต่อต้านและคำถามที่คุกคามประจักษ์พยานที่ด้อยประสบการณ์ของฉัน ฉันสวดอ้อนวอนเพื่อความปรารถนาที่จะไม่เพียงเชื่อ ใน พระผู้เป็นเจ้า แต่จะเชื่อพระองค์ แทนที่เราจะมุ่งเน้นที่ความสงสัยหรือคำถามของเรา พระบิดาบนสวรรค์ทรงสามารถมอบโอกาสให้เรา “ใช้อนุภาคหนึ่งของศรัทธา” (แอลมา 32:27) โอกาสเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรามีศรัทธาและยินดีที่จะวางใจพระองค์ แทนที่จะมองหาเหตุผลเพื่อสงสัยพระองค์ ดังที่เอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า “โปรดจงสงสัยความสงสัยของท่านก่อนที่ท่านจะสงสัยศรัทธาของท่านเอง” 3
5. เลือกที่จะเชื่อ
หากท่านมีคำถามที่กวนใจท่าน อย่าวางความกังวลใจเหล่านั้นไว้บนหิ้งแล้วปล่อยให้มันกัดกร่อนจิตใจ กระทำด้วยศรัทธา ค้นหาคำตอบอย่างกระตือรือร้น ประธานเนลสันให้คำแนะนำว่า: “หากท่านมีความสงสัย … จง เลือก ที่จะเชื่อและรักษาศรัทธาต่อไป นำคำถามของท่านไปทูลพระเจ้าและถามแหล่งอื่นที่เชื่อถือได้ ศึกษาด้วยความปรารถนาจะ เชื่อ … หยุดเพิ่มความสงสัยของท่านด้วยการผสมโรงกับผู้สงสัยรายอื่น จงยอมให้พระเจ้าทรงนำท่านในการเดินทางค้นพบทางวิญญาณ” 4
เต็มใจที่จะให้พระองค์ทรงนำทางท่าน ท่านอาจต้องรอคำตอบหรือยอมรับคำตอบจากพระบิดาบนสวรรค์ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ท่านคาดหวังไว้ แต่ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดระหว่างการเดินทางแห่งศรัทธาของท่าน พระบิดาบนสวรรค์จะทรงนำทางท่านและมอบปีติให้ท่านขณะที่ท่านยังคงเลือกที่จะเชื่อต่อไป