ลองอีกสักครั้ง

โดย มอลลี อ็อกเดน เวลช์, นิตยสารศาสนจักร

ฉันยุ่งอยู่กับการทำความดี แต่ความสัมพันธ์ของฉันกับพระเจ้าไม่ค่อยดีนักเพราะฉันละเลยสิ่งสำคัญกว่านั้น

ภาพ

เปิดพระคัมภีร์

เมื่อฉันจบงานเผยแผ่ในเดือนมกราคม ปี 2019 ฉันมั่นใจว่าจะศึกษาพระคัมภีร์ทุกวันต่อไปอย่างง่ายดาย ซึ่งนั่นเป็นเรื่องจริงในตอนแรก หลังเลิกงาน ฉันจะกลับบ้านและอ่านพระคัมภีร์เหมือนกับตัวเองเป็นเครื่องจักร ฉันมีความสุขที่ยังคงทุ่มเทให้กับการอ่านพระคัมภีร์และเรียนรู้เกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอด

แต่สิ่งนั้นกลับเปลี่ยนไปในเดือนมิถุนายน 2019 เมื่อคนรักของฉันกลับจากงานเผยแผ่ของเขา เราเริ่มออกเดททันทีและหมั้นกันในอีกหกสัปดาห์ต่อมา

ในเวลาที่เรายุ่งกับการวางแผนงานแต่งงาน ทำงาน ไปมหาวิทยาลัย และใช้เวลากับคู่หมั้น การศึกษาพระคัมภีร์ของฉันก็ลดน้อยลงเหลือสัปดาห์ละสองสามครั้ง เนื่องจากฉันฟุ้งซ่านกับสิ่งดีๆ ฉันจึงละเลยความสัมพันธ์ของฉันกับพระเจ้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

ฉันกับสามีแต่งงานกันในเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 เมื่อถึงวันหยุด ฉันพยายามอ่านพระคัมภีร์ต่อจากจุดที่อ่านค้างไว้ สองสามเดือนผ่านไป ฉันกับสามีศึกษาพระคัมภีร์ด้วยกันได้สำเร็จ ทุกเช้าเราจะอ่านพระคัมภีร์และสนทนาบทเรียน จงตามเรามา ก่อนที่เราจะรีบออกไปทำงานหรือไปเรียน

จากนั้นก็เกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เราสูญเสียกิจวัตรการศึกษาพระคัมภีร์ในตอนเช้าหากไม่มีตารางการเรียนและตารางงานที่เข้มงวดมากำกับ เราศึกษาเป็นครั้งคราว และความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าก็ไม่สู้ดีนัก แม้หลังผ่อนปรนมาตรการป้องกันโรคและเรากลับไปโบสถ์แล้ว แต่การศึกษาก็มีแต่อุปสรรค

สมาชิกศาสนจักรมักมีเวลาที่พวกเขาพยายามอ่านพระคัมภีร์เป็นประจำ ชีวิตของเรายุ่งมาก และเราต้องเผชิญกับความท้าทายในแต่ละวันด้วย แต่ไม่มีวันสายเกินไปที่จะเริ่มอีกครั้ง

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า “พระเจ้าไม่ได้ทรงคาดหวังให้เราดีพร้อม ณ จุดนี้ในความก้าวหน้านิรันดร์ แต่ท่านเสริมว่า “เราทุกคนสามารถทำได้ดีขึ้นและเป็นคนดีขึ้นกว่าเดิม”¹

ฉันกับสามีเพิ่งกลับมาอ่านพระคัมภีร์ของเราอีกครั้ง เรายังไม่ดีพร้อม แต่เราพยายามทุกวันเพื่อเสริมสร้างประจักษ์พยานของเรา ฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับโอกาสมากมายที่พระเจ้าประทานให้เรากลับใจ ทำดีขึ้น และเป็นคนดีขึ้น